หัวข้อ: ส่งรูปตัวอย่างเปิดร้านค้าครับ
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
(1-2)พระนาคปรกเนื้อศิลาแลง มีขนาด 2 ½ X7 ½ ซม.”พระกรุนาดูน จว.มหาสารคาม ยุคทวารวดี
ระหว่าง พ.ศ.1000-1200 - เนื้อพระกรุนาดูนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 เนื้อศิลาแลง ประกอบด้วย ดินเหนียว แกลบข้าว ทรายกรวด บางองค์มีเมล็ดข้าวผสมอยู่ สำหรับพระกรุนาดูนที่ยังคงสภาพดินเผาไว้ ก็มีความหลากหลาย เช่น สีอิฐ /สีหินน้ำตาลแก่ /สีเหลืองอ่อน (สีมันปู)/ สีชมพู/สีแดงหินทราย/ สีขาวนวล (เทาอ่อน)/
ชนิดที่ 2 - เป็นหินสีต่างๆ แร่สีดำ สีดำเงามันคล้ายเหล็กไหล น้ำตาล แร่สีอื่นๆ แร่ทองแดง ทอง กังไส หรือหยกสีเขียว หรือเขียวอ่อน หรือหลายลักษณะรวมกัน บางองค์กลายเป็นสนิมแดงทั้งองค์ หรือเกือบทั้งองค์ (เมื่อกระทบกับแสงจะแวววาว/สวยงามมาก)
ชนิดที่ 3 หินสัมฤทธิ์
- พระกรุนาดูนมีสภาพเก่าแก่มากๆทำให้พระดูศักดิ์สิทธิ์ขลัง พุทธคุณด้านต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ฯ
(ข้อพิจารณา ) พระกรุนาดูนเนื้อศิลาแลงเนื้อจะแน่นและแกร่ง แต่จะมีน้ำหนักเบา เมื่อกระทบกับวัตถุเสียงจะดัง “แกร๊ง” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผู้มีไว้บูชา จะเป็นสิริมงคล/ปกป้องคุ้มครองภัย/ขึ้นรถลงเรือ อาราชธนาให้ดี เพราะพระนาคปรกจะปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายใดๆ คราบฝ้ากรุ(ฝ้ากรุจะออกสีขาว/ขาวนวล ) ขึ้นเป็นขลุ่ยๆ มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ กาลเวลา สถานที่เก็บรักษา คราบฝ้ากรุของแท้จะต้องฝังและเกาะติดแน่นบนผิวองค์พระปัดแล้วล้างออกยาก และจะมีสีขาว/ขาวนวลอ่อนต่างกัน ส่วนคราบฝ้ากรุของเก๊ จะไม่เป็นธรรมชาติ คือจะเป็นการฉาบทาลงบนผิวพระไม่เกาะผิวแน่นเหมือนของแท้ คือ จะเกาะแบบผิวเผิน และสีก็จะเป็นสีใหม่สดใสแวววาว
- ด้านหลังองค์พระจะปรากฏเป็นรอยธรรมชาติ เช่นลายเกล็ดงู ลายผ้า หรือลายนิ้วมือคนโบราณ คือจะต้องมีการหดตัวของเนื้อพระ พระจะไม่แต่งตึง ส่วนของปลอมหรือของเทียม นำเนื้อศิลาแลงในถิ่นที่กำเนิด มาดำเนินการใหม่สร้างเลียนแบบให้เหมือน แต่เนื้อพระและรอยธรรมชาติไม่ถึงยุค ฝ่ากรุที่ทำก็ใช้พู่กันจุ่มผงแป้งโรยกาวล์ในองค์พระเล็กน้อยแต่ฝ่ากรุเทียมจะไม่เกาะติดแน่น
รับประกันเป็นของแท้แน่นอน เมื่อรับพระแล้วตรวจความพร้อมภายใน 15 วัน หากไม่ใช่ กระผมจะคืนเงินให้เต็มราคาที่เช่าไป แต่พระต้องอยู่ในสภาพ 100 % ขอบพระคุณครับ
manas-ppp:
(1-2)พระนาคปรกเนื้อศิลาแลง มีขนาด 2 ½ X7 ½ ซม.”พระกรุนาดูน จว.มหาสารคาม ยุคทวารวดี
ระหว่าง พ.ศ.1000-1200 - เนื้อพระกรุนาดูนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 เนื้อศิลาแลง ประกอบด้วย ดินเหนียว แกลบข้าว ทรายกรวด บางองค์มีเมล็ดข้าวผสมอยู่ สำหรับพระกรุนาดูนที่ยังคงสภาพดินเผาไว้ ก็มีความหลากหลาย เช่น สีอิฐ /สีหินน้ำตาลแก่ /สีเหลืองอ่อน (สีมันปู)/ สีชมพู/สีแดงหินทราย/ สีขาวนวล (เทาอ่อน)/
