...."( หนึ่งในสุดยอดพระเครื่องยุครัตนโกสินทร์ )".... - webpra

...."( หนึ่งในสุดยอดพระเครื่องยุครัตนโกสินทร์ )"....

บทความพระเครื่อง เขียนโดย ngamkamol

ngamkamol
ผู้เขียน
บทความ : ...."( หนึ่งในสุดยอดพระเครื่องยุครัตนโกสินทร์ )"....
จำนวนชม : 6370
เขียนเมื่อวันที่ : พ. - 02 พ.ย. 2554 - 14:54.05
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

...ในช่วงนี้ต้องยอมรับว่าวัตถุมงคลของสตรีนักบุญท่านนี้ดังมาก ในสมัยก่อนพระเครื่องและเหรียญต่างๆ โดยทั่วไปผู้สร้างมักเป็นบุรุษเพศผู้ดำรงในธรรมอยู่ในศีล แต่สำหรับ "พระพุท โธน้อย" นั้นสร้างโดย "แม่ชีบุญเรือน โตง บุญเติม" ซึ่งเป็นสตรีเพศผู้เปี่ยมด้วยคุณงามความดี มีคุณธรรมและเมตตาธรรม รักการทำบุญสร้างกุศล ชอบไปนั่งฟังเทศน์ฟังธรรมและปฏิบัติธรรมตามวัดวาอารามต่างๆ โดยเฉพาะที่วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ

ปัจจุบันวัตถุมงคลของแม่ชีบุญ เรือนได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะ "พระ พุทโธน้อย" พิมพ์จัมโบ้ เนื้อขาว สร้างปี 2494 สนนราคาเล่นหาหลักแสนขึ้น แม่ชีบุญเรือนเป็นผู้นำในการจัดตั้งคณะผู้ร่วมบุญในนาม "คณะสามัคคีวิสุทธิ" ซึ่งช่วยเหลืองานบุญงานกุศลต่างๆ ตลอดจนรักษาโรคภัยไข้เจ็บนานัปการด้วยอำนาจพระพุทธคุณแก่ทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่เลือกชั้นวรรณะด้วยความเสียสละอันยิ่งใหญ่และยึดถือหลักการบริจาคและการ ให้เป็นหลักสำคัญ

...พระพุทโธน้อยเป็นพระเครื่องขนาดเล็กที่แม่ชีบุญ เรือนสร้างขึ้นและอธิษฐานจิตให้ไว้แก่วัดอาวุธวิกสิตาราม ตำบลบางพลัดนอก ธนบุรี เมื่อปี 2494 เมื่อคราวช่วยสร้าง "พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี" พระประธานวัดสารนารถธรรมาราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ได้อนุญาตให้ "พระอาจารย์สงวน โฆสโก" เจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตารามในขณะนั้น ซึ่งเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันจัดสร้างพระพุทโธน้อย เพื่อแจกจ่ายแก่คณะผ้าป่าสามัคคี ปี 2494 แม่ชีบุญเรือนได้อนุโมทนาและอธิษฐานธรรมให้พร้อมทั้งขอให้สร้างเผื่อให้ด้วย จำนวนหนึ่ง เพื่อที่จะถวายพระมหารัชชมังคลาจารย์ วัดสัมพันธวงศ์ ซึ่งเป็นอาจารย์อีกด้วย

สำหรับพระพิมพ์นี้ ตามประวัติ คุณแม่บุญเรือนได้ถวายให้ท่านเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ในปี 2494 จำนวน 2000 องค์ เพื่อนำมาแจกในงานฉลองพระประธานพระอุโบสถ วัดสารนาท จ.ระยอง ในปี 2499 (วัดสารนาท เป็นวัดที่เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ดำริให้สร้างขึ้น) โดยมีคุณแม่บุญเรือนเป็นประธานในการจัดสร้างพระประธาน "พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี" หรือ"พระพุทโธใหญ่" ซึ่งพระชุดนี้ ได้รับการปลุกเสกถึง 3 ครั้ง คือ
1. คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานจิตที่วัดอาวุธ ปี2494
2. พิธีพุทธาภิเษก พร้อมพระสมเด็จมงคลมหาลาภ ที่วัดสัมพันธวงศ์ เดือนก.พ. ปี2499 โดยคุณแม่บุญเรือน อธิษฐานจิต ร่วมกับพระเกจิอีกมาก
3. พิธีพุทธาภิเษก พร้อมพระสมเด็จมงคลมหาลาภ ที่วัดสารนาท จ.ระยอง เดือน มี.ค.ปี2499

