
ประมูล หมวด:พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ก่อนปี 2520
รูปหล่อโบราณก้นอุดผงอัฐิหลวงพ่อทอง วัดเขากบ นครสวรรค์ หลวงพ่อเดิมปลุกเสกปี2484





ชื่อพระเครื่อง | รูปหล่อโบราณก้นอุดผงอัฐิหลวงพ่อทอง วัดเขากบ นครสวรรค์ หลวงพ่อเดิมปลุกเสกปี2484 |
---|---|
รายละเอียด | หลวงปู่ทอง วัดเขากบ เป็นพระมหาเถราจารย์ที่ทรงคุณวิเศษ มีวิชาที่เข้มขลัง เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน ทุกหมู่เหล่า น้ำมนต์ หลวงพ่อทอง ศักดิ์สิทธ์มาก แต่จะเป็นที่รู้กันของชาวบ้านว่า น้ำมนต์ หลวงพ่อทอง ให้อฐิษฐานแล้วให้ดื่มได้อย่างเดียว ห้ามใช้อาบโดยเด็ดขาด กล่าวถึง 10 สุดยอดพระเกจิแห่งสยาม “พลังจิตแก่กล้า-อาคมขลัง” เรื่องราวที่เล่าขานนี้เป็นความจริงที่ปรากฏและเป็นตำนาน แห่งความเข้มขลัง ของอดีตพระเกจิของแผ่นดินสยาม และปัจจุบันเชื่อว่าคงหาเกจิรูปใดเทียบเคียงบุญญาบารมี และอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ได้ยากยิ่ง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2452 สมเด็จพระสังฆราช (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงมีพระดำริในการทดสอบพลังจิตและความเข้มขลังของพระเกจิทั่วสยามประเทศขึ้น ที่วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม นัยว่าเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะ "พระดี-เกจิดัง" ในสายวิปัสสนากัมมัฏฐานและเฟ้นหา “สุดยอดพระเกจิ” (ตามประวัติน่าจะมีเพียงครั้งเดียว) โดยนิมนต์พระเถรจารย์และเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วประเทศมา ชุมนุมมากกว่า 100 รูป งานนี้เรียกได้ว่า "พิธีชุมนุมพระเกจิชื่อดังทั่วแดนสยาม" ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ก็คงไม่ผิดนัก ในพิธีมีการทดสอบวิทยาคมและพลังจิตอย่างเข้มขลัง โดยคัดเลือกเกจิอาจารย์ครั้งละ 10 รูป ด้วยวิธีจับสลาก จากนั้นนำท่อนไม้ 1 ท่อน มาวางบนม้า 2 ตัว จากนั้นนำกบไสไม้วางบนท่อนไม้ โดย สมเด็จพระสังฆราช (เข) ทรงบอกกติกาว่า เกจิทุกรูปจะต้องใช้พลังจิตบังคับให้กบไสไม้วิ่งไสไม้ไป-กลับโดยกบห้ามหล่น ลงมาเด็ดขาด หากใครพลังจิตแก่กล้าจริงก็จะสามารถทำได้ หากใครพลังจิตยังไม่สุดยอดก็ต้องยอมล่าถอยไป ปรากฎว่าหลังการทดสอบผ่านไป 3 วัน 3 คืน เกจิส่วนใหญ่ใช้พลังจิตบังคับกบวิ่งไสไม้ได้ทั้งนั้น แต่บังคับวิ่งไปข้างหน้าได้ทางเดียว บังคับกลับไม่สำเร็จ มีเพียงเกจิ 10 รูปเท่านั้นที่สามารถบังคับกบไสไม้ได้ทั้งไป-กลับ ถือว่าเป็น 10 พระเกจิสุดยอดแห่งสยามประเทศอย่างแท้จริงและปัจจุบันคงหาเกจิรุ่นใหม่เทียบ ได้ยากยิ่ง โดยเกจิทั้ง 10 รูป ได้แก่ 1. หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม 2. หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท 3. หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา 4. หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง จากกรุงเทพมหานครหรือเมืองบางกอก 5. หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร 6. หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม 7. หลวงพ่อทอง วัดคีรีนาถบรรพต (เขากบ) จ.นครสวรรค์ 8. หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน (วัดบางเหี้ย) จ.สมุทรปราการ 9. หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี 10. หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ จ.