ชนิดที่ 2 - เป็นหินสีต่างๆ แร่สีดำ สีดำเงามันคล้ายเหล็กไหล น้ำตาล แร่สีอื่นๆ แร่ทองแดง ทอง กังไส หรือหยกสีเขียว หรือเขียวอ่อน หรือหลายลักษณะรวมกัน บางองค์กลายเป็นสนิมแดงทั้งองค์ หรือเกือบทั้งองค์ (เมื่อกระทบกับแสงจะแวววาว/สวยงามมาก)
ชนิดที่ 3 หินสัมฤทธิ์
- พระกรุนาดูนมีสภาพเก่าแก่มากๆทำให้พระดูศักดิ์สิทธิ์ขลัง พุทธคุณด้านต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ฯ
(ข้อพิจารณา ) พระกรุนาดูนเนื้อศิลาแลงเนื้อจะแน่นและแกร่ง แต่จะมีน้ำหนักเบา เมื่อกระทบกับวัตถุเสียงจะดัง “แกร๊ง” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผู้มีไว้บูชา จะเป็นสิริมงคล/ปกป้องคุ้มครองภัย/ขึ้นรถลงเรือ อาราชธนาให้ดี เพราะพระนาคปรกจะปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายใดๆ คราบฝ้ากรุ(ฝ้ากรุจะออกสีขาว/ขาวนวล ) ขึ้นเป็นขลุ่ยๆ มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ กาลเวลา สถานที่เก็บรักษา คราบฝ้ากรุของแท้จะต้องฝังและเกาะติดแน่นบนผิวองค์พระปัดแล้วล้างออกยาก และจะมีสีขาว/ขาวนวลอ่อนต่างกัน ส่วนคราบฝ้ากรุของเก๊ จะไม่เป็นธรรมชาติ คือจะเป็นการฉาบทาลงบนผิวพระไม่เกาะผิวแน่นเหมือนของแท้ คือ จะเกาะแบบผิวเผิน และสีก็จะเป็นสีใหม่สดใสแวววาว
- ด้านหลังองค์พระจะปรากฏเป็นรอยธรรมชาติ เช่นลายเกล็ดงู ลายผ้า หรือลายนิ้วมือคนโบราณ คือจะต้องมีการหดตัวของเนื้อพระ พระจะไม่แต่งตึง ส่วนของปลอมหรือของเทียม นำเนื้อศิลาแลงในถิ่นที่กำเนิด มาดำเนินการใหม่สร้างเลียนแบบให้เหมือน แต่เนื้อพระและรอยธรรมชาติไม่ถึงยุค ฝ่ากรุที่ทำก็ใช้พู่กันจุ่มผงแป้งโรยกาวล์ในองค์พระเล็กน้อยแต่ฝ่ากรุเทียมจะไม่เกาะติดแน่น
รับประกันเป็นของแท้แน่นอน เมื่อรับพระแล้วตรวจความพร้อมภายใน 15 วัน หากไม่ใช่ กระผมจะคืนเงินให้เต็มราคาที่เช่าไป แต่พระต้องอยู่ในสภาพ 100 % ขอบพระคุณครับ
manas-ppp:manas-ppp:
(1-2)พระนาคปรกเนื้อศิลาแลง มีขนาด 2 ½ X7 ½ ซม.”พระกรุนาดูน จว.มหาสารคาม ยุคทวารวดี
ระหว่าง พ.ศ.1000-1200 - เนื้อพระกรุนาดูนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 เนื้อศิลาแลง ประกอบด้วย ดินเหนียว แกลบข้าว ทรายกรวด บางองค์มีเมล็ดข้าวผสมอยู่ สำหรับพระกรุนาดูนที่ยังคงสภาพดินเผาไว้ ก็มีความหลากหลาย เช่น สีอิฐ /สีหินน้ำตาลแก่ /สีเหลืองอ่อน (สีมันปู)/ สีชมพู/สีแดงหินทราย/ สีขาวนวล (เทาอ่อน)/
ชนิดที่ 2 - เป็นหินสีต่างๆ แร่สีดำ สีดำเงามันคล้ายเหล็กไหล น้ำตาล แร่สีอื่นๆ แร่ทองแดง ทอง กังไส หรือหยกสีเขียว หรือเขียวอ่อน หรือหลายลักษณะรวมกัน บางองค์กลายเป็นสนิมแดงทั้งองค์ หรือเกือบทั้งองค์ (เมื่อกระทบกับแสงจะแวววาว/สวยงามมาก)
