ประมูล หมวด:พระปิดตาทั่วไป
พระปิดตาอาจารย์เปิง วัดชินวราราม จ.ปทุมธานี เนื้อผงคลุกรัก
| ชื่อพระเครื่อง | พระปิดตาอาจารย์เปิง วัดชินวราราม จ.ปทุมธานี เนื้อผงคลุกรัก |
|---|---|
| รายละเอียด | "พระอุปัชฌาย์เปิง กมโล ” อดีตเจ้าอาวาสวัดมะขามใต้(แภ่ยแม่งโกลนฮะโม) หรือวัดชินวราราม วรวิหาร ผู้สร้างสุดยอดพระปิดตาอันดับ 1 เมืองปทุม ตำบลบางขะแยง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พระอุปัชฌาย์เปิง กมโล แห่งวัดมะขามใต้ หรือวัดชินวราราม วรวิหาร อำเภอเมืองปทุมธานี ท่านมีนามเดิมว่า เปิง นามสกุล เที่ยงสัตย์ เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง ซึ่งตรงกับวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๓๙๙ ท่านเป็นบุตรชายคนสุดท้อง ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ๕ คน ของโยมพ่อ ปั่น(ปาญ) เที่ยงสัตย์ และโยมแม่ กั้ว(กว๊ะ) เที่ยงสัตย์ ท่านถือกำเนิดมาในตระกูลของชาวรามัญแห่งบ้านบางขะแยง โดยบรรพบุรุษของท่านอพยพมาจากหงสาวดี รามัญประเทศ และได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย โดยได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานยังบ้านบางขะแยง เขตเมืองปทุมธานี ใกล้กับวัดใน(ปัจจุบัน วัดใน ได้รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวัดชินวราราม ไปหมดแล้ว) ในวัยเด็ก ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนอักษรสมัย หนังสือจินดามณี ภาษามอญ และภาษาบาลีรามัญ จากพระอาจารย์ด็วด และพระอาจารย์โม่ญ ซึ่งเป็นพระภิกษุที่อพยพมาจากหงสาวดี และได้จำพรรษาอยู่ที่วัดใน เมื่อท่านมีอายุครบเกณฑ์บวช จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดมะขามใต้ เมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๒๐ โดยมีพระอธิการเฒ่า วัดมะขามใต้ เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยท่านได้รับฉายาว่า “กมโล” แปลว่า “ผู้ดุจดอกบัว” เมื่อท่านได้บวชเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้และเรียนพระปริยัติธรรมเบื้องต้นจากพระอุปัชฌาย์ ที่วัดมะขามใต้ ได้สักระยะหนึ่ง ต่อมาท่านจึงได้ออกธุดงค์เดินทางไปยังรามัญประเทศ เพื่อไปศึกษาวิชาสายรามัญ กับพระอาจารย์ต่างๆ กระทั้งท่านได้กลับมาถึงสยามประเทศ ท่านได้เดินทางเข้ายังพระนคร เพื่อจะไปขอร่ำเรียนวิชาจากอาจารย์มีชื่อต่างๆในยุคนั้น ต่อมาท่านได้มาฝากตัวเป็นศิษย์ในสำนักวัดโพธิ์บางเขน เมืองนนทบุรี ซึ่งท่านได้อยู่จำพรรษาและได้เล่าเรียนพุทธาคม ตลอดจนวิชาการทำพระเครื่องราง จาก หลวงพ่อเชย จันทสิริ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์บางเขน (ปัจจุบันคือ วัดโพธิ์ทองล่าง จ.นนทบุรี) ซึ่งในอดีตเป็นสำนักตักศิลาทางด้านพุทธาคม ซึ่งหลวงพ่อเชย รูปนี้ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์และเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ศุข เกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท และยังเป็นพระอาจารย์ของ หลวงปู่กรุด วัดหงสา จ.