ชุมพร พระเถระผู้เฒ่าจากนครสวรรค์ หลวงพ่อทองวัดเขากบ ประวัติท่านไม่ค่อยมีใครรู้มากนักเนื่องจากท่านเป็นพระค่อนข้างเก็บตัวไม่ ได้ออกเครื่องรางของขลัง ทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ท่านเป็นพระยุคเก่ารุ่นเดียวกับหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า แม้หลวงพ่อเดิมยังนับถือ ยังมาปลุกเสกเหรียญรุ่น1ให้ท่าน ท่านสร้างวัตถุมงคลอยู่ไม่กี่อย่างแต่ละอย่างล้วนหายากเล่นยาก รูปท่านี้เป็นรูปเดียวที่ท่านให้ถ่ายรูปยังไม่เคยเห็นรูปท่านในท่าอื่นเลย วัถตุมงคลรุ่นหลังๆแม้ไม่ทันท่าน ประสบการณ์ดีเหลือเกินโดนกันมาเยอะ เศรษฐีนครสวรรค์ท่านหนึ่งเคยโดนยิงไม่เข้าคล้องเหรียญรุ่น 2 องค์เดียวไม่ทันท่านปลุกเสกด้วย วัดวรนาถบรรพต (วัดกบ) ตั้งอยู่บนถนนธรรมวิถี ตำบลปากน้ำโพ ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือวัดวรนาถบรรพตบนพื้นที่ราบ และ บนเขากบ ซึ่งเป็นเขาลูกเล็กๆ ตั้งอยู่หน้าเทศบาลนครนครสวรรค์ไม่ห่างไกลจากพื้นที่ราบ เท่าใดนัก แต่ทั้ง 2 แห่งเป็นวัดเดียวกันมีโบราณสถานน่าสนใจ อยู่หลายสิ่ง คือภายในบริเวณวัดบนพื้นที่ราบมีเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาหรือทรงระฆัง ก่ออิฐถือปูน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 20-21 ลักษณะแบบศิลปะสุโขทัย,พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ยาวประมาณ 10 วาเศษ ในพระอุโบสถหลังเก่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเจดีย์ส่วนบนยอดเขากบนั้นมีรอยพระพุทธบาทจำลอง (รอยเท้าซ้าย) ประดิษฐานอยู่ ซึ่งวัดวรนาถบรรพตมีหลักฐานในศิลาจารึกหลัก ที่ 20 ค้นพบโดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพเมื่อปลายปี พ.ศ. 2464 ที่ยอดเขากบ ปัจจุบันกรมศิลปากรนำไปเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดวิชิรญาณ ท่าวาสุกรี กรุงเทพฯ จากข้อความในศิลาจารึกนั้นกล่าวถึงพญาบาลเมืองสร้างวัด ที่เมืองปากพระบาง มีเจดีย์วิหารขุดตระพัง ปลูกบัวนานาพรรณ เพื่อเป็นพุทธบูชา ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในอารามอาวาส สร้างพุทธปฏิมาดูงามนักหนาในวิหาร เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ พญารามผู้น้องซึ่งมาสิ้นพระชนม์ลง ณ เมืองพระบาง ส่วนรอย พระพุทธบาทจำลองนั้น ตามหลักฐานในศิลาจารึกหลักที่ 3 พบที่เมืองนครชุม กำแพงเพชร กล่าวถึงสมเด็จพระมหาธรรมราชา (ลิไท) นำรอยพระพุทธบาทจำลองที่ทางลังกาทวีปนำมาบรรณาการแก่ สุโขทัย 2 รอยด้วยกันโดยรอยซ้ายให้ประดิษฐานไว้มี่ยอดเขาปากพระบาง ส่วนอีกรอยหนึ่งนั้นนำขึ้นไปยังเมืองสุโขทัยประดิษฐานไว้ที่วัดกระพังทอง ซึ่งยังคงมีหลักฐานอยู่จนทุกวันนี้ รอยพระพุทธบาทจำลองปัจจุบันยังคงให้ประชาชนสักการบูชา ในวิหารบนยอดเขากบ นอกจากนี้ยังมีเจดีย์บรรจุพระบรมารี ริกธาตุ,พระพุทธรูปหิน ปางนาคปรก สมัยเชียงแสน เป็นต้น ในส่วนของการสร้างวัดวรนาถบรรพตหรือวัดกบนั้นมีตำนาน เล่าสืบกันมาว่า เมื่อครั้งประมาณปี พ.ศ. 2415 มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อ ทอง เดินธุดงค์มาปักกรดอยู่ข้างหมู่บ้านเชิงเขา ทุกเช้า หลวงพ่อทอง จะเดินออกบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตว์ทั่วไป จนวันหนึ่งหลวงพ่อทองไปพบเจดีย์ใหญ่เก่าแก่มาก หลวงพ่อ สนใจมากตรงไปที่บ้านเล็กๆ พบสองตายายจึงถามว่า “โยม ชื่ออะไร ที่ดินแปลงนี้เป็นของใคร” ตาตอบหลวงพ่อว่า “พระคุณเจ้า ตัวชื่อ ตากบอยู่ด้วยกันกับยายเขียด ที่แห่งนี้ เป็นของฉันเองมีอยู่ร้อยไร่เศษกว้างคลุมยอดเขานั่นเทียว ส่วนเจดีย์นั้นเป็นเจดีย์เก่าแก่ชาวบ้านแถบนี้นับถือกันมากหาก