หมวด พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ก่อนปี 2520
รูปเหมือนลอยองค์ หลวงปู่เกษม เขมโก เนื้อเงิน<<.ใต้ฐานบรรจุธงชาติ จีวร ข้าวสาร>>
ชื่อร้านค้า | พลังศรัทธา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | รูปเหมือนลอยองค์ หลวงปู่เกษม เขมโก เนื้อเงิน<<.ใต้ฐานบรรจุธงชาติ จีวร ข้าวสาร>> |
อายุพระเครื่อง | 22 ปี |
หมวดพระ | พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ก่อนปี 2520 |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 065-6287965 / 0624245646 |
อีเมล์ติดต่อ | paikor@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ศ. - 05 ส.ค. 2554 - 17:11.09 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 04 ก.ย. 2554 - 23:15.08 |
รายละเอียด | |
---|---|
หลวงปู่เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ นครลำปาง พระรูปเหมือนลอยองค์ วิสาขบูชา ๓๘ <ใต้ฐานบรรจุ ธงชาติ จีวร ข้าวสาร> ตอกโค๊ต รันนัมเบอร์ องค์นี้เลขสวยครับ< # ๑๑๙ > เนื้อเงิน พร้อมกล่องเดิม ไม่ค่อยเห็นแล้วส่วนใหญ่เก็บกันหมด สภาพไม่เคยผ่านการใช้ <<<ประวัติโดยย่อ และวัตรปฏิบัติหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง>>> -ประพฤติธรรมอุกฤต หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสำนักปฏิบัติธรรมสุสานไตรลักษณ์ (ศาลาดำ) โดยปกติวิสัยของท่านเป็นผู้ที่พูดแต่น้อยอยู่แล้ว เมื่อท่านตั้งจิตอธิษฐานที่จะมุ่งมั่นในทางปฏิบัติธรรม ท่านจึงเว้นการสนทนากับผู้คนโดยสิ้นเชิง ดังมีเรื่องเล่ากันต่อมาว่าสมัยที่หลวงพ่อเดินทางไปจำพรรษาในป่าช้าศาลาวังทาน ตลอดสิ้นการพรรษาหลวงพ่อจะไม่ยอมเอ่ยปากเป็นคำพูดกับใครเลย เมื่อมีผู้เดินทางไปกราบนมัสการท่าน ท่านจะนั่งสงบนิ่ง โดยการวางเฉยถืออุเบกขาธรรมตลอด ซึ่งเรื่องนี้ต่อมาจึงน้อยนักน้อยหนาจะมีผู้เดินทางไปรบกวนหลวงพ่ออีก นอกจากบุคคลที่มีความประสงค์ที่จะนำภัตตาหารไปถวาย เมื่อถวายอาหารหลวงพ่อรับประเคนเสร็จ ผู้ที่มีจิตศรัทธาผู้นั้นก็กราบลาหลวงพ่อกลับสู่บ้านของตน จนกระทั่งสิ้นกาลตลอดพรรษานั้นจึงไม่มีใครเลยสักคนเดียวที่จะได้รับฟังคำพูดที่เปล่งออกมาจากปากของหลวงพ่อ -ปฏิบัติธรรมท่ามกลางแสงแดด มีอยู่มากมายในการประพฤติวิปัสสนากรรมฐานของหลวงพ่อเกษมที่ท่านได้บำเพ็ญเพียรมา อย่างเช่นเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อออกไปนั่งบำเพ็ญสมณธรรมท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุเป็นเวลาหลายวันคือตอนเช้าหลังจากที่หลวงพ่อกระทำภัตตกิจเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะออกจากกุฏิ (กระท่อมที่มุงด้วยหญ้า) แล้วไปนั่งบำเพ็ญภาวนา เริ่มจาที่แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าและก็เริ่มร้อนแรงตามลำดับ แต่หลวงพ่อท่านไม่เคยที่จะแสดงอาการสะทกสะท้านเลยแม้สักนิดเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้ที่ได้ไปเห็นหลายคนเช่นกันที่หลวงพ่อท่านนั่งบำเพ็ญอยู่อย่างนั้นหลายสิบวัน