ชนิดที่ 3 หินสัมฤทธิ์
- พระกรุนาดูนมีสภาพเก่าแก่มากๆทำให้พระดูศักดิ์สิทธิ์ขลัง พุทธคุณด้านต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ฯ
(ข้อพิจารณา ) พระกรุนาดูนเนื้อศิลาแลงเนื้อจะแน่นและแกร่ง แต่จะมีน้ำหนักเบา เมื่อกระทบกับวัตถุเสียงจะดัง “แกร๊ง” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผู้มีไว้บูชา จะเป็นสิริมงคล/ปกป้องคุ้มครองภัย/ขึ้นรถลงเรือ อาราชธนาให้ดี เพราะพระนาคปรกจะปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายใดๆ คราบฝ้ากรุ(ฝ้ากรุจะออกสีขาว/ขาวนวล ) ขึ้นเป็นขลุ่ยๆ มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ กาลเวลา สถานที่เก็บรักษา คราบฝ้ากรุของแท้จะต้องฝังและเกาะติดแน่นบนผิวองค์พระปัดแล้วล้างออกยาก และจะมีสีขาว/ขาวนวลอ่อนต่างกัน ส่วนคราบฝ้ากรุของเก๊ จะไม่เป็นธรรมชาติ คือจะเป็นการฉาบทาลงบนผิวพระไม่เกาะผิวแน่นเหมือนของแท้ คือ จะเกาะแบบผิวเผิน และสีก็จะเป็นสีใหม่สดใสแวววาว
- ด้านหลังองค์พระจะปรากฏเป็นรอยธรรมชาติ เช่นลายเกล็ดงู ลายผ้า หรือลายนิ้วมือคนโบราณ คือจะต้องมีการหดตัวของเนื้อพระ พระจะไม่แต่งตึง ส่วนของปลอมหรือของเทียม นำเนื้อศิลาแลงในถิ่นที่กำเนิด มาดำเนินการใหม่สร้างเลียนแบบให้เหมือน แต่เนื้อพระและรอยธรรมชาติไม่ถึงยุค ฝ่ากรุที่ทำก็ใช้พู่กันจุ่มผงแป้งโรยกาวล์ในองค์พระเล็กน้อยแต่ฝ่ากรุเทียมจะไม่เกาะติดแน่น
รับประกันเป็นของแท้แน่นอน เมื่อรับพระแล้วตรวจความพร้อมภายใน 15 วัน หากไม่ใช่ กระผมจะคืนเงินให้เต็มราคาที่เช่าไป แต่พระต้องอยู่ในสภาพ 100 % ขอบพระคุณครับ
[quote user="manas-ppp"][quote user="manas-ppp"][quote user="manas-ppp"]
(1-2)พระนาคปรกเนื้อศิลาแลง มีขนาด 2 ½ X7 ½ ซม.”พระกรุนาดูน จว.มหาสารคาม ยุคทวารวดี
ระหว่าง พ.ศ.1000-1200 - เนื้อพระกรุนาดูนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 เนื้อศิลาแลง ประกอบด้วย ดินเหนียว แกลบข้าว ทรายกรวด บางองค์มีเมล็ดข้าวผสมอยู่ สำหรับพระกรุนาดูนที่ยังคงสภาพดินเผาไว้ ก็มีความหลากหลาย เช่น สีอิฐ /สีหินน้ำตาลแก่ /สีเหลืองอ่อน (สีมันปู)/ สีชมพู/สีแดงหินทราย/ สีขาวนวล (เทาอ่อน)/
ชนิดที่ 2 - เป็นหินสีต่างๆ แร่สีดำ สีดำเงามันคล้ายเหล็กไหล น้ำตาล แร่สีอื่นๆ แร่ทองแดง ทอง กังไส หรือหยกสีเขียว หรือเขียวอ่อน หรือหลายลักษณะรวมกัน บางองค์กลายเป็นสนิมแดงทั้งองค์ หรือเกือบทั้งองค์ (เมื่อกระทบกับแสงจะแวววาว/สวยงามมาก)
ชนิดที่ 3 หินสัมฤทธิ์
- พระกรุนาดูนมีสภาพเก่าแก่มากๆทำให้พระดูศักดิ์สิทธิ์ขลัง พุทธคุณด้านต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ฯ
