เหรียญเสด็จพ่อในหลวงรัชกาลที่ ๕ กำลังแผ่นดินด้านหลังหลวงพ่อโต ๕ พี่น้องชุบทองคำ ๓ กษัตรย์ปลุกเสก ๕ พ - webpra

เหรียญเสด็จพ่อในหลวงรัชกาลที่ ๕ กำลังแผ่นดินด้านหลังหลวงพ่อโต ๕ พี่น้องชุบทองคำ ๓ กษัตรย์ปลุกเสก ๕ พ

บทความพระเครื่อง เขียนโดย somkiatthornburi

somkiatthornburi
ผู้เขียน
บทความ : เหรียญเสด็จพ่อในหลวงรัชกาลที่ ๕ กำลังแผ่นดินด้านหลังหลวงพ่อโต ๕ พี่น้องชุบทองคำ ๓ กษัตรย์ปลุกเสก ๕ พ
จำนวนชม : 2800
เขียนเมื่อวันที่ : จ. - 27 มิ.ย. 2554 - 10:05.00
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

เหรียญเสด็จพ่อในหลวงรัชกาลที่ ๕ กำลังแผ่นดินด้านหลังหลวงพ่อโต ๕ พี่น้องชุบทองคำ ๓ กษัตรย์ปลุกเสก ๕ พิธีใหญ่ วัดพระแก้ว พศ.2539-40 ออกวัดพระแก้วและวัดศรีสุดาราม หลวงพ่อเณร กรรมการจัดสร้าง
เจตนาบริสุทธิ์เงินไปทำบุญสร้าง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ปี40และสมทบสร้างวัดโกมุทพุทธรังสี พุทธมณฑลสาย 3 และสร้างอาคารเรียนโรงเรียนวัดหนองบัวทอง สุพรรณบุรี
พิธีเดียวกันกับสมเด็จจิตรลดา 2 กำลังแผ่นดิน พระสมเด็จเนื้อว่านกำลังแผ่นดิน รุ่นพิมพ์ใหญ่มวลสารจิตรลดา เฉลิมฉลองปีกาญจนาภิเษก 50 ปี ออกปี39ปลุกเสกวัดพระแก้ว เป็นพิธีที่ 1

ได้รับอนุญาติเข้าพิธีเดียวกัน
วัตถุประสงค์เพื่อมอบให้แก่สมทบทุนฃื้อเครื่องมือแพทย์แก่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง 2 ธันวาคม 2539 เวลา 15.19 น.โดยพระภาวนาจารย์ 109 รูปเป็นการรวบรวมเกจิอาจารย์สมัยปี40เกือบทั้งหมดเช่น
ลพ.คูณ วัดบ้านไร่ ลพ.หลิว วัดไร่แตงทอง ลพ.พูล ลพ.เปิ่น วัดบางพระ นครปฐม นั่งปรกในวัดพระแก้วและนอกวัดยังมีพระสงฆ์นั่งเจริญขัยคาถาอีกเป็นพันองค์รอบอุโบสถวัดพระแก้วเป็นพิธีที่ 1
และในพิธีที่ 2นำเข้าปลุกเสกพร้อมกันกับเหรียญ พระพุทธเบญจภาคีมหาราช โดยเนื่องในโอกาสมงคลวโรกาสที่สมเด็จพระปิยมหาราชเสด็จประพาสศรีลังกาครบรอบ 100ปี
เข้าพิธีมังคลาพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2540 ณ วัดจุฬาลงกรณ์ธรรมศาลา เมืองกอลล์ ศรีลังกา
ครั้งที่ 3 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2540
หลังจากนั้นได้นำเหรียญเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีก 5 ครั้งเดินสายปลุกเสกวัดหลวงพ่อโต 5 พื่น้องด้งนี้
1 หลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา 2 หลวงพ่อวัดไร่ขิง นครปฐม 3 หลวงพ่อวัดบ้านแหลม สมุทรสงคราม 4 หลวงพ่อวัดเขาตะเครา เพชรบุรี 5 หลวงพ่อโต วัดบางพลีใน สมุทรปราการ
ฃี่งหลวงพ่อโตอันศักดิ์สิทธิ์ 5 วัดมีประสพการณ์บนท่านจะได้สมปราถนาเป็นที่เลื่องลือเสมอมา

