เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สุดยอดเครื่องรางสายวัดกลางฯ ลองเข้ามาชมกันได้จ้า-jorawis - webpra
VIP
  • มีพระกรุยอดนิยมหลากหลายสภาพ ให้เลือกชม
    เน้นพระแท้ ดูง่าย รับประกันความแท้ตามสากลนิยม มีให้เลือกชมทั้งพระเนื้อดิน ชิน ผง
    แทบทุกองค์ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชียวชาญ โดยมีรางวัลจากการผ่านงานประกวดมาตรฐาน
    หรือ

    ผ่านการออกใบรับรองพระแท้ จากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
    ที่สามารถยืนยันถึงความแท้และความถูกต้องของข้อมูล
    ที่เกี่ยวกับองค์พระได้เป็นอย่างดี
  • ส่วนใหญ่เป็นพระกรุพระเก่ายอดนิยม
    หลายองค์เป็นพระในตำนาน หาชมได้ยากในปัจจุบัน
    บางองค์ไม่มีแม้แต่รูปให้ผ่านสายตา

    ส่วนบางองค์มีให้เห็นแค่เฉพาะภาพในหนังสือพระเครื่องมาตรฐานสูงบางเล่มเท่านั้น

    สนใจเชิญติดต่อกันเข้ามาได้
    ยินดีต้อนรับด้วยความเป็นกันเองทุกท่านทุกสายเลยจ้า
  • Page 1
  • Page 2
มีพระยอดนิยมมากมายให้เลือกชม เน้นพระแท้ดูง่ายโดยเฉพาะพระกรุ พระเก่า ประกันความแท้ตามมาตรฐานสากลนิยม

หมวด เครื่องรางของขลัง

เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สุดยอดเครื่องรางสายวัดกลางฯ ลองเข้ามาชมกันได้จ้า

เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สุดยอดเครื่องรางสายวัดกลางฯ ลองเข้ามาชมกันได้จ้า - 1เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สุดยอดเครื่องรางสายวัดกลางฯ ลองเข้ามาชมกันได้จ้า - 2เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สุดยอดเครื่องรางสายวัดกลางฯ ลองเข้ามาชมกันได้จ้า - 3เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สุดยอดเครื่องรางสายวัดกลางฯ ลองเข้ามาชมกันได้จ้า - 4เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สุดยอดเครื่องรางสายวัดกลางฯ ลองเข้ามาชมกันได้จ้า - 5
ชื่อร้านค้า jorawis - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สุดยอดเครื่องรางสายวัดกลางฯ ลองเข้ามาชมกันได้จ้า
อายุพระเครื่อง 106 ปี
หมวดพระ เครื่องรางของขลัง
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ Jorawis@gmail.com
สถานะ พระโชว์
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พฤ. - 27 ส.ค. 2558 - 08:41.21
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ส. - 09 ธ.ค. 2566 - 15:50.25
รายละเอียด
ตัวนี้เป็นเบี้ยเปลือย มีประวัติความเป็นมาเชื่อถือได้เนื่องจากเป็นของมรดตกทอด ซึ่งแต่เดิมเบี้ยแก้ตัวนี้ลงรักถักเชือกมีผ้าหุ้มชั้นในเหมือนกับเบี้ยตัวอื่นๆ ทั่วไึป ต่อมาส่วนของหูเบี้ย และเชือกที่ถักหุ้มตัวเบี้ย เปื่อยขาดชำรุด ไปเรื่อย โดยลามบริเวณหลังเบี้ยจนเป็นวงกว้าง หลังเบี้ยโผล่เห็นเนื้อใน เจ้าของเดิมจึงผ่าเอาตัวเบี้ยออกมา ซึ่งแม้เบี้ยแก้ตัวนี้จะไม่เสมบูรณ์นัก แต่ก็เป็นหนึ่งในเครื่องรางสุดรักสุดหวงที่ Jorawis ใช้อาราธนาติดตัวตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังสามารถใช้ศึกษาเบี้ยแก้ของสายวัดกลางบางแก้ว ซึ่งเบี้ยตัวนี้มีลักษณะพิเศษ การเก็บตะเข็บชองตะกั่วหุ้มที่ใต้ท้องเบี้ยเรียบร้อยสวยงาม ปรอทไม่รั่วยังอู่เต็มๆ น้ำหนักครบถ้วนสมูรณ์ตามตำรา มีร่องรอยของการถักเชือกหุ้มเดิมให้เห็นตามผิวทั่วไป ทั้งลักษณะของตะกั่วที่ใช้หุ้มเนื้อหาจะคล้ายพระกรุเนื้อชิน ที่เรียกกันว่าชินแก่ตะกั่ว ที่มีลักษณะแบบเดียวกันกับพระชุดขี้นกเขาเปล้า ไม่ใช่ตะกั่วบริสุทธิ์ทั่วไป ที่ตามธรรมชาติหากสัมผัสความชื้นในอากาศ จะเกิดอ็อกโซด์ หรือสนิม ออกสีเทาดำ ลายมือที่จารยันต์ พุทธซ้อน ตามตำรับเบี้ยแก้สายวัดกลางบางแก้ว ที่คุณชัยรัตน์ โมไนยพงศ์ เป็นผู้หนึ่งที่สนใจศึกษาเบี้ยแก้ รวบรวมไว้ในหนังสือเครื่องรางของขลัง เท่าที่คุณชัยรัตน์ สังเกตและเคยลงทุนผ่าเบี้ยแก้ตัวหนึ่งที่พิจารณาสภาพเชือกที่ถักหุ้มผุกร่อนชำรุดจนหมดสภาพ แล้วมั่นใจว่าเป็นของหลวงปู่บุญ วัดกลางฯเมื่อเปิดออกจึงเห็นยันต์ที่กำกับใต้ท้อง เป็นยันต์พุทธซ้อน และยันต์เฑาะว์รันโต ต่อมาเมื่อมีโอกาสผ่าอีกหลายลูก จึงพอสรุปคร่าวๆ ได้ว่ายันต์ที่ลงมีทั้งยันต์ที่เป็นคาถาและยันต์ตาราง ยันต์ตารางมีทั้งสี่ช่องและเก้าช่อง