(ข้อพิจารณา ) พระกรุนาดูนเนื้อศิลาแลงเนื้อจะแน่นและแกร่ง แต่จะมีน้ำหนักเบา เมื่อกระทบกับวัตถุเสียงจะดัง “แกร๊ง” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผู้มีไว้บูชา จะเป็นสิริมงคล/ปกป้องคุ้มครองภัย/ขึ้นรถลงเรือ อาราชธนาให้ดี เพราะพระนาคปรกจะปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายใดๆ คราบฝ้ากรุ(ฝ้ากรุจะออกสีขาว/ขาวนวล ) ขึ้นเป็นขลุ่ยๆ มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ กาลเวลา สถานที่เก็บรักษา คราบฝ้ากรุของแท้จะต้องฝังและเกาะติดแน่นบนผิวองค์พระปัดแล้วล้างออกยาก และจะมีสีขาว/ขาวนวลอ่อนต่างกัน ส่วนคราบฝ้ากรุของเก๊ จะไม่เป็นธรรมชาติ คือจะเป็นการฉาบทาลงบนผิวพระไม่เกาะผิวแน่นเหมือนของแท้ คือ จะเกาะแบบผิวเผิน และสีก็จะเป็นสีใหม่สดใสแวววาว
- ด้านหลังองค์พระจะปรากฏเป็นรอยธรรมชาติ เช่นลายเกล็ดงู ลายผ้า หรือลายนิ้วมือคนโบราณ คือจะต้องมีการหดตัวของเนื้อพระ พระจะไม่แต่งตึง ส่วนของปลอมหรือของเทียม นำเนื้อศิลาแลงในถิ่นที่กำเนิด มาดำเนินการใหม่สร้างเลียนแบบให้เหมือน แต่เนื้อพระและรอยธรรมชาติไม่ถึงยุค ฝ่ากรุที่ทำก็ใช้พู่กันจุ่มผงแป้งโรยกาวล์ในองค์พระเล็กน้อยแต่ฝ่ากรุเทียมจะไม่เกาะติดแน่น
รับประกันเป็นของแท้แน่นอน เมื่อรับพระแล้วตรวจความพร้อมภายใน 15 วัน หากไม่ใช่ กระผมจะคืนเงินให้เต็มราคาที่เช่าไป แต่พระต้องอยู่ในสภาพ 100 % ขอบพระคุณครับ
(1-2)พระนาคปรกเนื้อศิลาแลง มีขนาด 2 ½ X7 ½ ซม.”พระกรุนาดูน จว.มหาสารคาม ยุคทวารวดี
ระหว่าง พ.ศ.1000-1200 - เนื้อพระกรุนาดูนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 เนื้อศิลาแลง ประกอบด้วย ดินเหนียว แกลบข้าว ทรายกรวด บางองค์มีเมล็ดข้าวผสมอยู่ สำหรับพระกรุนาดูนที่ยังคงสภาพดินเผาไว้ ก็มีความหลากหลาย เช่น สีอิฐ /สีหินน้ำตาลแก่ /สีเหลืองอ่อน (สีมันปู)/ สีชมพู/สีแดงหินทราย/ สีขาวนวล (เทาอ่อน)/
ชนิดที่ 2 - เป็นหินสีต่างๆ แร่สีดำ สีดำเงามันคล้ายเหล็กไหล น้ำตาล แร่สีอื่นๆ แร่ทองแดง ทอง กังไส หรือหยกสีเขียว หรือเขียวอ่อน หรือหลายลักษณะรวมกัน บางองค์กลายเป็นสนิมแดงทั้งองค์ หรือเกือบทั้งองค์ (เมื่อกระทบกับแสงจะแวววาว/สวยงามมาก)
ชนิดที่ 3 หินสัมฤทธิ์
- พระกรุนาดูนมีสภาพเก่าแก่มากๆทำให้พระดูศักดิ์สิทธิ์ขลัง พุทธคุณด้านต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ฯ
(ข้อพิจารณา ) พระกรุนาดูนเนื้อศิลาแลงเนื้อจะแน่นและแกร่ง แต่จะมีน้ำหนักเบา เมื่อกระทบกับวัตถุเสียงจะดัง “แกร๊ง” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผู้มีไว้บูชา จะเป็นสิริมงคล/ปกป้องคุ้มครองภัย/ขึ้นรถลงเรือ อาราชธนาให้ดี เพราะพระนาคปรกจะปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายใดๆ คราบฝ้ากรุ(ฝ้ากรุจะออกสีขาว/ขาวนวล ) ขึ้นเป็นขลุ่ยๆ มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ กาลเวลา สถานที่เก็บรักษา คราบฝ้ากรุของแท้จะต้องฝังและเกาะติดแน่นบนผิวองค์พระปัดแล้วล้างออกยาก และจะมีสีขาว/ขาวนวลอ่อนต่างกัน ส่วนคราบฝ้ากรุของเก๊ จะไม่เป็นธรรมชาติ คือจะเป็นการฉาบทาลงบนผิวพระไม่เกาะผิวแน่นเหมือนของแท้ คือ จะเกาะแบบผิวเผิน และสีก็จะเป็นสีใหม่สดใสแวววาว
