หมวด พระเกจิภาคอีสานเหนือ

ประวัติ หลวงปู่ หลุย จนฺทสาโร

ชื่อร้านค้า	ณัฐธนัน พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	3dvintage (9)
ชื่อพระเครื่อง	ประวัติ หลวงปู่ หลุย จนฺทสาโร
อายุพระเครื่อง	70 ปี
หมวดพระ	พระเกจิภาคอีสานเหนือ
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	tomato_1800@hotmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พ. - 12 ส.ค. 2552 - 02:27.30
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พ. - 12 ส.ค. 2552 - 02:27.30

รายละเอียด
หลวงปู่ หลุย จนฺทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง บ้านนาแก ตำบลผาบิ้ง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย หลวงปู่ หลุย จนฺทสาโร เดิมโยมบิดามารดาตั้งชื่อว่า “วอ” ภายหลังเข้าโรงเรียน ท่านมีนิสัยช่างชักช่างถาม เหมือน “ครูบา” จึงถูกเรียกว่า “บา” ในช่วงวัยหนุ่ม ท่านนับถือศาสนาคริสต์ ลุงของท่านจึงเรียกชื่อว่า “เซนต์หลุย” ท่านจึงมีชื่อใหม่ เรียกว่า “หลุย” ตั้งแต่นั้นมา เมื่ออายุ 7 ขวบ บิดาได้ถึงแก่กรรมท่านเกิดความสังเวช จึงมักปลีกตัวไปดูสายน้ำแม่น้ำเลยหลังบ้าน แล้วเปรียบเทียบชีวิตมนุษย์ดุจกระแสน้ำ ไปแล้วไม่ไหลคืน นับเป็นการเริ่มต้นความคิดทางธรรม ได้ภาวนาโดยอาศัยน้ำเป็นอารมณ์ กระทั่งอายุ 9 ขวบ จิตตกภวังค์เกิดนิมิตมีแสงสว่างสีสันคล้ายรุ่ง และในใจก็รู้สึกว่าต่อไปจะต้องบวชและบวชเป็นพระกัมมัฏฐาน ทั้งที่ขณะนั้นยังเด็กไม่รู้จึง กัมมัฏฐานมาก่อน ได้เข้าโบสต์นับถือศาสนาคริสต์เพราะชอบสวดมนต์ ท่านจึงได้รับการฝึกหัดให้รู้จักการเสิร์ฟอาหาร การคลุกคลีอยู่กับการจัดอาหารเลี้ยงบ่อย ๆ นี้ ทำให้ท่านได้เห็นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมากมาย บังเกิดความสังเวชสลดใจ จึงออกจากศาสนาคริสต์ ท่านนับถือศาสนาคริสต์อยู่ 5 ปี หลวงปู่ หลุย จนฺทสาโร เป็นบุตรของนาย คำผ่อย วรบุตร (ลูกชายเจ้าเมืองแก่นท้าว แขวงไชยบุรีประเทศลาว) และ นางกวย วรบุตร (เจ้าแม่นางกวย ธิดาของผู้มีฐานะเขตเมืองเลย) หลวงปู่ หลุย เกิดวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444 ตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 3 ปีฉลู ณ. ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย หลวงปู่ หลุย จนฺสาโร อุปสมบทครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2466 ณ. อำเภอแซงบาดาล จังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างพรรษาแรกท่ะวัชบุรี หลวงปู่หลุย ได้พยายามศึกษาพระธรรมวินัยทั้งปริยัติธรรมและปฎิบัติธรรม เมื่อออกพรรษาแล้วหลวงปู่ หลุย ก็ลาอาจารย์เพื่อกลับไป เตรียมคัดเลือกเกณฑ์ทหารที่จังหวัดเลยอันเป็นภูมิลำเนาเดิม หลวงปู่ หลุย ท่านออกเดินทางไป จังหวัดนครพนม