ประมูล หมวด:หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า - หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส – หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม – หลวงปู่บัว วัดศรีบูรพาราม
พระกริ่งญสส.วัดบวร เนื้อนวะโลหะก้นนวะ กรรมการตอกหมายเลข19 หลวงปู่บัว หายาก
| ชื่อพระเครื่อง | พระกริ่งญสส.วัดบวร เนื้อนวะโลหะก้นนวะ กรรมการตอกหมายเลข19 หลวงปู่บัว หายาก |
|---|---|
| รายละเอียด | รายละเอียด] พระกริ่งญสส.วัดบวร เนื้อนวะโลหะก้นนวะโลหะ กรรมการตอกหมายเลข19 สร้างจำนวนประมาณ300องค์ เป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคล ที่หลวงปู่บัว ถามโก เทพเจ้าโชคลาภแห่งภาคตะวันออก วัดเกาะตะเคียน พุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดบวรฯ ก้นบรรจุด้วยผงมาจากวัดบวรฯ อันประกอบด้วย ผงสมเด็จจอตรดา ผงพุทธคุณของสมเด็จพระสังฆราช ผงสุดวิเศษพ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว ผงพุทธคุณหลวงปู่วัดมะขามเฒ่าในส่วนที่ตกอยู่กับท่านพ่อเฒ่ายิ้ม ผงหลวงปู่เหรียญอาจารย์องค์แรกของสมเด็จพระสังฆราช พร้อมทั้งไม้หมอ(ไม้สีฟัน) จีวร รวมกับจีวรของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อุดใต้ฐานทุกองค์ กอนปิดก้น เป็นอีกหนึ่งสุดยอดวัตถุมงคลของหลวงปู่บัว ที่เด่นพร้อมทั้งพุทธคุณ พระกริ่งชินบัญชร ญสส. เนื้อนวะ ก้นนวะ เป็นพระที่สร้างจากแรกเริ่ม เป็นยอดที่เผื่อพระชำรุดหรือเสียหายที่ต้องคัดออก เป็นพระองค์สำรอง ในระบบ ญสส. แต่ด้วยชำรุดน้อย จึงมีองค์พระกริ่งเหลือออกมาส่วนหนึ่ง(แต่เข้าพิธีทุกอย่างตามระบบ ญสส.) และได้ปรึกษาและได้สรุปกับ วัดบวรฯให้ใช้แผ่นนวะปิดหุ้มก้น เพราะจะได้ไม่ซ้ำกับชุดในระบบ ที่มีก้นทองคำ ,เงิน,ทองแดง,ทองฝาบาตรและก้นอุดผง. และนำมาบอกบุญในกองกฐิน วัดหนองประชุม กาญฯ(สายพ่อเฒ่ายิ้มและถ้ำขุนแผน) และได้ตอกโค๊ด ๑๙ และนำเข้าพิธียกยอดฉัตรที่วัดละหารไร่เพิ่ม มีตอกโค๊ดยอดฉัตร(หากไม่มีโค๊ดยอดฉัตรก็ไม่ใช่ส่วนกองกฐิน) ซึ่งเป็นรุ่น"กรรมการพิเศษ" ก้น นวะโลหะ ไม่มีให้เช่าบูชาทั่วไปครับ เป็นพระคัดสวยที่แยกออกมาเพื่อให้ "กรรมการ" เท่านั้นครับ โดยมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ได้แบ่งส่วนหนึ่งให้วัดบวรฯ และเก็บไว้เพื่อสมนาคุณกรรมการที่ร่วมทำบุญงาน "ยอดฉัตร" ทุกองค์ตอกโค้ด หมายเลข ๑๙ หมายถึงพระสังฆราชองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวัตถุมงคลประเภทพระกริ่ง โดยเฉพาะพระกริ่งชินบัญชรที่ในปัจจุบันมีมูลค่าเช่าหาสูงอย่างน่าใจหายทั้ง นี้เป็นเพราะปัจจุบันพระกริ่งชินบัญชรก้นทองแดงสภาพสวยๆ เซียนเปิดราคาเอาไว้เกือบล้านบาทเข้าไปแล้ว และยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นไปกว่านี้อีกก็คงเป็นไปตามที่หลวงปู่ทิมกล่าว เอาไว้เมื่อ 30 กว่าปีมาแล้วว่า "อีกหน่อยพลิกแผ่นดินก็หาไม่เจอ" แต่ไม่เป็นไรครับ ถ้าเพื่อนๆ สมาชิก ของผมท่านใดที่ยังไม่มีโอกาสได้พระกริ่งชินบัญชรมาบูชา ผมขอแนะนำให้ท่านลองใช้พระกริ่งชินบัญชร ญสส. ที่ได้รับการปลุกเสกเดี่ยวจากหลวงปู่บัว วัดศรีบูรพาราม จังหวัดตราด ดูนะครับ ถึงแม้พระกริ่งชุดนี้จะเป็นพระใหม่ที่มีอายุการสร้างเพียงไม่กี่ปี แต่ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ตลอดจนการแสดงความศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นประจักษ์ในหลายประการนั้น ย่อมบ่งบอกให้ทราบได้ทันทีเลยว่าพระกริ่งชินบัญชร ญสส. นั้นเปี่ยมล้นไปด้วยพุทธคุณไม่น้อยไปกว่าพระกริ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังใน อดีตอย่างแน่นอน จึงทำให้ผู้รู้ข้อมูลเบื้องลึกต่างซุ่มเแอบตามเก็บกันอย่างเงียบๆ จนของหมดไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มูลค่าในการเช่าหาสูงกว่าเดิมอีกหลายเท่าและยังคงเป็นเช่นนี้ไปอีก เรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ที่เกิดขึ้นกับพระกริ่งชินบัญชรมา แล้วในอดีต สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทำให้พระกริ่งชินบัญชร ญสส. ชุดดังกล่าวนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นั้นมาจากสาเหตุ 7 ประการ ดังนี้ 1. พระกริ่งชุดนี้ คุณชินพร สุขสถิตย์ ผู้สร้างได้ใช้องค์พระต้นแบบที่ใช้ในการเทพระกริ่งชินบัญชรเมื่อ 30 ปีที่แล้วมาเป็นต้นแบบสำหรับเทพระกริ่งชินบัญชร ญสส. ไม่ใช่เป็นพิมพ์ที่เกิดจากการถอดแบบองค์พระกริ่งชินบัญชรเหมือนดังที่ผ่านมา ดังนั้นขนาดสัดส่วนและรูปลักษณ์จึงมีความใกล้เคียงกับพระกริ่งชินบัญชรของ เดิมมากที่สุด แต่เพื่อป้องกันความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักสะสมรุ่นหลัง จึงได้มีการตกแต่งรายละเอียดบางอย่างเพิ่มเติมลงไป อีกทั้งยังเพิ่มบัวที่ฐานด้านหลังอีก 1 คู่ อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของพระกริ่งจากสำนักวัดบวรนิเวศวิหารทุกองค์อีกด้วย 2. พระกริ่งชุดนี้ทำพิธีเททองแบบโบราณที่หน้าพระอุโบสถรังสีสุทธาวาส วัดบวรนิเวศวิหาร อันเป็นวัดต้นกำเนิดพระกริ่งอันดับหนึ่งที่เป็นสุดของที่สุดแห่งตำนานพระ กริ่งของเมืองไทย 3. พระกริ่งชุดนี้ได้รับการประทานอนุญาตจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดบวรฯ ให้ใช้พระนามย่อ ญสส. จารึกไว้ที่องค์พระกริ่งได้ อีกทั้งยังทรงเมตตาแก่ผู้สร้างด้วยการมอบมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์มาให้อีกหลาย รายการ อาทิเช่น ชนวนพระกริ่งปวเรศ ปี 2530 เส้นพระเกศาผงจิตรลดา ผงพุทธคุณ และไม้สีพระทนต์ เป็นต้น พระกริ่งชุดนี้จึงได้เฉลิมนามตามที่ปรากฏว่าพระกริ่งชินบัญชร ญสส. 4. พระกริ่งชินบัญชร ญสส. เททองโดยใช้ฤกษ์เดียวกับฤกษ์เททองพระกริ่งชินบัญชรที่วัดละหารไร่เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว คือตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม 2554 ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล เวลา 08.29 น. อันเป็นเทวีฤกษ์ โดยมีสมเด็จพระมหาธีรจารย์เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดชนะสงครามพระเถราจารย์ผู้สือทองวิทยาคมสายหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาต จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในการเททอง (สมเด็จฯ ท่านมีความตั้งใจในพิธีเททองครั้งนี้อย่างมาก ถึงกับมาในพิธีก่อนเวลาถึงเกือบชั่วโมงเลยครับ) 5. ได้บังเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น 2 ประการ ในพิธีเททองหล่อพระกริ่ง ดังนี้ ประการแรก ก่อนหน้าจะถึงวันเททองได้มีฝนตกลงมาทั่วกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องโดยติดต่อกันอยู่หลายวัน แต่พอถึงวันพิธีคือ วันที่ 5 พฤษภาคม ถึงแม้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มแต่ก็ไม่ปรากฏเม็ดฝนโปรยปรายลงมาแม้แต่น้อย มีแต่สายลมพัดเบาๆ จนเกิดความเย็นสบายไปทั่วปริมณฑลพิธี ประการที่สอง ระหว่างหลอมทองอยู่นั้น ปรากฏว่าได้มีแผ่นทองแดง 3 ชนิด อันประกอบไปด้วยแผ่น ตะกรุดจันทร์เพ็ญที่คุณชินพร จัดสร้างขึ้นและปลุกเสกด้วยเองตลอดเข้าพรรษาเมื่อปี 2552 ก้นทองแดงของพระกริ่งชินบัญชร ปี 2517 ที่ชำรุด และขอบพระปรกใบมะขาม ของ หลวงปู่พรหมมา วัดถ้ำผานางคอย ที่ลอยอยู่ด้านบนไม่ยอมหลอมละลายรวมตัวกับมวลสารอื่นทั้่งๆ ที่ภายในเบ้าหลอมนั้นมีอุณหภูมิสูงนับเป็นพันๆ องศาฯ โดยช่างหลอมได้ตักขึ้นมาให้ทุกคนในพิธีได้เห็นเป็นประจักษ์พยานกันอย่างทั่ว ถึง นับเป็นเหตุมหัศจรรย์ที่เกิดภายในวัดบวรฯแห่งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ภายหลังจากเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีพ.ศ.2482 ที่แผ่นตะกรุดของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์ กับแผ่นตะกรุดของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม ที่ไม่ยอมละลายในพิธีเททองเช่นกัน 6. ภายหลังเททองผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระกริ่งชินบัญชร ญสส. ทั้งหมดถูกบรรจุลงในหีบเหล็กซึ่งเป็นใบเดียวกันกับที่ใช้บรรจุพระกริ่งชิน บัญชรเมื่อปี 2517 ก่อนนำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก ภายในพระอุโบสถของวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2553 โดยมีพระครูสังฆกิจบูรพา หรือ หลวงปู่บัว แห่งวัดศรีบูรพาราม ยอดพระเกจิอาจารย์เพชรน้ำเอกที่ชาวตราดหวงแหนและให้ความเคารพศรัทธาสูงสุด เป็นผู้ปลุกเสกเดี่ยวติดต่อกันเป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมง (วัตถุมงคลหลายอย่างของท่านที่จัดสร้างขึ้นไม่มากนักต่างดูกลูกศิษย์ลูกหา และชาวตราดเก็บกันจนหมด