
ประวัติหลวงปู่โถน วัดเรียบทายราม อ.กุดจับ จ.อุดรธานี
บทความพระเครื่อง เขียนโดย เลิศชัย
ประวัติหลวงปู่โถน วัดเรียบทายราม อ.กุดจับ จ.อุดรธานี คำนำ เนื่องด้วยหลวงพ่ออุปัชฌาย์ โถน ฐิติวุฑโฒ เจ้าคณะตำบลกุดจับ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตร มีพระราชทินนนามว่า “ พระครูสถิตธรรมรัต” เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๐๖ นั้น ทั้งนี้ย่อมนำมาซึ่งความปิติยินดีแก่มวลศิษยานุศิษย์ ทั้งที่เป็นบรรพชิตและคฤหัสถ์ทั้งหลาย บรรดาคณะศิษย์ซึ่งงได้ร่วมกันจัดงานต้อนรับสมโภชพัดยศพระคุณท่านไปแล้วครั้งหนึ่ง บัดนี้คณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลายผู้มีความจงรักภักดีต่อท่าน จึงได้ปรึกษาหารือกันในอันที่จะจัดให้มีงานมหกรรมการฉลองสัญญาบัตรพัดยศถวายท่านอีก เพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับพระคุณท่าน การจัดงานคราวนี้คณะศิษย์ใคร่จะอำนวย หิตประโยชน์ ออกไปอีกโสดหนึ่งจึงได้จัดพิมพ์หนังสือขึ้นฉบับหนึ่ง ให้ชื่อว่า “สถิตธรรมรตานุสรณ์” แจกเป็นธรรมวิทยาทาน เพื่อเป็นการสนองปฏิการของสาธุชนทั้งหลาย ผู้มาร่วมแสดงมุทิตาจิตต่อหลวงพ่อพระครู ในการจัดทำครั้งนี้ ทางคณะกรรมการจัดงานจึงมอบเรื่องนี้ ให้เป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าจัดรวบรวมและเรียบเรียง ความจริงในเรื่องนี้ข้าพเจ้ายังไม่เคยเลยสักทีในชีวิต แต่ก็ยินดีรับทำด้วยความเต็มใจ เพราะข้าพเจ้าก็เป็นเสมือนหนึ่งว่าเป็นบุตรพรหมจรรย์ชาติของพระคุณท่าน แต่เมื่อมีโอกาสแล้ว เช่นนี้จึงจำเป็นต้องแสดงออกซึ่งความ “กตัญญูกตเวที” ถึงแม้งานนั้นจะลำบาก แต่ก็ภูมิใจที่จะจัดทำถวายท่าน แม้แต่หลวงพ่อเองก็มีความประสงค์เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุดังกล่าวนี้จึงเป็นเหตุบันดาลให้หนังสือเล่มนี้ ตกอยู่ในมือและสายตาของท่าน ดังนั้นหากหนังสือเล่มนี้ขาดตกบกพร่องประการใดหวังว่าได้รับความเมตตา อภัยจากท่านผู้อ่านเป็นอย่างดีเพราะการจัดรวบรวมและเรียบเรียง หนังสือครั้งนี้เป็นเวลากระชั้นชิดเหลือเกิน และขอให้ท่านผู้ได้รับหนังสือเล่มนี้ จงประสบแต่ความสุขความเจริญไพบูลย์ในพระพุทธศาสนาทุกเมื่อเทอญ ฯ พระมหาสงค์ ถาพร 12 วัดมัชฌิมาวาส อุดรธานี 21 กุมภาพันธ์ 2509 ท่านพระครูสถิตธรรมรัต นามเดิมชื่อ โถน จันดาพรหม เกิดวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๘ เป็นบุตรคนที่ ๒ ของนายจันดา-นางบุตร จันดาพรหม เกิดที่บ้านจำปา ตำบลเชียงพิณ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี มีพี่น้องร่วมท้องแห่งมารดาเดียวถึง ๖ คนด้วยกัน ดังมีรายชื่อดังต่อไปนี้ ๑. นางนา จันดาพรหม ๒. นายโถน จันดาพรหม ๓. นางหนู จันดาพรหม ๔. นางแดง จันดาพรหม ๕. นางดำ จันดาพรหม ๖. นายชาลี จันดาพรหม ปัจจุบันนี้ยังมีชีวิตอยู่ ๓ คน คือ ลำดับที่ ๒,๓,๔ ส่วนนอกจากนี้ได้ถึงแก่มรณกรรมไปแล้ว ครั้นจบการศึกษาชั้น ป.๔ เมื่ออายุได้ ๑๒ ปี ตรงกับวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๐ ได้บรรพชาเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา ที่วัดขามเรียนบ้านจำปา โดยมีพระอธิการหล้า เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วก็ได้พำนักศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และได้ฝึกหัดอ่านหนังสือธรรม และหนังสือขอมในสำนักนี้ จึงเป็นที่พึงพอใจแด่ครูบาอาจารย์เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์ ก็ได้อุปสมบท เป็นภิกษุภาวะในพระพุทธศาสนานามว่า (ฐิติวุฒโฑภิกขุ) โดยมีท่านพระครูพุทธพจนประกาศ เป็นพระอุปัชฌาย์ (ปัจุบันได้เลื่อนเป็นพระเทพวิสุทธาจารย์) และมีอาจารย์ไชย์ เป็นกรรมวาจาจารย์ มีพระอาจารย์สุภีร์ เป็นอนุสาวนาจารย์ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๑ พ.ศ. ๒๔๗๗ สอบ น.ธ. ตรีได้ จากสำนักเรียน วัดมัชฌิมาวาส จังงหวัดอุดรธานี โดยมีท่านอาจารย์เฉื่อยเป็นอาจารย์สอน พ.ศ. ๒๔๘๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบรมสมภรณ์ บ้านหนองโน พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้รับแต่งตั้ง เป็นเจ้าคณะตำบลกุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เพื่อสะดวกในการปกครองและเหมาะสม ญาติโยมทั้งหลายก็อาราธนานิมนต์ มาจำพรรษา ณ วัดเรียบทายราม จนปัจจุบันนี้ พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ประจำสำนักวัดเรียบทายราม พ.ศ. ๒๔๙๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ประจำเขตตำบลกุดจับ จนถึงปัจจุบันนี้ พ.ศ. ๒๕๐๖ ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตร มีนามว่า “ พระครูสถิตธรรมรัต”
การก่อสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ นับตั้งแต่หลวงพ่อพระครูสถิตธรรมรัตได้ย้ายออกจากสำนักศาสนาศึกษาวัดมัชฌิมาวาส ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย บ้านหนองโน นั้นเป็นเวลา ๔ ปี แต่หลวงพ่อพระครูเห็นว่าสถานที่วัดนี้แคบนัก จึงได้พาญาติโยมไปทำการ ปราบเนื้อที่ทางด้านตะวันตกของบ้านหนองโน และมีหนองน้ำมหึมาอยู่ทางทิศเหนือของวัด ท่านเห็นว่าน้ำนี้พอจะได้ความร่มเย็น เป็นสุขแก่พระภิกษุสามเณร ตลอดถึงญาติโยมได้ตลอดฤดูกาล ท่านจึงได้ทำการย้ายวัดไปตั้งที่ดังกล่าวซึ่งได้นามว่า “ วัดบรมสมภรณ์ ” สืบมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้วท่านมีศิษย์พอที่จะไว้วางใจได้ จึงได้ขอแต่งตั้ง เจ้าอาวาสให้อาจารย์ครูทิพย์ อานนโท ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสแทน และในขณะเดียวกันท่านก็ได้แต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลกุดจับ จึงได้รับอาราธนานิมนต์จากญาติโยมชาวบ้านโสกแก เพื่อจะได้ไปขยายศาสนกิจและอบรมสั่งสอนญาติโยมในละแวกนั้น ให้วิวัฒนาการเจริญยิ่งๆขึ้น นับว่าเป็นความคาดฝันที่เป็นจริงและน่าอนุโมทนาสาธุการอีกเป็นอย่างมาก เท่าที่หลวงพ่อพระครูได้มาบำเพ็ญศาสนกิจที่วัดเรียบทายรามอีกเป็นวาระหนึ่ง ท่านก็ไม่นิ่งนอนใจอะไรเพราะว่า การย้ายร่าง สร้างใหม่มันยากง่ายเพียงไรและแค่ไหนนั้น ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องอธิบาย แต่ผู้อ่านก็คงจะทราบดีและในเขตนี้กันดารเสียสิ้นดี การจัดหาอุปกรณ์การก่อสร้างก็ลำบาก เพราะไกลจากตัวจังหวัด ตั้ง ๒๐ กิโลเมตร ทางก็แสนธุระกันดาร ถึงกระนั้นหลวงพ่อพระครูท่านก็ยังอุตส่าห์ พยายามบุกบั่นอบรมญาติโยมให้กลมเกลียวกันสร้างวัดเรียบทายราม และจัดสร้างกุฎิและศาลาการเปรียญให้เพียงพอแก่พระภิกษุสามเณรตามความต้องการแล้ว ท่านยังได้จัดสร้างพระอุโบสถขนาดถาวรขึ้นหนึ่งหลัง เพื่อทำกิจสงฆ์และสังฆกรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้นแก่พระสงฆ์ ดังปรากฎแก่ตัวเราเหล่าท่านทั้งหลายอยู่ในขณะนี้ เมื่อมีสถานที่เพียงพอพำนักแก่พระภิกษุสามเณร ผู้ใคร่ปฏิบัติในแขนง “ คันถธุรกิจ ” แล้วท่านเห็นว่า ในเขตปกครองของท่านยังขาดสถานที่บำเพ็ญของผู้ที่ต้องการบำเพ็ญ “ วิปัสสนาธุรกิจ ” อยู่ ท่านก็ได้ริเริ่มสร้างวัดวิปัสสนาขึ้นแห่งหนึ่ง เมื่อเสร็จแล้วท่านเห็นว่าขาดผู้ฝึกสอน ท่านก็ถือโอกาสอำลาญาติโยมไปฝึกฝนอบรมวิปัสสนา กัมมัฏฐาน จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ พระนคร จนเป็นที่พอใจแล้วก็ได้อบรมสั่งสอนญาติโยมสืบต่อมา นอกจากนั้นท่านยังได้ชักชวนญาติโยม พัฒนาการถนนหนทาง สร้างโรงเรียนประชาบาล และวัดวาอารามตั้งหลายแห่ง ตลอดทั้งสะพาน อันเป็นสาธารณประโยชน์ตั้งหลายแห่งและครั้งล่าสุด ท่านได้พาญาติโยมสร้างสะพานระหว่างบ้านหัวขัวและบ้านโสกแกที่ทำการฉลองในวันวานนี้เอง ฯ ดังนั้นในการงานทุกอย่าง ถึงแม้จะลำบากตรากตรำเพียงใดแค่ไหนก็ไม่ละความพยายาม และนอกจากนั้นท่านยังให้กำลังใจแก่ศิษยานุศิษย์อยู่เสมอ ซึ่งยกเอาภาษิต ขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้ามา กล่าวสอนว่า “ กะยิราถะ กะยิราเถนัง ” แปลว่า ทำจริงทุกสิ่งย่อมสำเร็จ ดังข้าพเจ้าจะขอบรรยายเป็นคำกลอนอีกนิดว่า ทำอะไรทำได้จริงอย่าทิ้งขว้าง บุกบั่นถางอุปสรรคและขวากหนาม ไม่ยากนักหากว่าพยายาม จึงจะข้ามถึงจุดหมายปลายทางเอย ฯ ดังนั้น การงานที่ท่านคาดคิดไว้แล้วก็ไม่แคล้วจากความจริงดังที่ปรากฏแก่สายตาของเราอยู่ในขณะนี้ ฯ
