ความเมตาของหลวงปู่เก่ง ธนวโร ที่มีต่อผม(3) - webpra

ความเมตาของหลวงปู่เก่ง ธนวโร ที่มีต่อผม(3)

บทความพระเครื่อง เขียนโดย จุ๊กอุบลamulets

จุ๊กอุบลamulets
ผู้เขียน
บทความ : ความเมตาของหลวงปู่เก่ง ธนวโร ที่มีต่อผม(3)
จำนวนชม : 2254
เขียนเมื่อวันที่ : ส. - 29 ก.ย. 2555 - 14:08.14
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : อา. - 07 ต.ค. 2555 - 17:27.21
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

                 หลังจากที่ผมเคยได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่เก่ง ธนวโร ครั้งแรกมาแล้วนั้น(ซึ่งครั้งนั้นไปกับบิดา)ต่อมาอีกไม่นานประมาณไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ผมก็ได้เดินทางไปกราบหลวงปู่ท่านอีก โดยในครั้งนี้ผมเดินทางไปเพียงผู้เดียว เมื่อเดินทางไปถึงผมได้เห็นป้ายแจ้งกำหนดเวลาการอนุญาตให้ญาติโยมผู้ที่จะเข้ากราบนมัสการหลวงปู่ได้ทราบ บังเอิญว่าในวันนั้นที่ผมไปไม่แน่ใจว่าเป็นวันพุธหรือพฤหัสบดี(คือวันที่2หรือ3พ.ค.2555)ซึ่งในประกาศของทางวัดวันนั้นท่านจะไม่ได้ออกรับญาติโยม เมื่อทราบเช่นนั้นผมก็เตรียมตัวที่จะกลับแต่ก็ได้แวะเข้าไปที่ที่ให้บูชาวัตถุมงคลแล้วก็ได้พบกับหลวงพ่อองค์เดิมที่เคยได้พบเมื่อครั้งแรกที่มา ผมจึงเอ่ยขึ้นว่า"ผมไม่รู้ว่าวันนี้หลวงปู่ท่านงดกิจรับญาติโยมหรือครับเห็นป้ายประกาศ"หลวงพ่อท่านก็ถามว่า"แล้วเคยมาหาท่านหรือเปล่า"ผมก็ตอบท่านไปว่า"เคยมาครับหลวงพ่อ"ท่านจึงบอกว่า"ถ้าเคยมาก็เข้าไปหาท่านเลยท่านอยู่ที่กุฏินั่นแหละ" ผมจึงเดินไปที่กุฏิเมื่อถึงหน้าประตูกุฏิซึ่งปิดอยู่ผมก็ไม่ค่อยกล้าเกรงว่าจะไปรบกวนท่าน แต่ก็ได้ยินเสียงท่านจากข้างในกุฏิว่า"เอ้ามาๆๆ เปิดประตูเข้ามา"ผมจึงได้เปิดประตูแต่ยังไม่เข้าไปคงนั่งพนมมืออยู่หน้าประตู ตอนนั้นท่านท่านยังอยู่ในกลดที่เป็นมุ้งรูปทรงคล้ายเต๊นท์ ท่านเอ่ยขึ้นว่า"เอ้อ..เพิ่งตื่นนี้แหละ" ผมก็เรียนต่อท่านว่า"ผมมากราบหลวงปู่ครับ" ท่านก็บอกว่า" เอ้าเข้ามาก่อน " ผมจึงคลานเข้าไปนั่งพับเพียบรอท่านอยู่ตรงหน้าโซฟาตัวประจำของท่าน ท่านก็บอกว่า"นั่งรอก่อน นั่งรอก่อน เดียวอาบน้ำก่อน" แล้วท่านก็เดินไปสรงน้ำ หลังจากนั้นท่านก็เดินมานั่งที่โซฟา แล้วก็ถามผมว่า"เอ้า..มาจากที่ไหนหล่ะ" ผมก็ตอบท่านไปว่าได้เคยมากราบท่านแล้วครั้งหนึ่ง ผมเป็นผู้คุมที่เคยมาคราวก่อน ท่านก็ว่า"เออ..ผู้คุมจำได้แล้วที่เคยมากับพ่อใช่ไหม?" ผมก็ตอบท่านไปว่าใช่ ท่านก็พูดขึ้นอีกว่ามีผู้คุมอีกคนหนึ่งพาลูกกับเมียมาด้วยตัวใหญ่ๆ ผมก็เรียนท่านไปว่านั่นคือพี่โด่ง(ร้านคุณภูมิอุบล) แล้วท่านก็ถามว่า"อยากได้อะไรหล่ะ"ผมก็ตอบท่านว่าผมมากราบท่านเท่านั้นไม่ประสงค์อยากได้อะไร แล้วผมก็เอาเหรียญรุ่นแรกที่ท่านให้ในคราวที่มาครั้งแรกนั้นให้ท่านดูแล้วก็เรียนท่านว่า"ผมเอาไปอัดกันน้ำอย่างที่หลวงปู่บอกแล้วครับ" ท่านก็ว่า"ไหนเอามาดูซิ" แล้วท่านก็หยิบเหรียญขึ้นพิจารณาแล้วก็ว่า"เออๆเอาใส่ไว้แบบนี้แหละ" จากนั้นท่านก็เดินไปหยิบเอาสร้อยในย่ามท่านมาแล้วท่านก็บอกว่า"สร้อยนี้ให้เขาทำให้ เขาทำเป็นข้อๆแล้วเอามาต่อกัน ตกข้อละสิบบาทมั้ง" จากนั้นท่านก็บอกให้ผมไปหยิบเอาคีมสำหรับหนีบมาสองอัน