
ประวัติหลวงปู่ทอง วัดธาตุสว่างโนนยาง ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี
บทความพระเครื่อง เขียนโดย เลิศชัย
ประวัติ พระครูสุวรรณประภาต (หลวงปู่ทอง)วัดธาตุสว่างโนนยาง ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี ....เกิ่นนำก่อนประวัติที่ผมจะเขียนต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ผมได้ลงพื้นที่สอบถามจากเจ้าอาวาสและชาวบ้านที่ทันอยู่ในยุคนั้น เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องพิจรณาในรายละเอียดอีกครั้งเช่น พ.ศ. หรือปีที่เกิดเหตุการณ์ ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมอยากให้เป็นหนังสืออกจากทางวัด ผมจึงไม่อาจจะลงรายละเอียดลึกมากนักเพราะ ต้องพิจรณาร่วมกันหลายๆฝ่าย แต่ข้อมูลก็ไม่แตกต่างจากนี้ อย่างไรก็คอยติดตามเรื่อยๆแล้วกันผมก็เขียนปรับแต่งเสริมข้อมูลเรื่อยๆเพราะไม่ค่อยมีเวลา มีความตั้งใจที่จะให้คนรุ่นหลังได้ทราบข้อมูลเท่านั้น สำหรับการพิมพ์ถ้าสะกดผิดก็ขออภัยจะพิจรณาทบทวนแก้ไขภายหลังครับ ชาติกำเนิด จากการลงพื้นที่จริงสอบถามเจ้าอาวาสและคนเก่าแก่ของบ้านโนนยางเกี่ยวกับหลวงปู่ทอง ก็ไม่ได้มีการบันทึกอะไรไว้แต่จากการสอบถามชาวบ้านรุ่นเก่าๆที่ทันท่านซึ่งก็ยังมีหลงเหลืออยู่มาก และปัจจุบันก็ยังพอเหลือกลุ่มญาติของท่านซึ่งก็ทราบว่าท่านเกิดที่ จ.นครราชสีมา และย้ายถึ่นฐานมาอยู่ที่บ้านโนนยาง วัยเด็ก หลวงปู่ทองท่านเป็นเด็กฉลาด แต่ก็ดำรงชีวิตเหมือนเด็กชาวไร่ชาวนาทั่วไป เมืออายุครบ 15 ปี ท่านได้ บวชเณร ที่วัดมัจฉิมวาส อุดรธานี บวชเป็นพระภิกษุ ที่วัดมัจฉิมวาส โดยได้อยู่รับใช้ใกล้ชิด หลวงปู่ดีเนาะ .... และได้ศึกษาเล่าเรียนกับหลวงปู่ดีเนาะ และติดตามหลวงปู่ ตามที่รับนิมนต์งานต่างๆ ยังมีหลักฐานภาพถ่ายของหลวงปู่ทอง พรมน้ำมนต์แทนหลวงปู่ดีเนาะ(มีภาพอยู่ในหนังสือประวัติวัดมัจฉิมวาส) หลวงปู่ทอง ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่หนู วัดบ้านกุดสระและหลวงปู่ใหญ่ วัดบ้านท่าตูม ซึ่งทั้ง 2ท่านนี้มีความแตกต่างกันในด้านปฎิบัติต่างกัน คือ หลวงปู่หนู ท่านจะเป็นที่พึ่งพาของชาวบ้านในด้านการปัดเป่าสิ่งร้ายๆและทำเครื่องรางของขลังแจกจ่ายให้คุ้มครอง และท่านได้มอบตำราโบราณเลขยันต์ให้หลวงปู่ทอง 2เล่ม หลวงปู่ใหญ่ เป็นพระปฎิบัติกรรมฐาน และห้ามพระทำเครื่องรางและปลุกเสกปัดเป่าทุกชนิด หลวงปู่ทองท่านนับถือมากและอยู่ในโอวาส มาตลอด ไม่ปลุกเสกไม่ทำเครื่องลางที่หลวงปู่ทองเรียนวิชาจากหลวงปู่หนู จวบจนหลวงปู่ใหญ่ท่านมรณภาพหลวงปู่ทองจึงได้จัดทำเครื่องลางต่างๆ
ประวัติการสร้างวัด วัดธาตุสว่างโนนยาง เดิมเป็นสถาณที่รกร้าง มีเจดีย์พระธาตุเก่าๆที่ชาวบ้านเรียกว่า สิม อยู่ในวัดหลวงปู่ท่านมักเดินทางมาปฏิบัติ กรรมฐานอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านเรียกว่า .