เพราะคิดว่าก่อนจะกลับบ้านก็ควรหาโอกาสไปนมัสการ องค์พระธาตุอันศักดิ์สิทธ์ที่เคารพอันสูงสุดของชาวอีสาน และ ชาวไทยทั้งประเทศ เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อน เมื่อหลวงปู่หลุย ท่านไปถึง พระธาตุพนม ได้ถวายการภาวนาเป็นพุทธบูชา ไม่นอนตลอดคืน บังเกิดความอัศจรรย์ในจิตรู้สึกดื่มด่ำในการภาวนา แล้วตั้งจิตสัจจะอธิฐานว่า “กลับไปจังหวัดเลยครั้งนี้ หากไม่ได้รับการเกณฑ์เป็นทหารจะบวชกัมมัฏฐาน ตลอดชีวิตหลวงปู่หลุยท่านพักภาวนา ณ. พระธาตุพนมพอสมควร ท่านก็ออกเดินทางเตรียมกลับ จังหวัดเลย ผ่านอำเภอนาแก จังหวัดสกลนคร อำเภอพรรณานิคม วาริชภุมิ สว่างแดนดิน หนองหาน จังหวัดอุดรธานี ปากดง และมาถึงอำเภอหนองวัวซอ ได้กิตติศัพท์ว่ามีพระอาจารย์ที่มีชื่อทางธุดงค์ กัมมักฐานรูปหนึ่งได้พาชาวบ้าน อพยพมาจากจังหวัดอุบลราชธานี มาตั้งบ้านเรือนและสร้างวัดอยู่ที่หนองวัวซอ มีผู้คนพากันไปฟังธรรมกันอย่างล้นหลามจากท่าน หลวงปู่ หลุย ได้ยินคำว่า “กัมมัฏฐาน” ก็สนใจ ทำให้หลวงปู่ หลุยอยู่ต่อมา กับ พระธุดงค์กัมมัฏฐานรูปนั้นไปอีกหลายเดือน จนถึงเดือน เมษายน ใกล้วันจะเกณฑ์ทหาร จึงลาจากท่านไปจังหวัดเลย (พระธุดงค์กัมมัฏฐานมีนามว่า “พระอาจารย์ บุญ ปญญาวุโธ”) หลลวงปู่ หลุย ภายหลังได้พึ่งพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์บุญ ปญญาวุโธ เกิดความเลื่อมใส จึงขอถวายตัวเป็นศิษย์ และท่านพระอาจารย์บุญ ปญฺญาวโธ ได้แนะนำว่าหากไม่ได้รับการเกณฑ์ทหารแล้วให้ข้อญัตติเป็นพระธรรมยุตเสียที่ จังหวัดเลย หลวงปู่ หลุย จึงไปขอญัตติจตุตถกรรมใหม่ เป็นพระธรรมยุตที่วัดศรีสะอาด อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยมีท่านพระครูอดิสัยคุณาธาร (หลวงปู่ คำ อรโก) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ หลุย ท่านได้อยู่กับพระอุปัชฌาย์พอสมควร แล้วก็ได้เดินทางจากจังหวัด เลย กลับมาอยู่กับท่านพระอาจารย์ บุญ ที่อำเภอหนองวัวซอ และได้ติดตามท่านพระอาจารย์ บุญไปยังวัดพระบาทบัวบก ณ. ที่นี้เองที่ หลวงปู่ หลุย ได้พบกับ ท่านพระอาจารย์ เสาร์ กนฺตสีโล และได้อยู่ปฏิบัติรับฟังโอวาท จากท่านพระอาจารย์ เสาร์ กนฺสีโล โดยมีท่านพระอาจารย์ บุญ เป็นพระพี่ เลี้ยงผู้ชี้แนะในข้อที่ท่านไม่เข้าใจอีกขั้นหนึ่งด้วย และท่านพระอาจารย์ บุญ ปญฺญาวุโธ ได้พาหมู่คณะศิษย์พร้อมด้วยหลวงปู่ หลุย ไปกราบนมัสการ ถวายตัวเป็นศิษย์ ท่านพระอาจารย์ มั่น ภูริทตฺตเถระ ที่ท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย คฌะท่านพระอาจารย์ มั่น จนกระทั่งจวนจะเข้าพรรษา จึงได้พากันย้อนกลับมาจำพรรษาที่วัดพระบาทบัวบก ในพรรษานี้ การภาวนาของหลวงปู่ หลุย ก็ยังมีอุปสรรคเกิดขึ้น คือเมื่อภาวนาจิตรวมลงแล้ว เกิดอาการสะดุ้ง จิตถอนขึ้นมาเอง โดยไม่กำหนด บางครั้งก็ไม่มีการเป็นไป เกิดการขัดข้องอยู่ในจิตเสมอ

