
ประมูล หมวด:เครื่องรางของขลัง
สิงห์ *****เปิด55บาท*****ว้ดสว่างภพ หลวงพ่อแสวง อริโย เชิญอ่านประวัติที่หน้าสนใจของท่าน





ชื่อพระเครื่อง | สิงห์ *****เปิด55บาท*****ว้ดสว่างภพ หลวงพ่อแสวง อริโย เชิญอ่านประวัติที่หน้าสนใจของท่าน |
---|---|
รายละเอียด | มาอีกแล้วครับ ตัวที่๒ รุ่น---1-----คร๊าบ ไปหาดูที่อี่นก่อนนะครับว่าเขาขายกันตัวเท่าไร? ของหายากมากๆ นานจะหลุดมาซักกำมือ สิงห์ของท่าน เป็นสุึดยอดของเครื่องรางที่สร้างชื่อเสียงให้กับหลวงปู่มากที่สุด เพราะหลวงปู่เสกได้ ขนาดมีชีวิตเลยทีเดียว เป็นวิชาที่ท่านสำเร็จจริง เสกได้จริง และสร้างประสบการณ์ให้กับศิษย์มากที่สุด. เช่น ศิษย์โดนแทกซี่ปล้น เห็นเป็นสิงห์กระโดดเหยียบอกคนขับแท็กซี่เลย ...วัยรุ่นตีกัน โดนยิง กระสุนโดนเต็มๆแต่ไม่เข้า เป็นรอยไหม้เฉยๆ ในตังมีสิงห์รุ่นนี้ตัวเดียว..เป็นต้น หลวง ปู่เสกโดยใช้อภิญญาธาตุ ปลุกเสกให้มีชีวิต ลงธาตุทั้ง 4 ครบถ้วน ทั้งยังลงหัวใจราชสีห์ ซึ่งท่านสำเร็จไว้ด้วย พุทธคุณสูงสุดๆ ด้าน เมตตา มหาอำนาจ กันเขี้ยวงา กันงู ทั้งยังคงกระพันชาตรี และ กันอาถรรพ์จากภูติผี ปีศาจทั้งปวง หลงปู่แสวง เป็นพระอริยะเจ้า ที่ภูมิธรรมสูงมากๆ ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และพระเกจิยุคเก่ามากมาย เป็นพระที่เก่งมาก แต่ไม่เปิดตัว ท่านได้รับนิมนต์ไปเสกพระในวังเสมอๆ พอเสกเสร็จท่านจะขอตัวกลับวัดทันที ไม่ยอมให้ถ่ายรูป หรือสัมภาษณ์อะไรทั้งนั้น ( เคยเสกวัตถุมงคลรุ่นหนึ่ง ขนาดมีควันขึ้นที่วััตถุมงคลเลยครับ) ตอนพิธีปลุกเสกพระวัดประสาท พระที่ทางวัดประสาทนิมนต์มาเสก ล้วนแล้วแต่เป็นพระเกจิอาวุโส อายุไม่ต่ำกว่า 60 แต่หลวงปู่แสวงอายุเพียงแค่ 39 ปีเท่านั้น ถือได้ว่าท่านเป็นพระที่มีอายุน้อยที่สุดที่ไปเสกในพิธีนี้.... ประวัติโดยสังเขปของพระครูปทุมกิจโกศล (พระเถราจารย์ที่ถูกแกล้งลืม) หลวงพ่อแสวง อริโยเกิดในตระกูลเจ้าพระยา เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด พ.ศ. 2567 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2467 ร.ศ.143 จ.ศ. 1286 บ้านเกิด ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บิดาชื่อ นายเล็ก มารดาชื่อ นางทรัพย์ มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันรวม 7 คน คือ 1. นางสาวสาย(ถึงแก่กรรม) 2. นาวสาวโปรย(ถึงแก่กรรม) 3. นายสิน 4. ผู้ใหญ่มล(ถึงแก่กรรม) 5. นายแจ้ง 6. พระครูปทุมกิจโกศล เดิมชื่อ “แจ่ม” แต่ชาวบ้านเรียกท่านว่า “แสวง” เมื่อท่านอุปสมบทแล้วจึงเรียกติดปากตั้งแต่นั้นมา 7. นายจำรัส เจนกระบวน โยมปู่ชื่อหลวงเจนกระบวนทิศ(ต้นนามสกุลเจนกระบวน) เป็นเชื้อสายชาวมอญที่เป็นแม่ทัพนายกอง ซึ่งมีวิทยาคมสูงส่ง เจ้าของตำราผงสิบสองนักกษัตริย์ พูดถึงผงสิบสองนักกษัตริย์หลายท่านอาจจะงง แต่ถ้าพูดถึงหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ จ.ปทุมธานี และหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระฌอ จ.