- ด้านหลังองค์พระจะปรากฏเป็นรอยธรรมชาติ เช่นลายเกล็ดงู ลายผ้า หรือลายนิ้วมือคนโบราณ คือจะต้องมีการหดตัวของเนื้อพระ พระจะไม่แต่งตึง ส่วนของปลอมหรือของเทียม นำเนื้อศิลาแลงในถิ่นที่กำเนิด มาดำเนินการใหม่สร้างเลียนแบบให้เหมือน แต่เนื้อพระและรอยธรรมชาติไม่ถึงยุค ฝ่ากรุที่ทำก็ใช้พู่กันจุ่มผงแป้งโรยกาวล์ในองค์พระเล็กน้อยแต่ฝ่ากรุเทียมจะไม่เกาะติดแน่น
รับประกันเป็นของแท้แน่นอน เมื่อรับพระแล้วตรวจความพร้อมภายใน 15 วัน หากไม่ใช่ กระผมจะคืนเงินให้เต็มราคาที่เช่าไป แต่พระต้องอยู่ในสภาพ 100 % ขอบพระคุณครับ
(11-12)พระนาคปรกเนื้อศิลาแลง มีขนาด 2 ½ X7 ½ ซม.”พระกรุนาดูน จว.มหาสารคาม ยุคทวารวดี
ระหว่าง พ.ศ.1000-1200 - เนื้อพระกรุนาดูนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 เนื้อศิลาแลง ประกอบด้วย ดินเหนียว แกลบข้าว ทรายกรวด บางองค์มีเมล็ดข้าวผสมอยู่ สำหรับพระกรุนาดูนที่ยังคงสภาพดินเผาไว้ ก็มีความหลากหลาย เช่น สีอิฐ /สีหินน้ำตาลแก่ /สีเหลืองอ่อน (สีมันปู)/ สีชมพู/สีแดงหินทราย/ สีขาวนวล (เทาอ่อน)/
ชนิดที่ 2 - เป็นหินสีต่างๆ แร่สีดำ สีดำเงามันคล้ายเหล็กไหล น้ำตาล แร่สีอื่นๆ แร่ทองแดง ทอง กังไส หรือหยกสีเขียว หรือเขียวอ่อน หรือหลายลักษณะรวมกัน บางองค์กลายเป็นสนิมแดงทั้งองค์ หรือเกือบทั้งองค์ (เมื่อกระทบกับแสงจะแวววาว/สวยงามมาก)
ชนิดที่ 3 หินสัมฤทธิ์
- พระกรุนาดูนมีสภาพเก่าแก่มากๆทำให้พระดูศักดิ์สิทธิ์ขลัง พุทธคุณด้านต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ฯ
(ข้อพิจารณา ) พระกรุนาดูนเนื้อศิลาแลงเนื้อจะแน่นและแกร่ง แต่จะมีน้ำหนักเบา เมื่อกระทบกับวัตถุเสียงจะดัง “แกร๊ง” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผู้มีไว้บูชา จะเป็นสิริมงคล/ปกป้องคุ้มครองภัย/ขึ้นรถลงเรือ อาราชธนาให้ดี เพราะพระนาคปรกจะปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายใดๆ คราบฝ้ากรุ(ฝ้ากรุจะออกสีขาว/ขาวนวล ) ขึ้นเป็นขลุ่ยๆ มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ กาลเวลา สถานที่เก็บรักษา คราบฝ้ากรุของแท้จะต้องฝังและเกาะติดแน่นบนผิวองค์พระปัดแล้วล้างออกยาก และจะมีสีขาว/ขาวนวลอ่อนต่างกัน ส่วนคราบฝ้ากรุของเก๊ จะไม่เป็นธรรมชาติ คือจะเป็นการฉาบทาลงบนผิวพระไม่เกาะผิวแน่นเหมือนของแท้ คือ จะเกาะแบบผิวเผิน และสีก็จะเป็นสีใหม่สดใสแวววาว
