เหรียญพญาเต่าเรือนมหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย รุ่นเมตตาบารมี 80 ปี สวยมากค่ะ - webpra

ประมูล หมวด:หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ - หลวงปู่ตื้อ วัดอรัญญวิเวก - หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย

เหรียญพญาเต่าเรือนมหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย รุ่นเมตตาบารมี 80 ปี สวยมากค่ะ

เหรียญพญาเต่าเรือนมหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย รุ่นเมตตาบารมี 80 ปี สวยมากค่ะ เหรียญพญาเต่าเรือนมหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย รุ่นเมตตาบารมี 80 ปี สวยมากค่ะ เหรียญพญาเต่าเรือนมหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย รุ่นเมตตาบารมี 80 ปี สวยมากค่ะ
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง เหรียญพญาเต่าเรือนมหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย รุ่นเมตตาบารมี 80 ปี สวยมากค่ะ
รายละเอียดเหรียญพญาเต่าเรือนมหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม รุ่นเมตตาบารมี 80 ปี พิธีพุทธาภิเษก 6 เมษายน พ.ศ.2538 เนื้อทองแดงรมดำ ตอกโค้ด ขนาด 2.5 x 4 ซม. สภาพสวยสมบูรณ์มากพร้อมกล่องเดิม แบ่งให้เช่าบูชา 500 บาทนะคะ

Tel. 0819410767

Line ID : jowtongdeelert

หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร) แห่งวัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม นับเป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่มีวิชาอาคมอันเข้มขลัง มีปฏิปทาอันน่าเคารพศรัทธาเลื่อมใส มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นพระนักพัฒนา ผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดธาตุมหาชัย รวมทั้งคณะสงฆ์ในจังหวัด และใกล้เคียงอีกจำนวนมาก นับเป็นพระเถราจารย์ที่น่ากราบไหว้อย่างที่สุด


มีตำนานเรื่องเล่าว่า สมัยหนึ่งแผ่นดินลาวร้อนระอุ เพราะเกิดภาวสงครามกลางเมืองจากการแย่งชิงอำนาจซึ่งกันและกัน ทำให้เดือดร้อนมาถึงประเทศไทยต้องส่งกำลังทหารไปตรึงกำลังตามแนวชายแดนเลียบแม่น้ำโขงเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรุกล้ำอธิปไตยของไทย โดยระหว่างที่ทหารไทยว่างเว้นจากเวรยาม กลุ่มทหารจำนวนหนึ่งทราบข่าวว่าที่วัดป่าแห่งหนึ่งในเขต อ.ปลาปาก มีพระอาจารย์ชื่อดังรูปหนึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในแถบนั้นมาก จึงได้พากันออกเดินทางไปกราบเพื่อขอพรจากท่าน (หลวงปู่คำพันธ์) ทันที
เมื่อกลุ่มทหารเดินทางไปถึงวัดป่าแห่งดังกล่าวที่ชาวบ้านและทหารกล่าวถึง หลวงปู่คำพันธ์ บอกว่า “อาตมาไม่มีอะไรให้หรอกโยม อาตมามีแต่ธรรมะคำสั่งของพระพุทธเจ้าเท่านั้น” นั่นคือประโยคแรกที่หลวงปู่คำพันธ์กล่าวกับญาติโยมและกลุ่มทหารหาญที่คอยปกป้องรักษาแนวแม่น้ำโขงหลังดั้นด้นเดินทางมาและได้เอ่ยปากขอของดีจากท่าน (หลวงปู่คำพันธ์)


หลวงปู่คำพันธ์ นับเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจที่ชาวบ้านและกลุ่มทหารกล้าเหล่านั้นได้นั่งห้อมล้อมหลวงปู่คำพันธ์ บนศาลาหลังเก่าแก่ ลักษณะเป็นชั้นเดียวเพื่อไว้ใช้สำหรับแสดงธรรมเทศนาในช่วงวันสำคัญๆ หรือวันพระ อีกทั้งยังใช้เป็นที่ฉันภัตตาหารเช้าของพระภิกษุสงฆ์และเณรที่เป็นญาติธรรมของท่านหลวงปู่คำพันธ์ บรรยากาศในศาลาวัดที่ห้อมล้อมด้วยชาวบ้านและทหารที่ล้วนแน่วแน่ในศรัทธาในหลวงปู่คำพันธ์ เริ่มมีเสียงอ้อนและร้องขอของดีจากท่านเป็นเสียงเดียวกันของผู้มาเยือนอย่างพร้อมเพรียง
ท่าน (หลวงปู่คำพันธ์) จึงเอ่ยปากขึ้นว่า “โน่น…ไปเอาเม็ดทรายกลางแม่น้ำโขงโน่น” เมื่อคำพูดของหลวงปู่ฯ สิ้นสุดลง นั่นหมายความว่าท่านได้บอกใบ้ไปแล้ว ชาวบ้านรู้ทันทีว่า หลวงปู่ฯ ให้ไปเอาเม็ดทรายกลางแม่น้ำโขงมาให้ท่านปลุกเสกแผ่บารมีให้อย่างแน่นอน ทั้งหมดจึงกราบลาหลวงปู่ฯ แยกย้ายกลับบ้าน ถัดมารุ่งขึ้นกลุ่มทหารและชาวบ้านเดินทางมากราบหลวงปู่ฯ อีกครั้งพร้อมกับนำเม็ดทรายจากกลางแม่น้ำโขงมาให้ท่านได้ปลุกเสกด้วย โดยท่านมีเมตตาได้แผ่พลังจิตปลุกเสกให้ตามที่พวกเขาต้องการและแจจ่ายทุกคนในที่นั้น

ขึ้นเหนือเที่ยวอาณาจักร“น่านเจ้า”ยลชุมชนไทลื้อ
เล่าเรื่องมหาจุฬา ฯ : การกลับมาของ “พระพรหมบัณฑิต”
หลวงปู่ฯ ได้นำเอาเม็ดทรายกลางแม่น้ำโขงมาเสกแปรธาตุเช่นเดียวกับที่ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้เคยทำมาแล้ว จึงนับว่าหลวงปู่คำพันธ์ได้นำแบบอย่างมาทำเป็นคนแรกในภาคอีสาน เมื่อกลุ่มทหารนำเม็ดทรายกลางแม่น้ำโขงมาพกไว้ติดตัวแล้ว ปรากฏว่าเมื่อเกิดการปะทะกันขึ้นกับทหารฝั่งลาว แต่ทหารไทยที่รักษาแนวแม่น้ำโขงไม่ได้รับอันตรายใดๆ แม้แต่น้อย จึงสร้างความอัศจรรย์ใจแก่คณะทหารเหล่านั้น
ตั้งแต่นั้นเรื่อยมาทหาร ตำรวจ และชาวบ้านใกล้เคียงต่างหลั่งไหลไปขอของดีอย่างเม็ดทรายศักดิ์สิทธิ์จากหลวงปู่คำพันธ์ไม่ขาดสาย จนทำให้ชื่อเสียงของท่านถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะอำนาจบารมีอันสูงส่งของหลวงปู่ฯ นั่นเอง

ต้องยอมรับว่าแม้แต่เม็ดทรายเม็ดเล็กๆ ยังมีความศักดิ์สิทธิ์สามารถปกปักรักษาให้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายต่างๆ ได้อย่างอัศจรรย์ใจ และเมื่อท่านหลวงปู่คำพันธ์ได้จัดสร้างพระกริ่งของท่าน ทุกวันจะมีเม็ดทรายกลางแม่น้ำโขงที่ท่านได้ปลุกเสกอธิษฐานจิตแล้วนำมาบรรจุไว้ที่ใต้ฐานพระทุกองค์

แม้วิชาอาคมของท่านหลวงปู่คำพันธ์ จะแกร่งกล้าสร้างความพิศวงให้กับลูกศิษย์ลูกหามามากมาย หลวงปู่คำพันธ์ยังเป็นพระวิปัสสนาจารย์ใหญ่ แถมยังมาสายพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ให้การอบรมวิปัสสนากรรมฐานประจำที่วัดป่ามหาชัย วัดป่ามหาชัย จึงเป็นวัดต้นแบบของการฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ในเขต จ.นครพนม

สำหรับวัดป่ามหาชัยถือเป็นวัดที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมประชาชน เมื่อปี 2529 เป็นต้นมา และได้พระภิกษุจากอาวาสต่างๆ ใน จ.นครพนม สนใจแนวทางการปฏิบัติกรรมฐาน เข้ามาเรียนรู้และลองปฏิบัติ จนเกิดความเข้าใจในหลักพระกรรมฐาน ได้นำไปเผยแผ่ในเขตอาวาสของตน การปฏิบัติธรรมกรรมฐานได้แพร่หลายใน จ.นครพนม จนถึงปัจจุบัน และยังได้นำพาศิษยานุศิษย์จัดปฏิบัติธรรมกรรมฐานในสถานที่ต่างๆ สืบต่อไปไม่รู้จบ
หลวงปู่คำพันธ์ ได้ละสังขารในกุฏิจำพรรษาด้วยโรคชราภาพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. 2546 ที่วัดธาตุมหาชัย สิริรวมอายุได้ 89 พรรษา สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับผู้ที่เคารพอย่างยิ่ง
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน100 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูลอา. - 25 เม.ย. 2564 - 17:15.34
วันปิดประมูล พฤ. - 29 เม.ย. 2564 - 16:00.32 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 081-9410767
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 100 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ100 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดก่อนกำหนดโดยผู้ตั้งประมูล
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top