ตำนานพระซุ้มกอ - webpra

ตำนานพระซุ้มกอ

บทความพระเครื่อง เขียนโดย Saphonsake

Saphonsake
ผู้เขียน
บทความ : ตำนานพระซุ้มกอ
จำนวนชม : 1366
เขียนเมื่อวันที่ : ศ. - 17 ธ.ค. 2553 - 11:18.52
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : จ. - 20 ธ.ค. 2553 - 00:10.44
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

ประวัติ พระซุ้มกอ (พระกำแพงซุ้มกอ) จ.กำแพงเพชร

     ประวัติความเป็นมาของพระซุ้มกอ

         พระเครื่องสกุลกำแพงเพชร มีตำนานปรากฏชัดเจนจากการพบจารึกบนแผ่นลานเงินในกรุขณะรื้อพระเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดพระบรมธาตุ เมืองนครชุม และเมื่อ พ.ศ.2392 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี แห่งวัดระฆังฯ ซึ่งขึ้นมาเยี่ยมญาติที่เมืองกำแพงเพชร ก็ได้อ่านศิลาจารึกอักษรไทยโบราณ ที่วัดเสด็จ ฝั่งเมืองกำแพงเพชรมีอยู่ในจารึกได้กล่าวถึงพิธีการสร้างพระ อุปเท่ห์การอาราธนาพระ รวมถึงพุทธานุภาพอย่างมหัศจรรย์ ของพระเครื่องสกุลกำแพงเพชรทั้งหลาย นอกจากนี้ในพระราชนิพนธ์ เรื่องเสด็จประพาสกำแพงเพชร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเขียนในปี พ.ศ. 2449 ก็ได้กล่าวถึงจารึกบนแผ่นลานทอง อันมีข้อความเกี่ยวกับการขุดพบพระต่างๆ ตามกรุต่างๆ หลักฐานชิ้นสำคัญ อันเกี่ยวกับเมืองกำแพงเพชร ได้แก่ศิลาจารึกนครชุม ที่กล่าวถึงการสร้างเมือง โดยพระมหาธรรมราชาลิไท ในราวปี พ.ศ.1279   
         จากหลักฐานการศึกษา เทียบเคียงทั้งหลายมีข้อสันนิษฐาน ที่เชื่อถือได้โดยสรุปว่า พระซุ้มกอสร้างโดยพระมหาธรรมราชาลิไท เมื่อครั้งดำรงพระยศผู้ครองเมืองชากังราว ในฐานะเมืองหน้าด่านสำคัญของอาณาจักรสุโขทัย ก่อนที่จะได้ทรงรับสถาปนาเป็นกษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์สุโขทัย ดังนั้นอายุการสร้างของพระซุ้มกอจนถึงปัจจุบัน จึงมีประมาณ 700-800 ปี 

ตำนานการสร้าง
พระกำแพงทุ่งเศรษฐีนั้น กำเนิดที่พระบรมธาตุนครชุม เมื่อคราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสเมืองกำแพงเพชร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๙ ดังมีใจความดังต่อไปนี้ "เมื่อกินข้าวแล้ว ล่องเรือมาขึ้นที่วัดพระธาตุ วังเดิมเป็นพระเจดีย์เช่นเดียวกับที่วัดพระธาตุใหญ่ ๑ ย่อม ๒ องค์ พญาตะก่ารวมสร้าง ๓ องค์รวมเป็นองค์เดียวกัน แปลงรูปเป็นพระเจดีย์มอญ แต่ยังไม่แล้วเสร็จพญาตะก่าตายพะโป๊ะจึงได้มาปฏิสังขรณ์