รายละเอียด

หลวงปู่ หลุย จนฺทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง บ้านนาแก ตำบลผาบิ้ง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
หลวงปู่ หลุย จนฺทสาโร เดิมโยมบิดามารดาตั้งชื่อว่า “วอ” ภายหลังเข้าโรงเรียน ท่านมีนิสัยช่างชักช่างถาม เหมือน “ครูบา” จึงถูกเรียกว่า “บา” ในช่วงวัยหนุ่ม ท่านนับถือศาสนาคริสต์ ลุงของท่านจึงเรียกชื่อว่า “เซนต์หลุย”

ท่านจึงมีชื่อใหม่ เรียกว่า “หลุย” ตั้งแต่นั้นมา เมื่ออายุ 7 ขวบ บิดาได้ถึงแก่กรรมท่านเกิดความสังเวช จึงมักปลีกตัวไปดูสายน้ำแม่น้ำเลยหลังบ้าน แล้วเปรียบเทียบชีวิตมนุษย์ดุจกระแสน้ำ ไปแล้วไม่ไหลคืน นับเป็นการเริ่มต้นความคิดทางธรรม ได้ภาวนาโดยอาศัยน้ำเป็นอารมณ์ กระทั่งอายุ 9 ขวบ จิตตกภวังค์เกิดนิมิตมีแสงสว่างสีสันคล้ายรุ่ง และในใจก็รู้สึกว่าต่อไปจะต้องบวชและบวชเป็นพระกัมมัฏฐาน ทั้งที่ขณะนั้นยังเด็กไม่รู้จึง กัมมัฏฐานมาก่อน

ได้เข้าโบสต์นับถือศาสนาคริสต์เพราะชอบสวดมนต์ ท่านจึงได้รับการฝึกหัดให้รู้จักการเสิร์ฟอาหาร การคลุกคลีอยู่กับการจัดอาหารเลี้ยงบ่อย ๆ นี้ ทำให้ท่านได้เห็นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมากมาย บังเกิดความสังเวชสลดใจ จึงออกจากศาสนาคริสต์ ท่านนับถือศาสนาคริสต์อยู่ 5 ปี หลวงปู่ หลุย จนฺทสาโร เป็นบุตรของนาย คำผ่อย วรบุตร (ลูกชายเจ้าเมืองแก่นท้าว แขวงไชยบุรีประเทศลาว) และ นางกวย วรบุตร (เจ้าแม่นางกวย ธิดาของผู้มีฐานะเขตเมืองเลย) หลวงปู่ หลุย เกิดวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444 ตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 3 ปีฉลู ณ. ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย หลวงปู่ หลุย จนฺสาโร อุปสมบทครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2466 ณ. อำเภอแซงบาดาล จังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างพรรษาแรกท่ะวัชบุรี หลวงปู่หลุย ได้พยายามศึกษาพระธรรมวินัยทั้งปริยัติธรรมและปฎิบัติธรรม เมื่อออกพรรษาแล้วหลวงปู่ หลุย ก็ลาอาจารย์เพื่อกลับไป เตรียมคัดเลือกเกณฑ์ทหารที่จังหวัดเลยอันเป็นภูมิลำเนาเดิม หลวงปู่ หลุย ท่านออกเดินทางไป จังหวัดนครพนม เพราะคิดว่าก่อนจะกลับบ้านก็ควรหาโอกาสไปนมัสการ องค์พระธาตุอันศักดิ์สิทธ์ที่เคารพอันสูงสุดของชาวอีสาน และ ชาวไทยทั้งประเทศ เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อน เมื่อหลวงปู่หลุย ท่านไปถึง พระธาตุพนม ได้ถวายการภาวนาเป็นพุทธบูชา ไม่นอนตลอดคืน บังเกิดความอัศจรรย์ในจิตรู้สึกดื่มด่ำในการภาวนา แล้วตั้งจิตสัจจะอธิฐานว่า “กลับไปจังหวัดเลยครั้งนี้ หากไม่ได้รับการเกณฑ์เป็นทหารจะบวชกัมมัฏฐาน ตลอดชีวิตหลวงปู่หลุยท่านพักภาวนา ณ. พระธาตุพนมพอสมควร ท่านก็ออกเดินทางเตรียมกลับ จังหวัดเลย ผ่านอำเภอนาแก จังหวัดสกลนคร อำเภอพรรณานิคม วาริชภุมิ สว่างแดนดิน หนองหาน จังหวัดอุดรธานี ปากดง และมาถึงอำเภอหนองวัวซอ ได้กิตติศัพท์ว่ามีพระอาจารย์ที่มีชื่อทางธุดงค์ กัมมักฐานรูปหนึ่งได้พาชาวบ้าน อพยพมาจากจังหวัดอุบลราชธานี มาตั้งบ้านเรือนและสร้างวัดอยู่ที่หนองวัวซอ มีผู้คนพากันไปฟังธรรมกันอย่างล้นหลามจากท่าน