เบี้ยแก้เปลือยตัวนี้ ลักษณะ การเขียน การหักมุมเส้นสายต่างๆ ในยันต์ ที่ปรากฏในตัวเบี้ยก็น่าจะเป็นลายมือเดียวกัน เมื่อนำรูปภาพมาเปรียบเทียบกับเบี้ยแก้เปลือยที่ลงรูปไว้ในหนังสือ "ชีวประวัติ และ วัตถุมงคล พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่บุญ) วัดกลางบางแก้ว ฯ " ที่จัดทำโดย คุณลิ้มนครปฐม และคุณสุธน ศรีหิรัญ ซึ่งถือว่าเป็นหนังสือฉบับมาตรฐานของสายวัดกลางในปัจจุบัน และเบี้ยเปลือยตัวนี้ ็เคยผ่านพิจารณาจาก หนึ่งในสองท่านที่จัดทำหนังสือเล่มนี้ด้วยเช่นกัน แม้จะเคยส่งผ่านสนามประกวดมาหลายสนาม ทั้งงานเล็กงานใหญ่ แม้ไม่เคยได้รับรางวัลเพราะลงรักถักเชือกไม่สมบูรณ์ แต่ก็ผ่านการพิจารณาทุกครั้งจนล่าสุด Jorawis ลองส่งลงสนามอีกครั้งในงานเล็ก ๆ ที่ หอประชุมพุทธมณฑล เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 และได้รับรางวัลโบว์เขียว (รางวัลที่3) มาเชยชม เป็นเครื่องรับรองความแท้จ้า


นอกจากเบี้ยแก้ตัวนี้ ที่Jorawis ขอโชว์ไว้สถานเดียว เนื่องจากเป็นมรดกตกทอด และ เป็นเครื่องรางคู่ตัว อาจมีพระรายการอื่น ๆ ที่ทำนกำลังค้นหาอยู่เชิญที่นี่เลยจ้า


http://www.web-pra.com/Shop/jorawis



สำหรับท่านที่สนใจใคร่ศึกษา เรื่องของเบี้ยแก้ อ่านได้ตรงนี้จ้า

เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอุปเท่ห์การใช้มากมายหลายอย่าง เที่คุ้นหูในสมัยก่อน แต่สมัยนี้ ไม่ค่อยมีคนรู้จักกันแล้ว เกจิอาจารย์ท่านสร้างจากการบรรจุปรอท ที่ปลุกเสกแล้ว เข้าไว้ในตัวเบี้ยจั่น แล้วหาวิธีอุดไว้ไม่ให้ ปรอทหนีออกมาข้างนอก

