พระสมเด็จบางขุนพรหมปี 2539 มาศึกษาตัวอย่างของตรายางกัน - webpra

หัวข้อ: พระสมเด็จบางขุนพรหมปี 2539 มาศึกษาตัวอย่างของตรายางกัน

กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ

พระสมเด็จบางขุนพรหมปี 2539 มาศึกษาตัวอย่างของตรายางกัน
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
รายละเอียด

พระสมเด็จเด็จบางขุนพรหมปี 2539 ผมก็เพิ่งจะสังเกตุเรื่องของราคาพิมพ์ใหญ่ก็ดี พิมพ์เส้นด้ายก็ดีว่า....ทำไมมีคนตั้งราคาขายกันถูกมาก

เช่น.เริ่มต้นที่ราคา 20 บาท 30 บาท แม้จะปิดที่ราคา 80-100-120-150 สุดแท้แต่ซึ่งคนขายก็ดู happy และมีการนำลงมาขายได้เรื่อยๆ 

ไม่มีหมดสต๊อก ทั้งๆที่วัดตั้งราคา 300 บาทต่อองค์

-พฤติกรรมชวนให้สงสัย และก็อดไม่ได้ที่จะต้องซอกแซกค้นหาความจริง เพื่อให้คลายสงสัยเสียที ในที่สุดก็พบเห็นสิ่งผิดปกติก็คือ

ตรายางที่ปั๊มเป็นรูปเจดีย์ไม่เหมือนกับของเราที่บังเอิญมีอยู่ประมาณเกือบ 100 องค์ ที่ว่าบังเอิญนั้นคือไม่ได้ตั้งใจเช่ามาหรอก แต่ถูก

ขอร้องให้ช่วยซื้อขึ้นมานะ ราคาองค์ละ 100 บาท เท่ากับราคาออกวัด เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา มาเข้าเรื่องหัวข้อกระทู้ดีกว่าครับ

สรุปแล้วตรายางรูปเจดีย์ที่พบเห็นของนายคนนั้นๆ..คนขายแบบไม่มีทุนอ่ะ ไม่เหมือนกันจริงๆ

ลองดูรูปภาพพร้อมคำอธิบายน่าจะเข้าใจง่าย

พระสมเด็จบางขุนพรหมปี 2539 มาศึกษาตัวอย่างของตรายางกัน พระสมเด็จบางขุนพรหมปี 2539 มาศึกษาตัวอย่างของตรายางกัน
โพสต์เมื่อ พ. - 22 ก.พ. 2555 - 12:24.06
ความคิดเห็นที่ 1:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
รายละเอียด

1.ภาพปั๊มตรายางรูปเจดีย์แต่ดั้วเดิม

2.ภาพตัวอย่าง..ตัวบนที่พิมพ์ว่า นิยม และภาพตัวล่าง มีคำอธิบายไว้ใต้ภาพเรียบร้อยแล้วครับ

โพสต์เมื่อ พ. - 22 ก.พ. 2555 - 12:28.20
ความคิดเห็นที่ 2:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
รายละเอียด

ภาพขยายใหญ่อีกนิดครับ 

-ที่ว่าคนขายถูกนั้นขายอยู่ที่เว็บเพื่อนบ้านครับ

โพสต์เมื่อ พ. - 22 ก.พ. 2555 - 12:30.58
ความคิดเห็นที่ 3:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
chetthaon
ตั้ง: 4 ตอบ: 7
คะแนน: 0
รายละเอียด

ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆครับท่านพี่

โพสต์เมื่อ อา. - 26 ก.พ. 2555 - 11:21.09
ความคิดเห็นที่ 4:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 1
ขุนเดช
ตั้ง: 0 ตอบ: 3
คะแนน: 1
รายละเอียด

วิธีทำตรายาง http://www.108cards.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=344990&Ntype=3

วิธีทำอาจไม่เหมือนกับการทำตรายางปี 39 แต่หลักการก็เหมือนๆกัน

 