- ด้านหลังองค์พระจะปรากฏเป็นรอยธรรมชาติ เช่นลายเกล็ดงู ลายผ้า หรือลายนิ้วมือคนโบราณ คือจะต้องมีการหดตัวของเนื้อพระ พระจะไม่แต่งตึง ส่วนของปลอมหรือของเทียม นำเนื้อศิลาแลงในถิ่นที่กำเนิด มาดำเนินการใหม่สร้างเลียนแบบให้เหมือน แต่เนื้อพระและรอยธรรมชาติไม่ถึงยุค ฝ่ากรุที่ทำก็ใช้พู่กันจุ่มผงแป้งโรยกาวล์ในองค์พระเล็กน้อยแต่ฝ่ากรุเทียมจะไม่เกาะติดแน่น
รับประกันเป็นของแท้แน่นอน เมื่อรับพระแล้วตรวจความพร้อมภายใน 15 วัน หากไม่ใช่ กระผมจะคืนเงินให้เต็มราคาที่เช่าไป แต่พระต้องอยู่ในสภาพ 100 % ขอบพระคุณครับ
13-14)พระนาคปรกเนื้อศิลาแลง มีขนาด 2 ½ X7 ½ ซม.”พระกรุนาดูน จว.มหาสารคาม ยุคทวารวดี
ระหว่าง พ.ศ.1000-1200 - เนื้อพระกรุนาดูนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 เนื้อศิลาแลง ประกอบด้วย ดินเหนียว แกลบข้าว ทรายกรวด บางองค์มีเมล็ดข้าวผสมอยู่ สำหรับพระกรุนาดูนที่ยังคงสภาพดินเผาไว้ ก็มีความหลากหลาย เช่น สีอิฐ /สีหินน้ำตาลแก่ /สีเหลืองอ่อน (สีมันปู)/ สีชมพู/สีแดงหินทราย/ สีขาวนวล (เทาอ่อน)/
ชนิดที่ 2 - เป็นหินสีต่างๆ แร่สีดำ สีดำเงามันคล้ายเหล็กไหล น้ำตาล แร่สีอื่นๆ แร่ทองแดง ทอง กังไส หรือหยกสีเขียว หรือเขียวอ่อน หรือหลายลักษณะรวมกัน บางองค์กลายเป็นสนิมแดงทั้งองค์ หรือเกือบทั้งองค์ (เมื่อกระทบกับแสงจะแวววาว/สวยงามมาก)
ชนิดที่ 3 หินสัมฤทธิ์
- พระกรุนาดูนมีสภาพเก่าแก่มากๆทำให้พระดูศักดิ์สิทธิ์ขลัง พุทธคุณด้านต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ฯ
(ข้อพิจารณา ) พระกรุนาดูนเนื้อศิลาแลง จะมีน้ำหนักเบา เมื่อกระทบกับวัตถุเสียงจะดัง “แกร๊ง” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ พระองค์พิเศษปรากฏหู 2 ข้างผู้มีไว้บูชา จะเป็นศิริมงคล/ปกป้องคุ้มครองภัย/ขึ้นรถลงเรือ อาราชธนาให้ดี เพราะพระนาคปรกจะปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายใดๆๆมิให้เข้ามา แต่ต้องเป็นคนดี แบ่งให้บูชาองค์ล่ะ 2,000 บาท ครับ
คราบฝ้ากรุ(ฝ้ากรุจะออกสีขาว/ขาวนวล ) ขึ้นเป็นขลุยๆ มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ กาลเวลา สถานที่เก็บรักษา คราบฝ้ากรุของแท้จะต้องฝังและเกาะติดแน่นบนผิวองค์พระปัดแล้วล้างออกยาก และจะมีสีขาว/ขาวนวลอ่อนต่างกัน ส่วนคราบฝ้ากรุของเก๊ จะไม่เป็นธรรมชาติ คือจะเป็นการฉาบทาลงบนผิวพระไม่เกาะผิวแน่นเหมือนของแท้ คือ จะเกาะแบบผิวเผิน และสีก็จะเป็นสีใหม่สดใสแวววาว
- ด้านหลังองค์พระจะปรากฏเป็นรอยธรรมชาติ เช่นลายเกล็ดงู ลายผ้า หรือลายนิ้วมือคนโบราณ คือจะต้องมีการหดตัวของเนื้อพระ พระจะไม่แต่งตึง ส่วนของปลอมหรือของเทียม นำเนื้อศิลาแลงในถิ่นที่กำเนิด มาดำเนินการใหม่สร้างเลียนแบบให้เหมือน แต่เนื้อพระและรอยธรรมชาติไม่ถึงยุค ฝ่ากรุที่ทำก็ใช้พู่กันจุ่มผงแป้งโรยกาวล์ในองค์พระเล็กน้อยแต่ฝ่ากรุเทียมจะไม่เกาะติดแน่น
