หัวข้อ: ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับงานประกวดพระเครื่องหน่อยครับ

สวัสดีครับ

      พี่ๆครับคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับพระที่เราส่งประกวดพระแล้วกรรมการบอกเก๊ ไม่ยอมรับพระ

          1. พระของเราแท้แต่กรรมการบอกเก๊ (ทำไมครับ)

          2. พระแท้ทั้งๆที่มีใบประกาศว่าพระองค์นี้ติดรางวัลมาแล้ว แต่กรรมการบอกเก๊ (ทำไมครับ)

          3. ทำไมพระเราสวยกว่าในทุกๆด้าน แต่ พระกรรมการติดที่ 1 หรือกรรมการให้พระองค์ที่กรรมการขายให้กับคนนั้นได้ที่ 1

          4. ทำไมกรรมการพูดได้คำเดียวว่าเก๊....แต่ไม่อธิบายว่าเก๊ ตรงไหน ดูอย่างไรว่าเก๊

          5. ท่านคิดว่ากรรมการมีความเที่ยงตรง ซื่อสัตย์ เป็นกลาง และได้ผ่านการคัดเลือกว่ามีความรู้ด้านพระนี้จริง สามารถชี้ขาดได้จริงหรือไม่

ขอให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็น หรือเจอประสบการณอะไรเกี่ยวกับการประกวดพระเครื่อง เล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ

ขอบคุณครับ

แจ๊ค สามง่าม

 ผม tyt1920 ครับพี่ เรื่องพระ แท้มีใบประกาศ รับรอง แน่นอนมากๆๆครับ แต่สุดแสนจะ เสียความรู้สีกที่เราไป

ส่งอีกงานแล้ว ได้คำตอบว่า ไม่แท้ ปลอม มันสุดแสนจะหงุดหงิด ครับ ผมขอถามพี่ ก่อนนะครับว่า

1.   พระเป็นของพี่ หรือไม่ ตอนส่งในงานประกวด

2.   พี่ ไปมี ปัญหาอะไรกับ กรรมการหรือไม่ ครับ

3,   การส่ง ครั้งแรก กับ ครั้งที่ สอง พี่ส่งเองหรือไม่ครับ

   ที่ถามมาไม่ใช่อะไรครับ ผมเห็นใบประกาศผมก็รู้แล้วว่าของใคร งานครับ

ผมไม่อยากพูดอะไรมากไปครับ เดี๋ยวจะเป็น การ สาวไส้ ให้ กากิน

เป็นอันว่า ในบ้านเรา จะอ้างอิง กับงานทุกงานที่ สมาคมผู้นิยมพระเครื่อง รับรอง

แต่ที่ผมเห็นงานที่สมาคมไม่รับรอง นั้น กรรมการ ก็คนเดียวกัน ครับ

ด้วยเหตุนี้ พี่จะถามอย่างไรเขาก็ไม่สน นอกจากใบประกาศที่สมาคมรับรองเท่านั้น

ถึงจะ พอคุยได้ครับ  แล้วอีกอย่างใบประกาศ กับพระ ตรงกันกรือไม่ แล้วพี่ไปซื้อคนอื่นมาหรือไม่ครับ

เพราะมีใบประกาศปลอมครับ พี่ ผมเคยลงใบประกาศ แท้ให้ดู แล้วพี่ลองหาดูครับ ส่วนการมีปัญหากับกรรมการนั้น

ผมก็เคยมี แล้วพูดไม่รู้เรื่อง ในที่สุด พระเราก็สามารถส่งได้ แต่ผลออกมา ไม่ตัดสินครับ งานเข้าละ

เสียเงิน ค่าส่งพระฟรี ไม่มีคำตอบอีก กรรมการตัดสิน กลับไปแล้ว เวรจริงๆๆครับ

ขอบคุณ คุณ tyt1920 ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

   1. พระองค์ที่ว่านี้ไม่ใช่ของผมครับ แต่ตอนไปส่งพระในงานประกวดไปด้วยกันครับ รอพระตอนจะตัดสินก็อยู่ด้วยกัน

   2. ปัญหากับกรรมการไม่มีครับ เพียงแต่สอบถามกรรมการว่าดีกรี ที่ 1 พระของจังหวัดของพระนั้นๆ ไม่ติดแม้ที่ 4 ของจังหวัดนี้ บางทีกรรมการหมั่นไส้หรืออะไรไม่ทราบ ตีเก๊เอาดื้อๆเลยครับ

   3. ถ้าจะบอกว่าไปส่งทั้งสองครั้งหรือไม่ก็ไปส่งทั้งสองครั้ง เพียงแต่ ครังที่ 2 และ 3 ไปคนเดียว ตอนรับพระตอนแรกก็รับเข้านะครับ ไม่ตีเก๊ แต่พอรับเข้าไป ก็เอาไปคว่ำข้างในครับ

     ถามว่าใบประกาศแท้ไหม ดูแล้วมันก็แท้นะครับ เทียบกับใบประกาศที่เราได้รับจากรายการอื่น

ถ้าเป็นอย่างนี้ พระสวย พระแท้ ไม่ติดรางวัล จะมีงานประกวดพระไว้ทำไม งง........ จิงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณครับ

แจ๊ค สามง่าม

นี่เลยโดนมาหมาดๆที่ งานจันทบุรี  20กพ54  มีใบประกาศ ติด ที่2  ปี 2543  11ปี มาแล้ว  เป็นของน้า  ส่ง ปั๊ป เก๊ ปุ๊ป  จ๋อยเลย  อีกเรื่อง ส่งกริ่ง วัดสุทัศน์ กรรมเกินคนแรกไม่จับ ไม่ส่อง บอกเก๊ เลยโดนแจกกล้วย  โมโห ซื้อใบส่งใหม่ อีก เสีย 300 เปลี่ยนคนส่งเอาองค์เดิมนี่ละ ส่ง เขาก็เปลี่ยนคนรับ กรรมเกิน อีกคนรับ บอกว่าแท้ แต่ไม่มีในรายการ เฉย  ลงมาข้างล่าง มีคนตามซื้อ เจ้าของ เปิด 1ล้าน 5  เขาต่อ มา 8 แสน ยังไม่ ตกลง  อีกเรื่อง วันเดียวกัน หนุมานเนื้อเงิน ล ป  ทิม   กรรมเกิน  ไม่รับ บอกเก๊ เจ้า ของ รู้ทัน ควักใบเซอร์ของสมาคมออกมาวาง รีบรับ เฉย เอากะเขาสิ   งานประกวดที่ไม่น่าเชื่อถือ กลัวว่าสักวันจะเป็นงานเศร้า ขนาดเพื่อนที่เป็นกรรมการรับพระ ยังบ่น นั่งรับพระ  ก็มีระบบฝากจากกรรมการผู้ยิ่งใหญ่ ให้รับพระเก๊ ของพวกเขาเข้าติดรางวัล แล้วให้ ผลัก พระแท้ ออกเป็นเก๊ เพื่อนเลยไม่เข้ารับเลยทุกวันนี้  เวลามีปัญหา เพื่อนโดน เจ้าของพระด่า  มีขู่ฆ่า  เรื่องจริงครับ สู้ส่งพระเซอร์ วัน ที่ 27กพ54นี้ดีกว่า  มีใบเซอร์ กรรมการต้องรับแต่ จะติดรางวัลหรือไม่  เคยไปรอรับพระติดรางวัล ของผมติดที่ 2 อยากจะเห็นว่า ที่1 สวยกว่ามั้ย เชื่อมั้ยว่าไม่เห็นแล้ว กรรมเกิน มันรับไปก่อนแล้ว มันกลัวเราเห็นว่า สวยสู้ไม่ได้ แต่ ติด ที่ 1 ครับ พี่  ... ชั่วจริงๆๆ

ขอพูดด้วยคนครับพี่ๆๆ การส่งพระในงานประกวด เราๆๆท่านๆๆ ก็หวังว่าจะได้รางวัล โดยจำเพราะที่ 1 เมื่อพลาดที่ 1 หรือไม่ติดรางวัลใดๆๆเลย เป็นธรรมดาที่เจ้าของพระจะอารมณ์เสีย

ยิ่ง ประสาทเสียใหญ่ ถ้าเราได้รับคำตอบว่าพระคุณ   ปลอม  อันนี้ยิ่งรับไม่ได้ ถึงขั้นมี ขอ วางมวย เกือบทุกงาน ผมว่าไม่อยากพูดอะไรลงไปลึกมากเกินไป

มันเหทือน สาวไส้ ให้ กา กิน เอาละ ผมจะพูดเท่าที่พูดได้ครับ งานประกวด มี สองงานหลักๆๆ คือ งานใหญ่ ที่สมาคมรับลอง งานเล็กคือ สมาคมไม่รู้ไม่เห็น

ครับ แต่ ทั้งสองงานพี่ๆๆลองดูครับ กรรมการเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ตัดสินทั้งงานเล็ก งานใหญ่ ปัญหาของงานใหญ่ก็คือ กรรมการบางท่านอาจตัดสินพระที่ตัวเองขายออกไป

แล้วให้ ติดรางวัลที่1 ก็ได้ หรือ เป็นการขอ ทั้ง ผู้ใหญ่ หรือ คนที่ส่งพระมากๆๆ ครับ เขาเรียกว่ารู้กัน ส่วนงานเล็กๆๆ ก็มั่วเข้าไปอีก ไม่แพ้กัน ครับ ผมเคยส่งพระ พิมพ์สร้างเขื่อน ปี 95

 เข้าประกวด กรรมการไม่ตัดสิน ลูกค้าขอคืน พอเปลี่นที่จัด ผมก็ไปบอกลูกค้าผมว่า กรรมการคนนี้หรือไม่ ที่ไม่รับตัดสิน ลูกค้าบอกว่าใช่เลยครับคนนี้ ผมเลยฝากพี่เขาไปส่งครับ เที่ยวนี้ ติดที่ 4 ออกมาครับ ผมว่าปัญหาเล่านี้น่าจะเกิดจาก กรรมการที่ไม่ยุตติธรรมหรือ ดูพระให้ดี ถ้ามีปัญหาในการตัดสินมากๆๆผมว่าอย่าไปเป็นมันเลยไอ้กรรมการ เพราะว่า

มาแต่ละครั้ง ไม่ได้เงิน เสียเงินมากมาย แถมถูกด่า อีก มันช่างปวดใจจริงๆๆใช่หรือไม่ครับท่าน  กรรมการ

คิดเรื่องนี้มาตลอดครับ ติดตามเรื่องนี้เสมอครับ

ธุรกิจครับ เป็นการปั่นราคาพระของกรรมการหรือพรรคพวกเขา ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้าเขาจะกันพระของคุณออก

