
ท้าวหิรัญพนาสูร
บทความพระเครื่อง เขียนโดย patihan2009
ฮือฮาเทวาภิเษกยิ่งใหญ่100ปีท้าวหิรัญพนาสูร หาทุนซื้ออุปกรณ์ศูนย์โรคหัวใจ รพ.พระมงกุฎฯ
หากใครเคยไปใช้บริการ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า คงจะมีโอกาสได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงพยาบาลแห่งนี้กันบ้าง นั่นคือ “ศาลท้าวหิรัญพนาสูร” ที่ประวัติและความเป็นมาไม่ธรรมดา ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์รวมใจและศูนย์กลางแห่งความศรัทธาของสาธารณชน ไม่ว่าใครก็ตามยามเคราะห์หามยามร้ายหรือล้มป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ญาติ ๆ มักไปบนบานศาลกล่าวที่ศาลท้าวหิรัญพนาสูรแห่งนี้และน่าแปลกที่ส่วนใหญ่สมประสงค์กันทุกราย กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์เคียงคู่สถานพยาบาลและสถานบริการทางการแพทย์ยุคใหม่อย่างเหลือเชื่อ ท้าวหิรัญพนาสูร จัดเป็นเทพกึ่งอสูรที่ตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิ (ประพฤติในสิ่งที่ดีงาม) เมื่อคราว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ยังทรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร ประมาณ ร.ศ. ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๔๔๙) ได้เสด็จประพาสหัวเมืองลพบุรี คืนหนึ่งข้าราชบริพารนิมิตว่า มีชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่มาหา บอกว่าชื่อ “หิรัญ” เป็นอสูรชาวป่า นับจากนี้จะคอยตามเสด็จฯ ไม่ว่าจะทรงประทับอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด จะคอยดูแล ปกปักษ์รักษามิให้ภัยร้ายมากล้ำกราย ครั้นข้าราชบริพารกราบบังคมทูลเรื่องราวนิมิตให้ทรงทราบ ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๖ มีพระราชดำรัสให้จุดธูปเทียนและเครื่องเซ่นสังเวยให้อสูรหิรัญในป่าเมืองลพบุรีทันที และทุกครั้งไม่ว่าพระองค์ท่านจะเสด็จฯไปที่ใด เมื่อยามเสวยพระกระยาหาร จะทรงรับสั่งให้จัดสำรับอาหารคาวหวานเซ่นสังเวย อสูรหิรัญ ทุกครั้งไป เนื่องด้วย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ และทรงค้นคว้าเรื่องราวภารตวิทยาของอินเดียหรืออนุทวีป ในฐานะเมืองขึ้นของนักล่าอาณานิคม ทำให้ทรงสนพระทัยในศาสตร์เร้นลับที่ถ่ายทอดผ่านคัมภีร์และความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ ฮินดู จึงทรงตั้งชื่อ “อสูรหิรัญ” เสียใหม่ว่า “หิรัญฮู” เป็นคำผสมระหว่าง “หิรัญ”หมายถึง เงิน, สีเงิน หรือ ทอง (บางตำรา) และ “ฮู” มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษแปลว่า “ใคร” ชื่อเต็มคือ “ท้าวหิรัญพนาสูร” หมายถึง เทพอสูรผู้เป็นใหญ่แห่งป่า และพระองค์ท่านมักทรงเรียกชื่อเล่นว่า “ตาหิรัญฮู” เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๓ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงขึ้นครองราชย์ ก็ยังทรงระลึกถึง ท้าวหิรัญพนาสูร อยู่เสมอ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อรูปลอยองค์ขึ้น 4 ตน ประดิษฐานไว้หน้ารถยนต์พระที่นั่ง ประดิษฐาน ณ ห้องบรรทม ประดิษฐาน ณ บ้านพระยาอนิรุทธเทวา และประดิษฐาน ณ หน้าพระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ กระทั่งล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ เสด็จสวรรคต มีการเปลี่ยนวังพญาไทใช้ในเชิงพาณิชย์แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนในปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้เปลี่ยนเป็น “โรงพยาบาลทหารบก” และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ จึงขอพระราชทานนามว่า “โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า” ภายในประดิษฐาน “ศาลท้าวหิรัญพนาสูร” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมใจผู้ป่วย ผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลจวบจนปัจจุบันนี้ เคยมีเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของ ท้าวหิรัญพนาสูร โดย “จหมื่นเทพดรุณทร” เล่าไว้ว่า เมื่อคราวล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างหล่อรูปท้าวหิรัญพนาสูร ขึ้นนั้น โดยพระยาอาทรธรศิลป์ (ม.ล.ช่วง กุญชร) ดำเนินการจัดสร้าง มิสเตอร์แกลเลตตี ช่างชาวอิตาลีที่ทำงานในกรมศิลปากรเป็นผู้หล่อ เมื่อหล่อเสร็จแล้วช่างฝรั่งก็ใช้เชือกผูกคอชักรอกขึ้นไปประดิษฐาน ต่อมาเกิดล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ คอเคล็ดทำงานไม่ได้ ต้องนำดอกไม้ ธูป เทียน ไปกราบไหว้ขอขมาท้าวหิรัญพนาสูรจึงหายเป็นปกติอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้กลายเป็นที่โจษขานกันปากต่อปาก อีกครั้งหนึ่งเกิดขึ้นกับเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง เกิดประชวรปัสสาวะเป็นเลือด ได้เสด็จมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แพทย์เอกซเรย์แจ้งว่าจะต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่พระญาติทราบประวัติและความศักดิ์สิทธิ์ของ ท |

