พระผงรูปเหมือนกลับบัวฝังแผ่นตะกรุด พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จ.นครสวรรค์(ท่านมรณภาพแล้วสังข-ศิลป์เจริญพร - webpra
VIP
"ร้านนี้พระเครื่องยุคเก่า สร้างโดยพระสุปฏิปันโน เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ ที่นับถือบูชาได้อย่างสนิทใจ"

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525

พระผงรูปเหมือนกลับบัวฝังแผ่นตะกรุด พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จ.นครสวรรค์(ท่านมรณภาพแล้วสังข

พระผงรูปเหมือนกลับบัวฝังแผ่นตะกรุด  พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จ.นครสวรรค์(ท่านมรณภาพแล้วสังข - 1พระผงรูปเหมือนกลับบัวฝังแผ่นตะกรุด  พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จ.นครสวรรค์(ท่านมรณภาพแล้วสังข - 2พระผงรูปเหมือนกลับบัวฝังแผ่นตะกรุด  พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จ.นครสวรรค์(ท่านมรณภาพแล้วสังข - 3
ชื่อร้านค้า ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระผงรูปเหมือนกลับบัวฝังแผ่นตะกรุด พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จ.นครสวรรค์(ท่านมรณภาพแล้วสังข
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
ราคาเช่า 350 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.)
อีเมล์ติดต่อ เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อขอเช่าพระมาจำนวนมากต่อวัน ดังนั้นเช่าผ่านLINE จะติดต่อง่ายและสะดวกสุดครับ
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ จองแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ จ. - 06 ธ.ค. 2564 - 19:43.11
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ จ. - 06 ก.พ. 2566 - 06:27.26
รายละเอียด
**รหัส ศ.ร.๑๗๐๘๘
พระผงรูปเหมือนกลับบัวฝังแผ่นตะกรุด พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จ.นครสวรรค์(ท่านมรณภาพแล้วสังขารไม่เน่าเปื่อย)