เอาของเขาเข้า คิดง่ายๆครับ สมมุติปรกติขายเสี่ยได้ 100 บาท แต่พอเป็นพระชนะมา 300 -500 ก็มีคนเช่า คนมีตังค์

ชอบพระสวยติดรางวัล ดังนั้นพระจะเก๊จะแท้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นพระของใคร ถ้าของเซียนใหญ่ถึงเก๊ก็แท้ได้ครับ  วงการนี้

น้ำดำครับ

โดนมาก็เยอะ แต่อยากจะฝากบอกเพื่อนๆในวงการว่า ถ้าพระที่เราส่งเข้าประกวดแล้วกรรมการไม่รับ อย่าพึงทิ้งพระองค์นั้นๆครับควรจะส่งหลายๆงานครับเวลาจะส่งก็ควรเข้าไปเยี่ยมๆมองๆดู "กรรมเกิน" รับพระว่าซ้ำกับงานที่แล้วรึเปล่า เพราะว่ามีเพื่อนผมโดนมาแล้วครับ พอกรรมการไม่รับก็เอาออกมาใส่ตู้ขายเลยซักพักก็มีคนมาซื้อ คนซื้อก็ขายต่อเป็นพระกรุลพบุลีเนื้อชินเงินไม่ต้องบอกราคานะครับ นี่แหละครับไม่รู้ว่าเป็นกรรมวิธีของพวกพี่ๆเค้ารึเปล่า แล้ที่นครสวรรค์กรรมการใหญ่เคยโดนนายทหารต่อยมาแล้วครับเรื่องนี้ถานคนนครสวรรค์รู้ดีครับ

การประกวดพระเครื่อง.......จุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือการประชันความสวยงามของพระเครื่องของเจ้าของพระแต่ละคน

และเพื่อเป็นการอนุรักษ์พระพุทธศาสนาในทางอ้อม เป็นการเผยแพร่เกียรติภูมิของพระพุทธศาสนา พุทธศิลป์ ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

ดังนั้นการประกวดพระเครื่องในยุคแรก ๆ เลยจะมีแต่พระบูชาเป็นหลักใหญ่และพระกรุต่าง ๆ เท่านั้น   พระเกจิไม่มี

ต่อมาจึงเริ่มมีพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า ๆ เพิ่มขึ้นตามความศรัทธาและความนิยมของนักสะสม.........

แต่ในปัจจุบันการประกวดพระได้ละทิ้งจุดมุ่งหมายเดิมไปเกือบหมดแล้ว.......ครับ

รางวัลที่มีไว้นั้นเพื่อเพิ่มมูลค่าของพระองค์นั้น ๆ ด้วยที่ว่าพระสวยแชมป์ ๆ ในสมัยก่อนถูกเก็บเข้ารังไปหมดแล้ว

จึงจะเห็นได้ว่าพระที่ได้ที่ 1 หรือติดรางวัลสมัยนี้..........ไม่ได้มีความสวยเลยหรือสวยสู้ที่ 1 ในสมัยก่อนไม่ได้

เพราะรังที่มีพระสวยไม่ส่ง กลัวคนรู้ว่าอยู่กับตัวเอง กลัวพระช้ำบ้าง กลัวโดนบุกบ้าง เป็นต้น

วงการนี้แม้ว่าจะอยู่กับสิ่งที่เป็นวัตถุมงคลคล....แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่อยู่ในวงการนี้ทุกคนจะมีความเป็นมงคลนะครับ

เรื่องอัปมงคลทั้งหลายแหล่มีมากมาย..............จนบางทีคนที่อยู่กันมานานจะทราบดี

ลองนึกกันดูนะครับแต่ก่อนงานประกวด.......กรรมการรับพระคือใครบ้าง

เซียนใหญ่ทั้งนั้นครับ......มาเป็นกรรมการรับพระ

แต่เดี๋ยวนี้ไปดูเถอะครับ...........แทบทุกงานไม่มีเซียนใหญ่มารับพระแล้ว

เพราะอะไร เพราะท่านไม่อยากเปลืองตัวครับ........เพราะทุกท่านมีศักดิ์ศรี

พอคว่ำพระของผู้ส่ง...ก็เกิดการโวยวาย ว่าองค์นี้เช่ามาจากเซียนคนนี้ คนนั้น

ก็ต้องมีการขอกันไปขอกันมา............ตัดปัญหาไม่เป็นกรรมการดีกว่า สบายใจ ไม่เปลืองตัว

ไปดูได้ครับกรรมการรับพระเดี๋ยวเป็นใครผมแทบไม่รู้จักเลย...................คนเก่งรุ่นเก่าหายหมด

และลองสังเกตกันดูไหมครับว่าเดี๋ยวนี้รางวัลชนะเลิศคืออะไร.........

แต่ก่อนรางวัลชนะเลิศนั้นจะเป็นหนังสือรวมพระที่ติดรางวัล ที่ 1 - 4......เพราะว่าโปร่งใส

ใครได้ที่ 1 พระเป็นอยบ่างไร ที่ 4 แพ้เพราะอะไร สามารถเปรียบเทียบจากหนังสือได้

กรรมการก็หมกเม็ดยากเพราะว่าถ้าพระที่ได้ที่ 2 สวยกว่าที่ 1 กรรมการก็เสียชื่อ..........

