ลูกอมผงพรายกุมาร - webpra

ลูกอมผงพรายกุมาร

บทความพระเครื่อง เขียนโดย piriyakorn

piriyakorn
ผู้เขียน
บทความ : ลูกอมผงพรายกุมาร
จำนวนชม : 2117
เขียนเมื่อวันที่ : ส. - 22 ก.ย. 2555 - 18:08.35
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

ลูกอมผงพรายกุมาร

ลูกอมจัดเป็นเครื่องรางประเภทเครื่องอม เป็นเครื่องรางที่นิยมอมไว้ในปากยามออกศึกสงคราม หรือจำเป็นต้องผ่านเหตุการณ์ที่เสี่ยงอันตราย เดินทางไปในป่าหรือท้องถิ่นที่ไม่คุ้นเคยและไม่น่าไว้ใจ ลูกอมขึ้นอยู่กับว่าจะทำจากวัตถุศักดิ์สิทธิ์อย่างไหน เช่น ลูกอมเนื้อชานหมาก แสดงว่าทำจากหมากที่เคี้ยวจนจืดของพระเกจิอาจารย์ ลูกศิษย์ก็จะนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆขนาดเท่าที่ต้องการ เล็กบ้างใหญ่บ้าง ส่วนมากมีขนาดเท่าที่อมได้สะดวก เกจิอาจารย์บางท่านทำลูกอมด้วยว่านที่มีคุณวิเศษ ผงยาวาสนา ผงศักดิ์สิทธิ์ ผงใบลานเผา เทียนชัยที่ใช้ในพิธีสำคัญ และโลหะอย่างชินตะกั่ว ชินเงิน โลหะผสมปรอท

                หลวงพ่อเหนี่ยง(พระครูวินยานุโยค) วัดสองพี่น้อง ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์รุ่นพี่ หลวงพ่อโหน่ง วัดดอนมะดัน เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ,สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ,สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริ),หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก,หลวงพ่อชุน วัดบางสาม,หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว ท่านสร้างลูกอมจากผงวิเศษ เนื้อหาสวยมาก แต่ท่านจะบอกกับศิษย์ที่ได้รับแจก ให้เรียกลูกอมตะ เมื่อเขียนให้เขียนว่า ลูกอมต์ซึ่งแปลกดีไม่เหมือนใคร และให้ความหมายที่ลึกซึ้ง แสดงถึงความรู้ทั้งพุทธาคม และในเชิงภาษาของหลวงพ่อเหนี่ยง นั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ไม่งั้นจะเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำหรือแม้แต่ประมุขสงฆ์ เสด็จพระสังฆราชได้หรือ

                พระเกจิบางท่านมิได้ทำลูกอมเพียงลูกเดียวโดดๆหรือที่เรียกกันว่า ลูกโทนแต่อาจจะทำหลายลูกตามเลขมงคล 3 -5-7-9 หรือถึง108 ตะกรุดลูกอมโลกธาตุ สร้างขึ้นด้วยโลหะเนื้อเงิน มีจารอักขระเลขยันต์ และเสกกำกับด้วยหัวใจคาถาโลกธาตุ 10 ทั้งสองด้าน และที่สำคัญจะร้อยด้วยไหมถัก 4 สี เรียกกันโดยมาก ว่า 7 สี บ้าง,5 สีบ้าง ให้เป็นมงคล แต่ความจริงมีเพียง 4 สีเท่านั้น โดยถือเอาสีที่อยู่ในวรรณะกสิณหรือวรรณ (สี) 4 คือ เขียว เหลือง แดง และขาว

                สรรพคุณของเครื่องรางทั้งหลายมีอานุภาพคล้ายคลึงกันเช่น มหาอุดอยู่ยงคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม ช่วยให้แคล้วคลาด ล่องหนหายตัว กำบังตาให้ศัตรูมองไม่เห็น รับสิ่งชั่วร้ายแทนตัว ซึ่งส่วนมากขึ้นอยู่กับว่าผู้สร้างมีความชำนาญ และต้องการให้ดีเด่นทางด้านไหน

