ชีวประวัติอย่างย่อ บูรพาจารย์จังหวัดเลย

ชีวประวัติหลวงปูมั่น ภูริทัตตเถระ 

กำเนิดในสกุล แกนแกว นายคำดวงเป็นบิดา นางจันทรเปนมารดา ชาติไทย ศาสนาพุทธ เกิดวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ มกราคม ๒๔๑๓ ณ บานคำบง ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี อายุได ๑๕ ป ไดบรรพชาเปนสามเณรในสำนักวัดบานคำบง อายุได ๑๗ ป ทานก็ไดลาสิกขาออกไปชวยการงานของบิดามารดาเต็มความสามารถ ครั้นอายุได ๒๒ ปีทานไดเขาศึกษาในสำนักทานอาจารยเสาร กันตสีลเถระ วัดเลียบเมืองอุบล จ.อุบลราชธานี ไดรับอุปสมบทกรรมเปนภิกษุภาวะในพระพุทธศาสนา ณ วัดศรีทอง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่อ ๒๔๓๖ พระอุปชฌายชนานนามมคธใหวา ภูริทตฺโต เสร็จอุปสมบทกรรมแลวไดกลับมาสำนักศึกษาวิปสนาธุระ ณ วัดเลียบ จนกระทั่งปีพ.ศ. ๒๔๙๒ ท่าก็ได้ถึงแก่มรณภาพ สิริชนมายุ ๘๐ ปี 

ชีวประวัติบูรพาจารย์จังหวัดเลย 

  หลวงปูศรีจันทร วณฺณาโภ วัดศรีสุทธาวาส (พระอารามหลวง) ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย

ชื่อเดิม ศรีจันทร จันทิหลา เกิดวันพุธที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๔๗ ณ บานฟากเลย ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย บิดาชื่อ อมาตย เพี้ยฤทธิ์ มารดาชื่อ นางตุ จันทิหลาในป พ.ศ. ๒๔๖๑ ไดเขาบรรพชาเปนสามเณร ณ วัดศรีชมชื่น ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย ไดรับความเมตตาจากพระครูหวาด เปนพระอุปชฌาย ทานจึงเขาศึกษาทางดานปริยัติธรรม การศึกษาพระวินัยนั้น ทานไดสนใจในดานการปกครองหมูคณะ ทานจึงไดเดินทางมาอยูจำพรรษาที่กรุงเทพ และไดพำนักที่วัดสัมพันธวงศ ภายหลังทานไดรับเมตตาอันสูงสุด ใหไดแปรญัตติเปนสามเณรฝายธรรมยุติ โดยไดรับพระเมตตาจากพระเดชพระคุณสมเด็จพระสังฆราช  

เจากรมหลวงวชิรณาณวงศ เปนพระอุปชฉาย วัดศรีสุทธาวาสได้รับคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง เมื่อ พ.ศ.2512 และได้รับการสถาปนาเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญเมื่อ พ.ศ.2536 หลวงปู่ศรีจันทร์ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จากเดิม พระครูอดิสัยคุณาธาร เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระอดิสัยคุณาธาร เมื่อ พ.ศ.2491 เลื่อนเป็นชั้นราชที่ พระราชคุณาธาร เมื่อ พ.ศ.2503 เลื่อนเป็นชั้นเทพที่ พระเทพวราลังการ เมื่อ พ.ศ.2517 และท้ายสุดเลื่อนเป็นชั้นธรรมที่ พระธรรมวราลังการ เมื่อ พ.ศ.2534 และท่านอยู่ในสมณศักดิ์นี้จนถึงมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2544

