-
รับเช่าพระสายสุพรรณให้ราคาดียินดีให้บริการครับ 094-9796919 บูม สุพรรณรับเช่า-รับเช็คพระ ให้ราคาดี ยินดีให้บริการครับ 094-9796919 บูม สุพรรณ
หมวด พระกรุ เนื้อชิน
กรุชุมนุมสงฆ์ ซุ้มเรือนแก้ว หายากรองแชมป์งานศรีประจันต์
| ชื่อร้านค้า | บูม สุพรรณ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
|---|---|
| ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
| ชื่อพระเครื่อง | กรุชุมนุมสงฆ์ ซุ้มเรือนแก้ว หายากรองแชมป์งานศรีประจันต์ |
| อายุพระเครื่อง | 306 ปี |
| หมวดพระ | พระกรุ เนื้อชิน |
| ราคาเช่า | - |
| เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
| อีเมล์ติดต่อ | boomcup@hotmail.com |
| LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
| สถานะ |
|
| เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พฤ. - 14 มิ.ย. 2555 - 16:12.03 |
| แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พ. - 11 พ.ค. 2565 - 11:12.14 |
| รายละเอียด | |
|---|---|
| รองแชมป์งานศรีประจันต์ สวยๆ พร้อมใบประกาศรางวัลที่ 2 ไม่อุดไม่ซ่อม พระกรุนี้แตกกรุเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2504 จากฝีมือการลักลอบขุดของกลุ่มคน ประมาณ 5-6 คน ซึ่งทำการขุดเจาะด้านในขององค์พระเจดีย์ เมืองสุพรรณ ในขบวนการมีหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญอยู่คนหนึ่งเป็นผู้บัญชาการ มีความรู้ว่าพระจะต้องฝังอยู่ตรงนั้นตรงนี้ เพราะเขาทำงานชนิดนี้มาอย่างโชกโชน ความสูงของเจดีย์ไม่เป็นอุปสรรคแต่ประการใดในการแลกเปลี่ยนกับชีวิต ถ้าตกลงมาหมายถึงชีวิต หรือไม่เช่นนั้นก็เลี้ยงไม่โตง่อยเปลี้ยเสียขาไป แต่สิ่งของในองค์พระเจดีย์ต่างหาก เป็นสิ่งจูงใจ และท้าทายให้เขาทำโดยไม่หวั่นเกรงภยันตรายใดๆทั้งสิ้น แม้กระทั่งการจับกุมเอาไปขังคุก การทำงานของเหล่าร้ายตั้งแต่หัวค่ำจนกระทั่งสำเร็จตามปราถนา ค่อยๆ ลำเลียงเอาพระลงมาจากองค์เจดีย์ นับพันนับหมื่นองค์ รวมทั้งพระกำแพงศอกนับร้อยองค์ ซึ่งเป็นศิลปะเดียวกันกับพระกำแพงศอกของ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี ผิวปรอทยังขาวแบบเดียวกันกับพระกำแพงศอกของพระปรางค์ วัดราชบูรณะ อยุธยา จำนวนพระกำแพงศอกเท่าที่ทราบตอนภายหลังว่ามีจำนวนถึง 200-300 องค์ พระพุทธรูปบูชาเนื้อสัมทธิ์ศิลปะอู่ทอง 2 และ 3 จำนวน 2-3 องค์ พระพุทธรูปสมัยลพบุรีก็มีฝากกรุอยู่เช่นเดียวกันกับในองค์พระปรางค์กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ส่วนพระเครื่องเป็นตระกูลลีลาเป็นส่วนใหญ่ มีไม่น้อยกว่า 20-30 พิมพ์ คาดว่ามีจำนวนไม่น้อยกว่า 2-3 หมื่นองค์หลังจากจุดแรกขุดได้พระบรรลุสมประสงค์แล้ว จึงพยายามขุดจุดที่สองต่อไป การทำงานครั้งนี้ใกล้จะสำเร็จอยู่รอมร่อ แต่ด้วยที่ใกล้รุ่งเช้าแล้ว จึงจำใจต้องสละจุดที่สองนี้ไป แล้วนำพระที่ได้ในการขุดจุดแรกไปแบ่งปันกัน รุ่งขึ้นวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2504 ข่าวการลักลอบขุดกรุเจดีย์วัดชุมนุมสงฆ์กระจายไปทั่วเมืองสุพรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณขณะนั้น นายพัฒน์ บุณยรัตพันธุ์ สั่งผู่กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.ประวัติ ขนุนทอง ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปควบคุมทันที ลงความเห็นว่า ให้ทำการขุดต่อ ถ้าไม่เช่นนั้นคนร้ายจะกลับมาขุดอีก กรมศิลปากรส่งรองอธิบดีกรมศิลปากร นายกฤษณ์ อินทโกศัย เดินทางมาจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อควบคุมการขุด เพราะเคยเป็นผู้อำนวยการขุดกรุพระปรางค์ วัดราชบูรณะ อยุธยา มาแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ขึ้นไปสำรวจดูว่า ควรขุดตรงไหน ในที่สุดเห็นว่า ควรขุดต่อตรงที่คนร้ายขุดเอาไว้ เพียงไม่นานนักก็ถึงจุดที่สองที่คนร้ายขุดทิ้งไว้ ปรากฏว่า