รวมถึงความแท้ - เก๊ด้วยครับ.......ดังนั้นพระติดรางวัลสมัยก่อนแท้แทบทุกองค์ (อาจมีพลาดบ้างแต่น้อยมาก)

เพราะถ้าให้พระเก๊ติดรางวัลและลงหนังสือบันทึกไว้.............กรรมการชุดนั้นก็หมดราคา

กลับมาดูปัจจุบัน.......เอาแค่เริ่มจัดงาน แค่วัตถุประสงค์ในการจัดงานก็จบแล้วครับ

ทุกงานในปัจจุบันวัตถุประสงค์หลักคือ.................เพื่อหารายได้ให้แก่......(ใส่เอง)

เมื่อวัตถุประสงค์เป็นการหารายได้............คำตอบสุดท้ายก็คือเงิน

ซึ่งมาจากค่าส่งพระประกวด..........ทำให้ต้องมีรายการประกวดให้เยอะ ๆ มาก ๆ นับพันรายการเพื่อให้ได้เงิน

ซึ่งก็รวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุน + ผู้จัด ที่จะต้องบริจาค............และขอความอนุเคราะห์

เมื่อมีการขอกัน....ก็ต้องขอกันไป-มา จึงเป็นที่มาว่าพระสปอนเซอร์ติดที่ 1 พระกรรมการติดที่ 1 บ้าง เป็นต้น

และรางวัลชนะเลิศเมื่อมีพระมากนับพันรายการ......ก็ไม่สามารถทำหนังสือลงรูปพระที่ติดรางวัลได้

เพราะต้นทุนมันสูง ก็พระนับพันรายการนี่ครับ.........หนังสือคงหลายพัน (ผิดวัตถุประสงค์ในการหารายได้)

และพระเก๊ที่ติดรางวัลมันจะลงไม่ได้......กรรมการเสียชื่อ

ดังนั้นหนังสือแจกรางวัลชนะเลิศในปัจจุบันจึงเป็นหนังสือที่เห็นวางขายโดยทั่วไป.....ขาดความขลังและคุณค่าเหมือนเมื่อก่อน

ยกตัวอย่าง รางวัลหนังสือชนะเลิศงานประกวดพระเครื่องที่ รร.จอมสุรางค์อุปถ้มภ์ อยุธยา ปี 2517 ทำไมเดี๋ยวนี้ราคาหลายพัน

เพราะมันมีแต่พระแท้ทั้งนั้น.......เอาไว้ศึกษาได้เป็นอย่างดี

แต่รางวัลชนะเลิศสมัยนี้ พอรับปุ๊ปแย่งกันขายทันที...............บางทีขายไม่หมดขอกันฟรี ๆ ยังให้เลย

คงเห็นภาพอะไรบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ...........ทีนี้ขอตอบคำถาม

1. พระของเราแท้แต่กรรมการบอกเก๊ (ทำไมครับ)

...............ท่านดูพระองค์นั้นเป็นหรือไม่ ถ้าดูเป็นก็จบที่พระครับ พระแท้ยังไงก็แท้

แต่ถ้าท่านดูไม่เป็นและท่านสรุปเองว่าพระผมแท้เพราะมีใบประกาศ อันนี้น่ากลัวครับ

ท่านต้องตอบคำถามนี้จากตัวท่านเองครับ.......ผม

2. พระแท้ทั้งๆที่มีใบประกาศว่าพระองค์นี้ติดรางวัลมาแล้ว แต่กรรมการบอกเก๊ (ทำไมครับ)

..............พระที่ติดรางวัลมาแล้วไม่ใช่ว่าจะแท้เสมอไปครับ  ต้องกลับไปข้อ 1. อีกครับ

ดังนั้นผมคิดว่าที่ท่านบอกว่าพระองค์นี้แท้นั้น ท่านดูไม่เป็น แต่ท่านดูว่าพระองค์นี้แท้ เพราะมีใบประกาศฯ

อยากให้ท่านเล่นพระครับ....อย่าเล่นกระดาษ

3. ทำไมพระเราสวยกว่าในทุกๆด้าน แต่ พระกรรมการติดที่ 1 หรือกรรมการให้พระองค์ที่กรรมการขายให้กับคนนั้นได้ที่ 1

............งานประกวดในปัจจุบันจัดเพื่อหารายได้ ไม่ได้จัดเพื่อประชันความสวย ปัจจุบันพระไม่สวยติดที่ 1 เยอะแยะไปครับ

4. ทำไมกรรมการพูดได้คำเดียวว่าเก๊....แต่ไม่อธิบายว่าเก๊ ตรงไหน ดูอย่างไรว่าเก๊

............ก็งานประกวดปัจจุบัน เอาใครมาเป็นคนรับพระละครับบางที่สายตรงที่เล่นยังไม่รู้จักแลยว่าคนรับพระคือใคร(วะ)

ท่านอาจจะเห็นในสูจิบัตรรายการประกวดเห็นชื่อกรรมการยาวเหยียด ตั้งแต่ ก - ฮ มากันกี่คน........มาแล้วตัดสินหรือเปล่า หุหุ

หนังสือก๊อปกันมาทั้งนั้นครับบางทีงานที่แล้วกับงานนี้เหมือนกันยังกับแกะ.....ต่างกันที่หน้าปกเท่านั้น 5555555555

5. ท่านคิดว่ากรรมการมีความเที่ยงตรง ซื่อสัตย์ เป็นกลาง และได้ผ่านการคัดเลือกว่ามีความรู้ด้านพระนี้จริง สามารถชี้ขาดได้จริงหรือไม่