เวลาเขย่าจะได้ยินเสียงปรอทกระฉอกไปมาเสียงดังขลุกๆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง เสียงหนักเบาขึ้นอยู่กับปริมาณมากน้อยของปรอทที่บรรจุ

เสียงขลุกๆของปรอท ยังขึ้นอยู่กับฤดูกาล ถ้าเบี้ยแก้ตัวที่บรรจุปรอทมาก เขย่าในฤดูร้อน มักไม่ได้ยินเสียง แต่ถ้าเขย่าในฤดูหนาว เสียงจะดังฟังชัดเจน

เบี้ยแก้บางตัว มีเสียงขลุกไพเราะ ขลุกหลายจังหวะ มีเสียงหนักเบาสลับกันไป เหมือนนักร้องมีลูกคอหลายชั้น หรือนกเขาเสียงคู่ เสียงเอกที่มีลูกเล่นหลายชั้น

เบี้ยแก้ที่ขึ้นชื่อ มีหลายสำนัก แต่ละสำนัก มีวิธีบรรจุปรอทและวิธีอุดต่างกัน

สำหรับเบี้ยแก้สายวัดกลางบางแก้ว

เท่าที่สืบค้นได้นั้น หลวงปู่บุญ ท่านเรียนวิชาเบี้ยแก้มาจาก หลวงปู่ทอง วัดกลางบางแก้ว โดยสร้างเบี้ยแก้ให้ผู้ที่จะมาขอทำเบี้ยแก้นั้น จะต้อง นำปรอทหนัก 1 บาท ชันโรงใต้ดิน หอยเบี้ย นับให้ได้ฟัน 32 ซี่ แผ่นตะกั่ว บางรายก็หาผ้าแดงมาด้วย แล้วจึงนำสิ่งของทั้งหมดใส่ถาดพร้อมดอกไม้ธูปเทียน มาถวายหลังจากที่หลวงปู่ท่านทำอุโบสถเช้าหรือเย็นเสร็จแล้ว

หลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว จะปลุกเสกปรอทแล้วจึงบรรจุปรอทลงในหอยเบี้ย แล้วนำชันโรงมาปิดปากเบี้ย จากนั้นท่านก็บริกรรมพระเวท แล้วจึงให้นำไปหุ้มตะกั่วกับพระในวัดจนเสร็จเรียบร้อยจึงนำกลับมาให้ท่านลง อักขระอีกทีหนึ่ง และปลุกเสกเบี้ยอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงมอบ เบี้ยแก้ให้เจ้าของนำไปถักเชือกเอาตามใจชอบ เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ส่วนมากก็ให้พระภายในวัดช่วยถักให้ บ้างก็ลงรัก บ้างก็ลงยางมะพลับ เพื่อให้เชือกที่ถักมีความคงทน

หลังจากสิ้นหลวงปู่บุญแล้ว ศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดต่อมาก็คือหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เพิ่มท่านก็ได้สร้างเบี้ยแก้ด้วยกรรมวิธีแบบเดียวกับหลวงปู่บุญและ เบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้วมีความขลังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ต่อมาเมื่อหลวงปู่เพิ่มท่านชราลงมามากแล้ว ท่านจึงครอบวิชาทำเบี้ยแก้ให้แก่ท่านอาจารย์ใบทำเบี้ยแก้ต่อจากท่าน เป็นการสืบทอดวิชา เบี้ยแก้ของสาย วัดกลางบางแก้ว


ส่วนเบี้ยแก้อีกสำนักที่ขึ้นชื่อมาก่อนหรืออาจจะอยู่ในยุตสมัยเดียวกันกับเบี้ยแก้ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ก็ว่าได้ คือเบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง ตลิ่งชัน ฝั่งธนบุรี ซึ่งหากพิจารณาจากวิธีหุ้มเบี้ยด้านดอก อาจดูคล้ายกัน แต่ ด้านในแตกต่างกัน ของหลวงปู่รอดใช้แร่ตะกั่วหุ้ม แล้วลงอักขระลงบนพื้นตะกั่วรอบตัวเบี้ย ทั้งกันและแก้สิ่งชั่วร้ายเสนียดจัญไร คุณไสย คุณคน คุณผี บาเบื่อ ยาเมา ทั้งหลาย

นอกจากนี้ยังมีเบี้ยแก้อีกหลายสำนักที่ ขลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่นิยมเสาะแสวงหาของนักเลงเครื่องรางของขลังแม้จะมีชื่อเสียงและแพร่หลายอยู่เฉพาะพื้นที่ เช่น หลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ และหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ที่จัดเป็นเบี้ยแก้ ยอดนิยมสายอ่างทอง ลักษณะของเบี้ยแก้สายเมืองอ่างทองนี้ เบี้ยแก้ ไม่ได้ถักด้ายหุ้ม อุดด้วยชันโรงใต้ดินแล้วก็ให้หุ้มเลี่ยมด้วยเงิน ทอง หรือนาก เหลือเนื้อเบี้ยเป็นวงกลมไว้ด้านหลัง

ยังมีเบี้ยแก้ของหลวงพ่อม่วง หลวงพ่อทัต หลวงพ่อพลอย วัดคฤหบดี บางยี่ขัน, หลวงพ่อแขก วัดบางบำหรุ,และจนปัจจุบันก็มีพระเกจิอาจารย์ ยุคใหม่ที่สร้างเบี้ยแก้ได้เข้มขลัง ไม่แพ้พระคณาตารย์ยุคเก่า อีกมากมายหลากหลายสำนัก

คณาจารย์ยุคเก่ารจนาอิทธิคุณของเบี้ยแก้ไว้มากมายดังนี้

เบี้ยแก้เป็นอิทธิวัตถุชั้นหนึ่ง เตือนใจให้สะดุ้งกลัวภัยที่มองไม่เห็น หากบุคคลใด มีไว้เป็นสมบัติ นำติดตัวโดยคาดไว้กับเอวหรือโดยประการอื่น ย่อมปกป้องภยันตรายได้ทั้งปวง

เป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุดคงกระพันทุกประการ คุ้มกันเสนียดจัญไร คุณไสย ยาสั่งและการกระทำย่ำยี ทั้งหลายทั้งปวงได้ชะงัด...นักแล.

ป้องกันอัตวิบากกรรม แก้ภาพหลอน จิตรหลอน ภาพอุปทาน แก้อำนาจภูผีปีศาจ อาถรรพณ์เวททำให้
มัวเมาขลาดกลัว ขนพองสยองเกล้า ลมเพลมพัด คุณไสย คุณผี คุณคนทั้งปวงอุบาทวเหตุ อุบาทวภัย
ทั้งปวง มัวเมายาพิษ ยาสั่งทั้งหลาย ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข่ผีป่า ผีโป่ง ผีปอบ ต้องกระทำจากภูตผี ผีพราย
ผีตายโหง กองกอยวิกลจริต จิตวิกลวิกาล วิญญาณ อุปาทานวิกลเหมือนผีเข้าเจ้าสิงสู่ปราศจากสิ้นแล

- ให้อธิษฐานเอาน้ำมนต์ เอาดอกพุทธรักษาดอกไม้ ดอกเข็มแดงหลากสี ตั้งขันธูปเทียน ขันห้า
ข้าวตอก ดอกไม้แก้บาทวพิษ บาทยัก อัมพาต บาดแผล ฝีมะเร็ง ฝีคุณ หัวพิษ หัวกาฬ ทรางชัก
รางขนพอง สันนิบาตลูกหมา ลูกนก หลังแอ่น คางแข็ง บ้าหมู ภายนอกภายใน อาบกินด้วย ตั้งจิตหน่วงลง
ในคุณพระศรีรัตนตรัยใช้ได้แล

- เมื่อเข้าศึกสงครามให้เอาไว้ด้านหน้าสารพัดศัตรู บีทาย่ำรุกไล่ให้เอาไว้ด้านหลัง หาเจ้าฟ้ามหากษัตริย์
เจ้าขุนมูลนาย ให้เอาไว้ด้านข้างขวา เมื่อหาหญิง หานางพญาไว้ข้างซ้าย สารพัดศาสตรามิต้องข้างกายเลย
ดุจฝนเสนห่า ข้าวปลาอาหารเป็นพิษ คางแข็ง เคี้ยวไม่กลืนเลยแล

- ปลิงก็ดี ทากร้ายก็ดี มีในป่ามืด ในน้ำห้วยหนอง คลองบึง มันไม่เก่าะกินเลือดทั้งวัวทั้งควาย ช้างม้า
ก็ดีแล แก้งูพิษ เขี้ยวขนอน แมวเซา เห่าแก้วก็ดีมิต้องกายมาขบกัดเลยแล ฯล







พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top