สร้อยประคำ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี-พ่อพัตเตอร์ - webpra
ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ฯ และบารมีของหลวงพ่อได้ปกปักรักษาชาวไทยให้มีแต่ความปลอดภัยด้วยเทอญ 087-9995555

หมวด เครื่องรางของขลัง

สร้อยประคำ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี

สร้อยประคำ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี - 1สร้อยประคำ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี - 2
ชื่อร้านค้า พ่อพัตเตอร์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง สร้อยประคำ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ เครื่องรางของขลัง
ราคาเช่า 850 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 087-9995555, 087-0510636
อีเมล์ติดต่อ itsaredh@yahoo.com
สถานะ พร้อมเช่า
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ จ. - 04 ก.พ. 2556 - 09:11.47
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ศ. - 06 ก.ค. 2561 - 17:11.19
รายละเอียด
พระทุกองค์ที่ลงประมูลสามารถบูชาได้ครับ แจ้งมาได้เลยครับผม

สร้อยประคำ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี สวย น่าบูชา

ประวัติ
หลวงพ่ออุตตมะ หรือ พระครูอุดมสิทธาจารย์ สมณศักดิ์ล่าสุดคือ พระราชอุดมมงคล พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดวังก์วิเวการาม ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพระภิกษุที่ได้ความเคารพเลื่อมใสในหมู่คนไทยเชื้อสายมอญและชาวพุทธทั่ว ไป เป็นพระนักเดินธุดงคกรรมฐาน ออกเดินธุดงค์ไปบำเพ็ญธรรมอยู่บนเขา หลายครั้งเป็นเวลานาน

หลวงพ่ออุตตมะ เดิมชื่อ เอหม่อง เกิดเมื่อ พ.ศ. 2453 ที่หมู่บ้านโมกกะเนียง ตำบลเกลาสะ อำเภอเย จังหวัดมะละแหม่ง ประเทศพม่า เป็นบุตรคนโตในครอบครัวเชื้อสายมอญ จำนวน 12 คน ของนายโง และนางทองสุก หลังเรียนหนังสือจบจากพม่าเมื่ออายุ 18 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเกลาสะ ได้ศึกษาภาษาบาลี และพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมโท อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเกลาสะ ได้รับฉายาว่า อุตตมรัมโภ แปลว่า ผู้มีความพากเพียรอันสูงสุด โดยได้ตั้งเจตจำนงที่จะบวชไม่สึกจนตลอดชีวิต

เมื่อ พ.ศ. 2475 อุตตมรัมโภภิกขุสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดปราสาททอง อำเภอเย จังหวัดมะละแหม่ง ต่อมา พ.ศ. 2484 สอบได้เปรียญธรรม 8 ประโยค ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ในประเทศพม่า ที่สำนักเรียนวัดสุขการี อำเภอสะเทิม จังหวัดสะเทิม อุตตมรัมโภภิกขุจึงได้เดินทางไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานที่วัดตองจอย และวัดป่าเลไลยก์ จนมีความรู้ความสามารถในเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนวิชาไสยศาสตร์และพุทธคมเป็นอย่างดี และชอบออกเดินธุดงค์ไปตามที่ต่างๆในประเทศพม่า

อุตตมรัมโภภิกขุเข้า มาในประเทศไทยครั้งแรกทางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2486 โดยเดินธุดงค์มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสวนดอก ก่อนจะออกธุดงค์ไป แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย น่าน กาญจนบุรี

เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศพม่า ขณะนั้น อุตตมรัมโภภิกขุจึงเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งทางหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดเกาะ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี มีคนมาแจ้งข่าวว่าที่สังขละบุรีมีชาวมอญจากบ้านเดิมของท่าน อพยพเข้าเมืองไทย และต้องการนิมนต์ท่านไปเยี่ยม ท่านได้พบกับชาวมอญที่อพยพมาจากโมกกะเนียง เจ้าคะเล และมะละแหม่ง และพาชาวมอญเหล่านี้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านวังกะล่าง ถือเป็นจุดกำเนิดของชุมชนชาวมอญในสังขละบุรี

ในปี พ.ศ. 2499 หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้พร้อมใจกันสร้างศาลาวัดขึ้น มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ เพราะมีแม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ในปี พ.ศ. 2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอวังกะ ในวัดมีการก่อสร้างเจดีย์จำลองแบบจาก เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย เริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2518 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2529

ต่อมาทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำในปี พ.ศ. 2527 น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งหมู่บ้านชาวมอญ ทางวัดจึงได้ย้ายมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน โดยทางราชการได้ช่วยเหลือในการอพยพผู้คนซึ่งมีอยู่ราว 1,000 หลังคาเรือน บนพื้นที่ 1,000 ไร่เศษ ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ปัจจุบันจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เป็นที่รู้จักในชื่อว่า วัดใต้น้ำ สังขละบุรี

หลวงพ่ออุตตมะ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูอุดมสิทธาจารย์ เมื่อ พ.ศ. 2512 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่พระอุดมสังวรเถร เมื่อ พ.ศ. 2524 และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชอุดมมงคลพหลนราทร เมื่อ พ.ศ. 2534

หลวงพ่ออุตตมะ เข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ด้วยโรคไต โรคหัวใจ โรคปอด สมองขาดเลือดไปเลี้ยง ท่านไม่รู้สึกตัวและไม่สามารถลืมตาเองได้เป็นเวลากว่า 1 ปี จนกระทั่งเกิดอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง และมรณภาพจากการติดเชื้อในกระแสโลหิตจากภาวะปอดอักเสบ เมื่อเวลา 7.22 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2549 อายุรวม 97 ปี

*อย่าลืมคลิ๊กรูปบ้าน (หน้าร้าน) ที่มุมบนซ้ายของจอเพื่อดูพระองค์อื่น ที่ท่านอาจจะหาอยู่นะครับ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top