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย 

หลวงปูชอบ เดิมชื่อ บอ เกิดเมื่อวันพุธที่ ๑๒ กุมภาพันธุ พ.ศ. ๒๔๔๔ บ.โคกมน ต.ผานอย อ.วังสะพุง จ.เลย บิดาชื่อ มอ มารดาชื่อ พิลา ทานมีพี่นองรวมบิดามารดา ๔ คน เปนชาย ๒ เปนหญิง ๒ เมื่อทานอายุได ๑๔ ป ไดมีพระธุดงคกรรมฐานรูปหนึ่ง ชื่อ พระอาจารยพา จาริกไปปกกลดรุกขมูลอยูที่วัดใกลบาน 

ทาน เมื่อทานมีอายุยางเขา ๑๙ ป อาจารยพาก็จัดการดูแลใหผาขาวศิษยไดบรรพชาเปนสามเณร ณ วัดบานนาแก บานนากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู หลวงปู่อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ มีพระครูวิจิตรวิโสธนาจารย์เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แดง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า  

“ฐานสโม” หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอรหันต์เถระเจ้าผู้ได้ฉายาว่า “พระผู้เป็นที่รักของเทวดาทั้งปวง” ในสมัยที่หลวงปู่ชอบยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่มั่น ท่านเมตตาให้หลวงปู่ชอบรับแขกพิเศษในตอนกลางคืนแทนองค์ท่าน ซึ่งจะมีพวกมาจากภพภูมิอื่นเป็นเทวดา นาค มากราบไหว้ขอฟังธรรม มีจำนวนมากบ้าง น้อยบ้าง บางครั้งมีจำนวนเป็นหลักสิบ บางทีก็เป็นจำนวนร้อย บางครั้งก็ถึงจำนวนพัน ๆ ปฏิปทาของท่าน ในสายพระธุดงคกรรมฐานศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น เป็นที่ยกย่องกันว่า หลวงปู่เป็นศิษย์ที่สำคัญที่สุดองค์หนึ่งที่เด็ดเดี่ยวกล้าหาญทางความเพียร มีนิสัยมักน้อย ถือสันโดษ ชอบแสวงหาความสงัดวิเวกอยู่ตามป่าตามเขามาตลอด ข้อปฏิบัติและธรรมภายในของท่านเป็นที่สรรเสริญ และหลวงปู่ชอบท่านยังเป็นตัวแทนแห่งโชคลาภ โดยท่านเดินธุดงค์ไปที่แห่งใด ท่านไม่เคยอดอยาก ต้องมีผู้คนมาใส่บาตรอยู่เสมอแม้จะทุรกันดารขนาดไหนก็ตาม และผู้ใดที่บูชาท่านมักจะมีโชคลาภ ทำมาค้าขายได้สะดวก ประสบความสำเร็จเสมอ-------- หลวงปู่ชอบ ได้มรณภาพ ในวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๘ สิริรวมอายุได้ ๙๒ ปี ๑๐ เดือน ๒๗ วัน พรรษา ๗๐

  หลวงปูหลุย จนฺทสาโร วัดถ้าผาบิ้ง ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย 

หลวงปูหลุย จนฺทสาโร เปนบุตรคุณพอคำฝอย ลูกชายเจาเมืองแกนทาว แขวงไชยบุลี ประเทศลาว และเจาแมนางกรวย (สุวรรณภา) วรบุตร ธิดาของผูมีอันจะกิน เขตเมืองเลย ทานถือกำเนิดวันอังคารที่ ๑๑ กุมภาพันธ พ.ศ.๒๔๔๔ ไดชื่อวา วอ มีพี่สาวตางบิดา ๑ คน และนองชายรวมบิดามารดาอีก ๑ คน 

 พระคุณเจ้าหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร เป็นศิษย์สำคัญยิ่งทุกด้านของพระคุณเจ้าท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ ผู้เป็นบูรพาจารย์ เป็นบิดาแห่งวงศ์พระกรรมฐานในสมัยปัจจุบัน ศิษย์สำคัญระดับพระเถราจารย์ใหญ่ที่เป็นที่เคารพบูชา มีชื่อเสียงขจรขจาย เป็นที่คุ้นเคยนามของมหาชนทั่วประเทศ ถือเป็นรุ่นใกล้เคียงกับหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ทั้งสิ้น เช่น พระคุณเจ้าหลวงปู่เทสก์ เทสรํสี หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงปู่ชอบฐานสโม หลวงปู่ขาว อนาลโย และหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นต้น ดังนั้นหลวงปู่หลุยจึงญัตติเป็นธรรมยุตก่อนหลวงปู่ฝั้น อาจาโร 7 วันแต่ ญัตติเป็นธรรมยุต วันเดียวกันกับหลวงปู่ขาว ต่างก็เป็นคู่นาคซ้ายขวา ซึ่งกันและกัน แม้จะมีอายุน้อยกว่าหลวงปู่ขาวนับ 10 ปี หลวงปู่อ่อนและหลวงปู่ชอบต่างก็มีอายุอ่อนกว่าหลวงปู่หลุย แต่หลวงปู่เทสก์ อุปสมบท ก่อนท่าน 2 พรรษา ส่วนหลวงปู่อ่อนและหลวงปู่ชอบอุปสมบทก่อน 2-3 เดือน แต่นับพรรษาเท่ากันด้วยระยะนับวันขึ้นปีใหม่ส่งถึงวันที่ 1 เมษายน หลวงปู่หลุยจึงเป็นแม่ทัพนายกองใหญ่และเป็นแม่ทัพหน้ารุ่นเริ่มยุคปฏิบัติธรรมของบูรพาจารย์หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่มรณภาพ เวลา 00.43 น. ของคืนวันที่ 24 ธันวาคม ซึ่งล่วงเข้าสู่วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2532 มาแล้ว 43 นาที รวมอายุ 88 ปี 65-67 พรรษา 

     หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ 

หลวงปูแหวน สุจิณโณ เดิมชื่อ ญาณ หรือ ยาน รามศิริ เกิดวันจันทรที่ ๑๖ มกราคม ๒๔๓๐ ณ บานนาโปง อ.เมือง จ.เลย ทานเกิดในตระกูลชางตีเหล็ก เปนบุตรคนที่ ๒ ของนายใส หรือสาย กับนางแกว รามศิริ มีพี่สาวรวมทองเดียวกัน ๑ คน หลวงปู่ได้รับการบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ. 2439 มีอายุได้ 9 ปี ที่วัดโพธิ์ชัย บ้าน นาโป่ง ตำบลนาโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดเลย มีพระอาจารย์คำมา เป็นพระอุปัชฌาย์ และ พระ อาจารย์อ้วน เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย เป็นพระพี่เลี้ยง จนอายุครบบวชพระ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ฝ่ายมหานิกายที่ วัดสร้างก่อนอก อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระอาจารย์แว่น เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อประมาณ พ.ศ. 2451 จนได้พบพระอาจารย์มั่น คำแรกที่หลวงปู่มั่นสั่งสอนก็คือ "ต่อไปนี้ให้ภาวนา ความรู้ที่เรียนมา ให้เอาใส่ตู้ไว้ก่อน" ซึ่งทำให้ท่านรู้สึกยินดีมาก เพราะได้บรรลุ สิ่งที่ตั้งใจ หลวงปู่มั่น หลวงปู่มรณภาพ ในวัน อังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2528 เวลา 21.53 น. สิริรวมอายุได้ 98 ปี

 หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ ตำบลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเลย 