พูดง่ายๆ คือ

ถ้าตอนที่จ้างเขาทำออกมา 10 อัน ตรายาง 10 อันนั้นก็จะเหมือนกันหมด เข้าใจรึเปล่าครับ

ถ้าไม่เข้าใจเอาแบบไปจ้างร้านแถวบ้านทำตรายางสัก 10 อัน แล้วเอามาปั๊มเทียบดูก็ได้ครับ

 

*เดี๋ยวนี้ดูเนื้อและพิมพ์ไม่ได้แล้วหรอ อันนี้เก็บไปคิดเอาเอง

 

ผมขอยกกรณีตัวอย่าง การใช้ชื่อครูบาอาจารย์ เพื่อให้ตัวเองดังแล้วทำวัตถุมงคลขายหาเงินเข้ากลุ่ม

การแอบอ้างพระกรุที่ทางวัดมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย กรณีแบบนี้มีอยู่เยอะแยะ

 

สุดท้าย ไปเจอมาเลยอยากฝากบทความนี้ไว้เป็นข้อคิด

หน้าที่ของพระสงฆ์ก็คือเป็นผู้นำทางสติปัญญา และจิตวิญญาณ สอนให้ประชาชนยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น แต่ปัจจุบันเมื่อเวลาเปลี่ยนไป พระสงฆ์บางกลุ่มก็เริ่มเข้าใจหน้าที่ของตนผิด คิดว่าหน้าที่ที่สำคัญของตน คือ การหาปัจจัยมาอุดหนุนวัด จึงหันมาทำธุรกิจกันมากขึ้น สะสมเงินทอง เป็นเหตุให้วิถีแห่งพุทธ ที่มุ่งนำสรรพชีวิตให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ถูกแทนที่ด้วย วิถีแห่ง"พุทธพาณิชย์"

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ และประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลัง และนรกสวรรค์อยู่ ประชาชนจำนวนมากยังนิยมไปวัดเพื่อทำบุญ ฟังเทศน์จากพระสงฆ์อยู่ เรียกได้ว่า พระสงฆ์ยังเป็นสถาบันที่ยังได้รับความเคารพจากคนไทยอยู่ แต่พระสงฆ์บางกลุ่มกลับหาประโยชน์จากความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน

พุทธพาณิชย์ที่เห็นจนชินตา คือ ป้ายประกาศแก่พุทธศาสนิกชนว่าจะมีการสร้างวิหาร สร้างโบสถ์ ต้องการปัจจัยสนับสนุน โดยมีสิ่งล่อใจ คือ บอกว่าผู้ทำบุญจะได้ขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า สมปรารถนาในทุกสิ่งอย่าง เทศกาลที่สื่อวิถีพุทธพาณิชย์อย่างเด่นชัด คือ การทอดผ้าป่าที่พบเห็นแทบทุกวัด หาเงินแข่งกันในแต่ละปีแต่ละวัด บางวัดได้เงินทอดผ้าป่าสูงถึงหลักล้าน !

วิถีพุทธพาณิชย์ นอกจากไม่ใช่วิถีทางแห่งปัญญาตามวิถีแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังเป็นวิถีแห่งกิเลสตัณหา สร้างความโลภทั้งแก่ผู้บอกบุญ และผู้ทำบุญ ที่หว่านพืชเพื่อหวังผลโดยไม่รู้จักจบสิ้น สมมติสงฆ์ ที่พึงเป็นผู้นำทางสติปัญญา ควรยกระดับจิตใจเหล่าพุทธศาสนิกชนให้สูงขึ้น พ้นจากการครอบงำของอำนาจกิเลส กลับพาไปในทางที่ต่ำ มุ่งสร้างความเจริญแต่ด้านถาวรวัตถุ และคิดถึงแต่วิธีหาเงิน พุทธพาณิชย์จึงอุบัติขึ้น เกิดการนำพิธีกรรมทางศาสนามาเป็นเครื่องมือหาเงิน เกิดกิจการขายบุญด้วยวิธีแปลกๆ ใหม่ๆ

