หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540

หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม

หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม - 1หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม - 2หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม - 3หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม - 5
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม
อายุพระเครื่อง 34 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อ. - 09 ก.ค. 2562 - 20:42.25
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ จ. - 02 ก.ย. 2562 - 14:21.06
รายละเอียด
เหรียญที่ระลึกในการรับพระราชทานสมณศักดิ์ 5 ธ.ค.2533

สวยเดิม ผิวเดิม

.....

"ถ้าหากใครว่าท่านอาจารย์สมชาย (หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม) ไม่ใช่พระดี... โลกนี้ก็ไม่มีพระดี!!"


พระครูสุทธิธรรมรังษี (หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท) วัดภูริทัตปฏิปทาราม จ.ปทุมธานี กล่าวเมื่อสมัยจำพรรษา ณ วัดเขาแก้ว จ.จันทบุรี


ครูบาอาจารย์พูดคุยกันทางจิต

กาลสมัยที่หลวงปู่ (พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย) ได้มาพักที่วัดเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๒-๒๕๒๓ เนื่องจากเป็นช่วงที่ทางราชการได้ทำการขยายเส้นทางถนนสุขุมวิท และ เส้นทางแกลง-บ้านบึงอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง จึงทำให้การเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่ละครั้งไม่สะดวก จึงเปลี่ยนเส้นทางมาใช้เส้นทางสายจันทบุรี-สระแก้ว-นครนายก หากในช่วงที่มีกิจนิมนต์ติดต่อกันหลายวัน ก็ต้องพักแรมวัดใดวัดหนึ่งที่อยู่ชานเมือง หลวงปู่ได้เลือกมาพักที่วัดเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี เพราะเห็นว่าจะได้มีเวลาภาวนามากหน่อย เพราะเป็นสถานที่สงบ สงัด วิเวกดีมาก และในระหว่างนี้ก็มีเหตุการณ์ที่ลืมไม่ได้เกิดขึ้นที่วัดเขาอีโต้ เท่าที่จำได้มีอยู่ด้วยกันสามเรื่อง จึงขอนำมาลงไว้เป็นเครื่องเตือนความจำของเหล่าศิษยานุศิษย์ต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับหลวงปู่เกิดขึ้นที่วัดเขาอีโต้ (เรื่องไหนเกิดก่อน-หลังจำไม่ได้ขออภัยด้วย)

ครั้งหนึ่งหลวงปู่ได้รับกิจนิมนต์ให้เข้าไปในพระราชพิธี พร้อมกับครูบาอาจารย์ทางภาคอีสานหลายรูป ในวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๒๓ แต่ในคืนวันที่ ๒๖ ขณะที่หลวงปู่พักภาวนาอยู่ภายในกลดข้างหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ค่อนรุ่งของวันที่ ๒๗ หลวงปู่ออกมาจากกลดซึ่งผิดจากเวลาปกติ พระเณรที่ติดตามไปด้วยกันทั้งหมด ๘ รูป เมื่อได้ยินเสียงหลวงปู่กระแอม ทุกรูปแปลกใจคิดว่า หลวงปู่อาพาธท้องเดินหรือมีเหตุอะไร จึงรีบมาที่กลดหลวงปู่ทั้งหมดทุกรูป หลวงปู่นั่งลงบนตั่งเล็กๆ ตัวหนึ่งที่หลวงปู่ใช้นั่งเป็นประจำ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบของเขาอีโต้..แล้วก็ เงียบ !...พระทุกรูปต่างก็เงียบเพื่อรอรับฟังว่า ครูบาอาจารย์จะปรารภอะไร แต่หลวงปู่ก็นั่งเงียบ !..ไม่ปรารภใด ๆ พระอุปัฏฐากจึงกราบเรียนว่า ขอโอกาส ท่านอาจารย์ไม่สบายหรือครับผม จึงลุกออกมากลางดึกเช่นนี้... เงียบ ! ...หลวงปู่นั่งสงบไม่ตอบใดๆ ทั้งสิ้น เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ...หลวงปู่จึงเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้นว่า.. ครูบาอาจารย์ของเราจะสิ้นอีก ๕ รูปในวันนี้ ! ..พระเณรที่ห้อมล้อมหลวงปู่ไม่มีใครปริปากใดๆ ต่างองค์ต่างตกตลึง ท่ามกลางอากาศที่เย็นยะเยือกของเขาอีโต้ สงบเงียบ.!..หลวงปู่ปรารภต่อไปอีกว่า .."วงการพระกรรมฐานเราต้องสูญเสียครูบาอาจารย์พร้อมๆ กันถึง ๕ รูป เพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันนี้.." ล้วนแต่เป็นที่เคารพนับถือของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินอีกด้วย แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด "ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมหนีกรรมไม่พ้น มันเป็นเรื่องวิบากกรรมที่ท่านจะต้องมาตายพร้อมกันเช่นนี้ ตายอย่างแหลกเหลวแทบหาร่างไม่พบเลยทีเดียว..."