ตามตำนานประวัติของ หลวงพ่อโต ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ประมาณกาล ๒๐๐ กว่าปีล่วงมาแล้ว ได้มีพระพุทธรูป ๓ องค์ ปาฏิหาริย์ลงมาจากทางเหนือ ลอยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดมา พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์นี้ เข้าใจว่าปวงชนในกรุงศรีอยุธยาคงอาราธนาท่านลงสู่แม่น้ำเพื่อหลบหนีข้าศึก ด้วยในสมัยนั้นบ้านเมืองได้เกิดสภาวะสงครามขึ้นกับพม่า พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ได้แสดงอภินิหารลอยล่องมาตามลำแม่น้ำและบางครั้งก็แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ผุดให้ผู้คนเห็นตามลำดับ จนเป็นที่โจษจันกันทั่วถึงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน จนล่วงมาถึงตำบล ๆ หนึ่ง ท่านก็ได้ผุดให้คนเห็นเป็นอัศจรรย์ พวกเหล่าประชาชนในตำบลนั้น ต่างก็พร้อมใจกันทำพิธีอาราธนาท่านขึ้นสู่ฝั่ง ฝูงชนประมาณ ๓ แสนคน ช่วยกันฉุดลากชะลอองค์ท่าน ก็ไม่สามารถนำท่านขึ้นสู่ฝั่งได้ และท่านก็กลับจมลงหายไปในแม่น้ำอีก ยังความเศร้าโศกเสียดายของประชาชนในตำบลนั้นเป็นอย่างยิ่ง ต่อมาตำบลนั้นจึงถูกเรียกชื่อว่า "ตำบลสามแสน" แต่ต่อมาก็ถูกเรียกกลับกลายเป็น "ตำบลสามเสน" มาจนกระทั่งบัดนี้
...พระพุทธรูปได้ล่องลอยทวนน้ำมาทั้ง ๓ องค์โดยลำดับ ครั้งหนึ่งปรากฏว่าได้ล่องลอยไปจนถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา แสดงอภินิหารปรากฏให้ผู้คนเห็นอีก ประชาชนต่างก็ได้ช่วยกันอาราธนาและฉุดชะลอท่านขึ้นจากลำน้ำ แต่ก็ไม่สำเร็จอีก
...พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ได้ลอยทวนน้ำและจมหายไป ณ ที่แห่งนั้น จึงได้ชื่อว่า "สามพระทวน" แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนเรียกกันอีกเป็น "สัมปทวน" คือ แม่น้ำหน้าวัดสัมปทวน อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ในปัจจุบัน
...พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ท่านล่องลอยผ่าน ณ ที่ใดที่นั่นก็จะมีชื่อเรียกกันใหม่ทุกครั้งดังเช่น ท่านได้แสดงอภินิหารล่องลอยให้ผู้คนเห็นเป็นอัศจรรย์เรื่อยมาในแม่น้ำบางปะกง ผู้คนมากมายพยายามที่จะอาราธนาท่านขึ้นแต่ก็ไม่สำเร็จอีก ณ สถานที่นั้นจึงได้มีชื่อเรียกกันว่า "บางพระ" ซึ่งเรียกว่า "คลองบางพระ" ในปัจจุบัน
...ครั้นต่อมาภายหลังปรากฏว่าพระพุทธรูปองค์หนึ่งไปขึ้นประดิษฐานอยู่ที่ "วัดบ้านแหลม" จังหวัดสมุทรสงคราม และต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกันพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งก็ไปขึ้นประดิษฐานอยู่ที่ "วัดโสธร" จังหวัดฉะเชิงเทรา
...และอีกองค์หนึ่งได้ล่องลอยเรื่อยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา ปาฏิหาริย์ลอยวกเข้ามาในลำคลองสำโรง ประชาชนพบเห็นต่างโจษจันกันไปทั่วถึงความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหาร พร้อมกับพากันอาราธนาท่านขึ้นที่ปากคลองสำโรงนั้น แต่ท่านก็ไม่ยอมขึ้น และในที่นั้นได้มีผู้มีปัญญาดีคนหนึ่งได้ให้ความเห็นว่าคงเป็นเพราะบุญญาอภินิหารของท่าน แม้จะใช้จำนวนผู้คนสักเท่าไรอาราธนาฉุดท่านขึ้นบนฝั่งคงไม่สำเร็จเป็นแน่ควรจะเสี่ยงทายต่อแพผูกชะลอกับองค์ท่าน แล้วใช้เรือพายฉุดท่านให้ลอยมาตามลำน้ำสำโรง และอธิษฐานว่า "หากท่านประสงค์จะขึ้นโปรดที่ใด ก็ขอจงได้แสดงอภินิหารให้แพที่ลอยมาจงหยุด ณ ที่นั้นเถิด" เมื่อประชาชนทั้งหลายได้เห็นพ้องดีกันดังนั้นแล้วก็พร้อมใจกันทำแพผูกชะลอกับองค์ท่าน แล้วใช้เรือซึ่งสมัยนั้นเป็นเรือพายทั้งสิ้นช่วยกันจ้ำพายจูงแพลอยเรื่อยมาตามลำคลอง