นอกจากนี้ วิถีแห่งพุทธพาณิชย์ที่พบเห็นได้ คือ การขายของในวัดด้วยราคาที่สูงลิบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางของขลังต่างๆที่พยายามปลุกเสกให้มีหลายรุ่น หลายแบบออกมา ยิ่งตั้งราคาแพงก็ยิ่งมีคุณสมบัติมาก ใครอยากได้คุณสมบัติพร้อมมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องเตรียมเงินเข้าไปในวัดมากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น จตุคามรามเทพที่ช่วงหนึ่งปลุกเสกกันออกมาไม่หยุดหย่อน จนสุดท้ายต้องจบลงตรงที่ขายองค์ละไม่กี่สิบที่บาทวิถีแถบท่าช้าง

นอกจากเครื่องรางของขลังแล้ว ก็ยังมีธูปเทียน น้ำมัน พวงมาลัย รวมไปถึงกล่องบริจาคต่างๆที่อยู่ในวัดที่ตั้งราคาสูง ค้ากำไรเกินควรจากพุทธศาสนิกชน ขายเป็นชุดๆ ราคาต่อชุดก็หลายสิบมากกว่าข้าวจานหนึ่งเสียอีก ส่วนกล่องบริจาคตามวัดก็มีการสนับสนุนคนรวย สอนอย่างผิดหลักพระพุทธศาสนาว่าเมื่อทำบุญมากก็จะได้รวยมากขึ้น นำศาสนาไปติดยึดกับระบบทุนนิยม บริโภคนิยม นั่นคือพุทธศาสนาในปัจจุบันที่เห็นความสำคัญของวัตถุมากกว่าจิตใจ

การทำบุญเป็นตัวเงินหมายความว่า เงินนั้นคือทรัพย์สมบัติของเรา ซึ่งเก็บไว้แลกเปลี่ยนสินค้าและเปลี่ยนเครื่องช่วยชีวิต คนที่จะทำบุญอันใดอันหนึ่งจึงขึ้นอยู่กับความสามารถที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นในคำสอนของพระพุทธองค์ที่เรายอมรับกันในศาสนาก็คือ เราถือเอาจิตใจที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นในการให้ทาน ไม่ใช่ว่าทำไปเพื่อจะได้ผลย้อนกลับมา

พุทธพาณิชย์เป็นการสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับวัดหรือพระสงฆ์บางรูปที่หวังผลกำไรจากความเชื่อซึ่งนับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางวัดไหนก็มีแต่วัดที่เริ่มยึดหลักพุทธพาณิชย์มากกว่าหลักศาสนา

กุศโลบายที่จะให้คนเข้าถึงศาสนานั้น แม้จะมีหลากวิธี แต่ทุกวิธีต้องไม่ทำให้คนลุ่มหลงงมงาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์เครื่องรางของขลัง หรือยึดถือวัตถุสิ่งก่อสร้างเป็นสรณะซึ่งไม่ใช่หนทางแห่งความหลุดพ้น สังสารวัฏ เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว ก็ย่อมเห็นว่าพุทธพาณิชย์ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องของพระพุทธศาสนา
คงต้องรอให้วันที่แสงแห่งดวงปัญญาสว่างไสว เมื่อถึงวันนั้นผู้ลุ่มหลงในพุทธพาณิชย์...ก็คงจะได้เห็นว่าเดินผิดทางแห่ง พุทธศาสนาไปไกลแค่ไหน !... 