พบพระเครื่องเนื้อชินปรอทขาวกับพระกำแพงศอก และพระบูชา จากการนับจำนวนพระเครื่องที่ทางราชการขุดได้ มีพระเนื้อชินเงินจำนวน 4,250 องค์ พระกำแพงศอก 10 องค์ พระบูชาเนื้อสัมฤทธิ์ศิลปะอู่ทอง 2 และ 3 อย่างละ 1 องค์ พระเครื่องดังกล่าวนี้ กรมศิลปากรแบ่งนำเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนไปเช่าบูชาส่วนหนึ่ง ที่จังหวัดสุพรรณบุรีก็เปิดให้ประชาชนเช่าองค์ละ 50 หรือไม่ก็ 100 บาท พระกำแพงศอก องค์ละ 1,000 บาท ไม่ช้าไม่นานพระดังกล่าวก็หายไปจากตลาดหมด พอประชาชนทราบข่าวว่า พระแตกกรุที่วัดชุมนุมสงฆ์ ต่างก็แห่กันไปดูอย่างเนืองแน่น เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรขุดต่อไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2504 เห็นว่าไม่พบอะไรอีกแล้วจึงยุติการขุด ข่าวพระวัดชุมนุมสงฆ์แตกกรุแพร่ไปเข้าหูนักข่าว นสพ. "พิมพ์ไทย" สมัยโน้นจึงเดินทางมาทำข่าว ทำให้ประชาชนได้รู้กันทั่วประเทศ ต่างเดินทางกันมาที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อหาเช่าพระทั้งของเอกชน และของทางราชการ ที่จังหวัดสุพรรบุรีมีจำหน่ายที่ศาลากลางจังหวัด ส่วนที่นำเข้าไปกรุงเทพฯ ให้ประชาชนเช่าที่กรมศิลปากร เมื่อทางราชการประกาศให้ประชาชนเช่าเอาพระไปบูชา พระของเหล่านักขุดก็เริ่มออกสู่ตลาดกับเขาบ้าง ราคาแต่ละพิมพ์ไม่เหมือนกัน องค์ละ 50-75-100 บาท พระกำแพงศอกองค์ละ 600-700 บาท บางองค์ปิดทองร่องชาดสวยมาก องค์ละ 1,000 บาท ทั้งสุพรรณและชาวต่างจังหวัดเช่าหากันอย่างไม่หวั่นเกรงใดๆทั้งสิ้น ในจังหวะที่พระวัดชุมนุมสงฆ์ออกจำหน่ายกันอย่างแพร่สะพัดนั้นเอง พระกรุวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งแตกกรุออกมาก่อนหน้า 4 ปี ราคาถูกกว่าพระกรุวัดชุมนุมสงฆ์ก็แทรกเข้ามาว่าเป็นพระวัดชุมนุมสงฆ์ เพราะผิวพรรณคล้ายคลึงกันมาก ราคา 20-30 บาทเท่านั้น บางคนไม่รู้ก็เช่าหากันไว้ ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น พระปลอมจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็ระบาดเข้ามาตีคู่กับพระวัดชุมนุมสงฆ์ เพราะผิวปรอทของพระวัดชุมนุมสงฆ์ก็ดี ของพระวัดราชบูรณะก็ดี ขาวเหมือนกับพระเพิ่งเทใหม่ จึงทำให้มีคนโดนกันระนาว จำนวนพระเป็นหมื่นองค์หายไปในวงการพระจนหมดสิ้นอย่างรวดเร็ว กาลเวลาผ่านไป พระดังกล่าวกระจัดกระจายไปทั่วประเทศ บางท่านสะสมไว้ไม่ทราบว่าเป็นของวัดไหน พิมพ์ที่มีคนรู้จักกันมากเป็นพิเศษคือ พระลีลาหลังเข็ม และพิมพ์เชยคาง นอกจากนั้นก็แทบจะไม่มีใครรู้จักกัน อาจเป็นเพราะพิมพ์ต่างๆ มีจำนวนน้อยไม่ค่อยผ่านหู่านตาเลยไม่ค่อยมีใครรู้เรื่อง หากท่านมีความสนใจพระวัดชุมนุมสงฆ์ขอเชิญไปชมที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ อู่ทอง สุพรรณบุรี ท่านจะได้ชมโบราณวัตถุอย่างหลากหลาย เช่น พระพุทธรูปสมัยอมรวดี ทวารวดี ลพบุรี อู่ทอง อยุธยา และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก เนื้อพระวัดชุมนุมสงฆ์เป็นเนื้อ ชินเงิน" เป็นคำที่นักนิยมพระเรียกกันมาแต่ดั้งเดิม โดยข้อเท็จจริงในเนื้อพระคงไม่ใช้เงินเป็นแร่ธาตุยืน ตามทางสันนิษฐานคาดว่ามีส่วนผสมของดีบุก ตะกั่ว และเงินอยู่บ้างเล็กน้อย ดีบุกน่าจะมีส่วนผสมมากกว่าเพราะเนื้อพระค่อนข้างมีความแข็ง ถ้าตะกั่วมากคงจะอ่อนตัว อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานอาจจะผิดหรือถูกก็ได้ ส่วนทางด้านผิวปรอท ไม่ว่าจะเป็นดีบุก ตะกั่ว หรือเงิน เมื่อนำไปหล่อหลอมเทออกมาแล้ว ผิวจะขาวแวววาวคล้ายเงินยวงติดอยู่ที่ผิวขององค์พระ นิยมเรียกกันว่า "ผิวปรอท" เมื่อสร้างเป็นพระบรรจุไว้ในองค์เจดีย์ ทำให้ผิวปรอทเปลี่ยนคล้ำลงไปบ้าง โดยเกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี หากเอามาจับถู ผิวปรอทจะหายไป เกิดเป็นผิวดำ หรือสนิมดำ ที่มา www.mac.in.th |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments
