
ประมูล หมวด:เครื่องรางของขลัง
ผ้ายันต์ พระพิราพ สีม่วง ปี๕๐ หลวงปู่กาหลง เขียวแก้ว.


ชื่อพระเครื่อง | ผ้ายันต์ พระพิราพ สีม่วง ปี๕๐ หลวงปู่กาหลง เขียวแก้ว. |
---|---|
รายละเอียด | เทพอสูรผู้เป็นบรมครูสูงสุดแห่งนาฏศิลป์ บรมครูผู้ประทานโชคลาภความสุข ความเจริญ ความร่มเย็นเป็นสุข และอำนาจ แห่งมหาเสน่ห์เมตตาชั้นสูงสุด เทพเจ้าผู้ประทานชีวิตและความตาย เจ้าแห่งพลังอำนาจการลบล้างคุณไสยมนต์ดำ ป้องกันและปราบปรามภูตผีปีศาจ และอาถรรพณ์ร้ายทุกชนิด กฎข้อสำคัญของพระพิราพ ผู้ที่รับบูชาพระพิราพไปในคราวแรกจะต้องตั้งเครื่องสังเวยบูชาครูในวันพฤหัสแรกจึงจะเป็นสิริมงคลแก่ตัวท่านเอง เครื่องสังเวยได้แก่ ไข่ดิบ 5 ฟอง, ข้าวตอก 1 ถ้วย, น้ำผึ้ง 1 ถ้วยชาเล็ก, ดอกไม้หรือพวงมาลัยรวามกันให้ได้ 3 สีขี้นไป วางตั้งลงบนพานบูชาเป็นการรับครูจุดธูป 5 ดอก เทียน 2 เล่ม ตั้งนโม 3 จบ สวดบูชาพระรัตนตรัย (อิติปิโส ถึงโลกัสสาติ) จากนั้นจึงสวดพระคาถาอัญเชิญพระพิราพรับเครื่องสังเวย ดังนี้ อิมัง สัจจะวาจัง อะธิษฐามิ ทุติยัมปิ อิมัง สัจจะวาจัง อะธิษฐามิ ตะติยัมปิอิมัง สัจจะวาจัง อะธิษฐามิ พุทธัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา ธัมมัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา สังฆัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา พุทโธสิทธิฤทธิ์ ธัมโมสิทธิฤทธิ์ สังโฆสิทธิฤทธิ์ สุขะ สุขะ ชัยยะ ชยยะ ลาภะ ลาภะ สัพพะธัมมานัง ประสิทธิ เม ประสิทธิ เต พุทโธสวัสดีมีชัย ธัมโมสวัสดีมีชัย สังโฆสวัสดีมีชัย ปะติตัง สุรังคัธัง อะธิษฐามิ ทุติยัมปิ พุทธัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา ทุติยัมปิ ธัมมัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา ทุติยัมปิ สังฆัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา พุทโธสิทธิฤทธิ์...................อะธิษฐามิ ตะติยัมปิ พุทธัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา ตะติยัมปิ ธัมมัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา ตะติยัมปิ สังฆัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา พุทโธสิทธิฤทธิ์...................อธิษฐามิ อิมัสสะมิง วันทามิ อาจาริยัง, สัพพะไสยยัง วินาสสันติ, สิทธิการะ อัปปะระปะชา อิมัสสะมิง สิทธิ ภะวะตุ สัพพะทา นมัสสิตะวา อาจาริยัง อิสิโลกะนาถัง พุทธะสะรามิ นะมัสสิตะวา อาจาริยัง อิสิ โลกะนาถัง ปะติปะติบูชา วันทิตะวา อสูรเทพานัง มหันตะพลัง อันตะรายัง วินาสสันติ สิทธิการิยะ พิราธาสูรยัง วิชาจาระณาสัมปันนัง นะมามิหัง อัคคีพาหูบุปผัง อะหังวันทา อาจาริยัง สัพพะไสยยัง วินาศสันติ สิทธิปะระปะชา อิมัสสะมิง ภะวันตุ เม ทุติยัมปิ อัคคีพาหูบุปผัง.............ภะวันตุ เม ตะติยัมปิ อัคคีพาหูบุปผัง.............ภะวันตุ เม จากนั้นกล่าวต่อว่า “ข้าพเจ้า (ชื่อ, นามสกุล) ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกหลานเป็นลูกศิษย์แห่งพระองค์ท่านพระพิราพผู้เป็นบรมครู และขอได้โปรดให้ท่านมีเมตตาประทานพรประทานโชคลาภตามสมควรแก่ลูกด้วย” และถ้าหากตัองการอธิษฐานขอพรใด ๆ ก็กล่าวคำอธิษฐานตามแต่ปรารถนาเถิดพระคาถาข้างต้นนี้ใช้กล่าวสวดบูชา เฉพาะตอนที่ถวายเครื่องสังเวยเท่านั้น ส่วนพระคาถาที่ใช้สวดบูชาติดตัวทุกวันให้ใช้บทสวดที่จะกล่าวถึงต่อไป