หัวข้อ: สมเด็จ 1

พิจารณาให้ด้วยครับ

                                                  ตามความคิดเห็นของผม " พระสมเด็จฯวัดระฆังโฆษิตารามพิมพ์ใหญ่ " องค์นี้จัดเป็นพระแท้,สวยสภาพเดิมครับ

                                                เพราะว่ามีองค์ประกอบในการพิจารณาครบถ้วนทั้งพิมพ์ทรง,เนื้อหามวลสารและด้านหลังซึ่งเป็นแบบหลังเรียบ

                                                  คราบเปื้อนต่างๆที่ปรากฏดูคล้ายๆพระสมเด็จฯของคุณ peetza นะครับ คุณPanupong ลองย้อนกลับไปอ่าน

                                                             และดูรูปเพื่อเปรียบเทียบนะครับ

ขอบคุณมากมายเลยครับคุณ NARUDOM บอกตามตรงเวลาคุณ NARUDOM เข้ามาตอบในกระทู้ผมรู้สึกอบอุ่น มีความหวังและแรงฮึดขึ้นมาในทันที

ไม่อยากทำลายความหวัวและแรงฮึด ของคุณเลย แต่ผมมองว่าอย่างมากก็แค่พระเกจิยุคหลังครับ

ไม่เป็นไรครับ ถึงอย่างไรก็หวังใหม่ได้ ฮึดใหม่ได้เมื่อใจยังรักยังสู้ อย่างไรก็ขอขอบคุณที่คุณ seaman เข้ามาในกระทู้ของผม ถึงตอนนี้ผมยึดคติที่ว่า "มีศรัทธา ปาฏิหาริย์เกิด" ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆครับ

                                                         " การศึกษาและสะสมพระสมเด็จฯไม่มีวันจบหรอกครับ สักวันหนึ่งคุณ Panupong ก็จะดูเป็น

                                                           สามารถให้ความคิดเห็นแก่สมาชิกท่านอื่นๆได้ ตราบใด? ที่คุณ Panupong ยังใฝ่รู้อยู่เสมอ

                                                                           ไม่ท้อหรือท้อแต่ไม่ถอย ผมเชื่อมั่นว่าคุณ Panupong จะมีวันนั้นครับ "

ด้วยความเคารพ พระสมเด็จแท้ๆที่ผ่านตามาพอสมควร( ไม่ถึงสิบองค์  แบบแท้สากล ไปที่ไหนก็แท้ ประเภทพระพันตา) ผมเป็นศิษย์มีครูบาอาจารย์ เข้ามาตอบไม่หวังให้หมดกำลังใจนะครับ แต่ต้องการให้พี่ๆ เพื่อนๆ เล่นพระอย่างมีมาตรฐานสากล ( พระแท้ต้องขายได้ ไม่ใช่สมเด็จเล่นหากันหลักแสนหลักล้าน แต่มาขายกันแค่หลักพันหลักหมื่น)  ใครจะว่าผมยังไงผมพร้อมน้อมรับครับ ที่วิจารณ์ก็ด้วยความเป็นจริง ไม่มีอคติ ไม่โกหกหลอกลวงครับ ในอดีตผมเป็นผู้หนึ่งที่เคยนำพระของผู้หลักผู้ใหญ่ส่งเข้าประกวดตามงานใหญ่ๆ พระเก๊ที่ท่านผู้หลักผู้ใหญ่เช่าหากันหลักแสนหลักล้าน หากไม่ผ่านงานประกวด ถูกตีเก๊ ท่านเหล่านั้นนำคืนเซียน ได้ตังค์กลับเข้ากระเป๋า แม้จะโดนหักเปอร์เซนต์บ้างก็ตาม พระแท้ต้องแท้สากลครับ ..........................ด้วยความเคารพ  พระองค์นี้หากตีเป็นวัดระฆัง หรือบางขุนพรหม ไม่แท้ครับ ส่วนจะเป็นเกจิยุคหลังหรือไม่นั้น ผมไม่มีข้อมูลครับ ด้วยความเคารพครับ

                                                   ผมติดตามการตอบกระทู้ของคุณ nadgtz มาโดยตลอดเพราะคิดว่าจะได้รับ " ความรู้ " บ้างไม่มากก็น้อย