หลวงพ่อฮวด อุปสมบทที่ วัดพนมรอก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เมื่อปี พ.ศ.2466 ได้รับฉายาว่า “กณฑโว” โดยมี “เจ้าคุณนิพัทธรรมจารย์ วัดพนมรอก” เป็นพระอุปัชฌาย์หลังอุปสมบทแล้วได้จำพรรษาและปรนนิบัติรับใช้พร้อมทั้งเล่าเรียนพระธรรมวินัยพระปริยัติธรรมและวิทยาคมจาก “พระอุปัชฌาย์” แล้วจึงย้ายไปจำพรรษาที่ “วัดหัวถนนใต้” ตลอดมา นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปศึกษาวิทยาคมจาก “หลวงพ่อสุข วัดสระโบสถ์” ต.ดอนคำ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ และยังได้รับตำราใบลานของ “หลวงพ่อเฒ่า แห่งวัดหนองโพ” ซึ่งเป็นอาจารย์ของ “หลวงพ่อเดิม” โดยได้รับคำชี้แนะอย่างใกล้ชิดจาก “หลวงพ่อเดิม” อีกด้วย
โดยในสมัยนั้น “หลวงพ่อเดิม” ได้รับกิจนิมนต์ไปยังที่ใดก็มักจะชวน “หลวงพ่อฮวด” ร่วมเดินทางไปด้วยเสมอ จึงนับได้ว่า “หลวงพ่อฮวด” เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกับหลวงพ่อเดิม และยังได้ศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อเดิมอีกด้วย ถึงกระนั้นก็มิได้หยุดการเสาะแสวงหาอาจารย์เพื่อขอถ่ายทอดคาถาอาคม จึงไปทำการศึกษาวิชาเพิ่มเติมจาก “หลวงพ่อพุฒ” จังหวัดอ่างทอง “หลวงพ่อนอ” จังหวัดอยุธยา ทั้งนี้เพราะหลวงพ่อแต่ละรูปก็เก่งกันไปคนละด้านนั่นเอง ต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2474 ได้รับแต่งตั้งเป็น “เจ้าอาวาสวัดหัวถนนใต้” และ “เจ้าคณะตำบลหัวถนน” ด้วยคุณงามความดีของหลวงพ่อจึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นโท “พระครูนิยุตธรรมประวิตร” เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2531 “หลวงพ่อฮวด” ถึงแก่มรณกาลเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2535 อายุได้ 89 ปี พรรษาที่ 68 คณะศิษย์จึงจัดพิธีสรงน้ำศพขึ้นที่วัดเวลาประมาณ 16.30 น.ขณะเริ่มสรงน้ำศพก็ปรากฏฝนได้โปรยปรายลงมาทั้งๆ ที่ยังมีแดด ยังความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็นเป็นยิ่งนัก จากนั้นคณะศิษย์ได้บรรจุร่างของท่านลงในโลงแก้ว เพื่อให้สาธุชนได้กราบไหว้บูชาและจัดสวดพระอภิธรรมถวายท่านใน 100 วันแรก ซึ่งระหว่างนี้ปรากฏว่าผู้คนที่แวะไปกราบไหว้ต่างก็มีโชคมีลาภจากเลขอายุและเลขพรรษาอย่างทั่วหน้า ยิ่งกว่านั้นสภาพสังขารของท่านดุจดั่งคนนอนหลับธรรมดาไม่มีการเน่าเปื่อย ทั้งๆ ที่มิได้ฉีดยาหรือปิดฝาโลงด้วยสุญญากาศแต่อย่างใด แถมเส้นเกศายังค่อยๆ งอกยาวขึ้นอีกด้วย
จากนั้นผ่านไปอีก 4 ปี ทางวัดหัวถนนใต้และคณะศิษย์ได้เปิดโลงแก้ว เพื่อชำระทำความสะอาดร่างหลวงพ่อฮวดเพื่อทำบุญวันสงกรานต์ หลังจากหลวงพ่อฮวดได้มรณภาพมา 4 ปีแล้ว ปรากฏว่าร่างของท่านไม่เน่าเปื่อย แต่กลับกลายเป็นหินแข็งมีสีเป็นทองอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
ประสบการณ์.-เรื่องที่นำมาเสนอคือ “นายชวการ รัตนธีรเดช” เล่าว่าพี่ชายของ “เสี่ยเฮ้า” ซึ่งเป็นเพื่อนของเขาเองและเป็นศิษย์ “หลวงพ่อฮวด” ด้วยมีอาชีพ “ค้าข้าว” จึงต้องตระเวนวขับรถ 10 ล้อไป “ขนข้าว” ตามที่ต่างๆ วันหนึ่งขณะขับรถวิ่งมาถึง “สามแยกวิเศษโพธิ์ทอง” ก็ถูกคนร้าย 3 คนใช้ปืน “บุกปล้น” และบังคับให้ขับรถเข้าไปในป่าลึก จากนั้นจึงจับพี่ชาย “เสี่ยเฮ้า” และลูกน้องมัดกับต้นไม้เพื่อรอให้มืดลงจึงจะขับรถขนข้าวหนีไป แต่ระหว่างรอเวลาให้มืดลง “หนึ่งในคนร้าย” ได้ใช้ปืนจ่อเข้าที่ “หัวพี่ชายเสี่ยเฮ้า” พร้อมขู่ขึ้นว่า “ยิงทิ้งซะดีมั้ง ขี้เกียจเฝ้าแล้ว” พี่ชายเสี่ยเฮ้าตัวเย็นเฉียบด้วยความกลัวจึงหลับตาลงแล้วพึมพัมว่า “หลวงพ่อฮวด...ช่วยลูกด้วย” พอสิ้นคำก็ปรากฏเรื่องที่น่าอัศจรรย์เมื่อพี่ชายเสี่ยเฮ้ามองเห็น “หลวงพ่อฮวด” มานั่งลอยเด่นอยู่บนหัวตัวเองทั้งๆ ที่ยังหลับตาและพอลืมตาขึ้นก็เห็น 3 คนร้ายเดินไปที่รถแล้วทำการสตาร์ทรถขับหนีไป พี่ชายเสี่ยเฮ้าจึงแก้มัดตัวเองจนหลุด ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้พาไปแจ้งความกับตำรวจ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังติดตามคนร้าย ยังบริเวณที่เห็นคนร้ายขับรถหนีไป จึงพบรถ 10 ล้อ จอดอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจเพราะระยะเวลาห่างกันตั้ง 3-4 ชั่วโมง แต่คนร้ายกลับขับรถหนีจากที่เกิดเหตุได้ไม่มากนัก โดยสังเกตได้จากรอยล้อรถที่มีการขับวนเวียนอยู่บริเวณนั้นหลายรอบในลักษณะหาทางออกไปไม่ได้จึงต้องทิ้งรถหลบหนีไปครั้น “เสี่ยเฮ้า” ทราบเรื่องจากพี่ชายก็ไปกราบ “หลวงพ่อฮวด” พร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านฟังโดยยืนยันกับท่านว่า “เพราะหลวงพ่อไปช่วยพี่ชายจึงไม่ถูกยิงและเอารถไปไม่ได้” แต่ “หลวงพ่อฮวด” ก็นั่งเฉยไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ “เสี่ยเฮ้า” จึงย้ำถามหลวงพ่ออีกหลายครั้งว่า ไฉนจึงไปช่วยพี่ชายได้ ที่สุดหลวงพ่อจึงบอกว่า “ฉันนั่งสมาธิและแผ่เมตตาไปให้กับลูกศิษย์ทุกคน ดังนั้นถ้าผู้ใดตกทุกข์ได้ยากแล้วระลึกถึงฉัน เขาก็จะมองเห็นฉันเหมือนนิมิตนะ” เสี่ยเฮ้าได้ยินชัดเจนจึงก้มกราบเท้าท่านแบบยอมรับและนับถืออย่างสนิทใจ (ที่มา:น.ส.พ.เดลินิวส์)

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

Top