เหรียญปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์..ปลุกเสกให้กองทัพเรือ ประมาณก่อนปี2470 -อิฐ สงขลา - webpra
VIP
พระแท้ดูง่าย สวยตาเปล่า

หมวด พระเกจิภาคตะวันออก

เหรียญปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์..ปลุกเสกให้กองทัพเรือ ประมาณก่อนปี2470

เหรียญปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์..ปลุกเสกให้กองทัพเรือ ประมาณก่อนปี2470  - 1เหรียญปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์..ปลุกเสกให้กองทัพเรือ ประมาณก่อนปี2470  - 2เหรียญปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์..ปลุกเสกให้กองทัพเรือ ประมาณก่อนปี2470  - 3เหรียญปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์..ปลุกเสกให้กองทัพเรือ ประมาณก่อนปี2470  - 4
ชื่อร้านค้า อิฐ สงขลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์..ปลุกเสกให้กองทัพเรือ ประมาณก่อนปี2470
อายุพระเครื่อง 96 ปี
หมวดพระ พระเกจิภาคตะวันออก
ราคาเช่า 65,000 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 081-346-6638,081854-8799
อีเมล์ติดต่อ itsda99@gmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พร้อมเช่า
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อ. - 19 ส.ค. 2557 - 10:29.15
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ศ. - 17 มี.ค. 2566 - 16:10.10
รายละเอียด
เหรียญปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์..ปลุกเสกให้กองทัพเรือ ประมาณก่อนปี2470 จารเต็มสูตรทั้งหน้าและหลังเหรียญสวยมาก หลวงพ่อแก้วร่วมกับพระเกจิสายตะวันออกและเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในยุคนั้น ทำพิธีปลุกเสกอย่างเข็มขลัง เนื้อหามวลสารประกอบด้วยโลหะชนวนเก่าและแผ่นยันต์จากเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ ชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ได้นำมาร่วมหล่อเหรียญหลวงพ่อแก้วนี้ มีมากมายเหลือคณานับได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถระบุรายละเอียดได้จนครบ ยังมีอีกมากที่ไม่ได้กล่าวรายละเอียดปลีกย่อยลงไป กระแสพลังของเหรียญปิดตาหลวงพ่อแก้วมีมากนักผู้ที่มีบุญวาสนาได้ครอบครองจง เก็บรักษาไว้ให้เป็นมรดกตกทอดต่อไป
คาถาบูชา หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์
ขอ อาราธนา บารมีแห่งองค์พระปิดตาหลวงปู่แก้ว โปรดอภิบาล รักษา คุ้มครอง ช่วยเหลือ ดลใจให้ทุกท่านที่ประพฤติอยู่ในศีลธรรม มีความเคารพในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จงมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ตลอดกาลนานเทอญ.....
การ ขอบารมีอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่แก้ว : ด้วยการจุดธูป 16 ดอก บูชาเหรียญปิดตาหลวงปู่แก้ว ระลึกถึงท่าน ตั้งจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่และศรัทธา เท่านี้ท่านก็รับรู้แล้ว
ประวัติหลวงพ่อแก้ว ผู้สร้างวัดเครือวัลย์
