หมวด หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

พระปิดตา สาริกา หลวงปู่ทิม ปี18

ชื่อร้านค้า	รุ่งเรืองพระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	สมภพ (72)
ชื่อพระเครื่อง	พระปิดตา สาริกา หลวงปู่ทิม ปี18
อายุพระเครื่อง	46 ปี
หมวดพระ	หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	eeii-124@hotmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 09 เม.ย. 2558 - 13:58.27
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พ. - 29 เม.ย. 2558 - 21:30.19

รายละเอียด
พระปิดตา สาริกา สร้างขึ้นเพื่อแจกพร้อมหนังสือ”อภินิหารและพระเครื่อง” แม้แต่ ดร.ทางวิทยาศาสตร์ ยังทึ่งในพุทธคุณ เมื่อปี ๒๕๑๔ ผมคิดทำหนังสือพระเครื่องขึ้นมา เพราะในปี ๒๕๑๔นั้น ในวงการหนังสือยังไม่มีหนังสือพระเครื่องออกวางขาย ผมจึงคิดจะออกหนังสือพระเครื่องขึ้น และได้เริ่มทำหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ออกสู่ตลาด หนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ที่ผมเป็นทั้งเจ้าของและบรรณาธิการได้ออกวางจำหน่ายและได้รับการต้อนรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดี และก็เป็นทางให้ผมได้มาทำพระเครื่องต่างๆให้ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ซึ่งขณะนั้นท่านเป็นเพียงพระประเภทเสือซุ่ม ดังเงียบอยู่แต่ภายในท้องถิ่นเท่านั้น เมื่อออกหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” มาได้หลายฉบับ เลยคิดว่าเมื่อมาพบพระดีและพระเก่งอย่างหลวงปู่ทิมแล้ว ก็ควรจะทำอะไรเป็นของตอบแทนสมนาคุณท่านผู้อ่านที่เสียสละเงินซื้อหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ผมจึงทำ เหรียญหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง ขึ้น แจกคู่หนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” เหตุที่ไม่ทำเป็นเหรียญรูปหลวงปู่ทิม เพราะผมเป็นผู้ขอร้องหลวงปู่ทิม และกรรมการวัดละหารไร่ ว่า ตราบใดที่ยังสร้างศาลาภาวนาภิรัตไม่เสร็จจะไม่ยอมให้ใครสร้างรูปหลวงปู่ทิม ผมจึงไม่สร้างเหรียญรูปหลวงปู่ทิมแจกกับหนังสือ เพราะเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ทำขึ้นเป็นส่วนตัว และเพื่อประโยชน์ในการขายหนังสือ จึงขอสร้างเป็นเหรียญกลมหลวงพ่อสิม ขึ้น นอกจากหลวงพ่อสิม