หลวงปู่ หลุย ได้ยินคำว่า “กัมมัฏฐาน” ก็สนใจ ทำให้หลวงปู่ หลุยอยู่ต่อมา กับ พระธุดงค์กัมมัฏฐานรูปนั้นไปอีกหลายเดือน จนถึงเดือน เมษายน ใกล้วันจะเกณฑ์ทหาร จึงลาจากท่านไปจังหวัดเลย (พระธุดงค์กัมมัฏฐานมีนามว่า

“พระอาจารย์ บุญ ปญญาวุโธ”) หลลวงปู่ หลุย ภายหลังได้พึ่งพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์บุญ ปญญาวุโธ เกิดความเลื่อมใส จึงขอถวายตัวเป็นศิษย์ และท่านพระอาจารย์บุญ ปญฺญาวโธ ได้แนะนำว่าหากไม่ได้รับการเกณฑ์ทหารแล้วให้ข้อญัตติเป็นพระธรรมยุตเสียที่ จังหวัดเลย หลวงปู่ หลุย จึงไปขอญัตติจตุตถกรรมใหม่ เป็นพระธรรมยุตที่วัดศรีสะอาด อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยมีท่านพระครูอดิสัยคุณาธาร (หลวงปู่ คำ อรโก) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ หลุย ท่านได้อยู่กับพระอุปัชฌาย์พอสมควร แล้วก็ได้เดินทางจากจังหวัด เลย กลับมาอยู่กับท่านพระอาจารย์ บุญ ที่อำเภอหนองวัวซอ และได้ติดตามท่านพระอาจารย์ บุญไปยังวัดพระบาทบัวบก ณ. ที่นี้เองที่ หลวงปู่ หลุย ได้พบกับ ท่านพระอาจารย์ เสาร์ กนฺตสีโล และได้อยู่ปฏิบัติรับฟังโอวาท จากท่านพระอาจารย์ เสาร์ กนฺสีโล โดยมีท่านพระอาจารย์ บุญ เป็นพระพี่ เลี้ยงผู้ชี้แนะในข้อที่ท่านไม่เข้าใจอีกขั้นหนึ่งด้วย และท่านพระอาจารย์ บุญ ปญฺญาวุโธ ได้พาหมู่คณะศิษย์พร้อมด้วยหลวงปู่ หลุย ไปกราบนมัสการ ถวายตัวเป็นศิษย์ ท่านพระอาจารย์ มั่น ภูริทตฺตเถระ ที่ท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย คฌะท่านพระอาจารย์ มั่น จนกระทั่งจวนจะเข้าพรรษา จึงได้พากันย้อนกลับมาจำพรรษาที่วัดพระบาทบัวบก ในพรรษานี้ การภาวนาของหลวงปู่ หลุย ก็ยังมีอุปสรรคเกิดขึ้น คือเมื่อภาวนาจิตรวมลงแล้ว เกิดอาการสะดุ้ง จิตถอนขึ้นมาเอง โดยไม่กำหนด บางครั้งก็ไม่มีการเป็นไป เกิดการขัดข้องอยู่ในจิตเสมอ