...ใน ครั้งที่3 พระเครื่องชุดนี้ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ที่พระอุโบสถวัดสารนาถธรรมาราม อ.แกลง จ.ระยอง ถึง18วัน18คืน พระคณาจารย์ปรกเป็นพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านอาจารย์สิงห์ ขันตะยาคะโม,อาจารย์ฝั้น อาจาโร,ท่านอาจารย์กงมา จิรปุญโญ,ท่านอาจารย์พระอริยคุณาธาร ปุสโส,ท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร,ท่านอาจารย์สีโห,ท่านอาจารย์จันทร์ เขมปตโต,ท่านอาจารย์ตื้อ,ท่านอาจารย์อ่อน ญานสิริ,ท่านอาจารย์วัน อุตตะโม,หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม,หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล ฯลฯ ประมาณ 30รูป หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง รวมถึงหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่...พระมหารัชมังคลาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์(ประธานในพิธี) หลวงพ่อลี วัดป่าคลองกุ้ง ประสานงานนิมนต์พระเกจิอาจารย์สายกรรมฐาน อธิษฐานธรรมโดย แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ประกอบพิธีบรรจุมนต์ โดย โยคี ฮาเร็บ (อาจารย์ชื่น จันทร เพ็ชร) และพ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ ผู้มีชื่อเสียงในขณะนั้น และพระคณาจารย์นอกสายคือพระวรพรต ปัญญาจารย์ วัดอรัญญิการาม ชลบุรี (พระเครื่องชุดนี้ในพิธีมีการสวดลัคขี คือบทพระพุทธคุณหนึ่งแสนจบ อีกด้วย)

...โบสถ์ วัดสารนาถธรรมารามนี้กว้างใหญ่มากขนาดฐานพระประธานก็เท่ากับโบสถ์ ธรรมดาหนึ่งหลังแล้ว ขณะประกอบพิธีได้ประมาณ 7 วัน โคมไฟติดเพดานเกิดล่วงหล่นลงมาในระดับสูงและเป็นโคมแก้วแต่ก็ไม่แตกเสียหาย นับเป็นอิทธิวัตถุที่ทรงพลังยิ่งใหญ่แห่งยุครัตนโกสินทร์ แต่ของดีมันอาภัพ พลังคุ้มครองทางแคล้วคลาดสูงมากไม่แพ้พระรอดมหาวัน เมื่อใช้กรรมวิธีทางปรจิตตรวจดูทางในปรากฎนิมิตเป็นพระพุทธรูป กั้นด้วยนพปดลเสวตฉัตร(มหาเสวตฉัตรเก้าชั้น)ซึ่งไม่เคยพบในพระสมเด็จและวัด ใดๆ นอกจากพระพิมพ์ซึ่งเสกโดยพระโลกอุดรหรือหลวงพ่อดำผู้เหาะเหินเดินฟ้า อาจารย์ของหลวงพ่อโพรงโพธิ์ และหลวงพ่อโพรงโพธิ์เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่าและหลวงพ่อเงิน บางคลาน

...พูดง่ายๆก็คือ พระพิธีนี้ เป็นการผนึกกำลังของพระสาย"เกจิ"และ"อริยะ" ระดับสุดยอดมากเป็นประวัติการณ์ ยิ่งกว่า"พระ 25 ศตวรรษ"เสียด้วยซ้ำ (พระ 25 ศตวรรษจะมีสายวิทยาคมเสียโดยมาก แต่สายกรรมฐานมีน้อยกว่า และเสกกันเพียง 3 วัน และครั้งเดียวที่วัดสุทัศน์เท่านั้น)...เป็นพระที่ตรวจพบว่าอยู่ในชั้นนพปด ลเสวตฉัตรเช่นเดียวกับพระหลวงปู่ใหญ่พระ ครูโลกอุดร แต่รังสีไม่ใช่ทองคำเป็นสีเขียว เรื่องแคล้วคลาดอย่าบอกใครด้วยฤาษีนารอทท่านนั่งมองอยู่ ไม่ต้องเที่ยวแสวงหาพระรอดมหาวันให้เหนื่อยยาก

