
หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว และวัตถ่มงคลรุ่นต่างๆ
บทความพระเครื่อง เขียนโดย แม่ทองใบ
บทความ : หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว และวัตถ่มงคลรุ่นต่างๆ
จำนวนชม : 1812
เขียนเมื่อวันที่ : ส. - 24 ก.ย. 2554 - 17:33.08
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : ส. - 24 ก.ย. 2554 - 17:41.18
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)
หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว เป็นพระเถราจารย์อีกท่านหนึ่งที่แก่กล้าด้วยฌานสมาธิ เชี่ยวชาญเรื่องพระเวทย์ มีความสามารถในการสร้างตะกรุดตามแบบตำราพระพิชัยสงคราม จนเลื่องชื่อ เพราะตะกรุดของท่านนั้นล้วนมีประสบการณ์ในเรื่องปกป้องคุ้มครอง ผู้ที่พกไปแล้วเกิดความคงกระพันชาตรี เป็นที่อัศจรรย์ รวมทั้งพระเครื่องและวัตถุมงคลชนิดต่าง ๆ ที่ท่านปลุกเสกก็ล้วนแต่มีอภินิหารต่อผู้นำไปบูชาด้วยความเคารพทั้งนั้น
ประวัติหลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ (หลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว)
หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว อมตะเถราจารย์เพียงผู้เดียวในแผ่นดิน ที่มีเขี้ยวแก้วปกาศิตกลางเพดานปาก กลวงปู่กาหลงท่านเกิดเมื่อ วันเสาร์ เดือนยี่ มะแม พุทธศักราช 2461 ที่ปทุมธานี คลอง 7 ท่านจึงเป็นชาวปทุมธานีโดยกำเนิด เล่าว่าก่อนหลวงปู่เกิดได้มีชายคนหนึ่งชื่อ “ลุงบาง” มีอาชีพหาปลาอยู่แถวบ้านของหลวงปู่ คืนหนึ่งที่แกออกหาปลาตามปกติ แกเห็นว่ามีดวงไฟลูกหนึ่งลอยลงมายังหน้าบ้านของหลวงปู่ จากนั้นดวงไฟดังกลาวกลับเปลี่ยนเป็นพระฤาษีตนหนึ่งจูงเด็กน้อยเข้าไปในบ้านของหลวงปู่ เมื่อลุงบางเห็นสิ่งที่มหัศจรรย์ดังนั้นแกจึงยกมือขึ้นไหว้ด้วยความอัศจรรย์ใจพร้อมทั้งเกิดความศรัทธาในนิมิตที่ตนเองเห็น จึงตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ตนเห็นว่าหากเด็กในบ้านนี้เกิดเป็นผู้ชาย แกจะเลิกหาปลาโดยเด็ดขาด เวลาต่อมาโยมแม่ของหลวงปู่ก็คลอดลูกมาเป็นเด็กผู้ชายจริง ๆ และตั้งชื่อว่ากาหลง ส่วนลุงบางก็เลิกหาปลาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แต่ก็เก็บเรื่องนี้ไว้มิได้บกกล่าวแก่ผู้ใดให้รู้ ในระหว่างที่หลวงปู่ยังเด็ก ลุงบางผู้นี้ก็ไม่เคยเข้ามาหา มาคุยด้วยเลย คงมองหลวงปู่อยู่ไกล ๆ เท่านั้น อุปนิสัยแต่เล็กมา หลวงปู่กาหลงก็เป็นผู้ใฝ่ใจในพระพุทธศาสนาและมีจริตชอบเรื่องคาถาอาคมมาแต่ยังเยาว์ ท่านชอบไหว้พระ ไปวัดกับมารดามาโดยตลอด ไม่มีจิตผูกพันทางโลกเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป และทั้งยงชอบในการนั่งสมาธิภาวนา ซึ่งผิดวิสัยกับเด็กในวัยเดียวกันเป็นอย่างมากแสดงให้เห็นวาสนาแต่อดีตชาติว่า ท่านเป็นผู้ที่สะสมวาสนาทางเนกขัมมะมาเป็นอย่างดี และผนวกเข้ากับตอนแรกเกิดนั้นก็มีคนเห็นฤาษีจูงเด็กเข้ามาในบ้านจึงเชื่อแน่ว่า ฤาษีเป็นผู้นำท่านมาเกิด และเป็นการบ่งบอกว่าท่านย่อมมีวาสนาผูกพันกับนักบวชวิทยาอาคม อันเป็นลักษณะแห่งองค์ฤาษีนั่นเอง หลวงปู่กาหลวงบวชเมื่ออายุได้ 20 ปี ซึ่งถือเป็นเกณฑ์เมื่อมีอายุครบบวช โดยหลวงปู่ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดนาบุญ คลอง7 ปทุมธานี ในวันที่หลวงปู่กาหลงบวชนี่เอง ลุงบางผู้ได้เห็นนิมิตประหลาดตั้งแต่ก่อนที่หลวงปู่จะบวชก็มาเล่าให้พระอุปัชฌาจารย์ของหลวงปู่ฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ลุงบางปิดเอาไว้นานถึง 20 ปีมาแล้ว และตั้งแต่นั้นมาลุงบางก็กลายเป็นโยมอุปัฏฐากหลวงปู่อย่างใกล้ชิดท่านหนึ่ง ภายหลังที่หลวงปู่กาหลงได้บวชที่วัดนาบุญแห่งนี้แล้วท่านได้จำพรรษาที่นี่เรื่อยมาตอนที่ท่านอยู่คลอง7 แห่งนี้ได้ร่ำเรียนวิทยาคมกับ หลวงพ่อเนียมและหลวงพ่อซึ้ง ซึ่งทั้งสองท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดนาบุญ คลอง7 จนมีความชำนาญในการเข้ากรรฐาน และวิชาอาคมต่าง ๆ เมื่อท่านเริ่มมีวิทยาคมแล้วช่วงเวลาดังกล่าว ได้เริ่มสร้างโบสถ์โดยนำรายได้จากการสักยันต์บ้าง ทำตะกรุดบ้างรวบรวมเป็นเงินค่าก่อสร้าง เล่าว่าตอนนั้นมีพวกกรมการวัดร่วมกันโกงเงินที่ท่านหามาได้ทำให้การสร้างโบสถ์ล่าช้า ที่สุดหลวงปู่กาหลงให้กรรมการวัดทุกคนดื่มน้ำสาบานว่าหากสุจริตจริงขอให้บังเกิดแต่ความเจริญ หากไม่สุจริตคิดคดโกงเงินวัดแล้วไซร้ให้มีอันเป็นไป ผลปรากฏว่ากรรมการทุกคนที่โกงเงินท่านบังเกิดอาถรรพณ์ร้ายนับแต่บัดนั้นประสบอุบัติเหตุตายโหงทุกคนจนคนที่เหลือต้องมากราบขอขมาหลวงปู่เอาเงินมาคืนด้วยความกลัวและยอมรับในการกระทำผิดทุก ๆ อย่าง
จนเมื่อถึงปี พ.ศ. 2505 ท่านได้ย้ายไปอยู่ที่วันในอำเภอพัฒนานิคม จ.ลพบุรี ที่นี่ท่านก็ได้สร้างโบสถ์อีกหลายหลังสำเร็จไปด้วยดี
ปี 2515 ท่านจึงได้ย้ายมาอยู่ที่ วัดเขาแหลม อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว และตั้งใจว่าท่านจะมาสร้างโบสถ์ที่นี่เป็นหลังที่ 9
การศึกษาวิชาอาคม
หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ในอดีตที่มีกฤติยาคมสูงและเป็นที่ขึ้นชื่อในยุคสมัยก่อนหลายต่อหลายท่านอาทิเช่น 1.) หลวงพ่อเนียม วัดนาบุญ วิชาของท่านนั้น เด่นทั้งเรื่องเมตามหานิยมและวิชาคงกระพันชาตรี แต่โดยมากจะร่ำลือเรื่องหนังเหนียวคงกระพันมากที่สุด นอกจากนั้นท่านยังเก่งเรื่องการไล่ผีอีกด้วย เล่าว่าหลวงพ่อเนียม วัดนาบุญนั้นหากเอ่ยชื่อท่านที่ไหนผีที่ว่าดุ ๆ จะขยาดกลัวหนีหายไปสิ้น ทั้งนี้มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเนียมท่านถูกเจ้าพ่อเขาตกลองวิชา เจ้าพ่อเขาตกเป็นดวงวิญญาณที่มีฤทธิ์มาก เป็นชั้นเจ้าพ่อ ไม่ใช่ภูตผีปีศาจทั่วไป เจ้าพ่อเขาตกเข้าสิงคน โดยไปซ่อนตัวอยู่ในเส้นผม แต่ด้วยความแก่กล้าทางฌานสมาบัติย์ของหลวงพ่อเนียม ท่านก็รู้ได้ว่าเจ้าพ่อเขาตกซ่อนตัวอยู่ในผมเส้นไหน เท่านั้นแหละหลวงพ่อเนียมใช้เข็มทิ่มลงไป จนเจ้าพ่อเขาตกต้องยอมแพ้ แสดงให้เห็นว่าครูบาอาจารย์สมัยก่อนนั้นเก่งจริง ๆ และกิตติศัพท์ของหลวงพ่อเนียม ลองเอ่ยชื่อหลวงพ่อเนียมวัดนาบุญดู จะเห็นผลว่าผีที่ว่าดุ ๆ จะหนีไปสิ้น 