หลวงปู่เจือที่ผมรู้จัก (3) - webpra

หลวงปู่เจือที่ผมรู้จัก (3)

บทความพระเครื่อง เขียนโดย กนก54

กนก54
ผู้เขียน
บทความ : หลวงปู่เจือที่ผมรู้จัก (3)
จำนวนชม : 521
เขียนเมื่อวันที่ : ส. - 07 พ.ค. 2554 - 08:41.16
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : ศ. - 13 พ.ค. 2554 - 16:22.22
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

วันวาน...วันนี้...วันหน้า

วันวาน...

       ยามสายของวันหนึ่ง กุฏิหลวงปู่เจือคนไม่พลุกพล่าน ผมนั่งคุยอยู่กับหลวงปู่เจือกับลูกศิษย์อีกคนหนึ่ง  มีสุภาพสตรีวัยประมาณ 60 ขับรถมาจอดที่ริมแม่น้ำใกล้กุฏิหลวงปู่เจือ เดินเข้ามาถามหากุฏิหลวงปู่เจือ

      "เชิญเลยครับกุฏินี้ครับ หลวงปู่นั่งอยู่นี่"  ผมเชื้อเชิญ

       เธอค่อย ๆ เดินเข้ามานั่งพับเพียบกราบหลวงปู่  "มีอะไร?" หลวงปู่มักจะพูดน้อยแต่แฝงไว้ด้วยความเมตตา

      เธอเล่าว่า เธอป่วยเป็นอัมพฤกษ์  เดินไม่ได้ มาหลายปี ต่อมาก็มีลุงคนหนึ่งที่เธอรู้จักได้ให้เบี้ยแก้แก่เธอตัวหนึ่ง บอกว่านี่คือเบี้ยแก้ของหลวงปู่เจือ  ให้เอาไว้ใต้หมอนเวลานอน ใช้ทำน้ำมนต์อาบด้วยก็ได้ โดยระลึกถึงหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้วทุกครั้ง  ถ้าหายป่วยก็ให้ไปกราบหลวงปู่ที่วัด  เธอก็ปฏิบัติตามที่เพื่อนเธอบอกทุกประการ ประมาณหนึ่งปี  จนกระทั่งเธอหายจากการเจ็บป่วยจริง ๆ เธอจึงขับรถมากราบหลวงปู่วันนี้

     หลวงปู่ก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกว่า ดีแล้วให้เธอเอาเบี้ยแก้ไปอีกตัวหนึ่ง

 

ยามสายใกล้เพลของอีกวัน...

      มีสุภาพสตรีวัยราวไม่เกินสี่สิบขับรถมาเอง ลงรถมาพร้อมกับอุ้มหมาที่เธอเลี้ยงไว้ลงมาด้วย  วันนั้นมีผมกับหลวงปู่อยู่กันแค่สองคน..ที่กุฏิ  เธอบอกแก่หลวงปู่ว่า..หมาของเธอป่วยให้หลวงปู่ช่วยรักษาให้ด้วย 

      ตอนนั้นเหมือนมีอะไรวิ่งขึ้นมาจุกที่คอหอย...ผมคอแห้งผาก  เลยไม่พูดอะไรเลย ได้แต่นั่งดู

      หลวงปู่เจือ ก็บอกว่า มันป่วยก็พามันไปหาหมอ...แต่ท่านก็ไม่วายที่จะบริกรรมคาถาและเป่าลงไปที่หมาตัวนั้น!!!!

      เสร็จสรรพเธอก็ลากลับ  คงลืมไปมั้งว่าน่าจะนิมนต์หลวงปู่เป่าศีรษะให้เธอด้วย

      เมื่อเธอกลับไป..ผมไม่รู้จะพูดอะไร? นี่แหละความเมตตาของหลวงปู่ที่มีต่อบรรดาสรรพสัตว์?

      เหลือเราแค่สองคน  จะไม่พูดอะไรเลยได้ไง...ผมยังจำได้ดีว่า ผมพูดว่า..

      "เล็บมือเล็บตีนหลวงปู่ยาวแล้ว คนว่าง ๆ มาผมตัดให้นะครับ"

      "ที่ตัดเล็บอยู่ในลิ้นชักเล็กน่ะ" หลวงปู่บอก แปลว่าท่านอนุญาต

 

วันนี้

ร่างของหลวงปู่จะถูกเผา กลับสู่ธาตุทั้งสี่คือดิน น้ำ ลม ไฟ....ราวสี่โมงเย็น อันเป็นเวลาพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่

ผมจะไปร่ำลาหลวงปู่ ต่อไปนี้ไม่มีหลังเท้านุ่ม ๆ ให้ผมกราบ  ไม่มีขาเล็ก ๆ แขนเล็ก ๆ ให้ผมได้นวดน้ำมันให้หลวงปู่ ไม่มีใครจะมาจารศีรษะให้ผม ต่อไปอีกแล้ว  เราลากันทางร่างกายวันนี้  แต่หลวงปู่อยู่ในใจผมตลอดไปครับ

 

วันหน้า...

พระดี มีเมตตาธรรมสูงสุด จากพวกเราไปอีกรูปหนึ่ง ผลงานของหลวงปู่ยังจะสืบต่อไปอีกชั่วกัลปวสาน...ดังที่ผมเคยถามหลวงปู่ว่า  "หลวงปู่เบี้ยแก้ของหลวงปู่ พุทธคุณอยู่ได้ถึง 100 ปีมั้ย?"

"ถึง"

ขอให้เกินร้อยปี..และตลอดไป เพราะการทำเบี้ยแก้เป็นสิ่งที่หลวงปู่ทำด้วยใจรักเป็นชีวิตจิตใจจริง ๆ

 

 

 

 

 

 

 

Top