เพื่อไม่ให้แพร่หลายออกนอกจังหวัด แม้กระทั่งการเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อปลุกเสกพระกริ่งชินบัญชร ญสส. นี้ยังถูกคณะศิษย์กลุ่มหนึ่งที่เกรงไปว่าพระกริ่งชุดนี้ จะทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อโด่งดังไปทั่วประเทศ จึงพยายามขัดขวางด้วยวิธีการต่างๆ แต่ด้วยความตั้งใจของหลวงพ่อที่จะปลุกเสกพระกริ่งชุดนี้ให้ได้ ทำให้ผู้สร้างสามารถผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคทั้งหลายได้อย่างราบรื่นครับ) 7. เมื่อข่าวการจัดสร้างพระกริ่งชินบัญชร ญสส. แพร่ออกไปโดยเฉพาะเมื่อรู้กันว่าผู้ปลุกเสกคือหลวงปู่บัว ทำให้พระกริ่งทุกเนื้อถูกจองจนหมดสิ้นภายในเวลา 7 วัน โดยเฉพาะพระกริ่งเนื้อทองคำ ซึ่งแต่เดิมผู้สร้างตั้งใจสร้างเพียง 98 องค์ ตามพระชนมายุของสมเด็จพระสังฆราช หรือตามจำนวนผู้จองปรากฏว่าเฉพาะชาวตราดได้สั่งจองมาเอย่างเป็นทางการแค่ จังหวัดเดียวถึง 70 กว่าองค์ทำให้ต้องเพิ่มยอดการรับจอง เปิดโอกาสให้ คนในจังหวัดอื่นได้บูชาบ้าง ในที่สุดต้องประกาศปิดการรับจองพระกริ่งเนื้อทองคำไว้ที่ 171 องค์ ครับ พระกริ่งชินบัญชร ญสส. นั้นได้จัดสร้างขึ้นมาทั้งหมด 3 เนื้อ ได้แก่ เนื้อทองคำ 171 องค์ เนื้อเงิน 498 องค์ เนื้อนวะโลหะ 5,592 องค์ จำแนกเป็น ก้นหุ้มทองคำ 498 องค์ ก้นอุดผง 1,198 องค์ ก้นหุ้มเงิน 698 องค์ ก้นทองแดง 1,599 องค์ (ตอกเลขคี่ 1-3,197) ก้นฝาบาตร 1,599 องค์ (ตอกเลขคู่ 2-3,198) ทุกเนื้อจะตอกหมายเลขเรียงลำดับพร้อมกับตอกโค้ดกันปลอม 3 ตัว ได้แก่ พระนามย่อ ญสส. ยอดฉัตร 3 ชั้น และตัวอักษรย่อ ตส. ในหยดน้ำไว้อีกด้วย นอกจากนี้พระกริ่ง ญสส. ทุกเนื้อ นอกจากภายในก้นจะบรรจุเม็ดกริ่งที่กะเทาะจากลูกนิมิตของพระอุโบสถวัดโบราณ ในสมัยอยุธยาแล้ว ยังบรรจุผงพุทธคุณที่ได้ประทานมาจากสมเด็จพระสังฆราช ผงพุทธคุณของพ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว ผงพุทธคุณของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ผงพรายกุมารเข้มขลังคลุกเคล้าด้วยสีผึ้งและน้ำมันพระเจ้าตากของหลวงปู่ทิม และเศษจีวรของหลวงปู่บัว ไว้ภายในอีกด้วย |
| ราคาเปิดประมูล | 100 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 100 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
| วันเปิดประมูล | ส. - 16 ม.ค. 2564 - 11:49.43 |
| วันปิดประมูล |
ศ. - 05 ก.พ. 2564 - 11:49.43 
|
| ผู้ตั้งประมูล | |
| แชร์หน้านี้ |
| ราคาปัจจุบัน | 100 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
|---|---|
| เพิ่มครั้งละ | 100 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
| กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
| ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
|---|---|---|
| ยังไม่มีผู้ประมูล | ||
กำลังโหลด...