ทุกรูปที่นั่งฟังหลวงปู่ปรารภก็เงียบ ! อีกเช่นเคย เพียงแต่รอฟังว่า หลวงปู่จะปรารภถึงชื่อใครบ้าง? และเป็นอะไร? ที่ไหน? แล้วจะให้ทำอย่างไรบ้างเท่านั้น !...หลวงปู่นิ่งอยู่ครู่ใหญ่จึงปรารภต่ออีกว่า..ท่านเคยทำกรรมร่วมกันมาก็หนีไม่พ้น สมัยพุทธกาลขนาดพระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ พระโมคคัลลาน์ เป็นถึงพระอัครสาวกเบื้องซ้าย เป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธาศักดานุภาพมากกว่าใครในสมัยนั้น ไปนรกได้ ไปสวรรค์ได้ แต่ผลสุดท้ายที่จะนิพพานกับมาถูกโจรทุบจนกระดูกแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ตายไม่สมเกียรติของพระอัครสาวกเลย พระโมคคัลลาน์ท่านหนีทุกอย่างได้ แต่ท่านจะหนีกรรมไม่พ้น สมัยนั้นพระพุทธเจ้าก็ยังถูกโจมตีจากคณาจารย์เจ้าลัทธิต่างๆ เหมือนกัน ครูบาอาจารย์ของเราท่านก็หนีกรรมไม่พ้นเช่นกัน.. หลวงปู่เทศน์แล้วก็หยุด สงบเงียบ.. เหมือนกับหยุดพิจารณา หรือ หยุดปลง นั่นเอง.. พวกเราซึ่งเป็นศิษย์นั่งฟังจนแสงเงินแสงทองเริ่มจับขอบฟ้าแล้ว จึงนำน้ำล้างหน้า ยาสีฟันเข้ามาถวายหลวงปู่ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน..จนบัดนี้หลวงปู่ก็ยังไม่พูดว่าใครเป็นอะไร ที่ไหน? ..ปกติทุกวันหลวงปู่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในเวลาแปดโมงเช้าทุกครั้ง แต่วันนี้หลังจากหลวงปู่ล้างหน้าเสร็จหลวงปู่ก็เข้าที่เดินจงกรมภาวนาต่อ เหมือนหลวงปู่รอเวลาอะไรสักอย่าง ครู่ใหญ่ๆ ผ่านไป หลวงปู่ก็เรียกพระอุปัฏฐากเอาจีวรห่มคลุมเตรียมเดินทาง พระอุปัฏฐากสังเกตว่าหลวงปู่มีความวิตกกังวลเรื่องบางอย่าง จึงกราบเรียนว่า..ขอโอกาสครับ ท่านอาจารย์จะเดินทางตอนนี้หรือครับ?..หลวงปู่ตอบ..อืม !..ไปกันเถอะ ไปดูแลครูบาอาจารย์ก่อน เดี๋ยวจะไม่ทัน ท่านมาบอกลาผมเมื่อคืน หลวงปู่บุญมา ท่านอาจารย์วัน ท่านอาจารย์จวน ท่านอาจารย์สิงห์ทอง ท่านอาจารย์สุพัฒน์ ท่านจะนิพพานในอีกไม่ช้านี้ ไปเถอะเดี๋ยวไม่ทัน..พระเณรทั้งแปดรูปจึงเพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองว่าครูบาอาจารย์ท่านพูดคุยล่ำลากันทางจิตเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อค่อนรุ่งแล้ว..แต่ยังเป็นปริศนาว่าท่านจะสิ้นด้วยเหตุอันใดหรือ จึงจะพร้อมกันทีเดียวถึง ๕ รูป และจะฉีกร่างให้แหลกอย่างที่หลวงปู่ปรารภอย่างนี้!... พระเณรทั้งแปดรูปชักเริ่มเป็นห่วงครูบาอาจารย์ที่จะสิ้นวันนี้เสียแล้ว ต่างรูปต่างก็คอยที่จะไปถึงยังสถานที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด

วันนี้จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓ ขณะที่กำลังเดินไปขึ้นรถที่ติดเครื่องรออยู่ พระเณรเดินตามหลวงปู่ยังไม่ทันถึงรถ หลวงปู่หยุดกะทันหัน บอกว่า ไม่ทันแล้ว !...แล้วก็ก้าวเท้าขึ้นรถ หลวงปู่สั่งคนรถว่าวันนี้ไปทางคลองหก ทุกวันจะใช้เส้นทางนครนายก-กรุงเทพฯ ขณะที่รถยนต์วิ่งมาถึงตัวจังหวัดปราจีนบุรี เสียงวิทยุที่คนขับเปิดไว้เป็นปกติอยู่แล้วนั้น ก็ประกาศข่าวด่วนว่า เครื่องบินโดยสารแอฟโร ๔ ของบริษัทการบินไทย ประสบอุบัติเหตุ ตกก่อนถึงกรุงเทพฯ ๒๐ กม. ณ กลางทุ่งนารังสิต บริเวณคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีผู้เสียชีวิตเกือบหมด...ในจำนวนนี้มีพระสงฆ์มรณภาพ ๗ รูป เป็นพระสายป่า ๕ รูป คือ ๑. พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (พระอาจารย์วัน อุตฺตโม) ๒. หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ๓. พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ ๔. พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ๕. พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม...รถวิ่งมาถึงคลองหกมองเห็นชาวบ้านสับสนอลหม่านวิ่งบ้าง เดินบ้าง ตำรวจ ทหารแน่นทั้งสองข้างทาง ควันขาวๆ โพยพรุ่งอยู่กลางท้องนาด้านหน้า หลวงปู่ให้คนขับจอดรถแล้วหลวงปู่เดินตรงไปที่ซากเครื่องบินที่ตกกระจัดกระจายอยู่นั้น ท่ามกลางไทยมุงที่แน่นขนัด

หลวงปู่และพระเณรทั้งหมดได้ช่วยกันเก็บอัฐบริขารของครูบาอาจารย์ออกมาวางไว้ในสถานที่อันเหมาะสมให้เรียบร้อย หลวงปู่ปรารภขณะที่หยิบชิ้นส่วนของครูบาอาจารย์ว่า "ท่านอาจารย์วัน ท่านอาจารย์จวนมาบอกเมื่อคืนว่าให้ช่วยมาเก็บธาตุขันธ์ให้ท่านด้วย รับปากท่านไว้เมื่อคืน.." หลวงปู่หยิบชิ้นส่วนของครูบาอาจารย์มารวมไว้เป็นส่วนๆ เก็บชิ้นส่วนและอัฐบริขารของครูบาอาจารย์เสร็จ เจ้าหน้าที่ก็มาถึง..จึงให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินงานต่อไป ตกกลางคืนหลวงปู่ก็พาไปกราบนมัสการศพครูบาอาจารย์ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน..ขณะที่นั่งรอเวลาอยู่นั้น หลวงปู่ต้องตอบคำถามทั้งพระทั้งโยมที่นำปัญหาอย่างที่หลวงปู่ปรารภไว้ที่วัดเขาอีโต้ตั้งแต่แรกนั้น มาตอบให้ทุกคนเข้าใจว่า ..ไม่มีใครในโลกนี้หนีกรรมได้ วิบากกรรมของท่านหมดแล้ว ไม่ต้องห่วง ให้ห่วงตัวเราเองนี้ให้มาก ทำตัวเราเองให้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง..หลวงปู่ปรารภกับพระอุปัฏฐากว่า "สมเด็จฯท่านเสียพระทัยมาก ผมเพิ่งเห็นน้ำตาท่านหลั่งไหลมากก็คราวนี้แหละ...ข้าพเจ้าก็สังเกตตามจึงได้เห็น พระเนตรของพระองค์ปูดบวม พระพักตร์ร่วงโรย เศร้าโศกอย่างที่หลวงปู่ปรารภ

เรื่องนี้จึงนับได้ว่า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นครูบาอาจารย์ท่านอยู่ห่างไกลกันคนละภาค แต่เมื่อถึงคราวที่ท่านจะต้องแตกกายทำลายขันธ์ ท่านยังส่งกระแสจิตสั่งความบอกลาซึ่งกันและกันได้ ซึ่งในคราวครั้งนั้นบรรดาพระภิกษุผู้เป็นสักขีพยานรับทราบเหตุการณ์ค่อนรุ่งของคืนดังกล่าวรวม ๘ รูปด้วยกัน...

เครดิต

http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-juan/lp-juan-hist-12.htm

http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-somchai/lp-somchai-hist-02-11.htm


พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top