จะอธิษฐานจิตให้ในงานวันเกิดของท่านเมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ แล้วได้นำไปให้หลวงปู่ทิม ปลุกเสกอีกครั้งก่อนจะแจกไปพร้อมหนังสืออภินิหารและพระเครื่อง และเอา โค๊ตตัวนะในเม็ดงา ที่ใช้ตอกพระกริ่งชินบัญชรตอกเหรียญไว้ด้วย เมื่อปี ๒๕๑๘ ก็สร้างเหรียญพระพุทธโสธรแจกอีกครั้ง และเมื่อจะขึ้นปีใหม่ ๒๕๑๙ ผมก็คิดทำพระเครื่องแจกเป็นของขวัญขึ้นอีกครั้ง เพื่อสมนาคุณท่านผู้อ่าน แต่ครั้งนี้จะทำเป็นรูปพระเครื่อง และคิดว่าควรทำเป็นพระปิดตา หรือภควัมบดีองค์เล็กๆ ขนาดพระปิดตาผงดำห้าเหลี่ยมของกรมหลวงชุมพร ซึ่งหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสก และคุณ มานพ คงคาประสิทธิ์ เพื่อนร่วมงานและร่วมทำหนังสือพระเครื่องกับผมก็มีอยู่องค์หนึ่ง ผมจึงให้โรงงานรับทำแบบ โดยถอดแบบจากพระปิดตากรมหลวงชุมพร ครั้งแรกปั๊มออกมาตรงพระนาภี หรือสะดือ จะบุ๋ม เป็นรูกลมเล็กๆ ปั๊มไปได้จำนวนหนึ่งประมาณ ๑,๐๐๐ -๓,๐๐๐ องค์ จึงมาคิดว่าหากจะเปลี่ยนจากรูกลมเป็นตัว นะแอล ภาษาขอมได้ก็จะดี จะได้เป็นเครื่องหมายกันปลอมไปด้วย ช่างก็บอกทำได้จึงถอดพิมพ์ขึ้นใหม่และแกะตัวนะขอม แทนสะดือบุ๋ม พระปิดตานี้สร้างทั้งหมดประมาณ ๒๐,๐๐๐ องค์เป็นเนื้อทองแดง, มีเนื้อเงิน สะดือนะ (เพราะปั๊มทีหลัง) ประมาณไม่เกิน ๒๐๐ องค์ ส่วนเนื้อทองคำไม่มี มีทั้งแบบหนา และ แบบบาง เมื่อปั๊มพระปิดตาพิมพ์นี้เสร็จ ได้นำขึ้นไปขอให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกให้พร้อมพระปิดตาจัมโบ้ ๒๖ องค์ และปิดตาพิมพ์เล็กที่ทำอีก ๑๖ องค์เพื่อให้ครบ ๓๒ องค์ ตามที่หลวงปู่ทิมบอกว่า ถ้าจะสร้างก็สร้างให้ได้ครบ ๓๒ องค์ เท่าอาการ ๓๒ ของมนุษย์ เมื่อเอาพระปิดตาทั้งหมดไปให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกที่วัดละหารไร่ ประมาณต้นเดือน กันยายน ราววันเสาร์ เมื่อไปถึงหลวงปู่ทิมกำลังป่วยและอ่อนเพลีย ต้องนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่วัด ผมหยิบตัวอย่างพระทั้งหมดออกให้ท่านดู หลวงปู่ทิมท่านบอก “เอาได้” ซึ่งเป็นภาษาระยอง หมายถึงใช้ได้ สำหรับพระปิดตาพิมพ์เล็กเนื้อทองแดง ซึ่งมีทั้งแบบหนาและแบบบาง ท่านหยิบขึ้นมาดูและเรียกว่า ปิดตาสาริกา ท่านบอกว่า ถ้าจะขอร้องอะไรกับใครๆ ให้อมไว้ใต้ลิ้น แล้วขออะไรใครก็ได้ เขาจะใจอ่อน และท่านให้เอาพระปิดตาทั้งหมดเข้าไปเก็บไว้ในกุฏิ ทั้งยังสั่งให้ผมนำพระเครื่องของผมทั้งหมดที่ฝากให้ท่านปลุกเสกกลับไปด้วยในวันนั้น ผมบอกจะมาเอาวันหลังก็ได้ ท่านก็ย้ำให้เอากลับไปวันนั้นเลย หลวงปู่ท่านก็ใช้ให้ คุณ สาย แก้วสว่าง ไปยกมาใส่รถผม มีพระแก้วมรกต เป็นพระบูชาขนาดใหญ่และพระพุทธรูปปางนาคปรก ของคุณ วรเทพ อุดมรัตนศิลป์ ซึ่งวันนั้นไม่ได้ไปที่วัดละหารไร่กับผม นอกจากนั้นก็มีหีบใส่พระเครื่องของผมและผงต่างๆ อีกหลายขวด เหมือนหลวงปู่ทิมท่านรู้ล่วงหน้าว่าท่านจะไปแล้ว ผมเอาพระปิดตาสาริกาไปฝากท่านเสกราววันเสาร์ ต่อมาอีก๒-๓วัน ราววันอังคาร คุณ เพียรวิทย์ จารุสถิติ ได้โทรมาบอกผมว่าหลวงปู่ทิมป่วยมาก ได้นำเข้ารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จศรีราชา และให้ผมไปด่วน พระปิดตาสาริกาตลอดจนพระปิดตาจัมโบ้ชุด ๒๖ องค์จึงอยู่ในกุฏิหลวงปู่ทิมเพียง ๒-๓ คืน และในเวลานั้นก็คิดว่าหลวงปู่ทิม คงยังไม่ปลุกเสกให้เพราะท่านกำลังป่วยอยู่ ท่านรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราวเดือนหนึ่ง พอกลับมาถึงวัดละหารไร่ได้เพียงวันสองวัน ท่านก็จากพวกเราไป ( ระหว่างอยู่โรงพยาบาล หลวงปู่ท่านบอกทำให้หมดแล้ว “ กายป่วย ใจไม่ป่วย”) เมื่องานทำบุญ ๑๐๐ วัน ในวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๑๙ ซึ่งจะมีพุทธาภิเษกรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริง, พระผงกลมจันทร์ลอย ผมได้นำเอาพระปิดตาทั้งหมดห่อผ้าขาววางไว้บนมือที่รูปหล่อท่านด้วย เมื่อเพื่อนร่วมงานถามว่าอะไร ผมก็เปิดให้ดูและบอกว่าไม่ทันปลุกเสก เพราะครั้งนั้นยังอายุไม่มากคิดว่า เมื่อหลวงปู่ทิม กำลังป่วยท่านคงไม่ปลุกเสกให้ มารู้ภายหลังว่าหลวงปู่ทิมท่านเจริญพุทธมนต์ทำวัตรทุกวัน ไม่ว่าจะเจ็บหรือป่วย ของที่อยู่ในกุฏิท่านๆก็ปลุกเสกให้แล้ว เหมือนประโยคที่ท่านบอกที่โรงพยาบาลว่า “กายป่วย จิตไม่ป่วย” เมื่อนำพระปิดตาสาริกา มาแจกพร้อมหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ไปได้ไม่กี่วัน คุณ สุรพล วสุธารนันท์ สายส่งหนังสือก็มาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนวานซืนมีการจี้ปล้นกันขึ้นที่หน้าร้านขายหนังสือ ปากตรอกวัดแค สามเสน คนร้ายใช้ปืนจี้ลูกค้าที่มายืนซื้อหนังสือเพราะในตัวลูกค้าใส่ทองหลายเส้น หมวยลูกสาวเจ้าของร้านขจายหนังสือก้ยืนอยู่ในหมู่คนที่ถูกจี้ด้วย และตัวหมวยลูกสาวเจ้าของร้านก็ใส่เพราทองมากกว่าใครๆมีมูลค่าหลายหมื่น