ชลบุรี ท่านคงจะหายสงสัย เพราะสมเด็จรุ่นแรกของหลวงปู่เทียน ที่ผสมผงสิบสองนักกษัตริย์ และสมเด็จรุ่นแรกของหลวงพ่อเริ่ม ก็มีราคาแพงเป็นที่ใฝ่หาของผู้ที่ดวงตก กำลังหาวัตถุมงคลเสริมดวง(รายละเอียดผงสิบสองนักกษัตริย์ หาอ่านได้ในประวัติหลวงปู่เทียนและหลวงพ่อเริ่ม) ผงสิบสองนักกษัตริย์นี้ การสร้างจะคล้ายๆกับผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ถ้าอยากทราบครั้งหน้าผมจะอธิบายรายละเอียดการทำผงสิบสองนักกษัตริย์ให้ฟัง มาฟังประวัติของหลวงพ่อกันต่อครับ ในวัยเด็กของหลวงพ่อชอบตามโยมแม่ของท่าน ไปฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับแม่ชีพันธ์ อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนา ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์เอกของท่านพ่อบันฑูรย์สิงห์ จังหวัดสมุครสาคร ถ้าเทียบเดี๋ยวนี้อำนาจฌาณสมาบัติของแม่ชีพันธ์ก็เทียบได้กับคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธ ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย หลวงพ่อท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่าคนถูกผีเข้า พาเข้าไปหาแม่ชีพันธ์นั้นท่านแค่อธิษฐานจิตปลายนิ้วชี้ของท่าน ชี้ไปที่ร่างของผู้ถูกผีเข้า ผีถึงกับร้องโหยหวน แล้วรีบออกจากร่างไปอย่างรนราน หลวงพ่อท่านได้รับการฝึกวิปัสสนากรรมฐานจากแม่ชีพันธ์ตั้งแต่วัยเด็ก หลังจากนั้นโยมแม่ของหลวงพ่อจึงพาหลวงพ่อไปฝากเรียนหนังสือไทยและขอมกับหลวงพ่ออู๊ด วัดหัตถสาร จ.ปทุมธานี มาถึงตรงนี้ท่านคงงงๆกันอีกแล้วว่าหลวงพ่ออู๊ดท่านเป็นใครมาจากไหน หลวงพ่ออู๊ดเป็นศิษย์รุ่นใหญ่ของหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม จ.อยุธยา ซึ่งมีศักดิ์เป็นศิษย์รุ่นพี่ของหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม ประวัติของหลวงพ่ออู๊ดไม่ค่อยจะได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปนัก เพราะท่านเป็นพระที่ไม่ชอบอวดตัว คนส่วนใหญ่ถ้าพูดถึงศิษย์หลวงพ่อกลั่น มักจะนึกถึงหลวงปู่สี วัดสะแก หลวงปู่ใหญ่ วัดสะแก หลวงพ่อคอน วัดชัยพฤกมาลา แต่ลองมาฟังสิ่งที่ผมจะเล่าถึงในวันสุดท้าย ณ สำนักหลวงพ่อกลั่น ของหลวงพ่ออู๊ด วันนั้นในตอนบ่ายหลวงพ่อกลั่น เรียกหลวงพ่ออู๊ดเข้าไปหาแล้วบอกว่า “ท่านอู๊ดวิชาที่ผมมีอยู่ผมได้สอนท่านไปจนหมดไส้หมดพุงแล้ว ถ้าคุณอยากจะก้าวหน้าต่อไปในเพศบรรพชิต คุณคงต้องหาที่ศึกษาเพิ่มเติมแล้วล่ะ” หลวงพ่ออู๊ดจึงถามหลวงพ่อกลั่นว่า “หลวงพ่อครับ แล้วจะให้กระผมไปศึกษาต่อที่ไหนดีล่ะครับ ช่วยแนะนำผมด้วยครับ” หลวงพ่อกลั่นจึงตอบว่า “ถ้าต้องการศึกษาต่อคงต้องไปหาหลวงพ่อหนู วัดชีปะขาวแล้วล่ะ(จ.