ตำบลมะขามหย่ง อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ มีชื่อเสียงก็เป็นที่รู้กันในวงการพระเครื่องมานานแล้ว หากใครต้องการวัตถุมงคลประเภทเมตตามหานิยม ส่วนมากอยากได้พระปิดตาหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ มาครอบครอง กิตติศัพท์เหล่านี้ จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียง จนถึงกับเป็นที่รู้จัก และเคารพนับถือของสาธุชนทั่วไป โดยถึงกับวัดวาอารามต่างๆ ต้องนำชื่อของท่านไปตั้งเป็นชื่อของพระเครื่อง พร้อมกับเน้นหนักให้ญาติโยมรู้ว่า สร้างมาจาก "ผงของหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์" จึงจะทำให้คนศรัทธาต้องการเช่านำไปบูชา และคนที่มีวัตถุมงคลพระหลวงพ่อแก้วไว้ครอบครองจำนวนมาก อยากทราบว่า หลวงพ่อแก้ว มาจากไหน และมาสร้างวัดเครือวัลย์ได้อย่างไร หลังจากได้ค้นคว้าด้วยวิธีหลากหลาย เช่น ห้องสมุด เกจิอาจารย์วงการพระเครื่อง จึงทำให้ทราบว่า ท่านมาจากไหน และสร้างวัดเครือวัลย์ ตำบลมะขามหย่ง อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้อย่างไร ตามข้อมูลดังต่อไปนี้
"หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์"จากหลักฐานที่ค้นคว้าได้ หลวงพ่อแก้วท่านถือกำเนิดมาจากครอบครัวของชาวประมงค์ ทางจังหวัดเพชรบุรี เมื่อประมาณ พ.ศ.2337 เมื่อท่านมีอายุพอสมควรแล้ว บิดารมารดาของท่าน ก็ได้พาท่านไปฝากกับสมภารวัดในระแวกนั้น เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสเล่าเรียนหนังสือ เพราะการศึกษาในสมัยนั้นยังไม่เจริญก้าวหน้า ต้องอาศัยเรียนจากวัด โดยมีพระสงฆ์เป็นผู้ให้ความรู้ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้วิถีชีวิตของท่านได้เปลี่ยนเส้นทางจากชาวประมงค์ กลายมาเป็นเด็กวัด และภายหลังได้เป็นหลวงพ่อแก้วในกาลต่อมา ดังที่รู้จักกันของสาธุชนทั่วๆ ไป ถึงทุกวันนี้
ชีวิตในปฐมวัย ในระหว่างที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ในวัดนั้น ปรากฏว่าท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยแตกต่างไปจากเด็กทั่วๆไป คือ แทนที่ท่านจะเกเรหรือซุกซนตามวิสัยเด็กทั่วๆไป แต่ตรงกันข้าม ท่านกลับมีความสงบเสงี่ยมเรียบร้อย มีเมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนๆ ตลอดจนสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ที่อาศัยวัดเป็นอย่างดี ประกอบด้วยท่านเป็นผู้มีความวิริยะอุตสาหะและมีสติปัญญาอันชาญฉลาด ในการเรียนรู้วิชาการต่างๆ จนเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์ครูสอนเป็นอันมาก ความแตกต่างที่ผิดไปจากวิสัยของเด็กนี้เอง ที่ทำให้สมภารเจ้าวัด เล็งเห็นว่า ถ้าเด็กคนนี้มีโอกาสบวชอยู่ในพระพุทธศาสนาแล้ว ต่อไปภายภาคหน้าจะเป็นกำลังอันสำคัญแก่พระศาสนา ด้วยเหตุนี้เอง ท่านสมภารเจ้าวัดได้บรรพชาเป็นสามเณรแก้ว ตั้งแต่นั้นมา
เมื่อท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ท่านได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย จนมีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดี ครั้นเมื่อมีอายุครบบวชแล้ว ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา อาศัยที่ท่านมีความเพียร ความอดทนเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว ท่านจึงมีความสนใจที่จะศึกษาค้นคว้าคำสอนในพระพุทธศาสนาให้แตกฉานยิ่งขึ้น จึงได้เข้ามาศึกษาบาลีไวยากรณ์ ซึ่งตามภาษาโบราณ เรียกกันว่า เรียนหนังสือใหญ่ ที่กรุงเทพฯ จนมีความรู้ความสามารถ เป็นอย่างยิ่ง