                                                         แต่สุดท้ายคุณก็ยังคงตอบเหมือนเดิม " ด้วยความเคารพครับ พระองค์นี้ไม่แท้ (ความเห็นส่วนตัว)

                                                      " พระแท้ต้องขายได้ ไม่ใช่เล่นหากันสมเด็จหลักแสนหลักล้าน แต่มาขายกันแค่หลักพันหลักหมื่น " 

                                                               อ้าว แล้วพระสมเด็จทีคุณเป็นคนนำส่งเข้าประกวดละครับ เป็นพระแท้หรือพระปลอม?

                                                                   ก. พระแท้ ถ้าแท้ทำไม? กรรมการไม่รับ  ข. พระปลอม ถ้าปลอมทำไม? ขายได้

                                                                                        คุณเป็นคนบอกเองนี่ครับ " พระแท้ต้องขายได้ " 

                                                                  คุณเป็นศิษย์มีครููบาอาจารย์ แต่ผมไม่เคยอ่านพบ " ภูมิความรู้ ที่คุณจะพึงมี

                                                     จากการสั่งสอนอบรมของครูบาอาจารย์เลยแม้แต่น้อย  หากคุณมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากผม

                                                    หรือสมาชิกท่านอื่นๆ คุณควรจะสำแดงวิชาความรู้ที่คุณได้รับการถ่ายทอดมา หักล้าง ไม่ใช่ตอบว่า

                                                                  " ด้วยความเคารพครับ พระองค์นี้ไม่แท้(ความเห็นส่วนตัว) " แล้วก็จบเพียงเท่านั้น

                                                     คุณต้องมีเหตุผลมาอธิบายประกอบกับการแสดงความคิดเห็นของคุณ  ถ้าคุณเป็นคนมีเหตุผลนะครับ

พี่ NARUDOM ครับ พี่ว่าพี่ติดตามกระทู้ที่ผมเข้ามาตอบ พี่ติดตามหมดแล้วหรือครับ บางครั้งผมก็ขี้เกียจพิมพ์ครับ ผมมีหน้าที่มีการงานที่บางครั้ง ก็ไม่สะดวกที่จะตอบโดยละเอียดครับ ด้วยความเคารพ ถ้าผมว่างหรือมีเวลา สามารถที่จะสาธยายได้ผมก็บอกหมดเปลือกครับ ทุกกระทู้ที่ผมตอบ ผมตอบโดยความเห็นส่วนตัวครับ ใครจะเชื่อหรือไม่อย่างไร ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของพี่ๆหรือบุคคลท่านนั้นครับ และพระองค์ที่พี่ว่าแท้นั้น แท้อย่างไรครับ แท้เฉพาะบุคคลหรือครับ ของผมว่าไปตามภูมิความรู้ที่มีครับ บางครั้งไม่อาจสาธยายได้ ผมไม่ได้เก่งครับ แต่ก็ไม่โกหกหรือหลอกลวงใครๆครับ หากพี่ๆหรือท่านใดที่ผมได้ตอบกระทู้ไว้ อยากทราบความจริงว่าจริงมั๊ยที่ผมว่าไม่แท้ ก็ลองส่งพระนั้นๆเข้าประกวดดูครับ งานที่ผมเชื่อว่ามีมาตรฐาน ที่ผมมักส่งพระเครื่องของผู้หลัักผู้ใหญ่ในอดีต ก็ได้แก่งานที่สามพรานครับ งานนี้ส่วนตัวผู้ใหญ่ท่านว่ามาตรฐานครับ จริงๆแล้วผมก็ได้เข้าเยี่ยมชมร้านของพี่นะครับ แต่เข้าไม่ได้ ผมไม่ทราบสาเหตุ เพราะผมเองก็น้องใหม่ ความรู้ที่แม่นที่สามารถตอบกระทู้พี่ๆหรือเพื่อนๆได้ ไม่ว่าจะโทร.ถามก็เห็นจะเป็นพระพุทโธน้อยของคุณแม่ โดยส่วนตัว ผมถนัดเนื้อผงครับมีความรู้ไม่มากครับ แต่ผมไม่ปิดบัง ไม่โกหก ไม่เอาใจใครๆครับ ผมไม่หวังชื่อเสียงใดๆครับ ถ้าเห็นว่าความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาของผม เป็นพิษ เป็นภัย ผมก็จะไม่ขอออกความเห็นอีกครับ อย่างที่ผมบอก ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆท่านใด ที่ผมเข้าไปตอบกระทู้อยากจะพิสูจน์ความจริง ก็ขอให้นำพระเครื่องนั้นๆตรวจเช็คกับทางศูนย์พระเครื่องมาตรฐาน หรือตามงานประกวดที่มีมาตรฐานดูได้ครับ ไม่ใช่อะไรก็แท้ไปหมดครับ ผมตอบทั้งแท้และไม่แท้ครับ ส่วนตัวผมอ่านเจอกระทู้ที่พี่คนไหนผมจำไม่ได้ครับ ว่าให้พยายามตอบว่าแท้ แท้อย่างไร เก๊ เก๊อย่างไร ก็พยายามครับ แต่บางครั้งไม่มีเวลาพิมพ์มากครับ ต้องขอโทษพี่ๆด้วยนะครับ   

อ้อ ผมขอตอบเป็นข้อๆ อย่างที่พี่ถามนะครับ พระแท้ทำไมกรรมการไม่รับ กรรมการนั้นๆมีจรรยาบรรณพอมั๊ย มีความรู้เท่าใด เพราะกรรมการที่รับพระนั้น บริจาคเงินไม่กี่พันบาทก็ติดโบว์เข้ารับพระได้แล้วครับ หากเรามั่นใจว่าพระเราแท้ให้โวยวายและทวงถามว่าที่ไม่รับพระของเรานั้น เพราะสาเหตุใด กรรมการกับเด็กรับพระต่างกันครับ ภูมิความรู้ต่างกัน กรรมการคือผู้ที่ตัดสินครับ ไม่ใช่ผู้ที่นั่งรับพระ ณ.โต๊ะแต่ละรายการครับ ข้อที่สอง ทำไมพระเก๊ยังขายได้ ก็ลองถามเราๆท่านๆดูครับ ว่าสมเด็จวัดระฆัง วัดเกศ หรือบางขุนพรหมนั้น เค๊าเช่าหากันราคาเท่าใด ไม่ใช่ยังเช่าหากันหลักร้อย หลักพัน ครับ ต้องคิดถึงหลักความจริงครับ ถามว่ามีสิทธิ์เจอสมเด็จในราคาถูกๆบ้างได้มั๊ย ตอบว่าได้ครับ แต่ เราแม่นแค่ไหนครับ ..........ด้วยความเคารพครับ

อ้อแล้วพระที่ผมส่งเข้าประกวดนั้น ขายไป 750000 ครับ เป็นพระสมเด็จสองคลอง ขายให้กับอาต้าบางแคครับ อีกองค์เป็นพระวัดเกศไชโย พิมพ์หกชั้นอกตันครับ ขายให้กับอาใจ ร้านจีวรศิลป์ไป 360000 บาทครับ ขายไปประมาณ 5-6 ปีแล้วเห็นจะได้ครับ มีหลักฐานการซื้อขายชัดเจนสามารถตรวจสอบได้ครับ แล้วอีกองค์เป็นพระสมเด็จอะระหัง เนื้อขาวอมเขียว พิมพ์สังฆาฏิ ขายให้กับเจ็กเปี้ย ไป 280000 บาทครับ  แค่นี้ใช่มั๊ยครับที่พี่ต้องการรู้ นี่ยังไม่หมดนะครับที่ขายไป อย่างที่ผมบอก ในอดีต ผมเป็นตัวกลางให้กับผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านครับ ด้วยความเคารพ 

เรียนคุณ Panupong ช่วยถ่ายภาพชัดกว่านี้ได้ไหมครับ  มองเห็นลางๆผมว่าพิจารณายากครับ ขอบคุณครับ

พระแท้คือการทำความดีครับ การขายพระคือค่านิยม

ผมได้เห็นเวปๆหนึ่งที่เค้าพูดถึงเรื่องเนื้อพระผมจะขออณุญาติcoppy มาให้ท่านอ่าน

Q1-ครับเพื่อนๆ อย่างที่ผมเคยเรียนว่าตัวผมเอง กำลังศึกษาพระสมเด็จฯ อยู่ในขณะเดียวกันข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมดจากทุกแหล่ง จาก หนังสือ ตั้งแต่ระดับถูก ถึง แพง นักสะสมรุ่นเก่า เซียนพระ และ คนรู้จักผม ให้ข้อมูลไม่ค่อยจะตรงกันเลย อยากจะรบกวนเวลาเพื่อน ช่วยกันให้ทัศนะการวิเคราะห์เนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง ว่าทำจากวัตถุดิบอะไรบ้างครับ

รบกวนผู้เชี่ยวชาญ (expertness) ด้านสมเด็จช่วยมา แชร์ ข้อมูลแบ่งปันผมบ้างครับ

Q2-ผมขออนุญาติให้ข้อมูลครับ สำหรับปูนเปลือกหอยครับ คือพอดีคุยเรื่องนี้กับคุณพ่อๆ ให้ความรู้ว่า สมัยก่อนตอนพ่อยังเด็กพ่อมีหน้าที่ เผาเปลือกหอยแล้วบดเป็นยาให้คุณปู่ทานเป็นยา ตามความชื่อในสมัยนั้น กรรมวิธีก็เอาเปลือกหอยใส่ลงในเตาถ่าน ผลที่ใด้คือ เปลือกหอยเป็นสีขาวสะอาดเพราะความร้อนของถ่าน และเปลือกหอยนั้นก็สามารถนำมาตำได้โดยสะดวก ขอเป็นข้อมูลหนึ่ ขอบคุณครับงนะครับ ผิดถูกโปรดพิจารณา

Q3-ขอบคุณ คุณออนที่มีข้อมูลประกอบนะครับ
ที่ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นปูนเปลือกหอย อีกสองเหตุผลคือ หนึ่งถ้าทำจากปูนเปลือกหอยแล้ว พระจะไม่แกร่ง จะ
เปื่อยยุ่ย ไม่แกร่งเหมือนปูนเพชร สองคือ หอยถือเป็นสัตว์ หรือ เดร.... อันเป็น สาเหตุที่มิบังควรจะนำมาทำ
พระตามหลักโบราณกาลที่ เทพสิง ไม่ได้ กรณีนี้ยกเว้นพวกเครื่องลาง ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไปอีกแบบหนึ่งนะ
ครับ หากท่านอื่นมีเหตุผลอื่นก็โต้แย้งได้นะครับ ผมถือว่าเรามาร่วมกันวิเคราะห์ ไม่มีใครผิดถูก หรอกครับ
เพียงแต่เหตุผลประกอบของใครฟังแล้ว น่าจะเป็นเช่นนั้น

Q4-ปูนเปลือกหอย เป็นปูน ชนิดหนื่งชื่ง คนโบราณ ได้ค้นพบ มาช้านานแล้วครับ ชื่งเถ้าของเปลือกหอยจะเปืนแป้งสีขาวค่อนข้างละเอืยด ทดลองได้โดยใช้ แผ่นอลูมิเนืยมฟอยด์ ห่อเปลือกหอยที่แห้งสนิท แล้วนำไปเผาไฟในเตาถ่านให้ได้ที่ในอุณหภูมิ ประมาณ 200~580 oC ที่ความดันปกติ (เผาในขี้เถ้าไฟ) เมื่อแกะอลูมิเนียมฟอยด์ ออกจะเห็นเป็นผงละเอ็ยดสีขาวนวล ในลักษณะของแคลเชื่ยม ไฮดรอกไชด์ Ca(OH)2(solid) หรือเร็ยกว่า slaked lime หรือปูนกินหมาก เกิดจากการแตกตัวของCa(CO)3 ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเปลือกหอย ตามสภาวะเคมี
CaCO3.H2O(compound state of animal shell) + heat ---> Ca(OH)2(s) + CO2
ในการเกิดปฐิกริยาของ เนื้อพระสมเด็จ เนื่องจากการเผาเปลือกหอยต่อเนื่องจากปฏิกริยาข้างบน ที่อุณหภูมิเกินกว่า 580 C จะทำให้เกีดปฏิกริยาต่อเนื่องเป็น

Ca(OH)2 + heat (over 580. c) CaO(s) + H 2O
หรือการเกิดปฏิกริยาตรง
CaCO3 + heat (over 470. c) CaO + CO2

ฃื่ง CaO เป็นผงแป้ง สีขาวลักษณะมันวาว ตกผลึกคืนสภาพเป็น Calcite (CaCO3)หรืออาจจะเร็ยกว่าปูนเพชรตามที่ เข้าใจ หาใช่เกิดจากเวทย์มนต์คาถาไม่ เมื่อนำ CaO มาผสมกับน้ำ ปั้นขึ้นรูปทิ้งไว้ ก็เกิดการทำปฏิกริยาคืนตัวกับ CO2, อากาศและน้ำ ทำให้เกิดการตกผลึกคืนสภาพสู่ผลึก Calcite (ลูกบาศก์หกเหลี่ยมขนมเปียกปูน) ลักษณะเหมือนคล้ายผลึกของน้ำตาล หรือเกลือ แต่คงใช้เวลานานมากๆ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในสภาวะสารละลาย ยกตัวอย่างเช่นผลึกเกลือ หากเราละลายเกลือในน้ำแล้วปล่อยให้ตกผลืก เมื่อน้ำแห้งลงก็สามารถเห็นผลืกของเกลือเป็นรูบสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ แต่หากเอาผงเกลือ (เกลือป่น) ที้งไว้ก็ต้องใช้เวลานานพอควรเพราะเม็ดเกลือต้องดูดชับน้ำจากความชื้นในบรยากาศเพื่อการแตกตัว แล้วเรียงสร้างโครงสร้างใหม่ให้เป็นผลืกเช่นเดียวกับ CaO ฃื่งมีสภาวะเสถียรกว่ามากๆ และไม่สามารถละลายในน้ำได้ และ จุดหลอมละลายสูงถืง 2900 o C สภาวะการเกิดผลึกนี้จืงเกิดได้ช้ามากๆ อาจตอ้งใช้เวลากว่า 50 ปี ในการเกีดผลืกที่ความหนา 50 micron (0.05mm )ในสภาวะปกติ เมื่อมีความชื้นเข้ามาเกื่ยวข้องและอุณหภูมิที่สูงขึ้น การเกิดปฏิกริยาก็ย่อมเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นแปรผันตรงต่อกัน

Q5-ยอดเยี่ยมครับ คุณถัง ข้อมูลคุณมีประโยชน์มากๆ ต่อการวิเคราะห์ ในแนวทางของผม และคุณรุ่นใหม่
ขอเวลาผม อ่านบทวิเคราะห์ของคุณให้ละเอียด บวกกับประสบการณ์ของผม และ คุณตาฯ และผมจะถามกลับ
ไปในส่วน ข้อสงสัย พร้อมกับ พระสมเด็จของผมที่มีผลการวิเคราะห์ ธาตุบางตัวที่แตกต่างจากที่มีในองค์แรก
นะครับผมรบกวนคุณถังเรื่องข้อมูลในเชิงโบราณคดี และความรู้คุณถังของ กระทู้ ซุ้มแดงแรงฤทธิ์ ด้วยนะครับ

Q6-เพิ่งได้เห็นกระทู้ ยอดเยี่ยมแบบนี้ ...ไม่รู้ผ่านตาไปได้งัย..

.... วิทยาศาสตร์..โกหกไม่เป็น....... แนวทางการพิสูจน์ข้อเท็จจริงแบบนี้.....น่าเชื่อถือที่สุด....

ผมรอ..วันที่ พวกเราจะสามารถ..ใช้ศาสตร์ ต่างๆที่ร่ำเรียนมา .... ..ด้วยความเพียรและยากลำบาก

เอาชนะ...ขนบ..เดิมที่ถูกสร้างไว้...ด้วย ผลประโยชน์ เกื้อหนุน..............