และแขวนพระปิดตาสาริกาเลี่ยมทองไว้ที่คอด้วย เป็นพระที่คุณสุรพลให้ไว้โดยที่สาวหมวยก็ยังไม่รู้ว่าเป็นพระของหลวงพ่อองค์ใด แต่ก็เอาเป็นที่พึ่งในยามคับขัน นึกในใจว่าหลวงพ่อช่วยด้วย คนร้ายก็ไม่ได้สนใจหมวยลูกสาวเจ้าของร้าน จึ้เอาแต่ลูกค้าในร้านไปเป็นเงินประมาณ ๓,๘๐๐ บาท เมื่อคุณสุรพล ไปส่งหนังสืออาหมวยจึงถามคุณสุรพลสายส่งว่า “อาแป๊ะ หลวงพ่อที่ลือให้อั๊วชื่ออะไรว่ะ เก่งจัง” เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ๒๐กว่าปีมาแล้ว อีกรายที่เขียนไว้ในหนังสือพลังเหนือโลกที่ผมเป็นบรรณาธิการว่า ดร.อานนท์ อาจารย์ด้านรังสีวิทยาคณะแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี เล่าให้ผู้ช่วยสมุห์บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ร.พ.รามาธิบดี ฟังว่าเพื่อนข้างบ้านมีเด็กเล็กๆซึ่งเพิ่งจะคลานได้ แม่ของเด็กน้อยเทน้ำร้อนจากกาต้มน้ำซึ่งกำลังเดือดใหม่ๆ ใส่ไว้ในอ่างเพื่อเตรียมอาบให้ลูก ขณะที่แม่กำลังจะตักน้ำเย็นมาเติม ลูกก็คลานเตาะแตะลงไปในอ่างน้ำร้อนแล้วร้องลั่น คุณแม่ตกใจแทบสิ้นสติ เพราะรู้ดีว่าน้ำในอ่างร้อนจัด แต่แปลกที่แม่หนูน้อยไม่เป็นอะไรเลย แม้แต่ถลอกหรือพุพองก็ไม่มี เพียงแต่ร้องลั่นอย่างเดียว ในคอหนูน้อยมีเพียง ปิดตาสาริกาของหลวงปู่ทิม อิสริโก อยู่องค์เดียว ดร.อานนท์ซึ่งถูกตามให้ไปช่วยและเป็นผู้เปิดเผยเรื่องนี้เห็นแล้วยังงง!!! เป็นไปได้อย่างไร เหลือเชื่อจริงๆ คุณโป้ง เรืองจิตจรัส ลูกชายคนโตของ คุณ ประเสริฐชัย เรืองจิตจรัส ซึ่งรู้จักกับผมและเคยไปหาหลวงปู่ทิมกับผมตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ เล่าว่า เคยถูกหมาฝรั่งตัวใหญ่กัด แต่ไม่เข้า ถึงกระนั้นก็จับไข้ไปถึง ๒ วัน ในคอมีเพียงพระปิดตาสาริกาองค์เดียว ผู้พิสมัยและเชื่อมั่นในการตรวจพุทธคุณหรือตรวจพลังจิต เอาไปให้เพื่อนตรวจด้วยมโนมยิทธิ ปรากฏว่าแรงมาก แรงเท่าพระปิดตาจัมโบ้ของหลวงปู่ทิม ที่เช่าบูชามาในราคาเกือบแสนบาท และใช้ห้อยคออยู่ เรื่องในทำนองนี้ยังมีอีกมาก อันเป็นเครื่องยืนยันถึงพุทธคุณในพระองค์จิ๋ว แต่แจ๋ว เช่น ปิดตาสาริกา ของหลวงปู่ทิม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไหน แบบหนา หรือแบบบาง ก็ล้วนมีอานุภาพไม่ต่างกันเพราะเสกพร้อมกันหมด ขนาด 6X8 มม.พระองค์นี้สภาพสวยเก็บเก่า น่าสะสมมากครับ