รับประกันเป็นของแท้แน่นอน เมื่อรับพระแล้วตรวจความพร้อมภายใน 7 วัน หากไม่ใช่ กระผมจะคืนเงินให้เต็มราคาที่เช่าไป แต่พระต้องอยู่ในสภาพ 100 % ขอบพระคุณครับ
(15-16)พระนาคปรกเนื้อศิลาแลง มีขนาด 2 X 6 ซม.พระกรุนาดูน จว.มหาสารคาม ยุคทวารวดี
ระหว่าง พ.ศ.1000-1200 - เนื้อพระกรุนาดูนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 เนื้อศิลาแลง ประกอบด้วย ดินเหนียว แกลบข้าว ทรายกรวด บางองค์มีเมล็ดข้าวผสมอยู่ สำหรับพระกรุนาดูนที่ยังคงสภาพดินเผาไว้ ก็มีความหลากหลาย เช่น สีอิฐ /สีหินน้ำตาลแก่ /สีเหลืองอ่อน (สีมันปู)/ สีชมพู/สีแดงหินทราย/ สีขาวนวล (เทาอ่อน)/
ชนิดที่ 2 - เป็นหินสีต่างๆ แร่สีดำ สีดำเงามันคล้ายเหล็กไหล น้ำตาล แร่สีอื่นๆ แร่ทองแดง ทอง กังไส หรือหยกสีเขียว หรือเขียวอ่อน หรือหลายลักษณะรวมกัน บางองค์กลายเป็นสนิมแดงทั้งองค์ หรือเกือบทั้งองค์ (เมื่อกระทบกับแสงจะแวววาว/สวยงามมาก)
ชนิดที่ 3 หินสัมฤทธิ์
- พระกรุนาดูนมีสภาพเก่าแก่มากๆทำให้พระดูศักดิ์สิทธิ์ขลัง พุทธคุณด้านต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ฯ
(ข้อพิจารณา ) พระกรุนาดูนเนื้อศิลาแลง จะมีน้ำหนักเบา เมื่อกระทบกับวัตถุเสียงจะดัง “แกร๊ง” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นพระรูปหล่อลอยองค์ เหมาะแก่การบูชา ทั้ง ช./ญ. คุ้มครองป้องกันภัยอันตรายใดๆๆขึ้นรถลงเรือ ตั้งจิตอธิฐานให้เป็นมงคลปลอดภัย/ แบ่งให้บูชาองค์ล่ะ 2,000 บาท ครับ
คราบฝ้ากรุ(ฝ้ากรุจะออกสีขาว/ขาวนวล ) ขึ้นเป็นขลุยๆ มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ กาลเวลา สถานที่เก็บรักษา คราบฝ้ากรุของแท้จะต้องฝังและเกาะติดแน่นบนผิวองค์พระปัดแล้วล้างออกยาก และจะมีสีขาว/ขาวนวลอ่อนต่างกัน ส่วนคราบฝ้ากรุของเก๊ จะไม่เป็นธรรมชาติ คือจะเป็นการฉาบทาลงบนผิวพระไม่เกาะผิวแน่นเหมือนของแท้ คือ จะเกาะแบบผิวเผิน และสีก็จะเป็นสีใหม่สดใสแวววาว
- ด้านหลังองค์พระจะปรากฏเป็นรอยธรรมชาติ เช่นลายเกล็ดงู ลายผ้า หรือลายนิ้วมือคนโบราณ คือจะต้องมีการหดตัวของเนื้อพระ พระจะไม่แต่งตึง ส่วนของปลอมหรือของเทียม นำเนื้อศิลาแลงในถิ่นที่กำเนิด มาดำเนินการใหม่สร้างเลียนแบบให้เหมือน แต่เนื้อพระและรอยธรรมชาติไม่ถึงยุค ฝ่ากรุที่ทำก็ใช้พู่กันจุ่มผงแป้งโรยกาวล์ในองค์พระเล็กน้อยแต่ฝ่ากรุเทียมจะไม่เกาะติดแน่น
รับประกันเป็นของแท้แน่นอน เมื่อรับพระแล้วตรวจความพร้อมภายใน 7 วัน หากไม่ใช่ กระผมจะคืนเงินให้เต็มราคาที่เช่าไป แต่พระต้องอยู่ในสภาพ 100 % ขอบพระคุณครับ
(19-20)พระนาคปรกเนื้อศิลาแลง มีขนาด 2 X 6 ซม.พระกรุนาดูน จว.มหาสารคาม ยุคทวารวดี
ระหว่าง พ.ศ.1000-1200 - เนื้อพระกรุนาดูนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 เนื้อศิลาแลง ประกอบด้วย ดินเหนียว แกลบข้าว ทรายกรวด บางองค์มีเมล็ดข้าวผสมอยู่ สำหรับพระกรุนาดูนที่ยังคงสภาพดินเผาไว้ ก็มีความหลากหลาย เช่น สีอิฐ /สีหินน้ำตาลแก่ /สีเหลืองอ่อน (สีมันปู)/ สีชมพู/สีแดงหินทราย/ สีขาวนวล (เทาอ่อน)/