จากนั้นท่านก็หยิบเอาเหรียญขึ้นมาแล้วพยายามใช้คีมหนีบนั้นบิดห่วงแล้วเอาใส่เข้ากับสร้อย เมื่อเห็นเช่นนั้นผมก็เลยเอ่ยขึ้นว่า"หลวงปู่ครับ ให้ผมเอาใส่เองก็ได้ครับ" แต่ท่านกลับไม่ตอบหากแต่พยายามใช้แรงกดบีบห่วงพระใส่สร้อยจนมือของท่านสั่น ผมทำท่าจะเข้าไปขอรับมาทำเองท่านก็ไม่สนใจ หากแต่ยังคงใช้แรงบีบอยู่อย่างนั้นจนใส่พระเข้ากับสร้อยได้สำเร็จ แล้วท่านก็ยกสร้อยพระขึ้นสวดคาถากำกับนานพอสมควร  จากนั้นท่านก็เรียกให้ผมเข้าไปรับเอา ผมก้มลงกราบท่านแล้วรับเอามาใส่คอ พอจะถอยออกมาท่านก็เอ่ยขึ้นว่า"เดี๋ยวก่อน" จากนั้นท่านก็หยิบเอาเหล็กขึ้นมาแล้วบอกว่า"เข้ามาใกล้ๆ"จากนั้นท่านก็นำเหล็กจารจารลงบนศรีษะของผมพร้อมทั้งบริกรรมคาถาไปด้วย จากนั้นท่านก็ใช้กำปั้นทุบเบาๆลงบนศรีษะของผมสามครั้งแล้วก็บอกกับผมว่า"เอ้า..นี่ทำให้คนเดียวนะไม่เคยทำให้ใครมาก่อน อย่าไปล่วงเรื่องผู้หญิงนะ" ในตอนนั้นผมก้มลงกราบแทบเท้าของท่านด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ที่ท่านได้ให้ความเมตตากรุณาแก่ผมถึงขนาดนี้(สร้อยและเหรียญที่หลวงปู่ให้ผมห้อยติดตัวประจำจนเท่าทุกวันนี้ มีโอกาสผมจะถ่ายรูปลงให้ท่านได้ชมกันครับ ในวันนั้นหลวงปู่เอาใส่ให้ยังไงก็ยังคงอยู่เช่นนั้นครับ ผมไม่เคยแกะเปลี่ยนองค์เลยเพียงแต่มีพระซึ่งก็เป็นเฉพาะของหลวงปู่เท่านั้นมาเสริมในสร้อย) ในใจผมนั้นทุกครั้งที่เข้าไปกราบนมัสการท่านจะท่องแต่พุทโธๆเท่านั้น และไม่เพียงแต่กับหลวงปู่เท่านั้นแต่กับพระครูบาอาจารย์ทุกท่าน ที่ผมต้องท่องพุทโธนั้นก็เพราะว่าผมกลัวว่าใจเราจะคิดออกไปในสิ่งที่ไม่ดีตอนที่เราไปพบท่านถือเป็นการสำรวมใจของตนเองด้วย หลังจากนั้นท่านก็เทศนาสั่งสอนผมพอสมควร โดยผมคิดว่าเรามารบกวนท่านนานแล้วควรจะกลับได้แล้ว ท่านจะได้พักผ่อน แต่ตอนที่ผมกำลังจะกราบลาท่านนั้นท่านก็ชี้มือไปที่ถาดผลไม้ที่วางอยู่ติดต้นเสาในกุฏิของท่านแล้วบอกว่า"ไปหยิบเอาถุงมะไฟนั่นมาซิ" ผมก็ไปหยิบมาตามที่ท่านบอก เมื่อรับเอาถุงมะไฟจากผมแล้วท่านก็หยิบเอามะไฟขึ้นมาลูกหนึ่งแล้วบริกรรมคาถาบทหนึ่งผมจำได้แต่ช่วงท้ายที่ท่านพูดว่า"หมดเคราะห์ หมดโศกโรคภัย"แล้วท่านก็โยนมะไฟลูกนั้นไปที่ประตูหน้ากุฏิพร้อมกับพูดว่า"ไป เอาไปกิน" จากนั้นท่านก็บอกให้ผมรับเอาถุงมะไฟ ในใจผมตอนนั้นผมคิดว่า เราได้มากราบหลวงปู่แล้วหลวงปู่เมตตาเรามาก  เราจะต้องไปเล่าให้พวกน้องที่ทำงานมันฟังกันหน่อยดีกว่าแล้วจะเอามะไฟถุงนี้ไปให้พวกนั้นกินด้วย พอผมเข้าไปรับเอาถุงมะไฟหลวงปู่ท่านก็กำชับกับผมว่า"มะไฟนี่ให้เอาไปกินนะ อย่าเอาไปให้คนอื่นที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องกิน ให้แต่ญาติพี่น้องเท่านั้นนะ" ผมจึงรับคำท่าน แล้วก็กราบลาท่านกลับ

                       ครับนี่คือเรื่องเล่าประสบการณ์ที่ผมได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เก่ง ธนวโร ในการไปกราบท่านเป็นครั้งที่สอง ผมยังมีเรื่องที่จะเล่าถึงการไปกราบนมัสการท่านอีกสองครั้งก่อนที่ผมจะย้ายมาเชียงใหม่ ขอท่านผู้อ่านติดตามอ่านได้ในบทความต่อไปนะครับ

ความเมตาของหลวงปู่เก่ง ธนวโร ที่มีต่อผม(3)
ความเมตาของหลวงปู่เก่ง ธนวโร ที่มีต่อผม(3)
Top