หลวงปูคำดี ปภาโส เกิดวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ มีนาคม ๒๔๔๕ ณ บานหนองคู ต.หวา อ.เมือง จ.ขอนแกน เปนบุตรคนที่ ๒ ของ นายพร-นางหมอก นินเขียว มีพี่นองรวมบิดามารดาเดียวกันเปนชาย ๓ คน หญิง ๓ คน หลวงปู่คำดี ปภาโส บวชเป็นพระมหานิกาย ที่วัดหนองแวง บ้านเมืองเก่า ตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พระอาจารย์ที่บวชให้คือ พระครูเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์โพธิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์ชานุหลิด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ด้วยความขยัน อดทน พากเพียร และจริงใจในการปฏิบัติบูชา เพื่อมุ่งหวังในพระธรรมเป็นผลให้หลวงปู่ได้พบทางแห่งการดับทุกข์และพ้นทุกข์ และเป็นที่ทราบกันดีว่า หลวงปู่คำดี ปภาโส แห่งวัดถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย เป็นพระสุปฏิปันโน และการปฏิบัติของหลวงปู่ที่ปรากฏในข้อความข้างต้นนี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจใฝ่ธรรมทุกท่าน หลวงปู่มรณภาพในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๗ เวลา ๑๓.๑๓ น สิริรวมอายุจนถึงวันมรณภาพได้ ๘๓ ปี รวมพรรษาธรรมยุตได้ ๕๗ พรรษา ๓ เดือน ๒๓ วัน

   หลวงปู่ซามา อาจุตฺโต วัดป่าอัมพวัน อำเภอเมือง จังหวัดเลย

หลวงปูซามา มีนามเดิมวา ซามา สินทอน เกิดเมื่อ วันอาทิตยที่ ๓ เมษายน ๒๔๔๗ ณ บานดอนแขม ต.บางคำ อ.หนองเรือ จ.ขอนแกน โยมบิดาชื่อนายลุย โยมมารดาชื่อ นางบุญ สินทอน มีพี่นองรวมบิดามารดาเดียวกัน ๘ คน ทานเปนบุตรคนที่ ๒ ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร ทานชวยเหลือโยมบิดา-โยมมารดาจนเปนหนุมใหญ จึงไดเขาพิธีอุปสมบทเปนพระภิกษุ ตอมาไดลาสิกขาออกไป ชวยบิดามารดาทำนา ครั้นหมดภาระหนาที่ของตนพอที่โยมบิดา-โยมมารดาไมลำบากแลว ทานก็ไดเขาพิธีอุปสมบทเปนพระภิกษุอีกครั้งที่วัดขาง ๆ บาน คราวนี้อยูไดถึง ๔ พรรษา แตเปนฝายมหานิกาย สมัยนั้นการควบคุมดูแลยังไมทั่วถึง จึงเปนเหตุใหพระสงฆหยอนยานทางพระธรรมวินัยมาก จึงไดแปรญัตติใหมเปนพระธรรมยุตินิกาย ณ พัทธสีมาวัดบาน เตาชัยชุมพล ต.บานเตา อ.บานแทน จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๔๗๓ โดยมีทานพระครูพิศาล(ศรีจันทร) เปนพระอุปชฌาย และพระอาจารยหลา เปนพระกรรมวาจาจารย ไดรับฉายาวา “อาจุตฺโต” หลวงปู่มรณภาพในวันที่ ๑๑พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ สิริอายุรวม ๗๖ ปี พรรษา ๕๐

  หลวงพ่อสีทน สีลธโน วัดถ้ำผาปู่ อำเภอเมือง จังหวัดเลย 

หลวงปูสีทน เกิดวันที่ ๑๓ กุมภาพันธุ ๒๔๗๒ ที่บานหนองน้ำเค็ม หมูที่ ๘ ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี บิดาชื่อนายชาย แข็งแรงดี มารดาชื่อนางมา แข็งแรงดี มีพี่นองรวมกัน ๗ คน ชาย ๔ คน หญิง ๓ คน ออกบรรพชาเมื่ออายุ ๑๗ ป ณ วัดโพธิสมภรณ ต.เมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี ทานเจาคุณพระธรรมเจดีย (จูม พันธุโล) เปนพระอุปชฌาย และจำพรรษาที่วัดโพธิ์ชัย ครั้นออกพรรษาแลวเที่ยวธุดงคไปทางหนองคายและทางจังหวัดขอนแกน จนป พ.ศ. ๒๔๙๕ ไดจำพรรษาที่วัดปาชัยวัน อ.เมือง จ.ขอนแกน ในปีพ.ศ.๒๕๒๙ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูอดิสัยคุณาธาร หลวงพ่อจะเน้นเรื่องการปฏิบัติภาวนา เพื่อพ้นทุกข์ และให้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านเป็นผู้มีอุบายธรรมอันละเอียดลึกซึ้ง หลวงพ่อมรณภาพในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๙ สิริอายุรวม ๖๗ ปี ๒ วัน ๔๗ พรรษา

   หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน ตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย          

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร มีนามเดิมว่า ท่อน ประเสริฐพงศ์ เกิดเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๑ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน ๖ ปีมะโรง ณ บ้านหินขาว ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายแจ่ม และนางทา ประเสริฐพงศ์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๑๙ คน ท่านบุตรคนที่ ( ปัจจุบัน สิริอายุได้ ๘๐ พรรษา ๖๐ (เมื่อปี พ.ศ.2551) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีอภัยวัน บ้านหนองมะผาง ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย และเจ้าคณะจังหวัดเลย (ธรรมยุต) “อย่ามีอคติ...อย่าลำเอียงกับใครเลย และอย่าขึ้นๆ ลงๆ อย่าเอารัดเอาเปรียบกันอีกเลย” ความตอนหนึ่งจากธรรมโอวาทของ “พระราชญาณวิสุทธิโสภณ” หรือ “หลวงปู่ท่อน ญาณธโร” ที่คอยอบรมสอนสั่งสาธุชนให้ปฏิบัติตาม ด้วยกุศโลบายอันแยบคายในการแสดงพระธรรมเทศนา ให้ผู้ฟังนำไปขบคิดพินิจพิจารณาด้วยปัญญา ลำดับสมณศักดิ์
พ.ศ.2514 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ “พระครูญาณธราภิรัติ”
พ.ศ.2527 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2531 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2535 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ครบ 5 รอบ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ “พระญาณทีปาจารย์” เป็นกรณีพิเศษ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 เนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ “พระราชญาณวิสุทธิโสภณ” 

 หลวงพ่อขันตี ญาณวโร วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ จังหวัดเลย 