รายละเอียด

พระปิดตา สาริกา

สร้างขึ้นเพื่อแจกพร้อมหนังสือ”อภินิหารและพระเครื่อง” แม้แต่ ดร.ทางวิทยาศาสตร์ ยังทึ่งในพุทธคุณ

เมื่อปี ๒๕๑๔ ผมคิดทำหนังสือพระเครื่องขึ้นมา เพราะในปี ๒๕๑๔นั้น ในวงการหนังสือยังไม่มีหนังสือพระเครื่องออกวางขาย ผมจึงคิดจะออกหนังสือพระเครื่องขึ้น และได้เริ่มทำหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ออกสู่ตลาด

หนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ที่ผมเป็นทั้งเจ้าของและบรรณาธิการได้ออกวางจำหน่ายและได้รับการต้อนรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดี และก็เป็นทางให้ผมได้มาทำพระเครื่องต่างๆให้ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ซึ่งขณะนั้นท่านเป็นเพียงพระประเภทเสือซุ่ม ดังเงียบอยู่แต่ภายในท้องถิ่นเท่านั้น

เมื่อออกหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” มาได้หลายฉบับ เลยคิดว่าเมื่อมาพบพระดีและพระเก่งอย่างหลวงปู่ทิมแล้ว ก็ควรจะทำอะไรเป็นของตอบแทนสมนาคุณท่านผู้อ่านที่เสียสละเงินซื้อหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ผมจึงทำ เหรียญหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง ขึ้น แจกคู่หนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” เหตุที่ไม่ทำเป็นเหรียญรูปหลวงปู่ทิม เพราะผมเป็นผู้ขอร้องหลวงปู่ทิม และกรรมการวัดละหารไร่ ว่า ตราบใดที่ยังสร้างศาลาภาวนาภิรัตไม่เสร็จจะไม่ยอมให้ใครสร้างรูปหลวงปู่ทิม ผมจึงไม่สร้างเหรียญรูปหลวงปู่ทิมแจกกับหนังสือ เพราะเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ทำขึ้นเป็นส่วนตัว และเพื่อประโยชน์ในการขายหนังสือ จึงขอสร้างเป็นเหรียญกลมหลวงพ่อสิม ขึ้น นอกจากหลวงพ่อสิม จะอธิษฐานจิตให้ในงานวันเกิดของท่านเมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ แล้วได้นำไปให้หลวงปู่ทิม ปลุกเสกอีกครั้งก่อนจะแจกไปพร้อมหนังสืออภินิหารและพระเครื่อง และเอา โค๊ตตัวนะในเม็ดงา ที่ใช้ตอกพระกริ่งชินบัญชรตอกเหรียญไว้ด้วย

เมื่อปี ๒๕๑๘ ก็สร้างเหรียญพระพุทธโสธรแจกอีกครั้ง และเมื่อจะขึ้นปีใหม่ ๒๕๑๙ ผมก็คิดทำพระเครื่องแจกเป็นของขวัญขึ้นอีกครั้ง เพื่อสมนาคุณท่านผู้อ่าน แต่ครั้งนี้จะทำเป็นรูปพระเครื่อง และคิดว่าควรทำเป็นพระปิดตา หรือภควัมบดีองค์เล็กๆ ขนาดพระปิดตาผงดำห้าเหลี่ยมของกรมหลวงชุมพร ซึ่งหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสก และคุณ มานพ คงคาประสิทธิ์ เพื่อนร่วมงานและร่วมทำหนังสือพระเครื่องกับผมก็มีอยู่องค์หนึ่ง ผมจึงให้โรงงานรับทำแบบ โดยถอดแบบจากพระปิดตากรมหลวงชุมพร

ครั้งแรกปั๊มออกมาตรงพระนาภี หรือสะดือ จะบุ๋ม เป็นรูกลมเล็กๆ ปั๊มไปได้จำนวนหนึ่งประมาณ ๑,๐๐๐ -๓,๐๐๐ องค์ จึงมาคิดว่าหากจะเปลี่ยนจากรูกลมเป็นตัว นะแอล ภาษาขอมได้ก็จะดี จะได้เป็นเครื่องหมายกันปลอมไปด้วย ช่างก็บอกทำได้จึงถอดพิมพ์ขึ้นใหม่และแกะตัวนะขอม แทนสะดือบุ๋ม พระปิดตานี้สร้างทั้งหมดประมาณ ๒๐,๐๐๐ องค์เป็นเนื้อทองแดง, มีเนื้อเงิน สะดือนะ (เพราะปั๊มทีหลัง) ประมาณไม่เกิน ๒๐๐ องค์ ส่วนเนื้อทองคำไม่มี มีทั้งแบบหนา และ แบบบาง

เมื่อปั๊มพระปิดตาพิมพ์นี้เสร็จ ได้นำขึ้นไปขอให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกให้พร้อมพระปิดตาจัมโบ้ ๒๖ องค์ และปิดตาพิมพ์เล็กที่ทำอีก ๑๖ องค์เพื่อให้ครบ ๓๒ องค์ ตามที่หลวงปู่ทิมบอกว่า ถ้าจะสร้างก็สร้างให้ได้ครบ ๓๒ องค์ เท่าอาการ ๓๒ ของมนุษย์ เมื่อเอาพระปิดตาทั้งหมดไปให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกที่วัดละหารไร่ ประมาณต้นเดือน กันยายน ราววันเสาร์ เมื่อไปถึงหลวงปู่ทิมกำลังป่วยและอ่อนเพลีย ต้องนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่วัด ผมหยิบตัวอย่างพระทั้งหมดออกให้ท่านดู หลวงปู่ทิมท่านบอก “เอาได้” ซึ่งเป็นภาษาระยอง หมายถึงใช้ได้ สำหรับพระปิดตาพิมพ์เล็กเนื้อทองแดง ซึ่งมีทั้งแบบหนาและแบบบาง ท่านหยิบขึ้นมาดูและเรียกว่า ปิดตาสาริกา ท่านบอกว่า ถ้าจะขอร้องอะไรกับใครๆ ให้อมไว้ใต้ลิ้น แล้วขออะไรใครก็ได้ เขาจะใจอ่อน และท่านให้เอาพระปิดตาทั้งหมดเข้าไปเก็บไว้ในกุฏิ ทั้งยังสั่งให้ผมนำพระเครื่องของผมทั้งหมดที่ฝากให้ท่านปลุกเสกกลับไปด้วยในวันนั้น ผมบอกจะมาเอาวันหลังก็ได้ ท่านก็ย้ำให้เอากลับไปวันนั้นเลย หลวงปู่ท่านก็ใช้ให้ คุณ สาย แก้วสว่าง ไปยกมาใส่รถผม มีพระแก้วมรกต เป็นพระบูชาขนาดใหญ่และพระพุทธรูปปางนาคปรก ของคุณ วรเทพ อุดมรัตนศิลป์ ซึ่งวันนั้นไม่ได้ไปที่วัดละหารไร่กับผม นอกจากนั้นก็มีหีบใส่พระเครื่องของผมและผงต่างๆ อีกหลายขวด เหมือนหลวงปู่ทิมท่านรู้ล่วงหน้าว่าท่านจะไปแล้ว ผมเอาพระปิดตาสาริกาไปฝากท่านเสกราววันเสาร์ ต่อมาอีก๒-๓วัน ราววันอังคาร คุณ เพียรวิทย์ จารุสถิติ ได้โทรมาบอกผมว่าหลวงปู่ทิมป่วยมาก ได้นำเข้ารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จศรีราชา และให้ผมไปด่วน

พระปิดตาสาริกาตลอดจนพระปิดตาจัมโบ้ชุด ๒๖ องค์จึงอยู่ในกุฏิหลวงปู่ทิมเพียง ๒-๓ คืน และในเวลานั้นก็คิดว่าหลวงปู่ทิม คงยังไม่ปลุกเสกให้เพราะท่านกำลังป่วยอยู่ ท่านรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราวเดือนหนึ่ง พอกลับมาถึงวัดละหารไร่ได้เพียงวันสองวัน ท่านก็จากพวกเราไป ( ระหว่างอยู่โรงพยาบาล หลวงปู่ท่านบอกทำให้หมดแล้ว “ กายป่วย ใจไม่ป่วย”)

เมื่องานทำบุญ ๑๐๐ วัน ในวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๑๙ ซึ่งจะมีพุทธาภิเษกรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริง, พระผงกลมจันทร์ลอย ผมได้นำเอาพระปิดตาทั้งหมดห่อผ้าขาววางไว้บนมือที่รูปหล่อท่านด้วย เมื่อเพื่อนร่วมงานถามว่าอะไร ผมก็เปิดให้ดูและบอกว่าไม่ทันปลุกเสก เพราะครั้งนั้นยังอายุไม่มากคิดว่า เมื่อหลวงปู่ทิม กำลังป่วยท่านคงไม่ปลุกเสกให้ มารู้ภายหลังว่าหลวงปู่ทิมท่านเจริญพุทธมนต์ทำวัตรทุกวัน ไม่ว่าจะเจ็บหรือป่วย ของที่อยู่ในกุฏิท่านๆก็ปลุกเสกให้แล้ว เหมือนประโยคที่ท่านบอกที่โรงพยาบาลว่า “กายป่วย จิตไม่ป่วย”