เมื่อท่านได้ศึกษาพระพุทธวจนะตามพระบาลี จนมีความรู้ความเข้าใจดีแล้ว อาศัยความที่ท่านเป็นผู้มีคุณธรรมสูง มาตั้งแต่วัยเด็ก ประกอบกับท่านได้ศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ของพระพุทธเจ้าอย่างขว้างขวาง เมื่อมีวิชาความรู้พอที่จะแนะนำสั่งสอนผู้อื่นได้แล้ว ท่านจึงตั้งใจจะจาริกแสวงบุญ โดยเผยแพร่พระพุทธวจนะ เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข และเพื่ออนุเคราะห์แก่ชาวโลกเป็นอันมาก เพื่อแบ่งส่วนกุศล ความรู้ ให้แก่ผู้ที่สนใจหลักธรรม ในพระพุทธศาสนา ในสมัยนั้นตรงกับรัชกาลที่สอง ซึ่งวงการศาสนากำลังก้าวสู่ความเสื่อม ประกอบกับลัทธิศาสนาของประเทศทางฝ่ายตะวันตก ได้เข้ามาเผยแพร่วัฒนธรรมทางศาสนาอย่างมากมาย เพื่อที่จะปลูกฝังให้คนไทยลืมสัจจธรรมอันแท้จริงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การทำครั้งนั้นนับว่ามีอิทธิพลมากต่อสภาพบ้านเมืองของเราในขณะนั้น เมื่อเหตุการณเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่า ทางบ้านเมืองหรือในวงการพระศาสนาไม่มีการตื่นตัวแล้วไซร้ ศาสนาพุทธในประเทศไทย ก็คงถูกกลืนหายไปในเวลานั้นเป็นแน่ "หลวงพ่อแก้ว" ในฐานะที่ ท่านมีความเมตตากรุณาเป็นที่ตั้ง ซึ่งเราก็ได้ทราบกันดีมาแล้ว ท่านจึงตกลงใจในอันที่จะออกประกาศสัจจธรรมแก่ชาวโลก ประกอบกับท่านมีความประสงค์ที่จะท่องเที่ยวโดยการเดินธุดงค์ เพื่อแสวงหาความวิเวกทางกายและใจ ดังนั้น ท่านจึงเริ่มต้นธุดงค์ไปในที่ต่างๆ ขึ้นเหนือบ้าง ลงใต้บ้าง โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น ท่านต้องเผชิญกับความลำบากต่างๆ ถึงแม้ท่านจะต้องต่อสู้กับความหนาวเย็นของอากาศ สภาพแวดล้อมของธรรมชาติ ตลอดจนการกระทำ และความคิดเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม ของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่ท่านก้ไม่ย่อท้อ มีจิตใจเด็ดเดี่ยว พร้อมเสมอที่จะเผชิญต่ออุปสรรคต่างๆ โดยท่านคิดว่า อุปสรรคต่างๆ เป็นเครื่องพิสูจน์กำลังใจว่าจะท้อถอยหรือไม่ ท่านอาศัยความเมตตา กรุณา ที่ท่านเจริญเป็นนิตย์ กับทั้งท่านมีหลักธรรมของพระพุทธองค์เป็นอาวุธ คือธรรมาวุธ พร้อมที่จะฟันฝ่าต่ออุปสรรคทั้งหลาย ให้ลุล่วงไปด้วยดีตลอดมา
เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2364 " หลวงพ่อแก้ว " ท่านได้ธุดงค์ผ่านมาทางภาคตะวันออก และได้มาพักแรมอยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดชลบุรี ซึ่งในสมัยนั้น จังหวัดชลบุรี ซึ่งสมัยนั้นจังหวัดชลบุรี ยังเป็นป่ารกชัฏด้วยป่าไม้เบญจพรรณต่างๆ มองไปทางไหนก็พบแต่ความเวิ้งว้างว่างเปล่าของน้ำทะเล สาเหตุเนื่องมาจากผลของสงคราม ในช่วงที่สมเด็จพระเจ้าตากสินทำการกู้ อิสรภาพนั่นเอง วัดวาอารามต่างๆ ที่ถูกทำลายก็ยังไม่ได้รับการฟื้นฟู ชาวบ้านที่อยู่ในถิ่นฐานนั้น ส่วนมากมีการศึกษาน้อย เพราะขาดการเหลียวแล จะเป็นด้วยวาสนาของชาวจังหวัดชลบุรีหรืออย่างไรไม่ทราบ ที่ทำให้ท่านธุดงค์ผ่านมาทางนี้ และด้วยเมตตาธรรมอันบริสุทธิ์ของท่าน ทำให้ท่านมีความคิดที่จะปลุกฝังญาติโยมในละแวกนั้น ให้เข้าถึงหลักธรรมของพระพุทธองค์ จึงปักกลดอยู่ที่นั้น เพราะความน่าเลื่อมใสของท่าน ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างก็นำอาหารมาทำบุญ ส่วนชาวบ้านที่นิยมของขลัง เมื่อเห็นพระรุกขมูลมา และมีวัตรปฎิบัติแปลกว่าพระธุดงค์รูปอื่นก็เกิดความเลื่อมใส เข้าไปขอเครื่องรางของขลังกับท่าน ส่วนท่านเมื่อมีญาติโยมมาหาท่านก็เชื้อเชิญต้อนรับด้วยธัมมปฏิสันถาร เพราะท่านมีธรรมเป็นเครื่องให้ เมื่อใครเอ่ยปากขอของขลังจากท่าน ท่านก็ให้ของขลัง และของที่ให้ก็ดีจริงๆ อันประกอบไปด้วยบทคาถามหามนต์ขลัง เพราะการเดินธุดงค์ท่านจะหอบหิ้วเอาวัตถุของติดตัวมาด้วยนั้น ท่านคงหอบหิ้วไม่ไหวแน่ ท่านคงมีแต่บทคาถามหามนต์ขลัง เมื่อเขาออกปากท่านก็ให้ ตามหลักกตัญญูกตเวทิตาธรรม ตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ คือให้คาถาบทภาวนา ระลึกถึงพระรัตนตรัย เมื่อญาติโยมในระแวกนั้นเกิดความเลื่อมใส ทำให้ท่านเริ่มบูรณะซากสลักหักพัง ของวัดร้างวัดหนึ่ง โดยได้รับความร่วมมือจากญาติโยมในละแวกนั้นเป็นอย่างดีจนพอใช้การได้แล้ว ท่านก็ได้ตั้งชื่อว่า " วัดเครือวัลย์ " คงถือเอานิมิตที่มีเถาวัลย์ปกคลุมอยู่มากมายก็ได้ หลังจากนั้น ท่านก็ได้อบรมสั่งสอนประชาชนให้เข้าถึงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา จนมีผู้แสดงตนเป็นอุบาสก-อุบาสิกา เข้าถึงพระรัตนตรัย ส่วนผู้ที่มีศรัทธากล้าก็เข้ามาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ท่านก็อบรมสั่งสอนด้วยหลักธรรมต่างๆ ตามภูมิธรรมของบุคคลนั้นๆ
หลวงพ่อแก้ว ท่านเป็นพระที่มีคุณธรรมสูง มีคุณธรรมเป็นเวทย์มนต์ คาถาขลังและศักดิ์สิทธิ์ ท่านตั้งอยู่ในพรหมวิหารธรรม มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นภาคพื้นในจิตใจของท่าน จิตใจของท่านเปี่ยมไปด้วยความรัก และความสงสารในสัตว์โลก พลอยยินดีด้วยเมื่อเห็นเขาได้ดี และวางใจเป็นกลาง ไม่ดีใจและไม่เสียใจเมื่อผู้อื่นถึงความวิบัติ อาศัยความที่ท่านเป็นผู้ที่มีเมตตาจิตสูงเช่นนี้ ท่านจึงชอบสร้างพระเป็นรูปพระปิดตา เพราะพระปิดตาแบบนี้เป็นสัญญาลักษณ์แห่งการไม่ดูไม่มองอะไร คือไม่เพ่งโทษ และหาโทษผู้อื่น ตั้งความเมตตาและกรุณา เที่ยงตรงต่อมนุษย์และสัตว์อื่นเสมอกันหมด ดุจดังพื้นแผ่นดินที่มั่นคง ไม่ยินดียินร้ายในของหอมและของเหม็นที่พวกมนุษย์ทิ้งลงแผ่นดิน ฉะนั้นหลวงพ่อแก้ว ท่านวางจิตเป็นกลาง ไม่รักคนนี้ เกลียดคนนั้น หรือชังคนโน้น ไม่ปรารถนาให้ใครเดือดร้อนเพราะท่าน ท่านถือหลักว่า ใครใคร่ลาภ จงได้ลาภ ใครใคร่บุญ จงได้บุญ ดังนี้
วิธีสร้างผงของหลวงพ่อแก้ว การสร้างพระปิดตาหลวงพ่อแก้วนั้น ก็ไม่มีอะไรมากนัก โดยปกติแล้ว หลวงพ่อแก้ว ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยละเอียดรอบคอบเป็นปกติ ท่านเป็นผู้เห็นการณไกลคือ ในขณะที่ท่านสอนบาลีไวยากรณ์อยู่นั้น ท่านก็ได้เก็บเอาผงที่ลบจากอักขระเอาไว้ เพราะการสอนหนังสือในสมัยนั้นจะต้องเขียนต้องลบตัวอักขระบนกระดานดำจริงๆ และนิยมกันว่า ผงอักขระที่ลบจากการเรียนภาษาบาลี ซึ่งเขียนเป็นอักษรขอมที่มีความขลังและศักดิ์สิทธิ์ แล้วท่านก็จะนำมาผสมกับผงพระพุทธคุณ หรือผงมหาราช เป็นต้น เมื่อเอาผงดินสอ และผงพุทธคุณรวมกันเข้าแล้ว ท่านก็เอาเกษรดอกไม้ต่างๆ ใบไม้ เปลือกไม้ และเนื้อไม้ มาบดให้ละเอียดเป็นผง แล้วจึงนำมาผสมกับผงอักขระ เอาน้ำข้าวมาคละเคล้าเข้ากับผง เพื่อทำให้เหนียว จนได้หล่อเป็นรูปพระ การผสมผงเพื่อสร้างเป็นรูปพระหลวงพ่อแก้วนั้น ท่านเอาผงคุณพระกับผงดินสอที่ท่านเขียนอักขระบนกระดานดำ เอาผงทั้งสองอย่างนั้นมาผสมกันเข้าไว้ แล้วเอาใบไม้ ที่เรียกกันว่า ใบไม้รู้นอนต่างชนิด เช่น ยอดสวาท เป็นต้น เอาเกษรดอกไม้บ้าง มาบดเป็นผงให้ละเอียด ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยดีแล้ว จึงเอาน้ำข้าวเหนียวมาผสมทำให้เหนียว จึงเอากดลงในแม่พิมพ์ ก็สำเร็จเป็นองค์พระ เหรียญปิดตาหลวงปู่แก้วพุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง
พุทธคุณแรงเกินราคา คุ้มค่ามากๆๆๆ กับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงต่อ การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top