ปทุมธานี ด้วย ซึ่งต่อมา หลวงปู่กรุด หลวงปู่ศุข และพระอาจารย์เปิง จึงได้เป็นสหธรรมิกธรรมกัน ท่านมีความสนิทสนมและให้ความเคารพซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก แต่พระอาจารย์เปิงท่านมีพรรษากาลน้อยกว่า ท่านจึงไหว้ถวายความเคารพต่อหลวงปู่กรุด และหลวงปู่ศุข ทุกครั้งที่พบกัน กระทั่งเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ท่านได้เดินทางกลับมาจำพรรษายังวัดมะขามใต้ จ.ปทุมธานี โดยบางครั้งท่านก็ไปจำพรรษาที่วัดเจตวงศ์บ้าง ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้ๆกับวัดมะขามใต้(ปัจจุบัน วัดเจตวงศ์ ได้กลายสภาพเป็นวัดร้าง และพื้นที่บางส่วนของวัดก็ได้ถูกรวมเข้ากับวัดชินวราราม) อีกทั้งท่านยังได้ไปแลกเปลี่ยนวิชาและเป็นสหธรรมิกกับ หลวงปู่ไกร วัดป่ากลางทุ่ง , ท่านเจ้าคุณฯ พระรามัญมุนี(มะลิ ปัณฑิโต) วัดบางหลวง , พระครูปทุมเถรสถาน(หลวงปู่บุญมี ผุพฺพรมฺโม) วัดฉาง เป็นต้น กระทั่งเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๕๓ พระอธิการเฒ่า เจ้าอาวาสวัดมะขามใต้ ในขณะนั้นได้ถึงกาลมรณภาพ คณะสงฆ์พร้อมด้วยชาวบ้านจึงได้นิมนต์ให้ พระอาจารย์เปิง กมโล ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมะขามใต้ สืบแทน กระทั่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๖ ท่านจึงได้รับตราตั้งแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดมะขามใต้ และเป็น พระอธิการ นับเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๖ ของวัดมะขามใต้ ในยุคที่ พระอาจารย์เปิง กมโล ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมะขามใต้นั้น ท่านได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่างๆภายในวัดมะขามใต้ใหม่เกือบทั้งหมด โดยในระยะแรกท่านได้รวบรวมศรัทธาชาวบ้านมาช่วยกันสร้างมาช่วยกันบูรณะไปตามมีตามเกิด เนื่องจากวัดมะขามใต้ในยุคนั้นเสนาสนะต่างๆได้ชำรุดเสียหายลงไปเป็นอันมาก ท่านได้ริเริมก่อสร้างอุโบสถเพื่อใช้ในการกระทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์ แต่ด้วยเหตุที่ขาดกำลังแรงงานและทุนทรัพย์ในการก่อสร้าง จึงทำให้อุโบสถนั้นยังไม่สำเร็จได้ กระทั่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๔ เมื่อคราว พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรวิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิตรฯ พระนคร ได้เสด็จมาตรวจการคณะสงฆ์มณฑลกรุงเทพมหานคร เป็นครั้งแรก โดยในขณะนั้นท่านทรงดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้ทอดพระเนตรเห็นศาลาการเปรียญ วัดเทียนถวายซ่อมทาสีใหม่ โดยมี พระพิมลธรรม (นาค สุมโน) วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพมหานคร เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ ที่ พระศรีสมโพธิ์ มาซ่อมประดิษฐานศพโยมของท่าน จึงเป็นเหตุสกิตพระหฤทัยให้ทรงดำริว่า “ถ้าคราวพระองค์ท่านต้องทำศพหม่อมมารดา ควรทำอย่างนี้ เป็นประโยชน์มากดีกว่าทำเมรุ...” แต่ทรงดำริถึงถาวรวัตถุในประเภทอื่นว่า “ควรทำอุโบสถดีกว่าศาลา...” แต่นั้นมา พระองค์ก็ทรงแสวงหาอุโบสถที่ทรงจะปฏิสังขรณ์ เรื่อยมา ครั้นเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๕ พระองค์ได้เสด็จไปตรวจการคณะสงฆ์ในอำเภอเมืองปทุมธานี ได้เสด็จมาถึงวัดมะขามใต้ ทรงเห็นทำเลวัดดีมีกุฎีหมู่หนึ่งพอเป็นที่พำนักอยู่อาศัยของพระภิกษุ สามเณรได้ และมีอุโบสถซึ่งเริ่มก่อผนังไว้แล้ว ซึ่งไม่มีใครที่จะปฏิสังขรณ์ต่อให้สำเร็จ ก็สมพระหฤทัยที่ทรงตั้งพระปณิธานไว้ จึงทรงได้ปรึกษากับพระอธิการเปิง เจ้าอาวาสวัดมะขามใต้ และพระองค์ก็ทรงรับที่จะปฏิสังขรณ์อุโบสถวัดมะขามใต้ให้สำเร็จลุล่วงต่อไป ครั้นได้โปรดให้ปฏิสังขรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์จึงได้จัดงานฉลองเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๕๖ นับแต่นั้นมา พระองค์ก็ได้ทรงอุปถัมภ์วัดมะขามใต้ร่วมกับพระอาจารย์เปิงเรื่อยมา และประกอบกับท่านอาจารย์เปิง นั้น ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านพุทธาคม เป็นทั้งอาจารย์ที่สอนพระธรรมวินัย ตลอดจนภาษาบาลีแบบรามัญ และภาษาขอม ที่ขึ้นชื่อลือชา เป็นสุดยอดพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ทำให้ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ วัดราชบพิตร ทรงโปรดปราณรักใคร่และให้ความเคารพต่อพระอาจารย์เปิงเป็นอย่างมาก โดยได้เสด็จไปมาหาสู่ และได้แวะมาพำนักที่วัดมะขามใต้อยู่เป็นนิจ เรียกว่า วัดมะขามใต้กับวัดราชบพิตรในสมัยนั้น เป็นวัดคู่แฝด วัดพี่วัดน้องที่แยกกันไม่ได้โดยเด็ดขาด ต่อมาพระองค์จึงได้แต่งตั้งให้ พระอาจารย์เปิง เป็น พระวินัยธร ฐานานุกรมใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรวิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิตรฯ พระนคร และต่อมาท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็น พระอุปัชฌาย์ สามารถบรรพชาอุปสมบทกุลบุตรชาวบ้านย่านนั้นได้ เมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๕๘ พระอาจารย์เปิง กมโล ท่านเป็นพระมหาเถระรามัญที่ทรงอภิญญาภูมิขั้นสูง และเชี่ยวชาญด้านการทำพระเครื่องต่างๆ เป็นอย่างมาก ท่านได้ทำวัตถุมงคลไว้หลายชนิดด้วยกัน อาทิเช่น พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก พิมพ์ต่างๆ , ประคำเนื้อผงคลุกรัก , ตะกรุด , สีผึ้ง , ผ้ายันต์ เป็นต้น ซึ่งวัตถุมงคลของท่านทุกชนิดล้วนแล้วแต่ประกอบไปด้วยคุณวิเศษ มากล้นด้วยประสบการณ์ปาฏิหาริย์ พุทธคุณโดดเด่นมาก ในด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ จนเป็นที่กล่าวขวัญกันมาไม่จบสิ้น โดยเฉพาะ พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักของท่านนั้น นับเป็นพระเครื่องยอดนิยมอันดับหนึ่งของจังหวัดปทุมธานี เป็นแม่แบบในการทำพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักของพระเกจิอาจารย์ต่างๆในยุคต่อมา พระเครื่องของท่านนั้นจึงเป็นที่หมายปองของประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก จึงทำให้ในยุคที่พระอาจารย์เปิง เป็นเจ้าอาวาสวัดมะขามใต้นั้น เป็นยุคทองของวัดมะขามใต้เลยก็ว่าได้ มีพระเถราจารย์ที่มีชื่อเสียงจากวัดต่างๆ อาจารย์ฆราวาสจากที่ต่างๆ เดินทางมาขอร่ำเรียนและเปลี่ยนวิชากับท่านเป็นจำนวนมาก และท่านยังได้คอยช่วยเหลือสงเคราะห์ชาวบ้านในย่านนั้นในเรื่องต่างๆด้วย