หลวงพ่อจะใช้ที่ดินแห่งนี้เป็นที่พำนักฉันก็ยินดีถวายให้เป็นที่ สร้างวัดเพราะฉันกับยายก็แก่มากแล้ว” หลวงพ่อทองได้รับถวายที่ดินจากตากบ-ยายเขียด ต่อมาชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างกุฏิ เล็กๆก่อนสร้างอุโบสถและศาลาขึ้นอีกเพื่อชาวบ้านใช้ประกอบ พิธีทางศาสนา ต่อมาตากบ-ยายเขียดถึงแก่กรรมแล้วหลวงพ่อทองจึงกำหนด ที่ดินทั้งหมดทั้งที่ราบและบนยอดเขาเป็นที่ดินของวัด และตั้ง ชื่อวัดนี้ว่า “วัดเขากบ” ตามชื่อของเจ้าของที่ดิน หลังจากการ ฌาปนกิจศพ ตากบ-ยายเขียดแล้วหลวงพ่อยังให้ช่างปั้นรูป จำลองตากบยายเขียดไว้ที่หน้าอุโบสถจนกระทั่งทุกวันนี้ เนื่องจากในสมัยนั้นเชิงเขากบเป็นป่าสักมากมายหลวงพ่อ จึงตั้งชื่อว่า “เขากบทราวดีจอมคีรี ณ ป่าสัก” ซึ่งต่อมาเจ้า ประคุณสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) อดีตอธิบดีสงฆ์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ กรุงเทพฯ สมัยนั้นท่านเป็น เจ้าคณะมณฑลเห็นว่าวัดกบ ตั้งอยู่เชิงเขาจึงเปลี่ยนชื่อ ให้เป็น วัดวรนาถบรรพต ซึ่งอธิบายได้ว่า คำว่า วร แปลว่า ยอดเยี่ยม,ประเสริฐ นาถ แปลว่า ที่พึ่ง ส่วน บรรพต แปลว่า ภูเขา รวมความแปลได้ว่า ภูเขาซึ่งเป็นที่พึ่งอันประเสริฐ แต่ชาวบ้านยังคงเรียกว่า วัดกบ และวัดเขากบ จนติดปาก มาทุกวันนี้ นอกจากนี้ที่วัดเขากบนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังคงเดินทาง มานมัสการหลวงพ่อทอง เกจิอาจารย์มีชื่อทางอาคมที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยหลวงพ่อทองหรือหลวงปู่ทองเป็นอดีตเจ้าอาวาสองค์แรก ของวัดวรนาถบรรพต ท่านมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน แม้จะมรณภาพไปนานแต่ก็เป็นที่เคารพสักการะ ของประชาชนทั่วไป อีกทั้งชื่อเสียงของหลวงปู่ทองที่มีอาคมขลังและความศักดิ์สิทธิ์ยังเลื่องลือจนปัจจุบัน โดยมีเรื่องเล่าขานถึงหลวงปู่ทองมากมาย อาทิ ครั้งหนึ่งเมื่อ ท่านขึ้นไปพอกปูนยอดเจดีย์อยู่บนนั่งร้านที่สูงกว่า 20 ศอก แล้วเกิดพลัดตกลงมาจากนั่งร้านลงมาถึงพื้นดินแทนที่จะได้รับ บาดเจ็บท่านกลับลุกขึ้นปัดฝุ่นที่จีวรแล้วกลับขึ้นไปพอกปูนต่อ เป็นที่อัศจรรย์ กับผู้พบเห็นจนเลื่องลือว่าท่าน มีวิชาตัวเบา อีกเรื่องที่เล่าขานกันมาจนปัจจุบันว่าหลวงปู่ทองสามารถย่น ระยะทางได้ โดยมีผู้พบเห็นท่านบิณฑบาตไกลถึงบ้านแดน เขตบรรพตพิสัย บ้านบางแก้วบ้าง บ้านหาดทรายงามบ้าง ครั้งหนึ่งท่านรับกิจนิมนต์ไปถึงกรุงเทพฯ ขากลับท่านให้ลูกศิษย์กลับมาก่อนโดยท่านแวะเสวนาธรรมกับพระนักธรรมใน กทม.ก่อน แต่เมื่อลูกศิษย์กลับมาถึงวัดก็พบว่าหลวงปู่ทองจำวัดอยู่ก่อนแล้ว จึงเป็นที่ล่ำลืออีกว่าท่านสามารถย่นระยะทางได้ จนวันนี้ทางวัด ได้จัดหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงท่านไว้ในวิหาร ซึ่งมีประชาชน ทั้งทางใกล้ไกลเดินทางมานมัสการท่านเป็นประจำมิได้ขาด |
ราคาเปิดประมูล | 900 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 900 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 900 บาท |
วันเปิดประมูล | พ. - 27 ก.พ. 2562 - 13:33.23 |
วันปิดประมูล |
อา. - 17 มี.ค. 2562 - 10:58.20 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
ราคาปัจจุบัน | 900 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
---|---|
เพิ่มครั้งละ | 900 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดก่อนกำหนดโดยผู้ตั้งประมูล
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
ยังไม่มีผู้ประมูล |
กำลังโหลด...