จนกระทั่งผิวหนังของหลวงพ่อออกสีคล้ำแทบจะเป็นรอยไหม้ เคยมีผู้มีจิตเป็นมหากุศลสงสารหลวงพ่อเคยนำเอาร่มไปกางกั้นกันแสงแดด แต่หลวงพ่อท่านก็ไม่ยินดีและยังบอกว่า ขออย่าได้ทำลายความตั้งใจของท่านเลย และชาวบ้านย่านนั้นจำต้องเอาร่มออกจากสถานที่ที่หลวงพ่อนั่งบำเพ็ญเพียร เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ของหลวงพ่อ ครั้นถึงฤดูฝนมาถึงหลวงพ่อก็จะนั่งสมาธิท่ามกลางสายฝน เหมือนไม่ได้มีธรรมชาติใด ๆ เกิดขึ้นกับท่าน ร่างของท่านยังคงนั่งสงบ เม็ดฝนจะตกมามากมายเพียงใดก็ตามหลวงพ่อก็ไม่เคยแสดงความหวั่นไหว จนกระทั่งหน้าฝนผ่านไปย่างเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งชาวเราทั้งหลายย่อมทราบกันดีว่า หน้าหนาวในเมืองไทยเรานั้น ดินแดนทางภาคเหนือนั้นชื่อว่ามีความหนาวเหน็บยิ่งนัก หลายครั้งที่อากาศหนาวถึงกับลบหลายองศา แต่ทว่าหลวงพ่อเกษมนั้นท่านมีขันติธรรมเป็นเลิศ ท่านได้กระทำสิ่งที่บุคคลทั้งหลายกระทำได้ยาก ท่านได้ทำการพิสูจน์จิตใจของท่านด้วยความเด็ดเดี่ยวหาผู้ใดเทียมได้ ด้วยความที่หลวงพ่อกระทำเหตุอันเป็นเรื่องอัศจรรย์ปานนี้ หลายครั้งที่เคยมีผู้เข้าไปถามหลวงพ่อว่า ระหว่างที่หลวงพ่อนั่งอยู่ท่ามกลางแสดงแดดที่มีอุณหภูมิ ระดับ 30-40 องศานั้น หลวงพ่อไม่ร้อนบ้างหรือ เพราะอย่าว่าแต่จะให้คนธรรมดาสามัญอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ต้องออกไปนั่งท่ามกลางแดดเปรี้ยงอย่างนั้นเลย แม้แต่อยู่ในร่มเราก็ร้อนกันจนต้องอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายความร้อนอยู่แล้ว แต่นี่หลวงพ่อกลับนั่งท่ามกลางเปลวแดดทั้งวันท่านไม่รู้สึกว่าร้อนหรือ? ต่อคำถามที่ผู้คนมักจะถามหลวงพ่อทำนองนี้บ่อย ๆ ซึ่งท่านมักจะตอบเพียงว่า “เมื่อร้อนเราก็อย่าไปร้อนกับมัน แม้มีฝนเราก็อย่าได้ไปกังวลกับมัน เมื่อมันหนาวเราก็อย่าไปหนาวกับมัน” จากคำกล่าวของหลวงพ่อเป็นเช่นนี้ หากว่าเราท่านไม่ได้นำเอาคำกล่าวของท่านมาพิจารณาให้ถี่ถ้วนก็ดูเหมือนว่าเป็นเพียงคำพูดแบบธรรมดา แต่หากจะนำมาใคร่ครวญดูแล้วหลวงพ่อเกษมท่านได้แสดงธรรมขั้นสูงที่ท่านได้สำเร็จแก่ผู้ที่ได้เข้าไปกราบนมัสการเรียนถามแล้วคือ การไม่ไปยึดมั่นถือมั่นกับความทุกข์อันเกิดแต่ธรรมชาติ สามารถแยกแยะระหว่างความทุกข์ในกับทุกข์ภายนอกสามารถแยกจิตออกจากสภาพแวดล้อมได้อย่างสิ้นเชิง หลวงพ่อเกษมกับหลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก ท่านทั้งสองเป็นสหธรรมิกกันครับ ท่านติดต่อกันทางจิต หลวงปู่ดู่ท่านได้เคยบอกลูกศิษย์ที่จะไปกราบหลวงพ่อเกษมไว้ว่า "อย่าไปลอง ให้ไปจริง ๆ ไปขอพรท่าน ท่านเป็นพระอรหันต์" +รับประกันแท้ตลอดชีพ ยึดมั่น และปฏิบัติ ตามกฎของเวปพระ อย่างเคร่งครัด+ สนใจ หรืออยากได้ โทร.089-999-5091 <คลิ๊กเข้าในร้าน ยังมีพระให้เลือกชม อีกมากมายหลายรุ่นครับ> http://www.web-pra.com/Shop/praputtakun91 ขอบคุณทุกท่าน ที่ได้เข้ามาเยี่ยมชม ร้าน พลังศรัทธา |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments