@@@ เกี่ยวกับลูกอมหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่@@@ - webpra

@@@ เกี่ยวกับลูกอมหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่@@@

บทความพระเครื่อง เขียนโดย somkiatthornburi

somkiatthornburi
ผู้เขียน
บทความ : @@@ เกี่ยวกับลูกอมหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่@@@
จำนวนชม : 7975
เขียนเมื่อวันที่ : อา. - 17 ก.ค. 2554 - 00:31.49
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

 

(N)

ในบรรดาวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม ไม่ว่าจะเป็นพระโลหะหรือพระผงต่างๆ ถ้าท่านทำวัตถุมงคลรุ่นใดก็ตาม ท่านจะทำอย่างพิถีพิถัน และให้ดีที่สุด โดยท่านจะทำตามตำราที่ท่านได้รับการถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์หรือถ้าท่านมีประสบการณ์อย่างอื่นที่ท่านได้ประสพพบเห็นมากับตนเอง ท่านจึงจะทำสิ่งนั้นมาประยุกต์ใช้

ผมเคยนำเอาตำรา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เกี่ยวกับวิชาลงตะกรุดมาให้ท่านดู และขอความเมตตาให้ท่านช่วยลงให้ผมไว้ใช้ 1 ดอก พอท่านดูตำราเสร็จท่านก็บอกว่า “นี่ทำได้ แต่ติดอยู่ที่ปลุกเสก ถ้าทำตามตำราจริงๆ แล้วคงจะตายเสียก่อนที่จะทำตะกรุดดอกนี้เสร็จ เพราะต้องปลุกเสกถึงหมื่นจบ” และท่านยังแย้มให้ผมฟังว่า ให้เอายันต์นี้ไปลงในแผ่นทองแดงและม้วนให้เป็นตะกรุด (ผมจึงลงไว้ 3 ดอก) แล้วให้นำไปให้หลวงพ่ออื่นปลุกเสกตามวิธีการของท่านให้ครบ 15 รูป จากนั้นจึงนำมาให้ท่านปลุกเสกอีกทีเป็นรูปสุดท้ายก็ใช้ได้เหมือนกัน

หลวงปู่ทิมเป็นพระเถระที่ชาวระยองให้ความนับถือมาก วัตถุมงคลของท่านใครมีไว้เปรียบเสมือนมีเพชรอยู่กับตัว สมัยที่ผมปฏิบัติท่านอยู่นั้น พอยามว่างหลวงปู่จะเอาผงพุทธคุณต่างๆ รวมทั้งว่านยาที่มีอำนาจอยู่ในตัวนำมาตากให้แห้ง บางชนิดถูกแดดไม่ได้ ท่านจะนำมาแขวนไว้ในห้องนอนจนเต็มไปหมด บางทีท่านฉันจังหันเช้าเสร็จแล้ว ท่านจะเอาเศษข้าวที่เหลือนำมาปั้นเป็นก้อนๆ และตากแดดไว้จนกรอบ เมื่อรวบรวมได้มากๆ หลวงปู่จะให้ หลวงตารอดและหลวงตาพูน เอาเศษข้าวที่แห้งนั้นมาบดให้ละเอียดและนำไปเก็บไว้ในห้องนอน ผมเคยถามหลวงปู่ว่า เศษข้าวนั้นหลวงปู่เก็บเอาไว้ทำไม? ท่านบอกว่าเป็นของสูงเป็นเมตตา ข้าวนี้มีคุณใหญ่หลวงนัก ทุกคนต้องอาศัยกินเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ ถ้าไม่มี เราคงแย่เหมือนกัน

ผมเคยไปกราบ หลวงพ่อทองอยู่ วัดบางเสร่ จ.ชลบุรี ไปเห็นท่านกำลังฉันเช้าอยู่ ขณะที่ท่านฉันอยู่นั้น ถ้าข้าวคำไหนที่มีรสอร่อยที่สุดท่านจะคายออกและเก็บไว้จนให้มากๆ จากนั้นท่านจึงนำไปตากให้แห้ง และนำมาสร้างเป็นพระเครื่องให้ลูกศิษย์ไว้ใช้ พระของท่านดีในด้านเมตตามหานิยม เวลานี้ในวงการพระต่างก็แสวงหากัน หลวงพ่อทองอยู่สร้างพระเครื่องไว้อยู่หลายรุ่นเช่นกัน โดยเฉพาะ พิมพ์ปิดทวาร เป็นพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

เช่นเดียวกับหลวงปู่ทิม ยามว่างท่านจะชวนผมไปเดินหลังศาลาการเปรียญ ซึ่งเดิมเป็นที่ท่านเคยเดินจงกรมของท่าน และที่นั่นจะมีต้นไม้รกรุงรังเต็มไปหมด เมื่อไปถึงแล้ว หลวงปู่จะชี้ให้ผมดูว่าต้นไม้นี้ชื่ออะไร มีสรรพคุณเป็นยาและมีคุณสมบัติประจำตัวอย่างไร? นับว่าท่านให้ความรู้แก่ผมเป็นอย่างมากทีเดียว..โดยเฉพาะ ต้นไมยราพ ท่านว่าเป็นยาเย็น นำใบมาตำและผสมกับรากไม้อีกชนิดหนึ่ง สามารถรักษาแผลที่ถูกพิษได้ ต้นไมยราพเป็นต้นไม้ล้มลุก มีหนามอยู่ในตัว เวลาใครเหยียบถูกเข้า มันจะม้วนตัวและหุบใบทันที ผมเคยถูกหนามตำจนเท้าระบมไปหมดเพราะหลวงปู่เวลาเดินไปไหน ท่านไม่ใส่รองเท้า พอผมใส่รองเท้าท่านจะพูดเปรยๆ ขึ้นมาว่า คนบ้านนอกไม่นิยมใส่รองเท้าเพราะต้องการให้เท้าได้รับไอดินไอน้ำหรือธาตุดินและธาตุน้ำเข้าสู่ร่างกายบ้าง จะทำให้ร่างกายแข็งแรง คนในเมืองไม่เคยถูกธาตุดินธาตุน้ำเลย จึงมักจะเป็นคนขี้โรคกัน พอผมได้ยินเช่นนั้นก็เกิดความละอายใจ ลองถอดรองเท้าดูบ้าง..ผลหรือครับโดนทั้งเศษหิน หนามและเศษแก้วตำจนเท้าระบมไปหมด

มีอยู่วันหนึ่ง จู่ๆ หลวงปู่ก็เรียกให้ผมไปกับท่านพร้อมนำตะกร้าติดไปด้วย เมื่อไปถึงดงไมยราพ ท่านก็เดินลุยไปที่ดงไมยราพทันที โดยไม่ให้ผมรู้ตัวผมต้องร้องด้วยความเจ็บปวดกระโดดเต้นแร้งเต้นกาเหมือนถูกผีเข้า หลวงปู่หันมามองและพูดด้วยใบหน้ายิ้มๆ ว่า “เพียรเหยียบตามรอยที่นี่เหยียบ และให้ดูว่าต้นไหนที่ใบไม่หุบ ก็ให้เด็ดยอดต้นนั้นไว้ แต่ถ้าต้นไหนใบหุบ ก็ไม่ต้องเด็ดเพราะใช้ไม่ได้” กว่าจะเด็ดได้ตามที่หลวงปู่ต้องการ ก็เล่นเอาเข็ดหลาบไปหลายวันทีเดียว

เมื่อท่านให้ผมเก็บเสร็จแล้ว หลวงปู่จะนำมาดูอีกทีหนึ่งเพื่อความแน่ใจ ผมยังแปลกใจไม่หายว่า บางต้นที่ผมเผลอเด็ดผิดไป ด้วยอารามรีบและกลัวหนามจะตำเท้า จึงทำให้เด็ดมั่วไปหมด หลวงปู่จะเลือกออกจนหมด หลังจากนั้นท่านจะนำไปตากแดดให้แห้ง ท่านบอกว่า รู้ไหมของสิ่งนี้นำมาบดเป็นผง ปลุกเสกให้ดี จะเป็นผงที่ทรงคุณค่ามีอำนาจพุทธคุณสูงทางด้านกำบังตัว..ศัตรูเห็นจะมองเป็นคนหลายคนเลยทีเดียว..

เมื่อถึงวันเสาร์ หลวงปู่จะนำผงที่ท่านเตรียมไว้คลุกเคล้าให้ทั่วในกาละมังใหญ่ โดยมี ตาแมง เป็นคนควบคุม ท่านจะให้พระและเณรมาช่วยกันปั้นลูกอม ส่วนหลวงปู่ก็นั่งปั้นด้วย สำหรับเรื่องลูกอมหลวงปู่ทิมนั้น ผมอยากจะขยายความให้ท่านได้รับทราบเสียก่อนว่า ในยุคที่ทางวัด ทางไปแสนจะลำบากมากไม่เหมือนสมัยนี้ ตอนนั้นทางวัดจะมีแต่ผ้ายันต์, ตะกรุด, ลูกอม, สิงหารา ที่แกะด้วยไม้ที่เป็นมงคลไว้แจกแก่บุคคลที่ไปทำบุญที่วัด โดยเฉพาะลูกอมหลวงปู่จะแจกให้เด็กๆ ห้อยคอไว้เพื่อกันภยันตรายต่างๆ

ลูกอมยุคแรกที่ทางวัดสร้างนั้นเป็น ลูกอมเทียน หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า “ลูกอมเทียนมัทรี” ภายในบรรจุด้วยกระดาษลงยันต์ เทียนที่นำมาหุ้มนี้ เป็นเทียนที่อยู่ในพิธีเทศน์มหาชาติ และบุคคลที่จะเก็บน้ำตาเทียนจะต้องเป็นสาวพรหมจารีที่เกิดวันเสาร์และวันอังคาร ก่อนพิธีเทศน์มหาชาติจะเริ่มขึ้น หลวงปู่จะบอกให้ลูกศิษย์คนหนึ่งคอยบอกกำกับหญิงพรหมจารีที่มาร่วมในพิธีนี้ว่าควรทำอย่างไร?

เมื่อพระเริ่มพิธีการเทศน์มหาชาติ ทางหญิงพรหมจารีจะปักเทียนเต็มไปหมดหน้ากัณฑ์เทศน์และคอยใช้ผ้าขาวป้องไปที่เทียนปักอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เทียนดับ และต้องตั้งใจฟังเสียงพระสวด พอถึงบทที่พระเวสสันดรกำลังยกลูกของตนให้เฒ่าชูชกและนางมัทรีมาเห็นเข้า เกิดการยื้อแย่งไม่ยอมให้ลูกของตนแก่เฒ่าชูชกและได้ร้องไห้ด้วยความเสียใจ ตอนนี้แหละครับ หญิงสาวพรหมจารี ที่อยู่ในพิธีจะต้องรีบเก็บน้ำตาเทียนกันใหญ่ แม้ว่าจะร้อนมือแค่ไหนก็ต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูงมาก การเก็บน้ำตาเทียนจะเก็บไปเรื่อยๆ จนพระเสร็จพิธีก็รุ่งอรุณของวันใหม่พอดี และการเก็บแต่ละครั้งจะเก็บอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องฟังเสียงพระเทศน์ในแต่ละกัณฑ์ให้เข้าใจด้วยว่า ถึงบทไหนควรเก็บ บทไหนไม่ควรเก็บ

เมื่อได้น้ำตาเทียนมาพอสมควรแล้วหลวงปู่จะรวบรวมมาใส่ไว้ในขันสำริด ภายในก้นขันท่านจะลงเลขยันต์ไว้ เมื่อถึงวันเสาร์ หลวงปู่จะนำมาตากแดดและจะต้องให้พระอาทิตย์อยู่ตรงหัวทันที ท่านจะตากไว้ประมาณ 2 เสาร์ พอถึงครั้งที่ 3 หลวงปู่จะนำมาตากแดดในวันจันทร์ เมื่อน้ำตาเทียนเริ่มอ่อนตัวลงพอที่จะนำมาแผ่บางๆ ได้ท่านจะรีบลงเลขยันต์บนน้ำตาเทียน ต่อจากนั้นท่านจะนำมาตัดเป็นแผ่นเล็กๆ กะให้พอหุ้มกระดาษที่ลงอาคมไว้ แล้วจึงนำมากลึงเป็นลูกกลมๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ ลูกอมเทียนมัทรีนี้จะสร้างไม่มากเพราะว่าจะหาสาวพรหมจารีได้แต่ละครั้งก็แสนจะลำบาก ยิ่งเป็นยุคนี้แล้วไม่ต้องพูดถึงหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก

ต่อมาท่านจึงดำริสร้างลูกอมโดยใช้ผงพุทธคุณเป็นส่วนใหญ่ ลูกอมผงพุทธคุณของท่านนั้น ท่านจะทาสีบรอนซ์ทองทับไว้อีกทีหนึ่ง จึงทำให้มีหลายสีแล้วแต่สภาพสีที่ทาไว้ ถ้าเก็บไว้นานๆ ทองที่ทามักจะหลุดติดมือเหมือนกับพระผงพรายกุมาร ลูกอมของท่านมีคุณวิเศษสูงมาก คนข้างวัดท่านเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดระยอง ชื่อ นายธง สุขเทศน์ ถูกคนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงในระยะเผาขน ปรากฏว่ายิงไม่ถูกเลยสักนัดเดียว หลังจากเหตุการณ์สงบ และได้เคลียร์เรื่องจนสงบเรียบร้อยแล้ว คนยิงเคยไปเล่าให้ผมฟังว่าเห็นนายธงนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน จึงเหนี่ยวไกหวังปลิดชีวิตทันที แต่พอมองไปที่นายธงอีกครั้งหนึ่งกลับเห็นนายธงนั่งอยู่หลายคน จนไม่รู้ว่เป็นคนไหนก็เลยยิงกราดและรีบหนี ผมยังเคยไปเที่ยวบ้านนายธงกับเพื่อนที่เป็นท่านผู้พิพากษาท่านหนึ่ง และขอดูพระทีนายธงแขวนอยู่ปรากฏว่ามีลูกอมเลี่ยมพลาสติกอยู่เพียงลูกเดียวเท่านั้น

เมื่อก่อนนี้ ใครได้ของดีมา จะทำการทดลองเพื่อให้เห็นจริงอยู่เสมอ ผมก็เช่นกันได้ชื่อว่าเป็นนักทดลองมือฉมังทีเดียว ใครบอกว่าที่ไหนดี พอถึงเวลาจะพยักหน้ากับเพื่อนที่รู้ใจ เดินไปหลังวัดหามุมเหมาะๆ เพื่อทำการทดลองทันที เท่าที่ปรากฏ ส่วนมากจะเป็นแคล้วคลาด หรือบางที่ยิงไม่ออกเป็นส่วนใหญ่ ท่านคงไม่อยากให้ลูกศิษย์หรือบุคคลที่มีของของท่านเจ็บปวดกระมัง ท่านจึงลงแคล้วคลาดอย่างเดียว ใจจริงผมอยากให้ท่านลงมหาอุดมากกว่า เพราะถึงอย่างไร? มันไม่เสียว หรือท่านผู้อ่านมีความเห็นเหมือนผมหรือเปล่าล่ะครับ

การทดลองปืนนั้น ผมเห็นมาหลายครั้งแล้ว ในครั้งนั้น นายจำลอง ทรัพย์สกุลเจริญ เจ้าของร้านทองทวีทรัพย์เคยไปกราบหลวงปู่ที่วัด รู้สึกว่าตอนนั้นนายจำลองจะไปขอเหรียญรุ่นนั่งพาน จากหลวงปู่ แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุอันใดหรือยังไม่มีฤกษ์แจก ปรากฏว่าหลวงปู่ไม่แจกให้ด้วยความโมโห นายจำลองจึงเช่าปลัดขิก-ผ้ายันต์, ลูกอมและวัตถุมงคลอื่นๆ ที่อยู่ในตู้จำหน่ายของวัด เมื่อขับรถมาถึงครึ่งทาง นายจำลองก็จอดรถและบอกผมกับลุงอิน ช่างตัดผมหลังตลาดเก่าว่า อยากจะลองของหน่อย อยากรู้นักว่า ของของท่านจะแน่แค่ไหน นายจำลองจึงเอาถุงที่ใส่วัตถุมงคล อาราธนาและแขวนไว้ที่กิ่งไม้ จากนั้นจึงใช้ปืนพกที่ติดตัวมา ยิงไปทันทีที่ถุงนั้น

เสียงปืนตังเปรี้ยง ผมถึงกับใจหายวาบคิดว่าคงพังยับเยินอย่างแน่นอน เมื่อหายตกตะลึงแล้ว จึงรีบเก็บถุงที่ใส่วัตถุมงคลขึ้นมาดู ท่านผู้อ่านเชื่อไหมครับ? ถุงที่ใส่วัตถุมงคลยังอยู่เป็นปกติดีอยู่ทุกประการ ไม่มีรอยทะลุมีแต่เขม่าปืนจับที่ถุงเต็มไปหมด ทุกคนต่างยืนงงเป็นการใหญ่ เพราะไม่ทราบว่ากระสุนปืนที่ยิงออกไปนั้นหายไปไหน หลังจากนั้นต่างคนต่างก็รีบขึ้นรถกลับระยองอย่างรวดเร็ว โดยที่ทุกคนที่อยู่ในรถนั่งเงียบกริบไม่มีใครพูดจาสนุกสนานเหมือนกับตอนขามาเลย

ผมได้เห็นอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลของท่านแล้ว เมื่อมาวัดทีใด จะเอ่ยปากขอของดีจากท่านเสมอ หลวงปู่จะหยิบลูกอมให้ผมเป็นถุงปูนใหญ่และยังกำชับอีกว่าเก็บไว้ให้ดี ในยุคก่อนลูกอมจะเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่ใครๆ ได้รับไปต่างหวงแหนเป็นพิเศษ และจะหวงยิ่งกว่าพระผงพรายกุมารเสียอีก แต่ใครล่ะ? จะทราบถึงอนาคตกาลข้างหน้าได้ ถ้าผมรู้ว่าต่อไปพระผงพรายต่อไปจะเป็นที่เสาะแสวงหาของบุคคลทั่วไป ก็คงจะขอหลวงปู่เก็บไว้ส่วนตัวสักถุงใหญ่ๆ หน่อยให้เหมือนที่ท่านให้ลูกอมแก่ผม แต่นั่นแหละครับ ถึงจะเป็นพระเครื่องหรือลูกอมของท่านก็ล้วนมีอานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ผู้ปลุกเสก ฉะนั้นไม่ว่าวัตถุมงคลใดๆ ถ้าหลวงปู่ท่านทำ ก็ใช้ได้ทั้งนั้น

เมื่อก่อนนี้ผมยอมรับว่า มีลูกอมหลวงปู่ทิมมากทีเดียว นำไปถวายท่านอาจารย์สูตร วัดเนินกระปรอก ไว้ตั้งหลายกระป๋องเพื่อให้ท่านนำไปแจกให้คนที่มาทำบุญสร้างวัดกับท่าน ลองไปถามดูก็ได้ว่าจริงหรือเปล่า? เวลาเจ้าอาวาสวัดอื่นไปขอวัตถุมงคลจากหลวงปู่ หลวงปู่จะใช้ให้ผมหยิบลูกอมในกระบุงใหญ่ในห้องของท่านใส่ในกระป๋องใบชานำไปแจกบรรดาขรัววัดต่างๆ และท่านจะพูดว่า ของอื่นมันมีทุน เขาตั้งใจจะนำมาสร้างวัด เอาอย่างนี้ดีกว่าไม่มีทุนและนี่ก็ทำเอง ป้องกันอันตรายได้เหมือนกัน

นายดำ บ้านอยู่ที่เจ็ดลูกเนิน เป็นบุคคลที่เคยไปไหนมาไหนกับผมบ่อยที่สุด นายดำเคยได้ลูกอมไปจากผม 1 เม็ด และก็นำพกติดตัวอยู่เสมอ ประสพอุบัติเหตุตั้งหลายครั้งก็ไม่เป็นไร? จนมีอยู่วันหนึ่ง นายดำได้ไปหาผมที่บ้าน บอกว่าพรรคพวกที่รู้จักกันเอาพระเครื่องไปทดลองยิงที่ข้างเขาหลวงเตี่ย เห็นพระเครื่องหลายองค์รวมทั้งเครื่องรางต่างๆ พังสนิททุกราย มีอยู่รายหนึ่ง ปรากฏว่ายิงไม่ถูก ยิงตั้งหลายนัดเหมือนพระในถุงจะเดินหนีได้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นั้น รู้สึกแปลกใจก็เลยขอเปิดถุงดู ในถุงนั้นมีเหรียญเสมาเล็ก, ตะกรุดโทนและลูกอมอยู่ 2 เม็ด และสาลิกาแกะด้วยไม้อีก 1 ตัว สืบถามเจ้าของจึงรู้ว่าเป็นของหลวงปู่ทิมพ่อได้มาเมื่อคราวไปทำบุญฝังลูกนิมิตที่วัดของท่าน นายดำจึงเกิดความสนใจ อยากจะพิสูจน์ของในคอของตนเอง ประกอบกับได้รับแรงเชียร์จากเพื่อนๆ ก็เลยปลดลูกอมออกจากคอตนเองทันที พร้อมทั้งอาราธนาบอกหลวงปู่ว่า ไม่ได้ลบหลู่ท่านเพียงแต่จะเห็นของจริง ผลปรากฏว่า ในระยะใกล้ๆ ไม่มีใครสามารถยิงลูกอมนั้นให้ถูกเลย เดี๋ยวนี้นายดำก็ยังห้อยติดคออยู่เสมอ ในระยะหลังนายดำไปได้เมียสวย ก็โดนคู่แข่งลอบยิงตั้งหลายครั้ง แต่ก็แคล้วคลาดมาเรื่อย มาระยะหลังนี้ ผมกับนายดำต่างมีธุรกิจส่วนตัว ก็เลยไม่ได้พบกันอีก คิดว่าเจอกันอีกเมื่อไหร่ จะขอถ่ายรูปมาให้ท่านผู้อ่านได้เห็นตัวจริงกันเสียที

เมื่อก่อนนี้ หลังจากหลวงปู่ได้มรณภาพได้ไม่นาน ผมกับ คุณประชา ตรีพาสัย ยังเคยเดินเช่าซื้อลูกอมจากร้านทองทวีทรัพย์มาหลายลูก ตอนนั้นลูกอมราคาแพงกว่าพระผงพรายกุมารและเหรียญเจริญพรเสียอีก เช่น ถ้าลูกอมเม็ดละ 200 บาท พระผงพรายกุมารก็ราคาประมาณ 40-60 บาทเป็นอย่างสูง เพราะตอนนั้นใครมีลูกอมของหลวงปู่ทิมต่างหวงแหนมากพอๆ กับหวงลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว แปดริ้วทีเดียว เพราะถ้าเทียบถึงอำนาจพุทธคุณก็ไม่แพ้กันเท่าไร? ลูกอมหลวงปู่ทิมเนื้อในจะมีลักษณะคล้ายพระชุดเนื้อผงของท่าน บางลูกจะมีลักษณะใหญ่เป็นพิเศษ และมีห่วงทำด้วยลวดฝังอยู่ภายในเพื่อไว้คล้องคอ หลวงปู่เคยบอกว่า ถ้าจะทำลูกอมไว้ใช้สักเม็ดหนึ่ง บางทียังทำยากยิ่งกว่าทำพระใช้เสียอีก ผมได้ยินยังรู้สึกงงๆ อยู่เหมือนกัน เพิ่งมากระจ่างเมื่อตอนที่หลวงปู่แก้วสอนเรื่องธาตุทั้งสี่ให้ผม

หลวงปู่แก้ว บอกว่า การทำลูกอมที่คุณพ่อว่าทำยากยิ่งกว่าองค์พระนั้น เนื่องจากการทำพระเครื่องนั้น ไม่ยากเท่าไรเพราะเป็นรูปองค์พระอยู่แล้ว เพียงแต่ปลุกเสกให้ใส่อาการ 32 ลงไป และทำการปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งก็ได้ผลแล้ว แต่การทำลูกอมนั้น เพราะลูกอมไม่ใช่พระเครื่องมีแต่ผงพุทธคุณล้วนๆ เวลาปลุกเสกจึงต้องตั้งนิมิตให้เห็นผงพุทธคุณนั้นสมมติเป็นองค์พระและใส่ธาตุทั้ง 4 คือดิน, น้ำ, ลม, ไฟ พร้อมทั้งหนุนด้วยแก้วมณีโชติเสร็จแล้วจึงนำมาเสกด้วยอาการ 32 อีกทีหนึ่ง หลังจากนั้นจึงนำมาปลุกเสกด้วยคาถามหาปลุกใหญ่ จนมั่นใจว่า ผงพุทธคุณนี้สามารถมีอำนาจอยู่ในตัวต่อต้านสิ่งชั่วร้ายได้ แล้วจึงลงบทพระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และก็กำกับด้วยพระพุทธคุณเป็นลำดับสุดท้ายจึงจะสมบูรณ์แบบ เมื่อท่านจะแจกใครท่านจะภาวนาบทพระพุทธคุณอีกครั้งหนึ่ง

ผมเคยเรียนถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ท่องคาถาบทไหน ท่านบอกว่า นะโม ๓ จบ
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ
อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี
ท่านบอกว่าต้องทำให้ดี เพราะของที่เราให้เขาไปนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่คอยคุ้มกันภัยให้แก่ผู้ที่นับถือนี่ ถ้าของนั้นไม่ดีจริงบาปนั้นจะตกอยู่ที่ตัวท่าน แต่ถ้าบุคคลนั้นมีของท่านหมดอายุขัยแล้ว ท่านก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน และถ้านำของของท่านไปใช้ในทางทุจริต เป็นผู้ร้ายหรือบุคคลที่ไม่ดี ของของท่านก็ไม่สามารถคุ้มได้เช่นกัน ฉะนั้นถ้าท่านผู้อ่านได้พบลูกอมหลวงปู่ทิม ก็ให้เก็บรักษาไว้เถิดครับ บางที่ลูกอมเม็ดเล็กๆนี้ จะช่วยชีวิตท่านในยามคับขัน หรือท่านจะนำไปแจกให้ลูกหลานไว้ใช้ ก็จะเป็นมหากุศลเป็นอย่างยิ่ง

ที่มาจาก วัตถุมงคลยอดนิยม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ร่มโพธิ เล่มที่ 68 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2538
โดย อาจารย์เพียรวิทย์ จารุสถิติ

 

@@@ เกี่ยวกับลูกอมหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ครับ @@@

 
 
Top