คำแนะนำในการศึกษาพระเครื่อง - webpra

คำแนะนำในการศึกษาพระเครื่อง

บทความพระเครื่อง เขียนโดย พรหมรัตน์

พรหมรัตน์
ผู้เขียน
บทความ : คำแนะนำในการศึกษาพระเครื่อง
จำนวนชม : 1952
เขียนเมื่อวันที่ : อ. - 01 มี.ค. 2554 - 04:19.05
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : อ. - 01 มี.ค. 2554 - 22:28.53
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

ได้อ่านบทความของ พ.ท.ศุภชัย  ศรีแพทย์   ซึ่งเป็นผู้มีความรอบรู้ในเรื่องวงการพระเครื่องทุกประเภทเป็นอย่างดี ในหนังสือ The Art Of  Siam  No.12  2010  เห็นว่าเป็นบทความที่ดี

มาก ๆ ขออนุญาตนำมาเผยแพร่สำหรับเพื่อน ๆ สมาชิกชาวเวปพระ  ท่านได้แนะนำเทคนิควิธีการในการศึกษาสะสมพระเครื่องต่าง ๆ  ดังต่อไปนี้

๑. ต้องศึกษาภูมิหลังความเป็นมาของพระเครื่องให้ถ่องแท้เสียก่อน ถ้าเป็นพระกรุต้องศึกษาลงลึก รู้ที่มาที่ไป ประวัติศาสตร์ ถ้าเป็นพระใหม่ ต้องศึกษาเกี่ยวกับผู้สร้าง วัตถุประสงค์

ในการสร้าง พระเกจิที่ปลุกเสก อธิษฐานจิต

๒. พระกรุเก่า ต้องแยกให้ได้ก่อนว่าเป็นพระประเภทไหน  พระเนื้ออะไร  เนื้อชิน เนื้อดิน หรือผง  สำหรับเนื้อชิน แบ่งเป็น ๓ ชนิด คือ แบบเนื้อตะกั่วสนิมแดง  เนื้อชินเงิน และเนื้อ

ชินเขียว   ถ้าเป็นพระกรุต้องมีคราบกรุเสมอ  ถ้าไม่มีคราบกรุถือว่าเป็นพระที่ดูยาก (อาจจะแท้หรือไม่แท้ก็ได้) คราบกรุเป็นปฏิกิริยาทางเคมีของเนื้อพระที่อยู่ในที่อับชื้นในกรุเป็นเวลานาน

นับหลายร้อยปี  จะมีขี้กรุอุดอยู่เสมอ พวกคราบตะกรัน เม็ดกรวดทราย ดินกรุ น้ำลายปลวก  รารักทั้งหลาย  ถ้าเป็นพระชินตะกั่วสนิมแดง ก็ต้องสังเกตสนิมแดง แต่ละกรุ แต่ละเมืองจะ

ไม่เหมือนกัน  ชินเงินก็มีหลายสภาพ จำให้แม่นว่าสนิมดำตีนกาเป็นอย่างไร  สนิมเกล็ดกระดี่ที่บ่งบอกความใกล้หมดอายุของเนื้อพระเป็นอย่างไร ถ้าเป็นชินเขียวก็ต้องมีไขวัว ไขแมงดา

พอกพูนอยู่เสมอ  ถ้าไม่มีก็ถือว่าเป็นพระที่เล่นยาก หรือเป็นพระยุคหลังที่เกจิสร้างขึ้นมา

๓. ถ้าเป็นเนื้อดิน  ข้อสังเกตประการแรก ต้องดูที่คราบกรุ พระที่ผ่านการสร้างมานานมักจะมีผิวกระเทาะออกมาบ้าง ผิวในหรือเนื้อในพระต้องมีสีเข้มกว่าภายนอกเสมอ ผิดจากชื้น

นี้ ถือว่า เป็นพระสร้างใหม่ ถ้ามีปิดทองมาจากรุ ก็ต้องดูคราบกรุจะอยู่บนทองเสมอ

๔. พระเนื้อผง ส่วนมากจะมีส่วนผสมของน้ำมันตังอิ้วลงไป ถ้ามีการผสมมากก็กลายเป็นผงน้ำมัน  ผสมน้อยหรือพอประมาณ เมื่อผ่านเวลาไปสักระยะ พระที่อยู่ในกรุหรือในที่อับชื้น

น้ำมันตังอิ้วจะระเหิดระเหยออกมาเป็นจุดเล็ก ๆ นานไปก็จะพอกพูนเป็นคราบหน้ังปลากระเบนและฟองเต้าหู้ หากจุดเล็กหลุดไปก็จะเห็นรูเข็มช่องระบายอากาศ พระส่วนใหญ่มักมี

การยุบตัวด้านข้าง

๕.พระเหรียญพระหล่อต้องดูให้ออก เช่นพระเหรียญชุบทองเก่า ผิวจะไม่สม่ำเสมอ ผิวจะหนาบางไม่เท่ากัน ต่างจากชุบใหม่จะแวววาวเกินไป พระรูปเหมือนรูปหล่อ ต้องศึกษา

เทคนิควิธีการหล่อให้เข้าใจ

๖.ประการสุดท้ายต้องยึดหลักของอาจารย์ตรียัมปวาย ไว้ คือ ต้องยึดพิมพ์เป็นหลักก่อน เนื้อหามวลสารตำหนิต่าง ๆ ค่อยตามมา ถ้าพิมพ์ผิด  อย่างอื่นแทบไม่ต้องพิจารณาเลย

และที่สำคัญที่สุดในการศึกษาพระเครื่อง คือ ต้องเห็นของจริงมาก  ๆ จะศึกษาจากตำราและภาพถ่ายอย่างเดียวไม่ได้ การสัมผัสของจริงทำให้รู้ขนาด  น้ำหนัก ความรู้สึกเหล่านี้

เป็นครูของเรา อย่างพระแห้ง แห้งอย่างไร ต้องดูด้วยตาของเราเองเท่านั้น อธิบายไม่ได้ ต้องดูของจริง

สรุปตอนท้ายท่านอาจารย์ได้ให้ข้อคิดที่สำคัญมาก ๆ สำหรับนักสะสมพระเครื่อง คือ อย่าก่อหนี้ยืมสิน อย่าทำให้ตนเองและครอบครัวเดือดร้อน  ถือว่าเป็นบทความที่ให้ความรู้

มาก ๆ เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับผู้รักพระเครื่อง

Top