อุปนิสัย สำหรับอุปนิสัยใจคอของท่านนั้นเล่า นับว่าท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยอ่อนโยน และเอื้ออารีต่อคนที่ไปมาหาสู่ โดยไม่เลือกขั้นวรรณะและคบง่าย เพราะท่านรู้จักกาละและเทศะนั้นเอง จึงทำให้คนคบได้อย่างสนิท และก่อนท่านจะทำจะพูดสิ่งใดท่านต้องใคร่ครวญพิจารณาอยู่เสมอ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า พุทธสุภาษิตที่ท่านยกขึ้นเป็นเบื้องต้นในการอบรมสั่งสอนคณะศิษยานุศิษย์เป็นประจำ “ นิสสัมมะ กะระณัง เสยโย ” แปลว่า ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำดีกว่า นับว่าท่านยังตระหนักอยู่ในพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยู่ในทุกระยะ ถึงแม้ในด้านทางพระวินัยแล้วท่านยังไม่เคยทำความด่างพร้อยหรือมลทินโทษอะไรเกิดแก่ตัวท่านสักทีเลย นับแต่วันบรรพชาอุปสมบทก็เป็นเวลาถึง ๔๙ ปีนี้แล้ว ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย จึงนิยมสมภรณ์พลอยอนุโมทนาสาธุการ ตามรักษาตัวของท่านอยู่เป็นประจำ ซึ่งเราเคยได้ยินได้ฟังอยู่เสมอว่า คนผู้มิจฉาชีพไม่กล้าจะเอาสิ่งของๆ ท่านไปให้ถึง แม้เอาไปแล้วก็ตามมาส่งคืนเช่นเคย ดังนั้น คณะศิษยานุศิษย์ของท่าน ไม่ว่าจะเป็นบรรพชิตและคฤหัสถ์ เมื่อได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็ได้มาดับทุกข์กับท่าน ท่านก็แก้ไขได้ดังปาฏิหาริย์นี้ก็เนื่องจาก คุณความดีของท่านที่ได้บำเพ็ญมาทุกระยะตามติดปกป้องภยันตรายต่างๆ นานา จึงสมกับภาษิตที่องค์สมเด็จพระศาสดาได้ตรัสแก่เวไนยสัตว์ ว่า “ ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจารึ ” แปลว่า ธรรมแลย่อยรักษาคนผู้ประพฤติธรรม ข้าพเจ้าในฐานะคณะศิษย์คนหนึ่ง ของท่านพระครูขออ้างอิงเอาคุณพระศรีรัตนตรัย จงคุ้มครองปกป้องรักษา หลวงพ่อพระครูตลอดถึงคณะศิษย์ทั้งหลายที่มาแสดงมุทิตาจิต และยังมิได้มา จงนิราศปราศจากโรคาพยาธิภัย และจงให้ประกอบไปด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ทุกประการเทอญ ฯ พิมพ์ที่ ร.พ. เลี่ยงเซียงจงเจริญ ๒๕๓ บำรุงเมือง พระนคร นายเตียวจุ๊ย ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ๒๕๐๙
เลิศชัย พูนทวีสิน ผู้เรียบเรียงนำเสนอขึ้น internet ศึกษาในร้านเลยครับ บังเอิญหน้านี้ไม่มีลิ้งค์เข้าร้าน ทำตามนี้ครับ 1.ไปคลิกที่ ร้านค้า (จะด้านบนของหน้านี้) จะมีหน้าต่างใหม่
2.ให้ไปที่ ค้นหาร้านค้าด่วน อยู่ตรงซ้ายมือ กลางๆหน้า
3.พิมพ์คำว่า เลิศชัย จะปรากฎชื่อร้าน
4.ให้คลิกเม้าส์เข้าไปในร้านเลยครับ.
....ขอให้มีความสุขกับการศึกษานะครับ...
\
|