เมื่อนำพระปิดตาสาริกา มาแจกพร้อมหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ไปได้ไม่กี่วัน คุณ สุรพล วสุธารนันท์ สายส่งหนังสือก็มาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนวานซืนมีการจี้ปล้นกันขึ้นที่หน้าร้านขายหนังสือ ปากตรอกวัดแค สามเสน คนร้ายใช้ปืนจี้ลูกค้าที่มายืนซื้อหนังสือเพราะในตัวลูกค้าใส่ทองหลายเส้น หมวยลูกสาวเจ้าของร้านขจายหนังสือก้ยืนอยู่ในหมู่คนที่ถูกจี้ด้วย และตัวหมวยลูกสาวเจ้าของร้านก็ใส่เพราทองมากกว่าใครๆมีมูลค่าหลายหมื่น และแขวนพระปิดตาสาริกาเลี่ยมทองไว้ที่คอด้วย เป็นพระที่คุณสุรพลให้ไว้โดยที่สาวหมวยก็ยังไม่รู้ว่าเป็นพระของหลวงพ่อองค์ใด แต่ก็เอาเป็นที่พึ่งในยามคับขัน นึกในใจว่าหลวงพ่อช่วยด้วย คนร้ายก็ไม่ได้สนใจหมวยลูกสาวเจ้าของร้าน จึ้เอาแต่ลูกค้าในร้านไปเป็นเงินประมาณ ๓,๘๐๐ บาท เมื่อคุณสุรพล ไปส่งหนังสืออาหมวยจึงถามคุณสุรพลสายส่งว่า “อาแป๊ะ หลวงพ่อที่ลือให้อั๊วชื่ออะไรว่ะ เก่งจัง” เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ๒๐กว่าปีมาแล้ว

อีกรายที่เขียนไว้ในหนังสือพลังเหนือโลกที่ผมเป็นบรรณาธิการว่า ดร.อานนท์ อาจารย์ด้านรังสีวิทยาคณะแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี เล่าให้ผู้ช่วยสมุห์บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ร.พ.รามาธิบดี ฟังว่าเพื่อนข้างบ้านมีเด็กเล็กๆซึ่งเพิ่งจะคลานได้ แม่ของเด็กน้อยเทน้ำร้อนจากกาต้มน้ำซึ่งกำลังเดือดใหม่ๆ ใส่ไว้ในอ่างเพื่อเตรียมอาบให้ลูก ขณะที่แม่กำลังจะตักน้ำเย็นมาเติม ลูกก็คลานเตาะแตะลงไปในอ่างน้ำร้อนแล้วร้องลั่น คุณแม่ตกใจแทบสิ้นสติ เพราะรู้ดีว่าน้ำในอ่างร้อนจัด แต่แปลกที่แม่หนูน้อยไม่เป็นอะไรเลย แม้แต่ถลอกหรือพุพองก็ไม่มี เพียงแต่ร้องลั่นอย่างเดียว ในคอหนูน้อยมีเพียง ปิดตาสาริกาของหลวงปู่ทิม อิสริโก อยู่องค์เดียว ดร.อานนท์ซึ่งถูกตามให้ไปช่วยและเป็นผู้เปิดเผยเรื่องนี้เห็นแล้วยังงง!!! เป็นไปได้อย่างไร เหลือเชื่อจริงๆ

คุณโป้ง เรืองจิตจรัส ลูกชายคนโตของ คุณ ประเสริฐชัย เรืองจิตจรัส ซึ่งรู้จักกับผมและเคยไปหาหลวงปู่ทิมกับผมตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ เล่าว่า เคยถูกหมาฝรั่งตัวใหญ่กัด แต่ไม่เข้า ถึงกระนั้นก็จับไข้ไปถึง ๒ วัน ในคอมีเพียงพระปิดตาสาริกาองค์เดียว

ผู้พิสมัยและเชื่อมั่นในการตรวจพุทธคุณหรือตรวจพลังจิต เอาไปให้เพื่อนตรวจด้วยมโนมยิทธิ ปรากฏว่าแรงมาก แรงเท่าพระปิดตาจัมโบ้ของหลวงปู่ทิม ที่เช่าบูชามาในราคาเกือบแสนบาท และใช้ห้อยคออยู่

เรื่องในทำนองนี้ยังมีอีกมาก อันเป็นเครื่องยืนยันถึงพุทธคุณในพระองค์จิ๋ว แต่แจ๋ว เช่น ปิดตาสาริกา ของหลวงปู่ทิม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไหน แบบหนา หรือแบบบาง ก็ล้วนมีอานุภาพไม่ต่างกันเพราะเสกพร้อมกันหมด ขนาด 6X8 มม.พระองค์นี้สภาพสวยเก็บเก่า น่าสะสมมากครับ

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments