เหรียญหล่อ พระประจำวัน(ปางถวายเนตร) หลวงปู่บุญใหญ่ วัดเจดีย์คีรีวิหาร อุตรดิตถ์ - webpra

ประมูล หมวด:พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ก่อนปี 2520

เหรียญหล่อ พระประจำวัน(ปางถวายเนตร) หลวงปู่บุญใหญ่ วัดเจดีย์คีรีวิหาร อุตรดิตถ์

เหรียญหล่อ พระประจำวัน(ปางถวายเนตร) หลวงปู่บุญใหญ่ วัดเจดีย์คีรีวิหาร อุตรดิตถ์ เหรียญหล่อ พระประจำวัน(ปางถวายเนตร) หลวงปู่บุญใหญ่ วัดเจดีย์คีรีวิหาร อุตรดิตถ์ เหรียญหล่อ พระประจำวัน(ปางถวายเนตร) หลวงปู่บุญใหญ่ วัดเจดีย์คีรีวิหาร อุตรดิตถ์
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง เหรียญหล่อ พระประจำวัน(ปางถวายเนตร) หลวงปู่บุญใหญ่ วัดเจดีย์คีรีวิหาร อุตรดิตถ์
รายละเอียดสวย เดิม แท้

พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปณโญ)
" หลวงปู่บุญใหญ่" เป็นชื่อที่ชาวอุตรดิตถ์ เรียกพระเถระผู้ทรงคุณวุฒิรูปหนึ่งตามสมศักดิ์ของท่าน คือ พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปญโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์คีรีวิหาร และเจ้าคณะแขวงเอกเมืองพิชัย มณฑลพิษณุโลก ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2415 บิดาชื่อหม่อม มารดาชื่อ แก้ว มีพี่น้องจำนวน 3 คน ได้แก่ นางแตะ พุฒเนียม นางคำ สุขวุ่น และหลวงปู่บุญใหญ่ (ชื่อเดิม บุญ พุฒเนียม)

ในสมัยวัยเยาว์ หลวงปู่บุญใหญ่ได้มีความสนใจวิชาในทางพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เมื่ออายุได้ 12 ปี โยมบิดามารดาได้นำไปฝากเป็นศิษย์ของหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์น้อย วัดป่ายาง (อุปัชฌาย์รูปแรกของอำเภอลับแล) ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและอักษรล้านนาจนความรู้แตกฉาน เมื่ออายุได้ 15 ปีได้บวชเป็นสามเณร ท่านเริ่มสนใจในวิชาไสยศาสตร์และเวทมนต์คาถาเป็นอย่างมาก หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์น้อยก็เมตตาประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้แขนงต่าง ๆ ให้หลวงปู่บุญใหญ่จนหมดสิ้น เมื่ออายุครบ 20 ปี หลวงปู่จึงได้อุปสมบทหรือเป๊ก (เป๊ก หมายถึง การบวชพระที่เป็นสามเณรโดยที่ไม่สึกเป็นฆาราวาส) โดยมีหลวงพ่อน้อย วัดป่ายางเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้นามฉายาว่า "อินทปญโญ" ขณะที่บวชเป็นพระ ท่านได้อยู่ปรนนิบัติหลวงพ่อน้อย ศึกษาพระปริยัติธรรม และปฏิบัติธรรมควบคู่กันไป ต่อมาจึงได้กราบลาพระอุปัชฌาย์ย้ายมาจำพรรษา และปฏิบัติธรรมที่วัดทุ่งเอี้ยง เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้โยมบิดามารดา

สมเด็จพระสังฆราช ฯ เสด็จประพาสภาคเหนือ
ขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งเอี้ยงหลายพรรษา จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งเอี้ยง พ.ศ. 2453 สมเด็จพระสังฆราช กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ (หม่อมเจ้าภูชงค์) ได้เสด็จประพาสภาคเหนือมาประทับที่วัดทุ่งเอี้ยง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดป่าแก้วไม่มากนัก พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นเจดีย์เก่า จึงตรัสถามหลวงปู่ว่า " นั่นเป็นวัดหรืออย่างไรเห็นเจดีย์เก่าแก่อยู่ " หลวงปู่จึงกราบทูลว่า " เป็นวัดร้างมานานแล้ว ชาวบ้านเรียกว่าวัดป่าแก้ว " สมเด็จพระสังฆราชจึงตรัสถามหลวงปู่ต่อว่า " วัดร้างนั้นอยู่ในทำเลที่ดีอยู่ในเนินที่สูงไม่มากนัก พร้อมทั้งเจดีย์เก่าอยู่ ข้าพเจ้าว่าคงเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่ง น่าจะบูรณะซ่อมแซมและไปอยู่ที่นั่น ถ้าท่านจะไปบูรณะและไปอยู่จริงข้าพเจ้าจะตั้งชื่อให้ใหม่ว่า วัดเจดีย์คีรีวิหาร "

หลังจากสมเด็จพระสังฆราช กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ เสด็จกลับไปแล้ว ในปี พ.ศ. 2454 หลวงปู่บุญใหญ่ และชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกัยบูรณะซ่อมแซมเจดีย์คงคืนสภาพเดิม มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 วา สูง 13 วา ขณะที่ซ่อมแซมเเจดีย์ได้พบเครื่องลายคราม เงินกลม และพระพุทธรูปทองคำ หน้าตักกว้าง 2 นิ้ว สูง 3 นิ้ว เป็นจำนวนมาก หลวงปู่จึงได้นำเอาของมีค่าทั้งหมดนำมาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุเจดีย์ และขณะที่กำลังบูรณะอุโบสถ(หลังเก่า) นั้นได้พบแผ่นศิลาจารึก 1 แผ่น ตัวอักษรในแผ่นศิลาจารึกนั้นอ่านไม่ออก (ไม่ใช่ภาษาไทย) ข้าหลวงอุตรดิตถ์ (ผู้ว่าราชการจังหวัด) ได้จัดส่งไปไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมื่อซ่อมแซมเจดีย์และอุโบสถเสร็จแล้ว ก็ได้สร้างกุฎิ และศาลาการเปรียญขึ้นอีกหนึ่งหลัง เมื่อสร้างเสร็จแล้วหลวงปู่ก็ได้ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดเจดีย์คีรีวิหาร ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดและเจ้าคณะแขวงเอกเมืองพิชัย มณฑลพิษณุโลก และได้รับพระราชทานสมศักดิ์ว่า " พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร "

การสร้างวัตถุมงคล
หลวงปู่บุญใหญ่ท่านมีพระที่เป็นพระสหายธรรมที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เช่น หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม , หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นต้น ซึ่งมีกไปมาหาสู่กันอยู่บ่อย ๆ จึงเป็นที่เชื่อได้ว่าวิทยาคมของท่านนั้นสูงส่งไม่ต่างจากสหายของท่าน

ท่านได้สร้างพระเครื่องอยู่ประเภทหนึ่งที่ผู้อยู่ในวงการพระเครื่องต่างก็สับสนในเรื่องของที่มา ได้แก่ พระผงคลุกรัก และเหรียญหล่อ พระประจำวัน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2470 โดยท่านได้ให้นายช่างทำโบสถ์ที่มีชื่อเสียงในขณะนั้นมาแกะแบบพิมพ์ โดยใช้ไม้แบบพิมพ์ และท่านยังได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้น มาร่วมพิธีหลายท่าน เช่น หลวงพ่อฝ้าย วัดสนามไชย อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก (เจ้าตำรับกระสุนคด) หลวงพ่อเรือง วัดพระยาปันแดน พระมหาธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่ หลวงพ่อนาค วัดป่าข่อย และหลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม เป็นต้น เมื่อทำพิธีพุทธาภิเษกเสร็จ หลวงปู่ได้มอบพระผงคลุกรักให้กับพระเกจิอาจารย์เหล่านั้นกลับไปวัดด้วย จึงทำให้ภายหลังมีผู้ที่ได้รับพระเครื่องเหล่านี้จากมือหลวงพ่อองค์ใด ต่างก็เข้าใจว่าหลวงพ่อองค์นั้นเป็นผู้สร้างและที่พบเห็นกันมากที่สุด คือ จ.พิษณุโลกของหลวงพ่อฝ้าย วัดสนามไชย อ.พรหมพิราม
ราคาเปิดประมูล1,240 บาท
ราคาปัจจุบัน1,240 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูลพ. - 10 ก.พ. 2564 - 12:12.40
วันปิดประมูล อ. - 02 มี.ค. 2564 - 12:12.40 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 0867989494
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 1,240 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ10 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top