
ประวัติวัดหลวงสุมังคลาราม
บทความพระเครื่อง เขียนโดย หนึ่งขุนหาญ
วันนี้...กระผมอยากจะขอแนะนำวัดที่สำคัญอีกวัดหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ......ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่อยู่คู่เมืองศรีสะเกษเลยก็ว่าได้ นั่นคือ...วัดหลวงสุมังคลาราม วัดหลวงสุมังคลาราม....เดิมชื่อ " วัดศรีสุมังค์ " พระยาวิเศษภักดีศรีนครลำดวน (ชม) เจ้าเมืองศรีสะเกษ เป็นผู้ให้สร้างขึ้น ประมาณ พ.ศ.2328 เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่บิดา คือ พระยารัตนวงศา (อุ่น) ขอแยกจากเมืองขุขันธ์ มาตั้งจังหวัดศรีสะเกษ ณ ปัจจุบัน ซึ่งสถานที่แห่งนี้ มีความสำคัญ 4 ประการ คือ..... 1.เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระวิเศษมิ่งเมือง พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่สร้างขึ้นพร้อมเมืองศรีสะเกษ 2.เป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของเจ้าเมือง และข้าราชการในสมัยก่อน ซึ่งเป็นพิธีหลวง....จึงเรียกชื่อวัดแบบไม่เป็นทางการว่า..." วัดหลวง " 3.เป็นศูนย์รวมการศึกษาปริยัติธรรมสมัยโบราณ 4.เป็นแหล่งน้ำที่มีตาน้ำไหลให้ใช้ตลอดปี ยังอาชีพแก่ชาวบ้านให้มีรายได้ตลอดมา........ จะเห็นได้ว่า....วัดหลวงสุมังคลาราม เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางใจเมือง เป็นวัดที่ประชาชนชาวศรีสะเกษมีจิตศรัทธามากวัดหนึ่ง เพราะมีโบราณวัตถุล้ำค่าของจังหวัดศรีสะเกษ เช่น สระน้ำโบราณ หอไตรกลางน้ำ และโบราณวัตถุต่างๆ โดยพระญาณวิเศษ (ศรี ฐิตธมโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงสุมังคลารามเล่าว่า หอไตร วัดหลวง เดิมอยู่ในสระน้ำด้านหลังพระอุโบสถ เป็นหอไตรที่มีลักษณะงดงามที่สุดในเมืองศรีสะเกษ ทำเป็นเรือนไม้ กว้างประมาณ 2.50 เมตร ยาวประมาณ 5 เมตร ฝาผนังทำเป็นแบบเรือนไทย มีหน้าต่างด้านละ 2 ช่อง ส่วนหลังคามุงด้วยแป้นเกล็ด (กระเบื้องไม้) หน้าจั่วสูงแหลมมาก เนื่องจากหลังคามีไม้ขื่อซ้อนกันถึง 7 ชั้น ที่หน้าจั่วมีลายจำหลักไม้ลงรักปิดทองประดับกระจก นอกจากนี้...บานประตูหอไตร...ซึ่งมีขนาดกว้างบานละ 0.44 เมตร สูง 2.7 เมตร ยังสลักจากไม้ตะเคียนเป็นลายกนกปนกับลายพันธุ์พฤกษาในบางตอน และเคล้าระคนไปกับภาพสัตว์หลายชนิด เช่น สิงห์ แรด ลิง และนก ลายเหล่านี้สลักลึกลงไป 2 เซนติเมตร พื้นลายทาด้วยชาด ตัวลายลงรักปิดทองประดับด้วยกระจกสีเหลืองและสีขาว ในบางแห่งเป็นบานประตูจำหลักไม้ที่สวยงามที่สุดในจังหวัดศรีสะเกษ ลวดลายมีลักษณะคล้ายคลึงกับศิลปะไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาและศิลปะล้านช้าง....เนื่องจากเวลาผ่านไป....หอไตรชำรุดทรุดโทรมมาก จึงรื้อลงในปี พ.ศ. 2467 .....ส่วนบานประตู...ได้นำไปเก็บไว้ในกุฎิเล็กๆ ใกล้กับสระน้ำแห่งนั้น....
|