
ประวัติพระอาจารย์ถวิล จิณณธัมโม ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทตโต แห่งวัดธรรมหรรษาราม บ้านยางระหง จ.จันทบุรี
บทความพระเครื่อง เขียนโดย noi-and-tating
พระอาจารย์ถวิล จิณณธัมโม เกิดเมื่อ พ.ศ. 2462 ปีมะแม อันเป็นปีที่ สมเด็จพระศรีพัชรรินทราบรมราชินีนาถ (พระราชมารดาของ ร.6 และ ร.7 ) เสด็จสวรรคต ณ ที่ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี สมัยเด็กท่านเติบโตมาท่ามกลางป่าเขาเรือกสวนผลไม้ อาทิ เงาะ ทุเรียน สมัยเป็นฆราวาสก่อนที่จะได้เข้ามาบวช หนุ่มถวิล ได้ไปรับใช้ชาติบ้านเมืองเป็นทหารออกทำศึกกับข้าศึกที่เมืองเชียงตุง ครั้นพอปลดประจำการ ท่านจึงมีสภาพเป็น " ทหารผ่านศึก" เขาปล่อยให้กลับบ้าน แต่ทางการมาส่งแค่ จ.ลำปาง เท่านั้น ท่านพระอาจารย์ถวิล เล่าเชิงขบขันว่า " อาตมามองหารถไม่มีก็เลยต้องออสตีน" จากลำปางจนถึงบางกอก โน้นสมัย...นายควง อภัยวงศ์ อ.ปรีดี พนมยงค์ จากกรุงเทพฯเดินเรื่อยมาถึงเมืองชล-ระยองบุกป่าฝ่าดงไปทะลุเอาที่จันทบุรี พอมาถึงก็เข้าวัดป่าคลองกุ้งเลย ป่วยเป็นไข้ป่า เล่นเอาเกือบตาย ได้ท่านพ่อลี ธัมมธโร (วัดอโศการาม) มาดูอาการไข้ แล้วเอายาให้กิน ภายหลังจากหายโรคแล้วก็เดินทางกลับบ้าน ครั้นไปถึงบ้าน มารดาและญาติๆ ลงมติว่าจะให้หนุ่มถวิลบวช แต่ทุกคนก็ได้ยินคำปฏิเสธจากหนุ่มถวิลว่า "ไม่บวช" ยังไงก็ไม่บวช มารดาพี่น้องทุกคนต่างอ่อนอกอ่อนใจไปตามๆกัน จึงพากันไปนมัสการ ท่านพ่อลี ที่วัดป่าคลองกุ้งให้ช่วยเหลือ ท่านพ่อลี จึงมีจดหมายเรียกตัวหนุมถวิลให้ไปหาที่วัด หนุ่มถวิลมีความเคารพในองค์ท่านพ่อลีมากจึงไม่ขัดขืน เดินทางมาที่วัด บรรดาญาติโยมก็มากันเต็มศาลาเหมือนนัดกันไว้ ท่านจึงพูดว่าเจ้าต้องบวช "ไม่มากก็น้อย เจ้าจะต้องบวช" ก็เลยต้องฝืนใจรับปากไปว่าบวชก็บวช ครั้นถึงวันอุปสมบท หนุ่มถวิลก็ได้รับความเมตตาจากท่านพ่อลี เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ วัดคลองกุ้ง อ.เมือง จ.จันทบุรี ได้รับฉายาว่า " จิณณธัมโม" ท่านตั้งใจว่าจะขอบวชเพียง 3 เดือนเท่านั้น พระอาจารย์ถวิล ท่านมีวาสนาได้อยู่ใกล้ครูบาอาจารย์อันประเสริฐอย่างท่านพ่อลี ครั้นเมื่อครบ 3 เดือนท่านจึงเข้าไปกราบเรียนกับท่านพ่อลี เพื่อลาสิกขาบท แต่ท่านพ่อลี ท่านเล็งรู้ด้วยญาณว่า ...พระถวิล เกิดมาเพื่อรับใช้พระพุทธศาสนา ท่านจึงพูดว่า เฮ้ย...ไปบุกป่าเสียก่อน ฝึกสมาธิสัก 2 เดือนแล้วค่อยมาลาใหม่ ในที่สุด พระอาจารย์ถวิลจึงจำใจปฏิบัติตาม โดยท่านพ่อลีสั่งให้ท่านพระอาจารย์เฟื่อง เป็นผู้นำพระอาจารย์ถวิล แบกกรด สะพายบาตร เข้าป่า นับว่าเป็นอุบายให้เข้าถึงธรรมะของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านพระอาจารย์เฟื่องได้พาพระอาจารย์ถวิลไปปักกลดในป่าช้าแห่งหนึ่งมีศพคนตายขึ้นอืดพองไปทั้งตัว ส่งกลิ่นอย่างขนาดหนัก อาจารย์เฟื่องท่านว่า " เอาตรงนี้แหละ กลางวันก็หอม กลางคืนก็หอม" พอปักกลดเรียบร้อย ท่านก็ให้เดินจงกรม หลังจากเดินจงกรมแล้ว ก็นั่งสมาธิต่อ จิตเกิดรวมขนาดหนัก รู้สึกตัวเองนั่งแข็งเป็นเหล็ก มีสติทุกขณะจิต ดูเหมือนเต็มเปี่ยมในทุกอริยาบถ พระอาจารย์เฟื่องและพระอาจารย์ถวิลบุกป่าฝ่าดงไปหลายแห่ง ต่างเร่งบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก ไม่เคยทิ้งอริยาบถใดให้เคลื่อนจากองค์ภาวนา บัดนี้พระอาจารย์ถวิล จิณณธัมโม ได้พบของดีแล้ว ความคิดที่อยากจะสึกออกไปใช้ชีวิตทางโลกดูเหมือนจะลืมไปเสียแล้ว จิตใจมีแต่ความอิ่มเอิบ เบิกบานในศีล สมาธิ และปัญญาที่ได้ และเมื่อธุดงค์กลับมาที่วัดคลองกุ้งก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องที่จะขอลาสึกอีกเลย ต่อมาภายหลังจากออกพรรษาแล้ว บรรดาศิษย์ของท่านพ่อลี ได้ปรารภกันถึงกิตติศัพท์ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และครั้นพอได้ยินชื่อเท่านั้นก็เกิดมีความรู้สึกศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง จึงเข้าไปกราบลาท่านพ่อลี เพื่อแจ้งความประสงค์ว่าจะไปกราบพระอาจารย์มั่นที่สกลนคร แต่ท่านพ่อลี พูดเพียงประโยคเดียวว่า " ยังไม่ให้ไป " พระอาจารย์ถวิล จึงต้องอยู่ศึกษาปฏิบัติธรรมที่วัดคลองกุ้งต่อไป และเมื่อได้โอกาสท่านและคณะอีก 4 องค์ ก็ได้เข้าไปขออนุญาตอีกเป็นครั้งที่ 2 ท่านพ่อลีพิจารณาแล้วจึงได้อนุญาต จากนั้นท่านพ่อลี ได้กล่าวอบรมเมตตาสั่งสอนแนวทางการดำเนินชีวิตในป่าดงพงไพร ที่เต็มไปด้วยอันตรายนานาชนิด โดยให้มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง จากนั้นคณะธุดงค์ก็ได้เริ่มออกเดินทางผ่านทางระยอง-ชลบุรี-กรุงเทพฯ แต่ละแห่งพักอยู่ไม่เกิน 2 วัน ถึงกรุงเทพฯก็ได้ไปพักที่บ้านตระกูล "ว่องวานิช" แล้วเดินทางมุ่งหน้าไปภาคอีสานด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ขอเพียงได้กราบเท้าหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สักครั้งเดียวก็พอใจแล้ว พระอาจารย์ถวิล จิณณธัมโม กล่าวไว้ว่า การเดินธุดงคกรรมฐานต้องอาศัยสติ เดิน ยืน นั่ง นอนต้องมีสติมันจึงจะบังเกิดผลแห่งการภาวนา ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯถึงโคราช 17-18 วันเข้ารายงานตัวที่วัดป่าสาละวันซึ่งเป็นศูนย์พระกรรมฐานและได้พบพระผู้ใหญ่หลายๆองค์ จากนั้นก็ออกเดินธุดงค์มุ่งหน้าไป จ.อุดรฯ พักอยู่ที่ จ.อุดรฯ 2-3 วัน ก็ไปต่อ แต่การเดินธุดงค์แบบไม่ค่อยจะรู้หนทาง จึงเป็นเหตุให้คณะธุดงค์ของพระอาจารย์ถวิล หลงป่าไปทะลุยัง อ.วานรนิวาส แถวๆบ้านกูดแฮด อนึ่งเวลาก็จวนเจียนจะเข้าพรรษา จึงต้องอยู่จำพรรษาที่ อ.วานรนิวาส เสีย 1 พรรษา ในระหว่างที่จำพรรษาที่นั่น ก็ได้มีโอกาสพบกับท่านพระอาจารย์อุ่น และท่านพระอาจารย์อุ่น ได้นำคณะของท่านพระอาจารย์ถวิล มาอยู่จำพรรษากับหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ อีก 1 พรรษา
|