อยุธยา) เดี๋ยวผมจะเขียนจดหมายฝากตัวคุณไปให้หลวงพ่อหนูด้วย” หลังจากนั้นหลวงพ่ออู๊ดก็ได้ออกจากสำนักของหลวงพ่อกลั่นพร้อมกับจดหมายฝากตัวที่หลวงพ่อกลั่นเขียนไว้ให้ เดินทางมุ่งหน้าสู่วัดชีปะขาวโดยลำพัง เมื่อถึงวัดชีปะขาวแล้วจึงนำจดหมายฝากตัวนี้ถวายให้หลวงพ่อหนูอ่าน เมื่อหลวงพ่อหนูอ่านแล้วก็ถามหลวงพ่ออู๊ดว่า “คุณอยู่อารามไหนกัน” หลวงพ่ออู๊ดตอบว่า “เกล้ากระผมอยู่วัดหัตถสารจังหวัดประทุมธานีครับ” หลวงพ่อหนูก็ถามต่อไปอีกว่า “อ้าว! แล้วจะอยู่เรียนวิชากันอย่างไร” หลวงพ่ออู๊ดตอบว่า “ผมจะเดินทางไปๆมาๆ เพื่อมาขอศึกษาต่อครับ” หลวงพ่อหนูตอบว่า “เอ้อ อย่างนั้นไม่ต้องลำบากหรอก เดี๋ยวข้าจะไปหาเอ็งเอง ที่วัดของเอ็งมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่หนึ่งต้นใช่มั้ย” หลวงพ่ออู๊ดตอบว่า “ใช่ครับหลวงปู่” หลวงพ่อหนูจึงตอบว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าเอ็งไม่เข้าใจหรือติดขัดในวิชาใดๆ เอ็งไปรอข้าที่ต้นโพธิ์ใหญ่ พร้มกับจุดธูป 9 ดอก รำลึกถึงข้า ช้าจะไปหาเอ็งเอง” ท่านผู้อ่านครับเหมือนนิยายมั้ย แต่ฟังก่อนครับหลวงพ่ออู๊ดได้ต่อวิชาต่างๆจากหลวงปู่หนู วัดชีปะขาวจนจบคัมภีร์พระเวท ณ ที่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่วัดหัตถสารนั้นเอง หลวงพ่อเล่าให้ผมฟังแบบนี้ ผมก็ไม่กล้าถามท่านต่อแล้วครับเพราะผมรู้ดีว่าพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าท่านมักจะสำเร็จวิชาย่นระยะทางโดยอาศัยพลังแห่งธาตุเป็นหลัก ซึ่งเราก็อาจจะหาอ่านได้ในนิตยสารพระเกจิต่างๆมากมาย ยกตัวอย่างเช่น หลวงพ่อปาน หลวงพ่อจง หลวงพ่อเดิม ฯลฯ ย้อนเข้ามาถึงเรื่องราวของหลวงพ่อต่อถึงตอนที่โยมแม่พาหลวงพ่อมาฝากเรียนหนังสือขอมและไทย โดยฝากไว้กับหลวงพ่ออู๊ด หลวงพ่อได้เรียนชั้นประถมที่วัดหัตถสารจากหลวงพ่ออู๊ดพร้อมเกร็ดวิชาต่างๆ จนเรียนจบแล้ว หลวงพ่อจึงได้บวชเณรอยู่กับหลวงพ่ออู๊ดที่วัดหัตถสารจนอายุใกล้ครบบวชพระ โยมแม่จึงขอร้องให้ไปบวชที่วัดใกล้บ้านคือวัดสว่างภพนั่นเอง หลวงพ่อได้อุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2487 ณ พัทธสีมาวัดสว่างภพ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีพระอธิการเฮ็ง สุมโนเป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยธรหลุย เป็นพระกรรมวาจารย์และพระอธิการสวัสดิ์ โสตฺถิทตุโตเป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วได้รับฉายาว่า “อริโย” และหลังจากได้อุปสมบทแล้วได้กลับไปขอศึกษาวิชาในสายหลวงพ่อกลั่นจากหลวงพ่ออู๊ดต่อ พร้อมกับไปฝากตัวกับพระเถราจารย์รุ่นเก่าอีกมากมายนับไม่ถ้วน พระเถราจารย์ที่หลวงพ่อแสวงได้ศึกษามีดังนี้ 1. หลวงพ่อเลื่อน วัดไผ่ จ.อยุธยา 2. หลวงพ่อสมบุญ วัดสว่างภพ หลวงพ่อแสวงได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์แผนโบราณ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2492 – 2500 จนมีความรู้ความสามารถทางการแพทย์แผนโบราณเป็นอย่างดี 3. หลวงพ่อโป๋ วัดวังแดง จ.อยุธยา 4. หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ จ.อยุธยา หลวงพ่อแสวงได้รับการถ่ายทอดมาหลายวิชา 5. หลวงพ่ออุ่ม วัดเจ้ากอ จ.อยุธยา 6. หลวงพ่ออู๊ด วัดหัตถสาร จ.ปทุมธานี 7. หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง จ.