2.) หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง ท่านนี้เก่งเรื่องคงกระพันและโชคลาภ 3.) หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม หลวงพ่อแช่มเป็นพระที่แปลกกว่าชาวบ้าน เป็นผู้สำเร็จฌานชั้นสูง มีวิชาแปลก ๆ หลายอย่าง ผู้ที่จะเป็นศิษย์ท่านได้ต้องอดทน ทำงานรับใช้ท่าน ท่านจึงค่อย ๆ สอนพระคาถา ของขลังของท่านมักมีอานุภาพเรื่องคุ้มครองป้องกัน เป็นมหาอุดหยุดกระสุน หยุดระเบิดได้ 4.) หลวงพ่อซึ้ง ท่านนี้เป็นพระอาจารย์ที่หลวงปู่นับถือมาก ได้ออกเหรียญของท่านไว้ด้วย โดยหลวงปู่กาหลวงเป็นผู้ปลุกเสกเอง ท่านเล่าว่าหลวงพ่อซึ้งท่านนี้เก่งเรื่องอาคม โดยเฉพาะทางหนังเหนียวคงกระพัน
5.) หลวงพ่อหวน วัดประดิษฐ์สุวรรณาราม ซึ่งเก่งด้านปลัดขิกท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อยิดและเป็นอาจารย์ของหลวงปู่กาหลง เคยธุดงค์ไปด้วยกันทั้งสามท่านได้วิชาปลัดขิกกันมา จึงกล่าวได้ว่าทั้งหลวงปู่กาหลงและหลวงพ่อยิดเป็นศิษย์สำนักเดียวกันและทั้งสองท่านคือหลวงพ่อยิดและหลวงปู่กาหลงยังมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกนี้องกันอีกด้วย โดยหลวงปู่กาหลงจะเป็นผู้พี่ ส่วนหลวงพ่อยิดจะเป็นผู้น้อง โดยท่านทั้งสองจะเรียกอย่างกันเอง หลวงปู่กาหลงจะเรียกหลวงพ่อยิดอย่างสนิทปากด้วยตวามคุ้นเคยว่าไอ้ยิด ส่วนหลวงพ่อยิดจะเรียกหลวงปู่ว่าหลวงพี่ ปีหนึ่ง ทั้งหลวงพ่อยิดและ หลวงปู่จะอาบน้ำหนเดียวคือ ตอนสงกรานต์เท่านั้น หลวงพ่อยิดจะเป็นเกจิอาจารย์ที่เก่งทางด้านการสร้างปลัดขิก ส่วนหลวงปู่กาหลงจะเก่งทางด้านสร้างตะกรุด 6.) หลวงพ่อกาล วัดโคกโพธิ์ เก่งด้านการเสกหมาก
7.) พระอาจารย์รส ท่านนี้เป็นศิษย์สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระอาจารย์รสผู้นี้ความจริงเป็นรุ่นน้องหลวงปู่ แต่ว่ามีวิชาอาคมสูง ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนวิชากัน
8.) พระอาจารย์ตื้น ท่านนี้เป็นเพื่อนกับหลวงปู่กาหลงเช่นกันเรียนการทำผงพระพุทธคุณกับพระอาจารย์รส เล่าว่าตอนที่ท่านเข้าสมาธิเขียนอักขระเลขยันต์นั้น อยู่ ๆ ท่านก็หายตัวไป 7 วันศิษย์มาตามตัวก็ไม่เห็น ไม่รู้ท่านหายไปไหน ที่สุดพอเงยหน้าขึ้นไปบนเพดาน จึงเห็นว่าพระอาจารย์ตื้นกำลังเข้าสมาธิ และด้วยกำลังฌานสมาบัติของท่านทำให้ร่างกายของท่านสามารถชนะแรงโน้มถ่วงของโลก ลอยขึ้นไปกลางอากาศ จนติดกับเพดานได้อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อลูกศิษย์อาราธนาท่านลงมาแล้ว ท่านยังพูดติดตลกว่าถ้าท่านทำสมาธิในที่กลางแจ้งคงลอยไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ตอนที่ท่านอาจารย์ตื้นจะมรณภาพได้สั่งกับบันดาลูกศิษย์ไว้ว่าเมื่อท่านสิ้นแล้วให้ผ่ากะโหลกท่าออก ภายในจะพลพระวิเศษให้นำไปแจกจ่ายกันเป็นของดีปรากฏว่าเมื่อท่านมรณภาพลงลูกศิษย์ได้ทำตามท่านทุกประการ เมื่อผ่ากะโลกออกมาก็พบพระเครื่ององค์เล็ก ๆ เป็นเนื้อดินอยู่ภายในกะโลกท่านอย่างอัศจรรย์ ไม่มีใครรู้ว่าพระอาจารย์ตื้นคงสำเร็จสมาธิชั้นสูงแล้วอย่างแน่นอน |