วัดฮุ่ง” เป็นภาษาอิสานซึ่งแปลว่า “สว่าง” สาเหตุเพราะในวันพระจะเห็นลูกไฟ ขนาดเท่าลูกบอล ลอยเข้าออกเป็นประจำ ต่อมาจึงได้ขออนุญาตตั้งเป็นวัดมีชื่อว่า “วัดธาตุสว่างโนนยาง” การจัดทำวัตถุมงคลและประสพการณ์ หลังจากที่ปู่ใหญ่ บ้านท่าตูม มรณภาพ หลวงปู่ทอง ท่านก็ได้จัดทำตะกรุดแจกกลุ่มญาติและศิษย์ใกล้ชิด ปรากฏว่ามีประสบการณ์ต่างๆจนเป็นที่เรื่องลือ ศิษย์ท่านคนหนึ่งที่ผู้เขียนไปพบ เล่าว่าหลวงปู่ทำตะกรุดคาดเอวให้ 1ดอก คาดติดตัวตลอดจนวันหนึ่งขับรถจักยานยนต์ไปชนกับรถบรรทุกตัวเองไปอยู่ใต้ท้องรถโดยที่ไม่เป็นอะไร ที่เสียหายคือเชือกพันตะกรุดขาด จึงเอาไปให้หลวงปู่ดูหลวงปู่เลยจัดทำให้ใหม่และเก็บดอกเก่าไว้ หลังจากที่หลวงปู่ท่านทำวัตถุมงคลแจกจ่ายให้สาธุชนนำไปใช้จนเกิดประสบการณ์เลื่องลือไปไกล แม้ในกทม.เองก็มีคนรู้จัก ต่างพากันมากราบขอตระกรุดและเครื่องรางต่างๆจากท่าน จนมีผู้คนเข้าออกบ้านโนนยางตลอดวัน เป็นที่คึกคัก จนบ้านโนนยางมีความเจริญรุ่งเนืองขึ้นมาทันที กิตติศักดิ์เลื่องลือไปจนข้าราชการระดับสูงของจังหวัดอุดรธานี(สูงสุดในเวลานั้นเป็นใครก็นึกเอาเองผมไม่กล้าบอกยศบอกตำแหน่ง)ได้มาพบหลวงปู่และแจ้งข้อหาหลอกลวงประชาชน หลวงปู่ท่านบอกไม่ได้หลอกลวงเขานับถือของเขา พูดแล้วก็เดินไปหยิบหินก้อนขนาดกำมือแล้ววางลงพลางบอกว่า ก็อย่างก้อนหินก้อนนี้หากยิงไม่ออกเขาก็นับถือ ข้าราชการผู้นั้นเลยให้เจ้าหน้าที่ที่ติดตามมาใช้ปืนยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก ก็ถึงกับก้มกราบขอขมา แล้วฝากตัวเป็นศิษย์
วัศถุมงคลของหลวงปู่ทอง
หลวงปู่ทองท่านได้รับตำราอัขระเลขยันต์มา 2เล่มจากหลวงปู่หนู วัดบ้านกุดสระ ปัจจุตำรายังคงเก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านโนนยาง ท่านได้ศึกษาจนเขียนยันต์จนชำนาน ท่านเลือกที่จะใช้ยันต์ มหาอำนาจ 4 แถว 8แถว 16 แถว 24 แถว ลงในวัสถุมงคลของท่าน ช่วงนั้นเป็นช่วงมหาสงครามเอเชียบุรพา หรือช่วงสงครามเวียดนาม สงครามลาว วัสถุมงคลของท่านที่เห็นมากคือ
หลวงปู่ทองท่านรับนิมนต์ไปปลุกเสกทั้งในจังหวัดอุดรธานีและต่างจังหวัด แม้กระทั่ง กทม. ท่านยังได้มีโอกาสร่วมพิธีปลุกเสกเหรียญหลวงพ่อพิบูลย์หลายรุ่น สำหรับท่านแล้วหลวงพ่อพิบูลย์เป็นอาจารย์ที่ท่านเคารพนับถืออีกรูปหนึ่ง ส่วนหลวงปู่โชติก็เป็นสหายธรรม ศึกษาเรียนตำราวิชาด้วยกัน เนื่องจาก วัดบ้านโนนยาง วัดบ้านเตาไห และวัดพระแท่น หากเดินทางลัดทุ่งลัดป่าจริงๆแล้วจะใกล้กันมาก ไม่น่าจะเกิน 20 กม. ข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญรุ่นแรก สร้างในปี 2495 จำนวน 2000เหรียญ มีผู้สร้างถวายหลวงปู่ แต่หลวงปู่ไม่อนุญาตให้แจกตอนนั้นโดยเหตุผลว่า จัดทำมาหน้าไม่เหมือนหลวงปู่ ความจริงท่านไม่แจกเป็นไปได้ว่าเกรงใจหลวงปู่ใหญ่ วัดบ้านท่าตูม ท่านจึงเก็บเหรียญไว้ที่กุฎิที่ท่านพำนักอยู่ จนท่านมรณภาพในปี 2516 ทางวัดจึงได้นำออกมาแจกจ่าย เหรียญที่เก็บรักษาไว้ที่บูชาในกุฎิหลวงปู่จึงมีพุธคุณสูงจากการสวดเสกตลอดเวลา 21ปีที่อยู่กับท่าน เราจึงพบเห็นว่าเหรียญท่านยังสวย ไม่ค่อยผ่านการใช้งาน สำหรับวิธีดูเหรียญเข้าไปศึกษาในร้านเลยครับ บังเอิญหน้านี้ไม่มีลิ้งค์เข้าร้าน ทำตามนี้ครับ 1.ไปคลิกที่ ร้านค้า (จะด้านบนของหน้านี้) จะมีหน้าต่างใหม่ 2.ให้ไปที่ ค้นหาร้านค้าด่วน อยู่ตรงซ้ายมือ กลางๆหน้า 3.พิมพ์คำว่า เลิศชัย จะปรากฎชื่อร้าน 4.ให้คลิกเม้าส์เข้าไปในร้านเลยครับ. ....ขอให้มีความสุขกับการศึกษานะครับ... ******ช่วงนี้ขอจบแค่นี้ก่อน****ติดตามเรื่อยๆนะครับ
|