หลวงพ่อขันตี ญาณวโร เกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2486 เป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปีพ.ศ.2507 ที่วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
หลังจากอุปสมบทได้ 1 ปี พ.ศ.2508 ท่านได้ติดตามมาปฏิบัติจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่คำดี ปภาโส ที่วัดถ้ำผาปู่ ต่อมา ได้ย้ายไปอยู่จำพรรษาดูแลหลวงปู่ชอบ ที่วัดป่าโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง เนื่องจากในขณะนั้น หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ป่วยเป็นอัมพาต หลวงพ่อขันตี ได้ไปสร้างวัดป่าอยู่ที่บ้านห้วยเดื่อ กิ่ง อ.หนองหิน จ.เลย และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส โดยอยู่ที่วัดห้วยเดื่อ เป็นเวลาถึง 25 ปี ในช่วงเวลาดังกล่าว หลวงพ่อขันตีไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองแซง ก่อนย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดหลวงปู่ขาว อนาลโย และสุดท้ายได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ สำหรับวัดป่าม่วงไข่ ตั้งอยู่ที่บ้านม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย วัดนี้เดิมเป็นสำนักสงฆ์ ได้ตั้งมานานแล้ว โดยหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านได้มาทำไว้ เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการบำเพ็ญภาวนาปฏิบัติธรรม ครั้งหนึ่ง ได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่า เข้ามาในบริเวณที่ตั้งกุฏิไม้ไผ่แห่งนี้ แต่ไฟไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด ทุกวันนี้ วัดป่าม่วงไข่ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดแล้ว โดยตั้งอยู่บริเวณภูน้อย ติดกับหมู่บ้านม่วงไข่ ห่างจากถนนสายเลย-ด่านซ้าย ที่หมู่บ้านโนนสมบูรณ์ ลึกเข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร เดินทางราบรื่น รอบบริเวณวัดป่าม่วงไข่ ยังคงสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เอาไว้ ตั้งแต่ยุคของหลวงปู่ชอบมาจนถึงยุคหลวงพ่อขันตี ด้วยมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก นับว่าวัดป่าม่วงไข่ ยังสามารถคงสภาพป่าที่สมบูรณ์ เหลือไว้เป็นสมบัติทางธรรมชาติต่อไป หลวงพ่อขันตี ญาณวโร ได้อนุรักษ์สิ่งของอัฐบริขารและเสนาสนะต่างๆ ของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เอาไว้ เช่น กุฏิพักหลวงปู่ชอบ โดยเฉพาะ กุฏิไม้ไผ่ที่ปลูกอยู่ติดกับต้นมะม่วงป่า มะม่วงป่านั้นมีลูกเล็กๆ สีเหลืองเท่ากับไข่ไก่พื้นบ้าน ต้นใหญ่ประมาณ 2-3 คนโอบ เป็นที่เดินจงกรมและนั่งปฏิบัติธรรมหลวงปู่ชอบ ในส่วนของหลวงพ่อขันตี ท่านยึดถือในแนวทางปฏิบัติของหลวงปู่ชอบที่เป็นพระอาจารย์ ด้วยการนั่งปฏิบัติธรรมพร้อมด้วยพระลูกวัดมาโดยตลอด นับเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง แม้จะไม่เปิดตัวมากนักก็ตาม

  หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ วัดป่าเวฬุวนาราม ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย 

หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ซึ่งเป็นอีกรูปหนึ่งที่ยึดมั่นในคำสั่งสอน ปฏิบัติตนตามรอย ของครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัด หลวงพ่อสมศรีเป็นผู้ที่ทีความสันโดษ มักน้อย อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่รบกวนใครในเรื่องปัจจัยสี่และไม่แสวงหา แล้วแต่จะเกิดขึ้นเอง ประวัติของหลวงพ่อยังไม่มีการเปิดเผย จึงยังไม่ได้นำมาเผยแพร่จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อก่อน ว่ากันว่าหลวงพ่อสมศรี เป็นหน่ออรหันต์อีกรูปของจังหวัดเลยก็ว่าได้

 หลวงปู่พัน ฐิตธมฺโม วัดป่าสันติธรรม บ้านน้ำภู ตำบลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเลย 

หลวงปู่พัน เป็นหน่อธรรมอีกหน่อหนึ่ง ที่แตกแขนงมาจากหลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ ตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย มีชีวประวัติปฏิปทา ธรรมะที่น่าศึกษากราบไหว้บูชา ปีพ.ศ. ๒๔๘๖ หลวงปู่พันได้บวชเป็นสามเณร ที่วัดศรีจันทร์ บ้านนาอ้อ ตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลยต่อมาได้สึก จนกระทั่งมาบวชเป็นพระสายวัดป่ากับหลวงปู่คำดี ปภาโส ในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้เร่งทำความพากเพียร มองเห็นธรรมนำมาพิจารณา ละทิ้งคาถา อาคมที่เคยร่ำเรียนมา ออกธุดงค์ตามป่าเขา ร่ำเรียนจาก มหาวิทยาลัยธรรมชาติ และจากครูบาอาจารย์หลายรูปหลายองค์ นอกจากนี้พวกผี พวกภูมิ เทวดา ต่างก็มาให้ธรรมะแก่หลวงปู่พัน ปัจจุบันนี้ ปี พ.ศ.๒๕๕๓ ท่านอายุครบ ๗๙ พรรษา (วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓) 

********************************************************************************************************************************************************************************