.................ความเชื่อนี้คงตอบยากครับ อยู่ที่ว่าท่านเชื่อกรรมการหรือไม่ สมัยก่อนผมเชื่อครับ เพราะกรรมการรับพระแต่ละท่านนั้นชัวร์ไม่มั่วนิ่ม

แต่ปัจจุบันกรรมการรับพระคือใคร(วะ) ไม่เคยเห็นหน้า..........ถามสายตรงยังไม่รู้จักเลย 5555555555555555

เอาเป็นว่าถ้าเชื่อก็ส่ง ไม่เชื่อก็ไม่ต้องส่ง...............สบายใจดี

สุดท้าย.............อยากให้ท่านมองโลกในแง่ดีครับ ด้วยเพราะว่าการจัดงานประกวดในปัจจุบันมันเปลี่ยนวัตถุประสงค์ไปแล้ว

ถ้าคิดว่าเพื่อการกุศล ได้ร่วมทำบุญ ทำกุศล........ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรกับงานประกวด

แต่เผอิญส่วนตัวผมไม่ได้ได้คิดแบบนั้น.....ก็เลยเลิกส่งประกวดมานานแล้วครับ

คงพอจะมีประโยชน์บ้างนะครับ...................ทุกวงการครับ มีทั้งดี-ไม่ดี

มองแต่ในเรื่องดี ๆ ครับ.........อยู่กับวัตถุมงคล ใจต้องเป็นมงคลครับ

ยังไงวงการนี้ก็ยังมีดีมากกว่าไม่ดีครับ.......ไม่งั้นก็คงอยู่ไม่ได้ครับ

ด้วยความเคารพ

บางครั้งต้องทำใจยอมรับความเป็นจริงกันด้วยนะครับ  ผมเห็นโอดครวญกันเยอะ  ผมเองไม่ได้เป็นกรรมการอะไร รู้จักกรรมการบางคน ไปประกวดหลายงาน เคยยืนรอหน้าตู้เวลาคืนพระ เห็นหน้าพระที่ได้แชมป์ ก็ยอมรับว่าสมควรได้ บางองค์ของกรรมการก็สมควรเพราะของเขาสวย แม้จะดูขัดตาเวลากรรมการมารับคืน ซึ่งรู้สึกว่าน่าจะมีกฎห้ามกรรมการส่งพระประกวดทุกโต๊ะ เพราะจะเสียสละทั้งทีต้องทำให้ตัวเองดูโปร่งใสด้วย

แต่ส่วนใหญ่คนประกวดก็ไม่ยอมรับความเป็นจริง คิดว่าเราเก่ง พระเราสวยอยู่คนเดียว พอแพ้ก็โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง อย่างผมไปงานล่าสุด อำนวยศิลป์ ผมมีได้แชมป์รายการหนึ่ง คนที่ได้ที่ 2 มาขอดูเลย ประมาณว่าคาใจ พระเขาสวยขนาดนั้นทำไมไม่ได้แชมป์ บ่งอุบว่าสูสีกัน แค่คำว่าสูสีก็ต้องคิดแล้วว่าพระของตัวเองไม่ได้สวยกว่าของผม เพราะยังบอกว่าสูสี  สุดท้ายผมเห็นบ่นอยู่นั่น ไม่จบ เลยบอกไปให้เข้าใจฐานที่ไม่รู้จริงๆ ว่าพระของผมเป็นพระยุคต้น ได้เนื้อแดง แต่พระเขายุคกลางหรือท้ายเพราะเนื้อเหลือง  ก็ยังคงทำหน้ามึนเหมือนไม่ยอมรับ นี่เป็นตัวอย่างของคนแพ้แล้วรับไม่ได้  นี่ก็อาจไปโวยวายว่าผมซื้อพระจากกรรมการหรือรู้จักกรรมการเหมือนกัน  ทั้งที่ไม่เข้าใจกฎของงาน หรืออาจจะไม่เข้าใจพระท่ตัวเองส่งประกวดด้วยซ้ำ

ส่วนที่ขอความเห็น

 1. พระของเราแท้แต่กรรมการบอกเก๊ (ทำไมครับ)

       กรรมการอาจผิดพลาด ทั้งแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ  แต่นอกจากกรรมการเคยระวังบางไหมว่าเราอาจผิดพลาด พระของเราอาจเก๊ก็ได้ ที่แท้น่ะ ใครว่าแท้ เราแท้คนเดียวหรือเปล่า  ผมเคยซื้อพระในเว็บจากคนคนหนึ่ง เขารับประกันให้ 7 วัน ผมได้มาวันแรก เราดูไม่ดี ให้เซียนในพันทิพช่วยดูดีกว่ากันเราพลาด ตีเก๊ไป 3 คน ไปหน้าวัดตีเก๊อีก 2 คน ผมเลยขอคืนหลังจากรับของแค่ 2 วัน เขาบอกพระเขาแท้ คืนหัก 10 % อย่างนี้ถ้าเขาส่งประกวดแล้วตีเก๊ก็จะต้องมาถามแบบเดียวกัน  ลองดูนะครับ บางทีกรรมการอาจพลาด แต่บางครั้งเราก็อาจจะพลาดเอง

          2. พระแท้ทั้งๆที่มีใบประกาศว่าพระองค์นี้ติดรางวัลมาแล้ว แต่กรรมการบอกเก๊ (ทำไมครับ)

