พุทธอุทยานธรรมโกศล ตอนปฐมสมภารวัดสาลีโข - webpra

พุทธอุทยานธรรมโกศล ตอนปฐมสมภารวัดสาลีโข

บทความพระเครื่อง เขียนโดย romulus

romulus
ผู้เขียน
บทความ : พุทธอุทยานธรรมโกศล ตอนปฐมสมภารวัดสาลีโข
จำนวนชม : 1404
เขียนเมื่อวันที่ : พ. - 08 ส.ค. 2555 - 13:37.37
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : พ. - 08 ส.ค. 2555 - 13:39.02
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)


พระครูธรรมโกศล(หลวงปู่เผือก) ปฐมสมภารวัดสาลีโข จ.นนทบุรี

รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่เผือก ภายในพุทธอุทยาน

วันนี้(10 ก.พ. 2551ไปทำบุญที่พุทธอุทยานธรรมโกศล จังหวัดปทุมธานีครับ หลวงพ่อสมภพท่านได้เมตตาเล่าประวัติของ ท่านพระครูธรรมโกศล หรือหลวงปู่เผือก ให้ลูกศิษย์ที่มากราบนมัสการท่านฟังอาจมีหลายท่านเคยอ่านประวัติของหลวงปู่เผือกผ่านทางสื่อต่างๆ เช่นหนังสือ หรือคำบอกเล่า ครั้งนี้ได้มีโอกาสรับฟังจากหลวงพ่อเลยขอจดบันทึกไว้เพื่อระลึกถึงความมีเมตตาของท่านครับ

หลวงปู่เผือก เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือนอ้าย (ปีชวด พ.ศ.2299) เป็นชาวกรุงศรีอยุธยา บิดาเป็นชาวจีนที่เดินทางเข้ามาประกอบอาชีพค้าขายในประเทศไทย ส่วนมารดาเป็นคนไทย หลวงปู่เผือกบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดพุทไธสวรรย์ สมัยนั้นความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคนไทยมีมาก หลวงปู่เผือกท่านจึงได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรม ควบคู่ไปกับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนแตกฉานตั้งแต่เป็นสามเณรครับ


รูปหล่อหลวงปู่เผือก(ขนาดใหญ่) ประดิษฐานบนเนิน ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตก
โยมบิดามารดาของหลวงปู่เผือกได้อพยพหลบภัยสงครามจากรุงศรีอยุธยาหลวงปู่เผือกที่ขณะนั้นยังเป็นสามเณรได้ติดตามมาคอยดูแลโยมบิดามารดาพร้อมกลุ่มผู้อพยพจนมาถึงบริเวณสุดแนวโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามกับเกาะเกร็ดกลุ่มผู้อพยพจึงได้ตั้งหลักแหล่งพักอาศัยทำมาหากิน ในบริเวณดังกล่าวมีสำนักสงฆ์เก่าแก่อยู่แห่งหนึ่ง
สามเณรเผือกจึงได้จำพรรษาในสำนักสงฆ์นั้น ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นวัดสาลีโข
ในปัจจุบันนี้

ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ทรงขับไล่พม่าออกไปจากประเทศไทยได้สำเร็จและทรงตั้งกรุงธนบุรีขึ้นเป็นเมืองหลวงสามเณรเผือกจึงได้เดินทางย้อนกลับไปกรุงศรีอยุธยา เพื่อศึกษาวิชาการต่อพออายุท่านครบบวช ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดป่าแก้วซึ่งเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี เมื่อวันศุกร์ ขึ้น7 ค่ำ เดือน8 ปีมะแม จ.ศ.1138
(พ.ศ.2319) ได้รับฉายาว่าธัมมะโกศลเวลาออกพรรษาหลวงปู่เผือกท่านชอบออกธุดงควัตรเสมอจนทำให้ท่านมีความเชี่ยวชาญด้านกรรมฐานและมีวิชาอาคมแก่กล้าเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปถึงแม้ท่านจะมีอายุไม่มากนัก(สหธรรมมิกของท่านที่มีชื่อเสียงคือ สมเด็จพระสังฆราช สุกไก่เถื่อน)

สมัยรัชการที่ 1 หลวงปู่เผือกท่านมีชื่อเสียงมากและโด่งดังเข้าไปถึงหูของบรรดาขุนนางเจ้านายในวัง ต่างมากันมาหาท่านเพื่อขอวัตถุมงคลหรือขอให้ท่านลงอักขระเพื่อความเป็นมงคลหรือต้องการหนังเหนียวว่ากันว่าท่านทำได้ขลังนักทำให้มีลูกศิษย์มาขึ้นกับท่านมาก เรียกว่าในช่วงนั้นวัดสาลีโขเจริญรุ่งเรืองสุดขีด

สมัยรัชการที่4 หลวงปู่เผือกได้รับพระราชทานพระราชทินนามว่า พระครูธรรมโกศลตำแหน่งสังฆปาโมกข์ฝ่ายอรัญวาสีแขวงนนทบุรี และเป็นเจ้าคณะเมืองนนทบุรีหลวงปู่เผือกได้รับพระราชทานเรือกันยาหลังคาแดงมีฝีพายเต็มอัตราเป็นเรือประจำตำแหน่งสำหรับออกตรวจคณะสงฆ์ในเขตปกครอง หลวงปู่เผือกละสังขารในสมัยรัชการที่ 4 พ.ศ.2405 สิริอายุรวม 106 ปีครับ

อะระหัง สุคะโต ภะคะวา
หลวงพ่อสมภพท่านบอกว่าให้ภาวนาอย่าขาดครับสามารถคุ้มครองและเป็นสิริมงคลกับตัวครับ

บทความโดย ศิษย์กวง

Top