อยุธยา 8. หลวงพ่อโอภาส วัดพระศรีไกรน้อย บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เก่งมากทางสักยันต์ คงกระพันชาตรี 9. หลวงพ่อจง พุทธสโร แห่งวัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา ที่เราคงจะได้ต้องบรรยายอะไรมาก เพราะว่าทุกๆคนน่าจะรู้จักท่านดี มีเรื่องเล่าขันๆให้ท่านผู้อ่านฟัง วันหนึ่งผมอยากจะรู้ว่าในตะกรุดสิบหกดอกของหลวงพ่อจงลงอักขระเลขยันต์อะไรไว้ ผมจึงขับรถไปหาหลวงพ่อแม้น ที่วัดหน้าต่างนอก เมื่อไป ถึงวัดทางสะดวกเลยครับ พระหลวงพ่อแม้นกำลังไม่มีแขกพอดี ผมจึงเรียนถามท่านว่า “หลวงพ่อครับ ตะกรุดสิบหกดอกของหลวงพ่อจง ลงยันต์อะไรไว้ครับผมอยากจะทราบ” หลวงพ่อแม้นท่านตอบผมว่า “เอ้อ! คุณโยมมาจากวัดไหน” ผมตอบท่านว่า “ผมมาจากวัดสว่างภพ จ.ปทุมธานีครับ” หลวงพ่อแม้นท่านยิ้มแล้วตอบผมว่า “โยมมาซะไกลเลยนะ ไปถามหลวงพ่อแหวงสิ เขาทันเรียนกับหลวงพ่อจงและใกล้ชิดกว่าฉันอีก” มาถึงตอนนี้ไม่อยากจะบรรยายความรู้สึกเลยครับหน้าแตก(หมอไม่รับเย็บเลยงานนี้) ผมรีบขับรถกลับไปวัดสว่างภพทันทีเพื่อไปกราบแทบเท้าหลวงพ่อแสวง ท่านจึงเล่าความจริงให้ผมฟังว่าท่านไปๆมาๆ ระหว่างวัดหน้าต่างนอกและวัดสว่างภพอยู่เป็นปี เพื่อต่อวิชากับหลวงพ่อจง จนหลวงพ่อจงเมตตามาอยู่ช่วยปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดสว่างภพเป็นเวลาถึง 7 วัน 7 คืน พร้อมกับมอบเหล็กจารไว้ให้หลวงพ่อ 1 อัน พร้อมกับผงพุทธคุณ 1 บาตรใหญ่ๆ เพื่อให้หลวงพ่อแสวงสร้างวัตถุมงคลเป็นรูปหลวงพ่อจงและพิมพ์สมเด็จเนื้อผง 1 รุ่น(ครั้งหน้าผมจะโม้ให้ฟังถึงวัตถุมงคลรุ่นนี้ พร้อมกับข่าวดีว่า ยังมีอยู่ที่วัดสว่างภพครับ) 10. อาจารย์คง เป็นฆราวาสและเป็นศิษย์หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม จ.อยุธยา หลวงพ่อแสวงได้เรียนวิชาอาคมทางด้านคงกระพันแคล้วคลาดและเมตตามหานิยม เรียกได้ว่าครบเครื่อง 11. อาจารย์หลำ เป็นฆราวาสมีอาคมแก่กล้าทางด้านคงกระพันชาตรี 12. อาจารย์และพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆอีกมากมาย แต่ไม่สามารถนำบอกกล่าวกันให้ฟังได้ครับ ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณโชคแสนดี |
ราคาเปิดประมูล | 55 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 405 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | ศ. - 27 ส.ค. 2553 - 21:18.06 |
วันปิดประมูล |
อา. - 26 ก.ย. 2553 - 21:18.06 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
ข้อมูลเพิ่มเติม #1 อ. - 31 ส.ค. 2553 - 17:17.28
ที่อื่นออก กัน เป็นพันนะครับ และไม่มีของให้เล่นด้วย เปิดราคาต่ำๆ
ราคาปัจจุบัน | 405 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
---|---|
เพิ่มครั้งละ | 50 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
105 บาท | ส. - 28 ส.ค. 2553 - 18:54.18 | |
155 บาท | ส. - 18 ก.ย. 2553 - 18:41.24 | |
205 บาท | ศ. - 24 ก.ย. 2553 - 00:11.29 | |
255 บาท | ศ. - 24 ก.ย. 2553 - 00:11.35 | |
305 บาท | ศ. - 24 ก.ย. 2553 - 00:11.45 | |
355 บาท | ศ. - 24 ก.ย. 2553 - 10:44.40 | |
405 บาท | อา. - 26 ก.ย. 2553 - 05:45.07 |
กำลังโหลด...