...ด้วยเหตุดังกล่าว มา พิธีพุทธชัยมังคลาภิเษกพระประธานวัดสารนาถธรรมารามในครั้งนั้น จึงเป็นพิธีที่เหมือนจะเป็นการ"ประลองฤทธิ์"กันแบบสุดๆระหว่าง "ท่านพ่อลี วัดอโศการาม" พระอริยเถระผู้ยิ่งด้วยบุญฤทธิ์ เป็น"เจ้าพิธีฝ่ายบรรพชิต" กับ"คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม" ยอดหญิงอริยะผู้ยิ่งด้วยอิทธิฤทธิ์เป็น"เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส" อีกทั้งพระอริยคณาจารย์ชั้นสุดยอดที่ได้รับอาราธนานิมนต์ตลอดจนเทพพรหมที่ ได้เสด็จมาร่วมอนุโมทนาอย่างหาประมาณมิได้อีกต่างหากด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งในเครื่องสถิตย์แห่งพลังจิตที่ทรงมหิทธิฤทธิ์แห่งพระ อริยบุคคลผู้ทรง"อภิญญาใหญ่"ยุคกึ่งพุทธกาลทั้งโดยฝ่าย"พระ"และฝ่าย"เทพ" อย่างยอดยิ่งที่สุด หาใดเสมอเหมือนมิได้มีอีกแล้วอย่างแท้จริง.....

และที่น่าสนใจเป็นพิเศษก็คือ
จะ ว่าไป พระพุทโธน้อยหลังยันต์เฑาะว์หรือหลังเรียบซึ่งได้นำเข้าพิธีโสฬสมหาพรหมเสก พร้อมกับ"พระพุทโธใหญ่"(พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี วัดสารนาถธรรมาราม ระยอง)นี้ ให้ตกอยู่กับผู้มีบุญวาสนาพิเศษเป็นการเฉพาะเท่านั้น...แต่ก่อน คนทั่วไปแทบจะไม่เหลียวแลสนใจไยดีกับพระพุทโธน้อยหลังยันต์เฑาะว์หรือหลัง เรียบเลย เพราะถือว่าไม่ใช่หลังยันต์"พุทโธ"ตามปกติ

หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดระหารไร่ จ.ระยอง ท่านกล่าวไว้ว่า
"ยันต์เฑาะว์นี้ เป็นยันต์แก้วสารพัดนึก เป็นของวิเศษที่มีพุทธคุณสูงมาก"
"พระธรรมในพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ ล้วนสรุปรวบยอดลงในยันต์เฑาะว์ตัวเดียวนี่แหละ..!!!!!"

ลูก ศิษย์หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย นครพนมท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นหลานคุณแม่ชีแก้วเสียงล้ำ ได้เล่าให้ฟังว่า เคยเอา"พระมงคลมหาลาภ"ให้หลวงปู่คำพันธ์เสกในพิธีพุทธาภิเษกทางภาคอีสานพิธี หนึ่ง แต่หลวงปู่คำพันธ์ไม่เสกก่อนเรียกหาขันธ์ 5 มาบูชาแล้วกราบลง 3 ครั้งต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก พลางได้ตรวจพลังและใช้ญาณทัศนะอันแจ่มใสส่องย้อนอดีตดูพิธีกรรมการจัดสร้าง และผู้ร่วมพิธีอย่างละเอียดและทะลุปรุโปร่งถูกต้องแม่นยำอย่างน่าขนลุกที่ สุด ทั้งๆที่หลวงปู่ท่านไม่เคยรู้จักพระชุดนี้มาก่อนแม้แต่น้อย

"อุบาสิกา คนนี้ประเสริฐนัก อำนาจจิตหรือก็แก่กล้า ขนาดพระสายกรรมฐานอย่างเรา ก็ยังไม่แน่ว่าจะเอาเธอลงหรืออยู่มือได้..!!!!????!!!!!"
และ
"เรากำหนดจิตดูอุบาสิกาคนนี้ทีไร จะนิมิตเห็นเธอนั่งเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ทุกครั้งไป..!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
...หลวง ปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร สกลนครเล่าได้นายทหารอาวุโสชั้นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดท่านหนึ่งฟัง หลังจากหลวงปู่ฝั้นไปนั่งปรกพุทธาภิเษกที่วัดสารนาถธรรมารามเมื่อปีพ.ศ.2506 และได้พบกับคุณแม่บุญเรือนด้วยในครั้งนั้น

...ไม่รู้ว่าจะมาคำ อธิบายอะไรให้ลึกซึ้งแล้วครับ ลองหามาบูชาติดตัวดู ห้อยองค์เดียวจบ และที่บ้านก็ใช้ตั้งน้ำอธิฐานดื่มกินรักษาโรคแล้วจะบอกว่ายอดสุด-สุดยอดคร้า บบบบบ!!!.....

...."( หนึ่งในสุดยอดพระเครื่องยุครัตนโกสินทร์ )"....
Top