บ้างก็มาขอให้ท่านช่วยในเรื่องเดือดร้อนต่างๆ บ้างก็มาขอรดน้ำมนต์ ขอวัตถุมงคลของท่านบ้าง ท่านจึงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก สมกับที่ท่านได้รับขนานนามให้เป็น "องค์ปฐมอาจารย์ฝ่ายรามัญแห่งลุ่มแม่น้ำเมืองปทุมธานี” ลูกศิษย์ของท่านที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของประชาชน มีมากมายลายท่าน แต่เท่าที่มีการบันทึกและมีการกล่าวถึงพระอาจารย์เปิงอยู่บ่อยครั้ง ก็มีอาทิ เช่น ๑.พระครูปัญญารัตน์ (ติ๊ด) อดีตเจ้าอาวาสวัดชินวรารามรูปที่ ๗ ๒.พระอุดมญาณมุนี (ยศ โกลิโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดชินวรารามรูปที่ ๘ ๓.พระอริยธัชเถร (อาจารย์ไพ่ โกลิโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดสวนมะม่วง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ๔.พระอธิการพลาย ถาวโร อดีตเจ้าอาวาสวัดมะขามเหนือ(วัดมะขาม) อ.เมือง จ.ปทุมธานี ๕.พระครูปทุมวรคุณ (เอี่ยม ปัญญาทีโป) อดีตเจ้าอาวาสวัดหงส์ปทุมวาส อ.เมือง จ.ปทุมธานี ๖.พระสมุห์อรรถ โชติปาโล อดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำวน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ๗.หลวงปู่รอด สุมิตโต วัดเกริน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ๘.หลวงปู่บุญธรรม สุเมโธ วัดไพร่ฟ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี ๙.หลวงปู่พะอ๊อก ปุพฺพรมฺโม วัดฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ฯลฯ พระอุปัชฌาย์เปิง กมโล ท่านได้อาพาธอย่างหนักและได้ละสังขารลง ด้วยโรคลมปัจจุบัน เมื่อเดือน ๗ ปีระกา พ.ศ. ๒๔๖๔ ณ ภายในกุฏิสงฆ์ของท่าน สิริรวมอายุท่านได้ ๖๕ ปี พรรษา ๔๔ ศึกษาค้นคว้าและเรียบเรียงโดย ขุนแผน แดนรามัญ ขอขอบพระคุณแหล่งที่มาของข้อมูลต่างๆ ข้อมูลประวัติจาก ๑.หนังสือพระเครื่องยอดนิยมประจำจังหวัดปทุมธานี ๒.นิตยสารพระเครื่อง “มหาโพธิ์” ฉบับที่ ๑ วันที่ ๒๐ ก.ค. ถึง ๒๐ ส.ค. ๒๕๒๔ ๓.หนังสือประวัติวัดชินวราราม วรวิหาร ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ๔.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี//วัดสำคัญของจังหวัด//วัดชินวรารามวรวิหาร ๕.ประวัติพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรวิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม ------------------------ องค์นี้เนื้อผงคลุกรัก เนื้อน้ำตาลแดง |
| ราคาเปิดประมูล | 19,500 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 19,500 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 500 บาท |
| วันเปิดประมูล | อา. - 15 พ.ย. 2563 - 21:40.16 |
| วันปิดประมูล |
ส. - 05 ธ.ค. 2563 - 21:40.16
|
| ผู้ตั้งประมูล | |
| แชร์หน้านี้ |
| ราคาปัจจุบัน | 19,500 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
|---|---|
| เพิ่มครั้งละ | 500 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
| กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
| ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
|---|---|---|
| ยังไม่มีผู้ประมูล | ||
กำลังโหลด...