กรรมการตัดสินคนละงาน อาจจะคนละคน ตาใครตามัน พระเครื่องบางองค์ดูยากมาก มีเรื่องหนึ่งกล่าวกันว่ามีหลวงปุ่ทวดองค์กวาดแชมป์มาสิบกว่างาน ไปประกวดงานหนึ่งตีเก๊เฉยๆ เจ้าของรับคืนไม่ว่าอะไร พรรคพวกไม่ยอมจะเอาเรื่อง แต่เจ้าของบอก ดูพระมันดูกันหลายทาง ทางใครทางมัน เรามั่นใจก็พอ  คิดอย่างนี้ถือว่าสมควร 

แล้วอีกอย่างแน่ใจอย่างไรว่าใบประกาศนั่นของจริง  ถ้าส่งเองโอเคนะครับ ถ้าไม่ได้ส่งคือไปเช่าพระมาแล้วมีใบประกาศแถมมา ลองดูครับ แถวท่าพระจันทร์ พันทิพ มีขายใบประกาศเยอะแยะครับ  ปัญหานี้คือทางสมาคมผิดที่ไม่เก็บระเบียนประวัติให้ตรวจสอบกันได้ ทำให้เกิดปัญหาว่าใบประกาศแท้หรือเปล่า  ปัญหานี้เจอบ่อย ซื้อพระกันแล้วมีใบประกาศ แต่พระเก๊นี้ ทำใจได้เลย

          3. ทำไมพระเราสวยกว่าในทุกๆด้าน แต่ พระกรรมการติดที่ 1 หรือกรรมการให้พระองค์ที่กรรมการขายให้กับคนนั้นได้ที่ 1

เขาอาจเข้าข้างกันก็ได้ แต่บางทีต้องดู งานส่วนใหญ้เขาให้ศักดิ์ศรีเนื้อ บล็อค หายากก่อน ถ้าพระเราสวยแต่เนื้อธรรมดาหรือบล็อกรองกว่าก็แพ้พระที่ไม่สวย อย่างที่ผมเจอ พระเราสวยจัด แต่แพ้เหรียญที่ตัดหู  ธรรมดาเหรียญตัดหูนี่ก็ไม่ติดอยู่แล้ว พอถามกรรมการเขาบอกเหรียญนั้นเนื้อเงิน   แค่เพราะเขาเนื้อเงิน เขาก็ชนะแล้วอ่ะพี่  ก็รับได้แม้จะเซ็งหน่อย  บางงานน้องผมเจอ เนื้อเงินเลือนแทบมองไม่เห็นก็ยังชนะเพราะเนื้อ บางคนไม่รู้ไม่เป็นไปเห็นก็โทษว่ากรรมการรู้กัน  ที่จริงเขาควรประกาศเลยว่ากฎเนื้อ บล็อค ผิว หายากชนะ จะได้ไม่ต้องเถียงกัน  แต่บางงานอย่างงานที่สามพรานนี่เขาประกาศเลย เนื้อ บล็อคไม่สน ใครสวยกว่าแชมป์ แจ้งกรรมการทุกคนให้เอาเกณท์นี้ ปัญหานี่เลยไม่เกิด

          4. ทำไมกรรมการพูดได้คำเดียวว่าเก๊....แต่ไม่อธิบายว่าเก๊ ตรงไหน ดูอย่างไรว่าเก๊

บางทีเขาเห็นว่าเรื่องไม่ใช่ ไม่อยากไปยุ่ง  เพราะหลายครั้งที่ไปงานเห็นแจ้งว่าเก๊อย่างไง เจ้าของก็ไม่ยอมรับ เถียงอยู่ดี  ถ้าเรามั่นใจว่าพระเราแท้ให้เขายืนยันเลยว่าเก๊ แล้วจะไปเคลียร์คนขาย ขอชื่ออ้างเลย เพราะเป็นกรรมการตีเก๊ต้องกล้าอ้างชื่อ  ถ้าเขาไม่บอกก็เรียกกรรมการใหญ่มาพิจารณาอีกที  นั่นล่ะจะได้หายคาใจ

          5. ท่านคิดว่ากรรมการมีความเที่ยงตรง ซื่อสัตย์ เป็นกลาง และได้ผ่านการคัดเลือกว่ามีความรู้ด้านพระนี้จริง สามารถชี้ขาดได้จริงหรือไม่

อันนี้คิดว่าความรู้คงมีระดับหนึ่ง แต่หลังๆ เห็นเด็กๆ เยอะ อาจมีผิดพลาดบ้าง บวกกับการที่ทำตัวห้าวเพราะขึ้นมาใหม่ๆ บางทีเจอเพื่อนมาส่งก็คุยกันไม่น่าเชื่อถือ เลยทำให้เจอปัญหากันบ้าง  ส่วนเที่ยงตรง ซื่อสัตย์ เป็นกลางคงลำบาก มนุษย์ก็อย่างนี้  แล้วเราล่ะ  เที่ยงตรง  ซื่อสัตย์ เป็นกลางหรือเปล่า  ถ้าเราเอาแต่บอกพระเราสวยแชมป์  ไม่แชมป์ฟาดงวงฟาดงา เราเป็นกลางพอจะไปถามเขาว่าเป็นกลางหรือเปล่า?

