
คำแนะนำในการศึกษาพระเครื่อง
บทความพระเครื่อง เขียนโดย พรหมรัตน์
ได้อ่านบทความของ พ.ท.ศุภชัย ศรีแพทย์ ซึ่งเป็นผู้มีความรอบรู้ในเรื่องวงการพระเครื่องทุกประเภทเป็นอย่างดี ในหนังสือ The Art Of Siam No.12 2010 เห็นว่าเป็นบทความที่ดี มาก ๆ ขออนุญาตนำมาเผยแพร่สำหรับเพื่อน ๆ สมาชิกชาวเวปพระ ท่านได้แนะนำเทคนิควิธีการในการศึกษาสะสมพระเครื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ๑. ต้องศึกษาภูมิหลังความเป็นมาของพระเครื่องให้ถ่องแท้เสียก่อน ถ้าเป็นพระกรุต้องศึกษาลงลึก รู้ที่มาที่ไป ประวัติศาสตร์ ถ้าเป็นพระใหม่ ต้องศึกษาเกี่ยวกับผู้สร้าง วัตถุประสงค์ ในการสร้าง พระเกจิที่ปลุกเสก อธิษฐานจิต ๒. พระกรุเก่า ต้องแยกให้ได้ก่อนว่าเป็นพระประเภทไหน พระเนื้ออะไร เนื้อชิน เนื้อดิน หรือผง สำหรับเนื้อชิน แบ่งเป็น ๓ ชนิด คือ แบบเนื้อตะกั่วสนิมแดง เนื้อชินเงิน และเนื้อ ชินเขียว ถ้าเป็นพระกรุต้องมีคราบกรุเสมอ ถ้าไม่มีคราบกรุถือว่าเป็นพระที่ดูยาก (อาจจะแท้หรือไม่แท้ก็ได้) คราบกรุเป็นปฏิกิริยาทางเคมีของเนื้อพระที่อยู่ในที่อับชื้นในกรุเป็นเวลานาน นับหลายร้อยปี จะมีขี้กรุอุดอยู่เสมอ พวกคราบตะกรัน เม็ดกรวดทราย ดินกรุ น้ำลายปลวก รารักทั้งหลาย ถ้าเป็นพระชินตะกั่วสนิมแดง ก็ต้องสังเกตสนิมแดง แต่ละกรุ แต่ละเมืองจะ ไม่เหมือนกัน ชินเงินก็มีหลายสภาพ จำให้แม่นว่าสนิมดำตีนกาเป็นอย่างไร สนิมเกล็ดกระดี่ที่บ่งบอกความใกล้หมดอายุของเนื้อพระเป็นอย่างไร ถ้าเป็นชินเขียวก็ต้องมีไขวัว ไขแมงดา พอกพูนอยู่เสมอ ถ้าไม่มีก็ถือว่าเป็นพระที่เล่นยาก หรือเป็นพระยุคหลังที่เกจิสร้างขึ้นมา ๓. ถ้าเป็นเนื้อดิน ข้อสังเกตประการแรก ต้องดูที่คราบกรุ พระที่ผ่านการสร้างมานานมักจะมีผิวกระเทาะออกมาบ้าง ผิวในหรือเนื้อในพระต้องมีสีเข้มกว่าภายนอกเสมอ ผิดจากชื้น นี้ ถือว่า เป็นพระสร้างใหม่ ถ้ามีปิดทองมาจากรุ ก็ต้องดูคราบกรุจะอยู่บนทองเสมอ ๔. พระเนื้อผง ส่วนมากจะมีส่วนผสมของน้ำมันตังอิ้วลงไป ถ้ามีการผสมมากก็กลายเป็นผงน้ำมัน ผสมน้อยหรือพอประมาณ เมื่อผ่านเวลาไปสักระยะ พระที่อยู่ในกรุหรือในที่อับชื้น น้ำมันตังอิ้วจะระเหิดระเหยออกมาเป็นจุดเล็ก ๆ นานไปก็จะพอกพูนเป็นคราบหน้ังปลากระเบนและฟองเต้าหู้ หากจุดเล็กหลุดไปก็จะเห็นรูเข็มช่องระบายอากาศ พระส่วนใหญ่มักมี การยุบตัวด้านข้าง ๕.พระเหรียญพระหล่อต้องดูให้ออก เช่นพระเหรียญชุบทองเก่า ผิวจะไม่สม่ำเสมอ ผิวจะหนาบางไม่เท่ากัน ต่างจากชุบใหม่จะแวววาวเกินไป พระรูปเหมือนรูปหล่อ ต้องศึกษา เทคนิควิธีการหล่อให้เข้าใจ ๖.ประการสุดท้ายต้องยึดหลักของอาจารย์ตรียัมปวาย ไว้ คือ ต้องยึดพิมพ์เป็นหลักก่อน เนื้อหามวลสารตำหนิต่าง ๆ ค่อยตามมา ถ้าพิมพ์ผิด อย่างอื่นแทบไม่ต้องพิจารณาเลย และที่สำคัญที่สุดในการศึกษาพระเครื่อง คือ ต้องเห็นของจริงมาก ๆ จะศึกษาจากตำราและภาพถ่ายอย่างเดียวไม่ได้ การสัมผัสของจริงทำให้รู้ขนาด น้ำหนัก ความรู้สึกเหล่านี้ เป็นครูของเรา อย่างพระแห้ง แห้งอย่างไร ต้องดูด้วยตาของเราเองเท่านั้น อธิบายไม่ได้ ต้องดูของจริง สรุปตอนท้ายท่านอาจารย์ได้ให้ข้อคิดที่สำคัญมาก ๆ สำหรับนักสะสมพระเครื่อง คือ อย่าก่อหนี้ยืมสิน อย่าทำให้ตนเองและครอบครัวเดือดร้อน ถือว่าเป็นบทความที่ให้ความรู้ มาก ๆ เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับผู้รักพระเครื่อง |