ชนิดที่ 2 - เป็นหินสีต่างๆ แร่สีดำ สีดำเงามันคล้ายเหล็กไหล น้ำตาล แร่สีอื่นๆ แร่ทองแดง ทอง กังไส หรือหยกสีเขียว หรือเขียวอ่อน หรือหลายลักษณะรวมกัน บางองค์กลายเป็นสนิมแดงทั้งองค์ หรือเกือบทั้งองค์ (เมื่อกระทบกับแสงจะแวววาว/สวยงามมาก)
ชนิดที่ 3 หินสัมฤทธิ์
- พระกรุนาดูนมีสภาพเก่าแก่มากๆทำให้พระดูศักดิ์สิทธิ์ขลัง พุทธคุณด้านต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ฯ
(ข้อพิจารณา ) พระกรุนาดูนเนื้อศิลาแลง จะมีน้ำหนักเบา เมื่อกระทบกับวัตถุเสียงจะดัง “แกร๊ง” มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นพระรูปหล่อลอยองค์ เหมาะแก่การบูชา ทั้ง ช./ญ. คุ้มครองป้องกันภัยอันตรายใดๆๆขึ้นรถลงเรือ ตั้งจิตอธิฐานให้เป็นมงคลปลอดภัย/ แบ่งให้บูชาองค์ล่ะ 2,000 บาท ครับ
คราบฝ้ากรุ(ฝ้ากรุจะออกสีขาว/ขาวนวล ) ขึ้นเป็นขลุยๆ มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ กาลเวลา สถานที่เก็บรักษา คราบฝ้ากรุของแท้จะต้องฝังและเกาะติดแน่นบนผิวองค์พระปัดแล้วล้างออกยาก และจะมีสีขาว/ขาวนวลอ่อนต่างกัน ส่วนคราบฝ้ากรุของเก๊ จะไม่เป็นธรรมชาติ คือจะเป็นการฉาบทาลงบนผิวพระไม่เกาะผิวแน่นเหมือนของแท้ คือ จะเกาะแบบผิวเผิน และสีก็จะเป็นสีใหม่สดใสแวววาว
- ด้านหลังองค์พระจะปรากฏเป็นรอยธรรมชาติ เช่นลายเกล็ดงู ลายผ้า หรือลายนิ้วมือคนโบราณ คือจะต้องมีการหดตัวของเนื้อพระ พระจะไม่แต่งตึง ส่วนของปลอมหรือของเทียม นำเนื้อศิลาแลงในถิ่นที่กำเนิด มาดำเนินการใหม่สร้างเลียนแบบให้เหมือน แต่เนื้อพระและรอยธรรมชาติไม่ถึงยุค ฝ่ากรุที่ทำก็ใช้พู่กันจุ่มผงแป้งโรยกาวล์ในองค์พระเล็กน้อยแต่ฝ่ากรุเทียมจะไม่เกาะติดแน่น
คราบรา
คราบราที่จับตามพื้นผิวองค์พระจะเกิดจากปฏิกิริยาความชื้นภายในกรุกับผิวขององค์พระ เมื่อนานวันเข้าความชื้นที่จับผิวองค์พระแห้ง ก็จะเกิดคราบราที่ว่านี้ ส่วนมากคราบรานี้จะเรียกกันว่า “ ราดำ” หรือบางงทีกรุเกิดน้ำท่วม ทำให้พระในกรุถูกน้ำท่วมไปด้วย เมื่อน้ำแห้งคราบที่เกิดจากน้ำท่วมก็อาจทำปฏิกิริยากับผิวองค์พระได้เช่นเดียวกัน ของเทียมให้ระวัง “หมึกจีน” ที่ใช้พู่กันแล้วทาแต้มบางๆๆๆ
รับประกันเป็นของแท้แน่นอน เมื่อรับพระแล้วตรวจความพร้อมภายใน 15 วัน หากไม่ใช่ กระผมจะคืนเงินให้เต็มราคาที่เช่าไป แต่พระต้องอยู่ในสภาพ 100 % ขอบพระคุณครับ
อยากให้ลองศึกษาวิธีการทำภาพเพิ่มเติม เช่น Crop ให้ขนาดภาพเท่ากัน , ลดขนาดไฟล์ , โทนสีพื้นหลัง
ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ เกณฑ์ มาตรฐานร้านค้า และ วิธีการทำภาพ >> http://www.web-pra.com/Forum/ListPost/13371
ภาพตัวอย่าง อยากให้ขนาดอย่างน้อย 400x500px เป็นขั้นต่ำ