ด้วย กลุ่มคนที่ ...เทียบสมองกับ ความรู้ กัน ปอนด์ต่อ ปอนด์ ..ไม่ได้.. เหนือไปกว่า พวกเรา




รอวัน ทำลายความเชื่อ...ที่ถูกบังคับให้เชื่อ......"พระแท้ ต้องขายได้ "

รอวัน ทำลายความเชื่อ...ที่ถูกบังคับให้เชื่อ " พระแท้ คือพระเซียน "



ในกระทู้ นี้ ผมคงช่วยอะไร ท่าน oddy ไม่ได้มาก ..........เพราะผม เป็นนักเศรษฐศาสตร์..ที่มีความรู้ประวัติศาสตร์บ้างเล็กน้อย.......ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ ..หรือนักธรณีวิทยา ......


...แต่ถ้าจะมีการรวมตัว เป็นชมรม ..ของผู้ที่คิดอ่านแนวเดียวกัน .... มาช่วยกันใช้ความรู้ที่มีอยู่ ....ค้นหา ..ความจริง

นายรอมเมล..ยินดีร่วมมือ ..แบบไม่มีเงื่อนไข

ผมcoppyมาบางส่วนซึ่งทำให้รู้สึกว่ามีการร่วมระดมสมองเสนอแนวคิดใหม่ๆเพื่อมาใช้ในการวิเคราะห์หาเหตุและผลที่คาดว่าจะเป็นไปได้ครับ

และผมเห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า

''รอวัน ทำลายความเชื่อ...ที่ถูกบังคับให้เชื่อ......"พระแท้ ต้องขายได้ "

''รอวัน ทำลายความเชื่อ...ที่ถูกบังคับให้เชื่อ " พระแท้ คือพระเซียน "

นี่เป็นความคิดของเด็กแบบผมครับอาจจะไม่ตรงใจใครหรือขัดใจใครผมก็ขอโทษมานะที่นี้ด้วย

สมเด็จวัดระฆัง, บางขุนพรหม. เกศไชโย, หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พระจาก 4 วัดหลักนี้ จะให้แท้ต้องอยู่ที่ใครเป็นเจ้าของครับ คนธรรมดาถือขึ้นห้างไปถามเซียนพระเมื่อไหร่ รับรองครับ ไม่ถึงยุคบ้าง ผิดพิมพ์บ้าง อะไรบ้าง สรุปแล้วเก๊ เพื่อนผมเคยนำสมเด็จวัดระฆังไปให้เซียนดู เซียนบอกเก๊ แต่เซียนใหญ่คนหนึ่งคงไม่เอ่ยนามนะครับ ยังโทรมาตามจีบ ผมยัง งง อยู่เลยว่าพระเพื่อนผมแท้หรือเก๊

                                  " อย่า งงไปเลยครับคุณสุรการ มันเป็นเช่นนั้นเอง แล้วที่ เซียนใหญ่ โทร.ตามจีบหลังจากสวดแล้วก็มุขเดิมๆอีกนั่นแหละครับ

                                   ความจริงน่าจะเลิกใช้ได้แล้วนะครับ  เพราะคนเขารู้กันทั่ว  ผมเองมีเรื่องจริงไม่อิงนิยายจะเล่า(พิมพ์)ให้อ่านอยู่เหมือนกันครับ

                        เรื่องมีอยู่ว่า มีชายคนหนึ่งสัญชาติไทยเชื้อชาติจีน เดินทางจากเชียงใหม่ไปเช่าพระสมเด็จฯบางขุนพรหมจากศูนย์พระเครื่องชื่่อดังในกทม. 

                             โดยได้เช็คพระกับเซียนพระระดับนายกฯ,อุปนายกฯ ผลคือแท้ แล้วมีคนอีกคนหนึ่งมาขอเช่าพระต่อ เขาเห็นว่ามีกำไรจึงให้เช่าครับ

                         ต่อมาเขาได้เช่าพระสมเด็จฯบางขุนพรหม,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ และตรวจสอบกับเซียนพระ 2 คนเดิมผลปรากฏว่าเป็นพระแท้

                               เขาจึงติดต่อลูกค้าที่เคยเช่าพระสมเด็จฯบางขุนพรหมองค์แรกให้มาดูพระชุดใหม่ เมื่อลูกค้ามาดูแล้วได้บอกว่าไม่ชอบ(ไม่แท้)