ต่อมาได้ยกฉัตรยอดวังทำแต่มพะละแหม่งเพิ่งแล้ว แต่ฐานชุกชียังไม่ถือปูนไม่รอบพระเจดีย์องค์นี้ทาสีเหลือง มีลายสีเหลือง แลดูในน้ำงามดี มีพระครูอยู่ในวัดเป็นเจ้าคณะรองรูปหนึ่ง พระครูเจ้าคณะแขวงอำเภอ พรานกระต่ายอีกพวกหนึ่ง เป็นสองพวกออกจะลงรอยกัน มีโรงเรียนอยู่ในหมู่กุฏิมีราษฏรมาหาเป็นอันมาก "พระเจดีย์ทั้ง ๓ องค์นี้ นายชิด มหาดเล็ก หลานพระยาประธานคโรทัย วึ่งเป็นนายอำเภออยู่ในมลฑลนครชัยศรี ลาป่วยออกมารักษาตัว ไปได้ตำนาน และพระพิมพ์มาให้

ยังมีกษัตริย์พระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า พระยาศรีธรรมโศกราช ทรงดำริที่จะบำรุงพระพุทธศาสนา จึงไปเชิญพระธาตุจากลังกา และสร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่แควแม่น้ำปิงและแม่น้ำยมเป็นจำนวน ๘.๔๐๐๐ พระเจดีย์พระฤๅษีจึงได้สร้างพระพิมพ์ขึ้นถวายพระญาศรีธรรมโศกราชเป็นอุปการะ จึงได้บรรจุพระธาตุ และพระพิมพ์ไว้ในพระเจดีย์ตั้งแต่นั้นมา เหตุที่พบพระพิมพ์กำแพงเพชรขึ้นนี้ เมื่อปีระกาเอกศก จุลศักราช ๑๒๑๑ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆังฯ ขึ้นมาเยี่ยมญาติในเมืองกำแพงเพชร ได้อ่านแผ่นศิลาจารึกไทยโบราณที่มีอยู่ในวัดเสด็จ ได้ความว่า มีพระเจดีย์โบราณบรรจุพระบรมธาตุ อยู่บนบริเวณแม่น้ำปิง ฝั่งตะวันตก ตรงหน้าเมืองข้าม จึงได้ค้นคว้ากันขึ้นตามพระเจดีย์ ๓ องค์ ชำรุด ทั้ง ๓ องค์ พญาตะก่า ขอสร้างรวมเป็นองค์เดียว จึงได้ลื้อพระเจดีย์ จึงได้พบพระพิมพ์และวิธีบูชา

นายชิดได้กล่าวสรุปถึงพระพิมพ์เมืองกำแพงเพชรเมื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีความว่า "วันที่ ๒๒ สิงหาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๕ ข้าพระพุทธเจ้า นายชิด มหาดเล็กวรเดช หลานพระยาประธานนคโรไทยจางวางเมืองอุทัยธานี เดิมได้รับราชการในกระทรวงมหาดไทยเป็นตำแหน่งนายอำเภอ อยู่มลฑลนครชัยศรีข้าพระพุทะเจ้าป่วยเจ็บทุพพลภาพ จึงกราบถวายบังคมลาออกจากหน้าที่ราชการ ขึ้นมารักษาตัวอยู่บ้านภรรยาที่เมืองกำแพงเพชร ข้าพระพุทธเจ้าได้สืบเสาะหาพระพิมพ์ของโบราณซึ่งมีผู้ขุดค้นได้ ในเมืองกำแพงเพชรนี้ได้ไว้หลายอย่าง พร้อมพิมพ์แบบทำพระหนึ่งแบบขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวาย

ข้าพระพุทธเจ้าได้สืบถามผู้เม่าผู้แก่ ถึงตำนานพระพิมพ์เหล่านี้ อันเป็นที่เชื่อถือกันในแขวงเมืองกำแพงเพชรสืบมาก่อนได้ความว่าพระพิมพ์เมืองกำแพงเพชรนี้ มีมหาชนเป็นอันมากนิยมนับถือฤาชามาช้านานแล้ว มีคุณานิสงฆ์แก่ผู้สักการบูชาในปัจจุบัน หรือมีอนุภาพทำให้สำเร็จสมความปรารถนาแห่งผู้มีไว้สักการบูชาด้วยอเนกประการ"

สัณฐานของพระพุทธนี้ตามที่ได้มีผู้พบเห็นมีดังน

Top