สำหรับการบูชานั้นจำเป็นอย่างยิ่งในครั้งแรกที่ได้รับพระพิราพไปสักการะบูชาจะเป็นผลที่ดีอย่างยิ่ง เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า “พระพิราพ”ท่านมีฤทธิ์เดชแรงมาก ส่วนการบูชาในวันอื่นที่ต่อจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธาโดยไม่จำเป็นว่าจะต้องทำเป็นประจำ พระคาถาและการบูชาพระพิราพ ท่องนะโม 3 จบ “อิมัง พุทธัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา อิมัง ธัมมัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา อิมัง สังฆัง องค์พระพิราธัง ขอเอหิจงมา พุทโธ สิทธิฤทธิ์ ธัมโม สิทธิฤทธิ์ สังโฆ สิทธิฤทธิ์ สุขะ สุขะ ชัยยะ ลาภะ ลาภะ สัพพะธัมมานัง ประสิทธิเม ประสิทธิเต พุทโธ สวัสดีมีชัย ธัมโม สวัสดีมีชัย สังโฆ สวัสดีมีชัย” (ท่อง 3 จบ) “ยักษะ สะวะรูปะ ชฏา ธะรายะ ปินากะ หัสสะตายะ สนาตะนายะทิวะยายะ เทวายะ ทิคัมพรายะ ตัสสะไม ยการายะ นมะศิวายะ” พระพิราพนับเป็นบรมครูองค์สำคัญพระองค์หนึ่งที่หมู่นาฏศิลปินทั้งหลายให้ความเคารพในฐานะบรมครูผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงฤทธิ์แรงครูชั้นสูง ทั้งนี้คติในการนับถือพระพิราพว่าเป็นบรมครูนั้นสืบเนื่องจากประเพณีการนับถือ พระไภราวะ ของชาวอินเดียและเนปาล โดยพระไภราวะนั้นคือ ภาคหนึ่งของพระอิศวรที่แสงรูปกายออกมาเป้นยักษ์ทีทรงอิทธิฤทธิ์ ตามคติตำนานแต่โบราณกล่าวว่า พระไภราวะนี้มีฤทธิ์ในการปราบภูตผีปีศาจ ในสมัยก่อนเมื่อเกิดโรคระบาดคร่าชีวิตผู้คนทั้งหลาย ขาดที่พึ่งจึงได้ระลึกถึงพระไภราวะผู้ประทานชีวิตและความตายอันเป็นภาคมหาปราบภาคหนึ่งของพระศิวะเจ้า เมื่อคนทั้งหลายต่างพากันบูชาพระไภราวะแล้ว โรคร้ายทั้งหลายทั้งปวงก็หายไป บังเกิดความร่มเย็นเป็นสุขขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นการนับถือพระไภราวะนี้จึงมีคติที่นับถือกันว่าผู้ใดก็ตามที่นับถือบูชาแล้ว ผู้นั้นจะปราศจากภยันอันตราย อาถรรพณ์ร้ายทั้งปวง ทั้งยังช่วยให้เกิดสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย คติการนับถือพระไภราวะนี้เข้ามาในไทยพร้อมกับวิชานาฏศิลป์ คำว่าพระพิราพนั้นก็มาจากคำว่า “ไภราวะ” หรือ “ไภรวะ” แล้วภายหลังเพี้ยนมาเป็น “พระไภราพ” จนที่สุดก็กลายมาเป็นคำว่า “พระพิราพ” ในคติของชาวนาฏศิลป์ที่นับถือพระพิราพนั้นก็เนื่องจากเชื่อถือกันว่า พระพิราพนี้เป็นบรมครูทางฝ่ายยักษ์ผู้สูงสุดและยังถือว่าพระพิราพนี้เป็น พระผู้ประทานโชคลาภ เสน่ห์เมตตามหานิยม อุดมด้วยทรัพย์สมบัติ ผู้ที่เคารพบูชาพระองค์จะเป็นที่เมตตามหานิยมแก่คนทั้งหลาย บังเกิดความเจริญสูงสุดในชีวิตทุก ๆ ด้าน ทั้งเรื่องการงาน การเงิน และจะมีความร่มเย็นเป็นสุขห่างไกลจากโชคร้ายภยันอันตรายทั้งหลายอย่างน่าอัศจรรย์ แม้ว่าจะต้องประสบเคราะห์หามยามร้ายอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี หากมีพระพิราพบูชามีบารมีแห่งพระองค์คุ้มหัวคุ้มเกล้าแล้วไซร้ ย่อมปลอดภัย ผ่อนหนักเป็นเบา แคล้วคลาดไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้นว่าบ้านใดมีผู้เจ็บป่วยเรื้อรังมานานหรือญาติมิตรทั้งหลายเจ็บป่วยขาดที่พึ่ง เกรงว่าจะรักษามิได้ ก็ให้ระลึกถึงคุณบรมครูพระพิราพ จุดธูปเทียนสักการะตั้งจิตอธิษฐานถึง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และคุณบรมครูอสุรเทพพระพิราพเอาเถิดจะเกิดผลดีเป็นแน่แท้ อำนาจแรงครูจะช่วยปัดเป่าโรคร้ายเสนียดจัญไรทั้งหลายให้บำราศไปเอง ในปี 2550 นี้ อันเป็นปีมหามงคลอีกวาระหนึ่ง ทางคณะศิษย์หลวงปู่กาหลงจึงได้ดำเนินการจัดสร้างพระพิราพเต็มองค์ บรมครูสูงสุดแห่งนาฏศิลป์ บรมครูสูงสุดทางฝ่ายยักษ์ อันมีฐานะเป็นมหาอวตารภาคหนึ่งของพระศิวะ โดยในสมัยโบราณบางท่านจะเรียกว่า “พระอิศวรภาคดุ” หรือ พระศิวะภาคดำ การสร้างพระพิราพเต็มองค์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการสร้างที่หาผู้ทำได้ยากยิ่งเพราะเป็นที่รู้กันดีว่าการสร้างพระพิราพนั้นเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ด้วยว่าหากสร้างโดยไม่รู้ขาดความพิถีพิถันอันควรแล้วย่อมเกิดอาถรรพณ์แก่ผู้สร้างได้ ดังนั้นการสร้างพระพิราพในครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยพิธีการตามแบบโบราณสืบสานคติความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณี เต็มไปด้วยความระมัดระวังและความเคารพในองค์ครูอย่างสูงสุด และเป็นที่แน่นอนว่าการสร้างบรมครูพระพิราพในครั้งนี้ย่อมถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ในการสรรค์สร้างผลงานวัตถุมงคลอันล้ำค่า ที่เต็มไปด้วยความวิจิตรศิลป์ สืบสานคุณค่าแห่งความเป็นไทย ทั้งยังเปี่ยมด้วยอิทธิฤทธิ์อานุภาพแห่งแรงครูการสร้างบรมครูพระพิราพในในปี 2550 นี้นับเป็นการสร้างเพื่อบูชาครูโดยแท้ เป็นการรำลึกถึงครูชิตอันเป็นครูทางนาฏศิลป์โขนละครท่านสำคัญที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาพระลักษณ์หน้าทองแก่หลวงปู่กาหลง จนกลายเป็นตำนานพระลักษณ์หน้าทองตราบมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นการระลึกถึงบรมครูผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เป็นเทพเจ้าผู้มีฤทธิ์ ดังนั้นในการไหว้ครูปี 2550 นี้ จึงได้มีการจัดตั้งเครื่องสังเวยบูชาครูทั้งฝ่ายเทพและฝ่ายยักษ์โดยพร้อมเพรียง ผู้ที่รับครอบครูในปีนี้จึงเท่ากับว่าได้ร่วมบูชาทั้งครูทั้งครูเทพ ครูฤาษี ครูยักษ์ และครูที่เป็นอธิวิญญาณผู้วิเศษ รวมทั้งพระเดช พระคุณหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว พระเถราจารย์ผู้ได้รับการยกย่องยอมรับว่าเป็นครูผู้เป็นตัวแทนแห่งครูทั้งหลาย ทั้งนี้เป็นที่เชื่อมั่นว่าผู้ที่ได้รับบูชาพระพิราพไปก็ดี ได้รับการครอบครูในปี 2550 ก็ดี ย่อมเป็นผู้ที่จะเจริญด้วยลาภยศสรรเสริญ เสน่ห์เมตตามหานิยม และด้วยอำนาจแรงครูทั้งหลาย มีพระฤาษีสิงห์สมิงพราย พระลักษณ์หน้าทอง พระพิราพ แลพระเดช พระคุณหลวงปู่กาหลงเป็นที่สูดนั้นย่อมทำให้ท่านเป็นผู้ปราศจากสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย ปลอดโรคปลอดภัย เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ พร้อมด้วยปฏิภาณ คิดหวังสิ่งใดย่อมสมปรารถนา ในสิ่งนั้นทั้งปวง |
ราคาเปิดประมูล | 200 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 350 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | พฤ. - 15 มี.ค. 2555 - 12:53.59 |
วันปิดประมูล |
พ. - 04 เม.ย. 2555 - 12:53.59 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
ราคาปัจจุบัน | 350 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
---|---|
เพิ่มครั้งละ | 50 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...