                ลูกอมที่ได้รับการกล่าวขานในยุคนี้ไม่มีของสำนักไหนเกินลูกอมผงพรายกุมาร มหาภูต หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง อาจเป็นเพราะท่านสร้างไว้เป็นจำนวนมาก ตลอดจนพิธีกรรม พิธีปลุกเสกของท่านขลังนัก เป็นที่ประจักษ์เล่ากันมาปากต่อปาก และเกียรติคุณความดี ความเก่งเชี่ยวชาญในวิชาอาคมต่างเล่ากันว่า

                ประมาณกลางปี พ.ศ.2515 คณะกรรมการ วัดละหารไร่ มีนายสาย แก้วสว่าง ไวยาวัจกร ประชุมกันเรื่องการสร้างพระเครื่อง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสมนาคุณแก่ชาวบ้านและสาธุชนทั่วไป ผู้มีจิตศัทธาร่วมบริจาคเงินกับวัดละหารไร่กำลังสร้างอุโบสถและกำหนดผูกพัทธสีมาในกาลอันใกล้นี้

                หลวงปู่ทิมปรารภกับคณะกรรมและลูกศิษย์ว่า ถ้าได้ผงพรายกุมารมหาภูตผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องและเครื่องรางของขลัง เช่น ลูกอมและหนุมาน (ผงอุดก้น) วัตถุมงคลที่สร้างทุกชนิด จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเพราะมีอานุภาพของพรายกุมารมหาภูต จะแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้อประโยชน์แก่ผู้บูชาอาราธนาขึ้นใช้ เมื่อหลวงปู่ทิมมีความต้องการจะทำผงพรายกุมารมหาภูต เพื่อนำมาเป็นมวลสารสำคัญยิ่งในการสร้างปลุกเสกพระเครื่องดังนี้

                ในบรรดาศิษย์ขณะนั้นของหลวงปู่ทิม อิสริโก ทั้งหมดไม่มีใครกล้าเสนอตัวอาสากระทำการพิธีกรรม ต่างคนก็ต่างเกรงกลัวความอาถรรพ์ของผีตายทั้งกลม ซึ่งกล่าวขานกันว่า มีความดุร้าย เฮี้ยนมาก แบบที่เคยรับรู้จากหนังละคร เรื่องนางนากพระโขนง นั่นทีเดียว มีแต่ศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งเป็นคนกล้าหาญ เล่นของขึ้น ชาวบ้านเรียกกันว่า หมอกุหลาบ นามสกุล จ้อยเจริญ เป็นคนมีวิชาคาถาอาคม และสมาธิกล้าแข็งเพียงพอ กล้าขอเสนอตัวอาสาสนองงาน หลวงปู่ทิมจะไปนำไปทำพิธีกรรมในป่าช้าเพื่อให้ได้ผงพรายกุมารมหาภูต วัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่งที่หลวงพ่อต้องการ เพื่อนำมาถวายให้หลวงปู่ทิม สร้างปลุกเสกเป็นผงพรายกุมารมหาภูต

                หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ เข้าไปในป่าช้าในเวลาดึกสงัดของคืนหนึ่ง ต้องผจญกับอิทธิฤทธิ์โหงพราย นายป่าช้า แม่นางพรายและพรายกุมาร อาจจะเป็นคนดีมีวิชาคนหนึ่ง และวัตถุประสงค์ก็เพื่อจะนำวัตถุอาถรรพ์ศักดิ์สิทธ์ มาเพื่อการสร้างบุญกุศลในพระพุทธศาสนา หรือเพราะบารมีของหลวงปู่ทิม กอปรกับคาถาอาคมที่หลวงปู่ทิม ได้ประสิทธิประสาทให้ไปเพื่อการนั้นสำเร็จ ทำให้นายป่าช้า แม่นางโหงพราย และพรายกุมารยินยอมและเต็มใจ มีปิติในกุศลผลบุญที่ตนเองจะมีส่วนได้รับด้วยจึงเปิดทางให้หมอกุหลาบทำพิธีกรรมได้สำเร็จเรียบร้อย หมอกุหลาบเล่าให้คนฟังภายหลังว่า วิญญาณของนายป่าช้า แม่โหงนางพราย และพรายกุมารมีอยู่จริง ปรากฏให้เห็นตัวตนเป็นเงาใสๆ ลางๆ เหมือนกับภาพที่สะท้อนบนพื้น ในปัจจุบันวิญญาณเหล่านี้ก็ยังอยู่คุ้มครองที่วัดละหารไร่

                หมอกุหลาบ กล่าวว่าการทำพิธีเพื่อให้ได้ผงพรายกุมารมหาภูตนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เมื่อได้วัตถุอาถรรพ์ที่จะทำผงพรายกุมารมาแล้ว ตนจึงใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในโบสถหลังเก่า เป็นระยะเวลาประมาณถึงสี่เดือนจนแห้งสนิทหมดกลิ่นดีแล้วจึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาจนครบทั้งหมดผสมน้ำแช่เกสรบัวทั้งห้า ปั้นเป็นแท่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดไว้จนแห้งสนิท เมื่อได้ฤกษ์งามยามดีวันดี ตามที่หลวงปู่ทิมได้กำหนดไว้ จึงจะนำแท่งผงปั้นมาเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆที่สมัยนั้นเรียกว่าการลงเลขชักยันต์ บนกระดานชนวน โดยกระทำในพระอุโบสถหลังเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ 9 รูป มีหลวงปู่ทิม อิสริโก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงก่อนเป็นปฐมฤกษ์ แล้วจึงมอบให้หมอกุหลาบ เป็นผู้ลงอักขระพระยันต์และลบผงต่อไป การปลุกเสกผงพรายกุมารมหาภูตนี้ หลวงปู่ทิมได้ปลุกเสกพรายกุมารทั้งหลายให้เป็นกึ่งเทพกึ่งภูต เป็นมหาภูติ ขวาและซ้าย จะเห็นได้จากพระพรายคู่ เป็นรูปเทวดานั่งคู่กันแทนรูปมหาภูติซ้ายขวา วิญญาณพรายกุมารไม่ไช่มีอยู่ตนเดียว แต่มีมากมายประมาณมิได้ หลวงปู่ทิมได้อธิฐานให้วิญญาณพรายกุมารทุกตนที่ผ่านไปมาในบริเวณพิธี หากจะช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ก็ให้มาสถิตอยู่รวมกันในผงพรายกุมารมหาภูต ที่ท่านปลุกเสกนี้ ให้มีอิทธิฤทธิ์คอยช่วยเหลือคุ้มครองให้ผู้ศรัทธาบูชาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง

                หลังจากเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้วได้นำผงพรายกุมารมหาภูต บริสุทธิ์สีขาวหม่น อมเทาประมาณ 1 ถาดใหญ่ เมื่อแบ่งผสมผงว่านมหามงคลจะได้ผงพรายกุมารมหาภูตเนื้อละเอียดสีน้ำตาลเข้ม 1 กะละมังใหญ่ แล้วเก็บรวบรวมไว้ในกุฏิหลวงปู่ทิม เมื่อจะทำพระเครื่องหรือลูกอม จึงจะขออนุญาตหลวงปู่ทิมไปตักแบ่งเอามาผสมผงที่จะกดพิมพ์พระอีกครั้งหนึ่ง

                หมอกุหลาบกล่าวยืนยันโดยเห็นกับตาตนเองว่า ผงที่หลวงปู่ทิมอิสริโกเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆนั้น หลุดร่วงทะลุรอดกระดานชนวนลงมา และทะลุผ้าขาวที่ปูรองเอาไว้ถึงเจ็ดชั้นจนถึงพื้นอุโบสถวัดละหารไร่ ที่กล่าวนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด แต่กล่าวเปิดเผยให้คนที่ศรัทธา หลวงปู่ทิมอิสริโกจะได้เกิดความปิติยินดี และศรัทธาในบุญญาบารมีของหลวงปู่ทิม หากผู้ใดได้ครอบครองบูชา ลูกอมผงพรายกุมาร ถือท่านผู้นั้นมีของวิเศษอยู่กับตัวจะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ปลอดภัยแคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆและถือเป็นบุญกุศลของผู้นั้นที่เคยได้ร่วมสร้างกันมา หลวงปู่ทิมมักกล่าวว่า ทั้งพระ และเครื่องรางของท่านมีเจ้าของอยู่แล้ว ของ ของใครต้องมาอยู่กับผู้นั้น ผู้ใดมิใช่เจ้าของจักมีอันต้องเปลี่ยนมือไปในที่สุด

ขอขอบพระคุณความรู้ดีดีจากนิตยสารพระเกจิ

Top