เรือที่ใช้ลากจูงแพมานั้นมีชื่อแปลกต่าง ๆ กัน เช่น ม้าน้ำ เป็ดน้ำ ตุ๊กแก และอื่น ๆ เป็นต้น และจัดให้มีการละเล่นต่าง ๆ มีละครเจ้ากรับรำถวายมาตลอดทาง และการละเล่นอื่น ๆ ครึกครื้นมาตลอดทั้งลำน้ำ ครั้นแพลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดพลับพลาชัยชนะสงคราม หรือวัดบางพลีใหญ่ใน แพที่ผูกชะลอองค์ท่านก็เกิดหยุดนิ่ง พยายามจ้ำและพายกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง แพนั้นก็หาได้ขยับเขยื้อนไม่ ประชาชนที่มากับเรือและชาวบางพลีถึงกับยินดีและเห็นเป็นอัศจรรย์ยิ่งนักต่างก้มลงกราบนมัสการด้วยความเคารพ และเปี่ยมด้วยสักการะจึงได้พร้อมใจกันอาราธนาตั้งจิตอธิษฐานว่า "ถ้าหลวงพ่อจะโปรดคุ้มครองชาวบางพลีให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขแล้ว ก็ขออาราธนาอัญเชิญองค์ท่านให้ขึ้นจากน้ำได้โดยง่ายเถิด"
...และก็เป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก เพียงใช้คนไม่มากนักก็สามารถอาราธนาท่านขึ้นจากน้ำได้โดยง่าย ทำให้ประชาชนต่างแซ่ซ้องในอภินิหารของท่านเป็นอย่างยิ่ง และได้อาราธนาท่านขึ้นไปประดิษฐานในพระวิหารซึ่งต้องชะลอท่านขึ้นข้ามฝาผนังวิหารเพราะขณะนั้นหลังคาพระวิหารยังไม่มี และประตูวิหารก็เล็กมาก ต่อจากนั้นท่านจึงได้ประดิษฐานอยู่ในวิหารนั้นเรื่อยมา ครั้นต่อมาได้รื้อวิหารนั้นอีกเพื่อสร้างเป็นพระอุโบสถที่ถาวร จึงต้องชะลออาราธนาองค์ท่านมาพักไว้ยังศาลาชั่วคราว จนกระทั่งได้สร้างพระอุโบสถสำเร็จแล้ว จึงได้อาราธนาท่านไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถเพื่อเป็นพระประธานของวัดบางพลีใหญ่ใน การที่ท่านได้พระนามว่า "หลวงพ่อโต" นั้นคงเป็นเพราะองค์ของท่านใหญ่โตสมกับที่ประชาชนเรียก คือใหญ่โตกว่าองค์ที่ลอยน้ำมาด้วยกันทั้ง ๒ องค์ จึงถือเป็นนิมิตอันดีให้ประชาชนพากันถวายนามว่า "หลวงพ่อโต" เป็นสิ่งที่เคารพสักการะของชาวบางพลี และเป็นมิ่งขวัญของวัดบางพลีใหญ่ในมาจนตราบเท่าทุกวันนี้
...การที่ลำดับว่าองค์ไหนเป็นองค์พี่ องค์กลาง องค์น้องนั้น และลอยมาพร้อมกันตามตำนานที่สืบต่อกันมา เข้าใจว่าคงจะนับเอาองค์ที่อาราธนาขึ้นจากน้ำได้ก่อนเป็นองค์พี่ ขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๒ เป็นองค์กลาง และขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๓ เป็นองค์น้อง ตามลำดับคือ
...๑.หลวงพ่อวัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม อาราธนาขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๑ เป็นองค์พี่ (โปรดติดตามประวัติที่จะเสนอต่อไป)
...๒.หลวงพ่อโสธร วัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา อาราธนาขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๒ เป็นองค์กลาง (โปรดติดตามประวัติที่จะเสนอต่อไป)
...๓.หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ อาราธนาขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๓ เป็นองค์น้อง เรียงกันมาตามลำดับ.
..
ออกให้ราคาวัดขาดทุนสายตรงองค์เสด็จพ่อไม่ควรพลาดพระมีตอกโค้ดพระเก็บไว้ไม่มากพระองค์จริงสวยกว่ารูปรับรองไม่ผิดหวังสนใจเชิญเคาะเดียว
16.03 17.11 0172 0188 พระแจกกรรมการไม่มีกล่องวัดได้จากกรรมการสายตรงวัด
20.11 27.11 2873 74 1 77 78 3

16.03 17.11 0172 0188 พระแจกกรรมการไม่มีกล่องวัดได้จากกรรมการสายตรงวัด

เหรียญเสด็จพ่อในหลวงรัชกาลที่ ๕ กำลังแผ่นดินด้านหลังหลวงพ่อโต ๕ พี่น้องชุบทองคำ ๓ กษัตรย์ปลุกเสก ๕ พ
เหรียญเสด็จพ่อในหลวงรัชกาลที่ ๕ กำลังแผ่นดินด้านหลังหลวงพ่อโต ๕ พี่น้องชุบทองคำ ๓ กษัตรย์ปลุกเสก ๕ พ
Top