โพสต์เมื่อ พ. - 29 ก.พ. 2555 - 15:06.19
ความคิดเห็นที่ 5:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
daphne
ตั้ง: 34 ตอบ: 1429
คะแนน: 52
รายละเอียด

สุดยอดครับเจ้านายLaughing

โพสต์เมื่อ อ. - 13 มี.ค. 2555 - 15:12.32
ความคิดเห็นที่ 6:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
seebycat
ตั้ง: 13 ตอบ: 50
คะแนน: 3
รายละเอียด

ส่วนตัวคิดว่าการทำบุญ ขอแค่เราอยากจะทำ

ไม่ว่าจะโดนเขาหลอกก็ได้บุญ

โพสต์เมื่อ ส. - 17 มี.ค. 2555 - 01:36.42
ความคิดเห็นที่ 7:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
choavalit
ตั้ง: 25 ตอบ: 40
คะแนน: 3
รายละเอียด

เมื่อเดือนที่แล้วผมเพิ่มไปทำบุญที่วัดบางขุนพรหมมาครับ เลยอยากจะนำข้อเท็จจริงมาเล่าสู่กันฟัง กับเพื่อนสมาชิก

ให้ทราบถึงความจริงเกี่ยวกับตรายางปี 39 ครับ ลองเข้าไปดูตามลิงค์ด้านล่างนะครับ

http://www2.g-pra.com/webboard/show.php?Category=real_amulets&No=307682

โพสต์เมื่อ ศ. - 10 ส.ค. 2555 - 15:36.00
ความคิดเห็นที่ 8:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
เหน่งเมืองนนท์
ตั้ง: 4 ตอบ: 15
คะแนน: 1
รายละเอียด

กรณีนี้ผมว่า เมือเวลาผ่านไป ตรายางเลือนรางไป คุณก็แยกไม่ออกอยู่ดี เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจเลยครับ 

พิมพ์ทรง เนื้อหาแท้ ก็คือ แท้

โพสต์เมื่อ พ. - 19 ก.ย. 2555 - 21:23.23
ความคิดเห็นที่ 9:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: -1
cppuny
cppuny (21) (-3) 110.77.199.100
ตั้ง: 9 ตอบ: 23
คะแนน: -1
รายละเอียด

สนับสนุน  คุณ  ขุนเดช  เพื่อปกป้องความจริง

โพสต์เมื่อ พฤ. - 25 ต.ค. 2555 - 14:47.42
ความคิดเห็นที่ 10:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
สยามพระแท้
ตั้ง: 0 ตอบ: 5
คะแนน: 0
รายละเอียด

เนื่องจากตรายางขำรุด โดนหนูแทะทางวัดจึงทำตรายางใหม่ขึ้นแทนของเดิมครับ

ขอบคุณเจ้าของภาพครับ

โพสต์เมื่อ อ. - 22 พ.ย. 2559 - 09:32.30
ความคิดเห็นที่ 11:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
สยามพระแท้
ตั้ง: 0 ตอบ: 5
คะแนน: 0
รายละเอียด

ตรายางเก่าซึ่งถูกหนูกัดขำรุดและถูกเลิกใช้ประทับตรา ทางวัดทำของใหม่ขึ้นมาแทน 

คุณคุณเจ้าของภาพ

นักสะสมรุ่นใหม่ๆจะได้ไม่รับข้อมูลที่ผิดๆ จากการจินตราการของผู้สะสมที่คิดไปต่านๆนาๆ ซึ่งทำให้ทางวัดเสื่อมเสีย ชื่อเสียง เรื่องจริงจะปรากฎตามหลักฐานต่างๆ 

โพสต์เมื่อ อ. - 22 พ.ย. 2559 - 09:45.30
ความคิดเห็นที่ 12:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
สยามพระแท้
ตั้ง: 0 ตอบ: 5
คะแนน: 0
รายละเอียด

ตรายางเก่าที่ชำรุดและเลิกใช้

โพสต์เมื่อ อ. - 22 พ.ย. 2559 - 09:53.12
ความคิดเห็นที่ 13:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
สยามพระแท้
ตั้ง: 0 ตอบ: 5
คะแนน: 0
รายละเอียด

สงสัย สอบถามทางวัดครับ หลักฐานต่างๆ วัดมีไว้ชี้แจงให้หายสงสัย 

โพสต์เมื่อ อ. - 22 พ.ย. 2559 - 10:08.09
Top