
เมื่อเจอลูกค้าขอคืนพระ.....โดยที่พระท่านแท้....ท่านจะทำเช่นไร....!!!
บทความพระเครื่อง เขียนโดย หนึ่งขุนหาญ
".......เลิฟวิ่งยูทูมัช...โซมัช...เวรี่มัชมากมาย....." เสียงเรียกโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแต่เช้าตรู่ หยิบขึ้นมาดูก็รู้ว่าเป็นเบอร์ของพี่ชายที่แสนดีโชว์หราบนหน้าจอ...เมื่อกดรับสาย ประโยคแรกที่ได้รับคือ.."หนึ่ง...ยายเค้ามาขอคืนของ....ตอนนี้แกรออยู่บ้านของพี่..." จึงบอกให้พี่แกพาคุณยายซึ่งเพิ่งเป็นลูกค้าหน้าใหม่มาเจอกันที่ร้าน.... ย้อนเวลา....ก่อนหน้านั้น 3 วัน...ซึ่งเป็นวันหยุดยาว....พี่ชายได้โทรศัพท์มาชวนให้นำพระไปให้ลูกค้าดู เพราะลูกค้าโทรฯ มาตามพี่แกหลายครั้งแล้ว....เห็นว่ากระผมมีพระชุดหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เยอะ..และเค้าอยากได้...ซึ่งลูกค้าผู้นี้เค้ามีพระที่เรากำลังหาอยู่พอดี จึงตัดสินใจจัดพระบางส่วนใส่กระเป๋าแล้วบึ่งรถไปหาพี่ชายที่บ้าน...จากนั้นก็พากันไปยังบ้านที่ลูกค้านัดหมาย............ เมื่อไปถึง....เจ้าของบ้านเป็นตายายซึ่งอยู่กับลูกหลานที่กลับมาเยี่ยมท่าน..เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว...ท่านทั้งสองใจดีมาก..ต้อนรับขับสู้เราทั้งสองเป็นอย่างดี....หลังจากแนะนำตัวและคุยกันได้สักพัก.....ท่านทั้งสองก็ขอดูพระเครื่องที่กระผมเตรียมไป....ท่านน่ารักมาก.....ตาและยายต่างมีกล้องส่องพระเป็นของตัวเอง ก็ง่วนอยู่กับการส่องพระโดยไม่สนใจลูกหลานหรือกระผมและพี่ที่ไปเป็นแขก......ท่านชอบพระของกระผมอยู่หลายชิ้น ซึ่งทางกระผมก็ได้นั่งชมพระเครื่องของท่านและชอบอยู่หลายชิ้นเช่นกัน......เราทั้งสองฝ่ายจึงตกลงใจจะแลกพระกัน...โดยฝ่ายคุณตาได้กล่าวว่าอย่าไปคิดพระเป็นเงินเป็นทอง...ขอให้เราใช้หลักความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายเป็นสำคัญ......ต่างคนก็ต่างหยิบพระที่ถูกใจของอีกฝ่ายจนเป็นที่พอใจ.....ท่านทั้งสองยังใจดีแถมพระเหรียญต่างๆอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งท่านมีอยู่เยอะให้กระผมเอาไปแจกเด็กๆ ที่บ้าน......จนกระทั่งตะวันบ่ายคล้อยจึงขอลาเพื่อเดินทางกลับ....... .......หลังจากทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ ก็ได้เดินทางไปยังร้านซึ่งพี่ชายพร้อมตายายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว.....เมื่อเปิดร้านเสร็จก็ได้มานั่งคุยกัน.....ยายแกบอกว่าจะมาขอคืนพระ เพราะนำไปให้เซียนที่รู้จักดู...เขาบอกว่าทั้งหมดเป็นพระเก๊.....ซึ่งทำให้กระผมถึงกับอึ้ง เพราะไม่เชื่อว่าจะเจอเหตุผลเช่นนี้....นึกว่าแต่ลูกหลานไม่ยอมให้แลกเปลี่ยน.....ก็ได้แต่สะกดอารมณ์ไว้...เนื่องจากพระที่ตายายได้ไปนั้น...กระผมอุตส่าห์คัดไปซะอย่างดี...เกือบครึ่งเป็นพระที่ดูง่าย...และอีกสามองค์มีใบประกาศของงานที่จังหวัดศรีสะเกษได้จัดขึ้นในปีที่ผ่านๆ มา...เลยถือวิสาสะถามตากับยายทั้งสองท่านว่า....ท่านเอาไปให้ใครดูมา....ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าเป็นเซียนที่กระผมพอจะรู้จัก...และอยู่อำเภอใกล้เคียงกัน....แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย...ได้แต่นึกในใจว่าคนที่ท่านทั้งสองเอาพระไปให้ดูนั้น...อาจจะเคยเห็นหรือสะสมแต่ของเก๊ เลยไม่รู้ว่าของแท้เป็นอย่างไร....หรือไม่ก็อาจจะดูเป็น..แต่เกิดความอิจฉาที่กระผมสามารถเข้าไปแลกเปลี่ยนพระกับตายายคู่นี้ได้....เนื่องจากได้ข่าวว่ามีคนเข้าไปหาแกเยอะ...แต่ไม่สามารถที่จะเช่าหรือแลกเปลี่ยนพระของแกได้....จึงได้บอกกับยายว่า....หากต้องการจะคืนก็คืน...เพราะเรายึดหลักความสบายใจของทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว.....พระแท้...อยู่ที่ไหนก็แท้...ขายที่ไหนก็ได้.....จึงตกลงคืนพระให้แก่ท่านทั้งสองไป....จะมีปัญหาก็แค่พระที่กระผมนำไปให้ลูกค้าแล้ว จำนวน 3 องค์....จึงตกลงชดใช้เป็นเงินสดให้แกไป....จะได้หมดเรื่องหมดราว.....เฮ้อ!!! บทความนี้.....เขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ที่ได้เกิดขึ้นกับตัวของกระผมเอง....พร้อมกับสัจธรรมอีกข้อ...คือ....พระแท้...แม้จะขายที่ไหนก็ขายได้...แต่ก็ไม่สามารถที่จะขายให้กับผู้ที่ดูเป็นแต่พระเก๊หรือสะสมแต่พระเก๊......หรือเหลือบที่มีนิสัยอิจฉาตาร้อนได้.........และถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับท่านผู้อ่าน.....แล้วท่านจะทำเช่นไร......!!!
|

