ประวัติวัดหลวงสุมังคลาราม - webpra

ประวัติวัดหลวงสุมังคลาราม

บทความพระเครื่อง เขียนโดย หนึ่งขุนหาญ

หนึ่งขุนหาญ
ผู้เขียน
บทความ : ประวัติวัดหลวงสุมังคลาราม
จำนวนชม : 2507
เขียนเมื่อวันที่ : จ. - 30 พ.ค. 2554 - 12:27.42
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : จ. - 30 พ.ค. 2554 - 12:30.28
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

       วันนี้...กระผมอยากจะขอแนะนำวัดที่สำคัญอีกวัดหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ......ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่อยู่คู่เมืองศรีสะเกษเลยก็ว่าได้  นั่นคือ...วัดหลวงสุมังคลาราม

       วัดหลวงสุมังคลาราม....เดิมชื่อ " วัดศรีสุมังค์ "   พระยาวิเศษภักดีศรีนครลำดวน (ชม)  เจ้าเมืองศรีสะเกษ  เป็นผู้ให้สร้างขึ้น  ประมาณ พ.ศ.2328  เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่บิดา  คือ  พระยารัตนวงศา (อุ่น)  ขอแยกจากเมืองขุขันธ์  มาตั้งจังหวัดศรีสะเกษ   ณ  ปัจจุบัน   ซึ่งสถานที่แห่งนี้  มีความสำคัญ  4   ประการ  คือ.....

       1.เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระวิเศษมิ่งเมือง   พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่สร้างขึ้นพร้อมเมืองศรีสะเกษ

       2.เป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของเจ้าเมือง  และข้าราชการในสมัยก่อน  ซึ่งเป็นพิธีหลวง....จึงเรียกชื่อวัดแบบไม่เป็นทางการว่า..." วัดหลวง "

       3.เป็นศูนย์รวมการศึกษาปริยัติธรรมสมัยโบราณ

       4.เป็นแหล่งน้ำที่มีตาน้ำไหลให้ใช้ตลอดปี  ยังอาชีพแก่ชาวบ้านให้มีรายได้ตลอดมา........

       จะเห็นได้ว่า....วัดหลวงสุมังคลาราม  เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ  เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางใจเมือง   เป็นวัดที่ประชาชนชาวศรีสะเกษมีจิตศรัทธามากวัดหนึ่ง  เพราะมีโบราณวัตถุล้ำค่าของจังหวัดศรีสะเกษ   เช่น  สระน้ำโบราณ    หอไตรกลางน้ำ   และโบราณวัตถุต่างๆ   โดยพระญาณวิเศษ (ศรี ฐิตธมโม)  อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงสุมังคลารามเล่าว่า  หอไตร  วัดหลวง   เดิมอยู่ในสระน้ำด้านหลังพระอุโบสถ   เป็นหอไตรที่มีลักษณะงดงามที่สุดในเมืองศรีสะเกษ   ทำเป็นเรือนไม้  กว้างประมาณ  2.50  เมตร  ยาวประมาณ  5  เมตร   ฝาผนังทำเป็นแบบเรือนไทย  มีหน้าต่างด้านละ  2   ช่อง   ส่วนหลังคามุงด้วยแป้นเกล็ด (กระเบื้องไม้)   หน้าจั่วสูงแหลมมาก   เนื่องจากหลังคามีไม้ขื่อซ้อนกันถึง  7  ชั้น   ที่หน้าจั่วมีลายจำหลักไม้ลงรักปิดทองประดับกระจก    นอกจากนี้...บานประตูหอไตร...ซึ่งมีขนาดกว้างบานละ  0.44   เมตร  สูง   2.7   เมตร   ยังสลักจากไม้ตะเคียนเป็นลายกนกปนกับลายพันธุ์พฤกษาในบางตอน  และเคล้าระคนไปกับภาพสัตว์หลายชนิด  เช่น  สิงห์  แรด  ลิง  และนก   ลายเหล่านี้สลักลึกลงไป  2  เซนติเมตร  พื้นลายทาด้วยชาด  ตัวลายลงรักปิดทองประดับด้วยกระจกสีเหลืองและสีขาว  ในบางแห่งเป็นบานประตูจำหลักไม้ที่สวยงามที่สุดในจังหวัดศรีสะเกษ  ลวดลายมีลักษณะคล้ายคลึงกับศิลปะไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาและศิลปะล้านช้าง....เนื่องจากเวลาผ่านไป....หอไตรชำรุดทรุดโทรมมาก  จึงรื้อลงในปี พ.ศ. 2467 .....ส่วนบานประตู...ได้นำไปเก็บไว้ในกุฎิเล็กๆ ใกล้กับสระน้ำแห่งนั้น....

 

Top