                         ซึ่งเท่ากับว่าการลงทุนเช่าพระเพื่อหวังผลกำไรในครั้งนี้ล้มเหลว  อ่านมาถึงตรงนี้คุณสุรการพอจะนึกออกไหม?ครับ ว่าทำไม? ลูกค้า

                       จึงไม่เช่าพระหลักชุดนี้ทั้งๆที่เป็นพระที่ผ่านตาโคตรเซียน    หากยังนึกไม่ออกผมขอเฉลยนะครับ   เพราะว่าบุคคลต่างๆในเรื่องนี้เป็น

                       ทีมงานเดียวกันไม่ว่าจะเป็นเจ้าของพระในศูนย์ฯ,คนตรวจสอบพระ,ลูกค้าที่เช่าพระต่อจากคนจีน  เมื่อพวกเขาถอนทุนคืนจากที่เช่าพระ

                  ของตนเอง + กำไรเต็มๆจากการให้เช่าพระในครั้งที่ 2 ได้แล้ว พวกเขาหยุดการแสดงละครแหกตาคนจีนทันที ปล่อยให้คนจีน งง ด้วยความไม่เข้าใจ

                                                                                      (คนๆนี้ดูพระไม่เป็น แต่ชอบเช่าพระจากศูนย์พระใหญ่ครับ)

                                  " อย่า งงไปเลยครับคุณสุรการ มันเป็นเช่นนั้นเอง แล้วที่ เซียนใหญ่ โทร.ตามจีบหลังจากสวดแล้วก็มุขเดิมๆอีกนั่นแหละครับ

                                   ความจริงน่าจะเลิกใช้ได้แล้วนะครับ  เพราะคนเขารู้กันทั่ว  ผมเองมีเรื่องจริงไม่อิงนิยายจะเล่า(พิมพ์)ให้อ่านอยู่เหมือนกันครับ

                        เรื่องมีอยู่ว่า มีชายคนหนึ่งสัญชาติไทยเชื้อชาติจีน เดินทางจากเชียงใหม่ไปเช่าพระสมเด็จฯบางขุนพรหมจากศูนย์พระเครื่องชื่่อดังในกทม. 

                             โดยได้เช็คพระกับเซียนพระระดับนายกฯ,อุปนายกฯ ผลคือแท้ แล้วมีคนอีกคนหนึ่งมาขอเช่าพระต่อ เขาเห็นว่ามีกำไรจึงให้เช่าครับ

                         ต่อมาเขาได้เช่าพระสมเด็จฯบางขุนพรหม,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ และตรวจสอบกับเซียนพระ 2 คนเดิมผลปรากฏว่าเป็นพระแท้

                               เขาจึงติดต่อลูกค้าที่เคยเช่าพระสมเด็จฯบางขุนพรหมองค์แรกให้มาดูพระชุดใหม่ เมื่อลูกค้ามาดูแล้วได้บอกว่าไม่ชอบ(ไม่แท้)

                         ซึ่งเท่ากับว่าการลงทุนเช่าพระเพื่อหวังผลกำไรในครั้งนี้ล้มเหลว  อ่านมาถึงตรงนี้คุณสุรการพอจะนึกออกไหม?ครับ ว่าทำไม? ลูกค้า

                       จึงไม่เช่าพระหลักชุดนี้ทั้งๆที่เป็นพระที่ผ่านตาโคตรเซียน    หากยังนึกไม่ออกผมขอเฉลยนะครับ   เพราะว่าบุคคลต่างๆในเรื่องนี้เป็น

                       ทีมงานเดียวกันไม่ว่าจะเป็นเจ้าของพระในศูนย์ฯ,คนตรวจสอบพระ,ลูกค้าที่เช่าพระต่อจากคนจีน  เมื่อพวกเขาถอนทุนคืนจากที่เช่าพระ

                  ของตนเอง + กำไรเต็มๆจากการให้เช่าพระในครั้งที่ 2 ได้แล้ว พวกเขาหยุดการแสดงละครแหกตาคนจีนทันที ปล่อยให้คนจีน งง ด้วยความไม่เข้าใจ

                                                                                      (คนๆนี้ดูพระไม่เป็น แต่ชอบเช่าพระจากศูนย์พระใหญ่ครับ)