สุดท้ายขออภัยนะครับ  ผมตอบตามที่ผมเห้นหน้าพระเวลาไปงาน เพราะจะชอบไปรอรับพระต้นๆ จะได้ดูพระสวยๆ ผมเห็นมาเยอะแต่ล่ะองค์ที่แชมป์ ดูก็สมควร ยิ่งเรื่องเนื้อ ผิว หรือบล็อกถ้าเข้าใจดีจะรู้ว่าโอเคเลยพระนี้ต้องแชมป์จริง  ส่วนคนท่เจประสพการณ์ไม่ดีอาจไม่คิดเหมือนผม

ได้อ่านเรื่องราวต่างๆแล้วท้อใจครับ มาตราฐานกรรมการแย่แล้วครับ แบบนี้ ไม่น่าเชื่อถือเลยครับ

ได้อ่านเรื่องราวต่างๆแล้วท้อใจครับ มาตราฐานกรรมการแย่แล้วครับ แบบนี้ ไม่น่าเชื่อถือเลยครับ

ขอเสนอนิดนึงนะครับ แต่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว

ต้องทำใจยอมรับ ครับ พี่ เร็วๆนี้ผมส่งพระเข้าประกวดงานที่ จ.สมุทรปราการ เดือนนี้เลย องค์แรกสอบถามบอกแท้ส่งได้ ขายไหม ไม่ขายครับ

พอพระออกรางวัลมา ไม่ติดรางวัล บอกของผมบล็อคเสริม อ่ะ ไม่เป็นไร รายการอื่นๆที่ผมส่งไม่ขอพูดไปดูหน้าพระกันเอาเองว่าใครสวยกว่าใคร

ทุกวันนี้จึงอยากบอกทุกๆท่านว่า เช่าพระให้ดูหน้าพระ ครับ ไม่ใช่ดูหน้าคนขายหรือดูออฟชั่นต่างๆที่ติดมาเช่นใบประกาศ เพราะรางวัลที่ 1 ใช่ว่าจะสวยกว่ารางวัลที่ 2 รางวัลที่ 1 ใช่ว่าจะเป็นพระแท้ และ ใบประกาศที่ 1 อาจจะเป็นของปลอมก็ได้

ให้ทุกๆท่านคิดซะว่าเราส่งพระเพื่อเป็นงานอดิเรก ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ไปเอา ฮา ไป ขำๆ อย่าไปหวังกะรางวัลที่จะได้รับ อย่าไปหวังว่าพระตัวเองจะได้รางวัล เผื่อจะขายได้ราคามากขึ้น อย่าเอาพุทธพาณิชย์มาเกี่ยวข้อง แล้วท่านจะมีความสุขกับการส่งพระเข้าประกวดและสะสมพระเครื่อง ครับ

ผมส่งพระเข้าประกวดเพราะผมกะว่าจะเอาพระที่เรามีไปเช็คพระไปในตัวหากเราได้รับรางวัลขึ้นมาก็ถือสะว่าเป็นความโชคดีไป

ส่วน กรรมการ นี่ แล้ว แต่ เวรกรรม ของ คนนั้นๆครับ และ ผมก็ขอยืนยัน(ในความคิดเห็นของผมว่า จากประสบการณ์ที่ส่งพระมา) ว่าไม่มีความเที่ยงตรงเลยซักกะคน ครับ มีแต่จะดีมากประมาณ 7-80% ดีน้อย 4-50 % ไม่มี 100 % ครับ หายากยิ่งกว่าพระแพงๆซะอีก

ไม่ค่อยชอบตรงที่กรรมการเอาพระลงประกวดเองนี่แหละครับช้ำใจ แล้วจะมีการประกวดทำไม

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ตราบใดที่มาตราฐานการตัดสิน มันยังไม่มีหลักตายตัว คนในสมาคมยังแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ปัญหาพวกนี้มันคงแก้ไม่ได้ เอาเป็นว่าอย่าไปใส่ใจคำตัดสินของคนพวกนี้ดีกว่า

รักการ  ประกวดพระ   สุดหัวใจ

ทำไม    กรรมการ        ไม่โปร่งใส

เสียเงิน  ค่าประกวด    ไม่เป็นไร

เสียใจ    พระสวยแท้    ไม่ติดรางวัล

                                              ริน อทินนาทานา ผู้แต่ง

บทกลอนนี้แสดงความรู้สึกของคนประกวดพระที่มีทัศนคติต่อกรรมการครับ

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

แจ๊ค  สามง่าม

089-7066315

ผมไม่ส่งงานเล็ก เพราะเป็นงานกรรมการ(จัดที่.....)

ส่งเฉพาะงานใหญ่ งานการกุศล งานที่จัดมาแต่โบราณ(งานโพ้วเล้ง, งานนิทรรศการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อง พระบูชา)

อย่างที่หลายๆ ท่านบอก งานประกวดมีงานเล็กและงานใหญ่

งานเล็กส่วนใหญ่ก็ตามต่างจังหวัด งานใหญ่ก็มักจะที่พันธุ์ทิพย์ หรือสถานที่พิเศษ เช่น ไบเทค สิริกิตต์ เป็นต้น

คุณภาพต่างกันเยอะครับ งานเล็กเชื่อถือได้ยากจริงๆ ค่อนข้างมั่วถึงมั่วที่สุด ถ้าเป็นไปได้ไม่แนะนำให้ส่งเลยครับ

งานใหญ่โดยส่วนตัวผมว่าเชื่อถือได้นะ อาจจะไม่ 100% แต่ก็ 80-90%

จากที่ผ่านมาผมก็เจอบางองค์นะครับที่ส่งงานนี้ได้ที่ 1 แต่งานถัดไปไม่ติดรางวัลเลย พอส่งงานถัดไปอีกก็ที่ 1 อีกครั้ง

แต่ส่วนใหญ่จะไม่เป็นเช่นนั้นครับ มักจะได้รางวัลใกล้ๆ กัน 1 ก็มักจะ 1 ตลอด หรือ 2 กับ 3 ก็วิ่งวนๆ กันแล้วแต่งาน

ส่วนคนที่คิดว่าพระตัวเองสวยแล้วทำไมไม่ติดผมเข้าใจว่าอาจจะดูเพราะแท้เป็นแต่ดูพระสวยไม่เป็น

เช่น พระเนื้อชิน 25 พ.ศ. ที่หลายๆ ท่านน่าจะรู้จักกันดี ผมมีอยู่ 1 องค์เคยได้รางวัลที่ 1 งานพันธุ์เมื่อปีที่แล้ว

มาปีนี้ก็เลยขุดมาส่งใหม่ปรากฎว่าได้ที่ 4 หลายๆ คนเห็นก็บอกว่า เฮ้ย ยอมได้ไงพระผมสวยกว่าที่ 2 ที่ 3 อีก (ไม่เห็นองค์ที่ 1 ครับ)

เนื่องจากผมรู้จักเจ้าของพระที่ 2 จึงขอเค้าดู ผมก็ยอมรับว่าเค้าสวยกว่า ทั้งๆ ที่ผิวสู้ผมไม่ได้ เป็นบล็อกธรรมดา (พระผมผิวสวย มีเข็ม ใส่รองเท้า)

แต่พระของเค้าจมูกมา 99% เลย โด่งจริงๆ (แต่ถ้าถ่ายรูปมายังไงผมก็สวยกว่าแน่นอน)

หรือพระบางรุ่นจะมีบล็อกนิยม หายาก เป็นที่ยอมรับกันมากกว่า

เค้าก็จะให้เกียรติองค์นั้นๆ ก่อน ทั้งๆ ที่เราอาจจะสวยกว่า

ดังนั้น ก่อนส่งก็ควรจะสังเกตพระดูด้วยว่าเราเป็นบล็อกอะไร พิมพ์อะไร นิยมหรือไม่ครับ 

ว่าจะไม่ไปพานทีพพพ  โย่ว

เคยไปมาแล้วครับ ผมทราบดีว่าเป็นอย่างไร?

วงการพระ เสือ สิงห์ กระทิง แรด เยอะ  เพราะพระมีราคาบางคนมองเห็นผลประโยชน์จนเกินไปจึงห้ามใจไม่อยู่(ประเภทเกินขอบเขต) และได้มีวิธีการ + กระทำการที่ผิด(ไม่สมควร) เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ(เด่น ดัง เงิน) 

ศัพย์วงการที่ควรเรียนรู้(เพื่อป้องกันตัว)   1. มีกลุ่มพวก (มาเฟีย)   2. สกัด (เตะตัดขาให้ร่วง)  3. สารพัดวิธีการ

สุดท้ายตัวเรา  เล่นพระต้องชอบจริงๆ  ศึกษาพระจนดูพระเป็นเอง  ฝึกใจและความรู้สึกตัวเองให้ดี 

มาแล้วครับ จัดไป เดี๋ยวจะมาเหลาให้ฟังครับว่า "'งานประกวดพระเครื่องที่จังหวัดกำแพงเพชร" กรรมการเป็นไงกันบ้าง

ผมว่าจะส่งซัก 5 รายการครับ ประกวดพรุ่งนี้ครับ 21 สิงหาคม 2554

รอลุ้นกันดูนะครับ.........-----ติดตามตอนต่อไป------

เจองานประกวดที่กำแพงเพชรวันนี้แล้ว.....บอกได้เลย ไม่เอาแล้ว เลิกแล้วครับ ลากันที งานประกวด............

เหนื่อย......ท้อ........เปลืองเงินค่าส่ง........เปลืองเวลา........เปลืองค่าน้ำมัน........และก็เปลือง ............

เมื่อเจอกับ  

"กรรมเกินทั้งหลาย"

ลากันทีครับ

ผมก็ห่างงานประกวดไปนานพอสมควรแล้ว ยิ่งงานภูธรเดี๋ยวนี้เอากรรมเกิน+อารมณ์ข้างในอาจจะหิวอะไรก็ไม่รู้ ไปนั่งรับพระเข้าตู้..คิดดูกันเองว่าจะเป็นยังไง ก็เข้าใจว่าคุณแจ๊คคงไปโดนมาก็ต้องทำใจนะครับ เวลานี้การส่งพระออกใบเซอร์เป็นทางที่น่าจะดีที่สุด

บอกได้เลยกรรมเกินบางคนมันเฮียพระหลักล้านมันเป็นใครดูไม่ถึง5วินาทีบอกเก๊เป็นเทวดาหคือไงเขาดูกันสิบตลบยังฟันธงไม่ได้เลยขนาดพระเขาทดสอบทางวิทยาศาสตร์มายังบอกว่าเก๊ไม่ทีความรู้และคุณธรรมลองเซียนส่งพระเก๊งมันยังบอกแท้เช่นชุดเบญจพระปิดตา พระชุดเบญจภาคีส่วนใหญ่พวกนี้ดูไม่ค่อยขาดเพราะคนพวกนี้ไม่เคยเห็นของจริงเลยเห็นแต่ตามหน้าหนังสือแล้วเอามาอุปโลปว่าของเท๊เห็นแต่พิมพ์แต่ไม่เคยเห็นเนื้อและดูความเก่าไม่เป็นเลยมีข่าวคืนพระกันเรื่อยๆ