**วัดใจ**พระนาคปรก รุ่น ไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา นครศรีฯ ปี ๒๕๔๘**ท่านขุนพันธ์ฯ สวยๆ - webpra

ประมูล หมวด:จตุคามรามเทพ พ.ศ. 2530 ถึง 2549

**วัดใจ**พระนาคปรก รุ่น ไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา นครศรีฯ ปี ๒๕๔๘**ท่านขุนพันธ์ฯ สวยๆ

**วัดใจ**พระนาคปรก รุ่น ไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา นครศรีฯ ปี ๒๕๔๘**ท่านขุนพันธ์ฯ สวยๆ **วัดใจ**พระนาคปรก รุ่น ไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา นครศรีฯ ปี ๒๕๔๘**ท่านขุนพันธ์ฯ สวยๆ **วัดใจ**พระนาคปรก รุ่น ไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา นครศรีฯ ปี ๒๕๔๘**ท่านขุนพันธ์ฯ สวยๆ **วัดใจ**พระนาคปรก รุ่น ไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา นครศรีฯ ปี ๒๕๔๘**ท่านขุนพันธ์ฯ สวยๆ **วัดใจ**พระนาคปรก รุ่น ไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา นครศรีฯ ปี ๒๕๔๘**ท่านขุนพันธ์ฯ สวยๆ
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง **วัดใจ**พระนาคปรก รุ่น ไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา นครศรีฯ ปี ๒๕๔๘**ท่านขุนพันธ์ฯ สวยๆ
รายละเอียดพระนาคปรก รุ่น ไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา นครศรีฯ ปี ๒๕๔๘ ท่านขุนพันธ์ฯ เนื้อว่านแดง ขนาด 3.5*6.0 ซม. ตอกโค้ดด้านใต้ฐาน ท่านขุนพันธ์ และเกจิสายเขาอ้อ และภาคใต้ร่วมปลุกเสก พิธีใหญ่ ฝังพลอย สวยๆ น่าบูชา สนใจหรือชอบเชิญบูชาครับ ยังมีอีกหลายรายการลองชมดูครับ ราคาเบาวัดใจทั้งนั้นครับ

ประวัติการสร้าง
วัตถุมงคลอมตะ รุ่น ไตรภาคีศรีนคร
นครศรีธรรมราช เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 1,500 ปี ในอดีตมีชื่อว่าเมืองตามพรลิงค์ เชื่อกันว่าในช่วงระยะต้นได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งมีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่เมืองปาเล็มบัง ในเกาะสุมาตรา โดยมีพระเจ้ากรุงศรีวิชัย เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรในศิลาจารึกวัดเสมาเมืองได้บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่าในปี 1318 พระเจ้ากรุงศรีวิชัย ได้เคยเสด็จมาที่เมืองตามพรลิงค์ในฐานะเจ้าประเทศผู้ปกครอง และได้สร้างสถูปเจดีย์กบสถาปนาพระพุทธวิหารขึ้นสามหลัง (จากสารนครศรีธรรมราชปีที่ 26 ฉบับที่ 2 กุมภาพันธ์ 2539 หน้า 30) นครศรีธรรมราช หรือเมืองตามพรลิงค์ในอดีตเป็นแหล่องอารยะธรรมสำคัญ เป็นแหล่งค้าขายทางทะเล เป็นศูนย์รวมแห่งศิลปศาสตร์เป็นศูนย์กลางศาสนาพุทธและพราหมณ์ที่เข้ามาเป็นอันดับแรก ด้วยเหตุนี้วัดวาอารามโบราณสถานหลายแห่ง จึงมีความเก่าแก่รกร้างมีการขุดพบโบราณวัตถุ และพระกรุมากมายหลายแห่ง ในจำนวนพระกรุที่สร้างขึ้นในยุคสมัยศรีวิชัยที่มีเชื่อเสียงโด่งดังได้รับความนิยมสูงสุดและโดดเด่นในด้านพุทธคุณ มีการแสวงหากันในระดับหลักหลายแสนบาทจนถูกจัดอยู่ในทำเนียบพระกรุยอดนิยมของนครศรีธรรมราชและทั่วภาคใต้ในชุดไตรภาคี คือพระปรกโพธิ์กรุวัดท่าเรือ พระนาคปรกกรุ วัดนางตรา และพระยอดขุนพลกรุวัดนาสน

วัดนางตรา
มีชื่อเดิมว่าวัดพระนางสุพัตรา เป็นวัดที่มีประวัติมายาวนานกว่าพันปี โดยตำนานได้กล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งพระเจ้าศรีธรรมโศก ได้สร้างเจดีย์พระบรมธาตุเพื่อบรรลุพระสารีริกธาตุ ข่าวการสร้างพระเจดีย์ ได้แพร่ไปถึงอาณาจักรศรีวิชัยในเกาะสุมาตรา เจ้าหญิงองค์หนึ่งซึ่งเป็นธิดาของพระเจ้ากรุงศรีวิชัยพระนามว่า พระนางสุพัตรา นางพญาผู้เลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา จึงได้จัดเรือสำเภาสามร้อยลำพร้อม ทรัพย์สมบัติข้าทาสบริวารเดินทางจากเกาะสุมาตรามุ่งสู่เมืองตามพรลิงค์ แต่ขณะเดินทาง มาใกล้จะถึงได้มีอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งเกิดล่มเสียก่อน และได้ทราบว่าการก่อสร้างพระเจดีย์เสร็จเรียบร้อยไปแล้ว พระนางสุพัตราทรงเห็นชัยภูมิใกล้กับเรือพระที่นั่งล่มเหมาะสมที่จะสร้างวัด จึงได้สร้างวัดขึ้นมาและใช้ชื่อว่า วัดพระนางสุพัตรา เมื่อพระองค์สร้างวัดเสร็จก็ได้บวชเป็นแม่ชี ประทับอยู่ที่วัดนี้ตลอดพระชนม์ชีพ (พ่อท่านวรรณ วัดเสาธงทองได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อพระนางสุพัตราสิ้นพระชนม์แล้วก็ได้จุติเป็นเทพธิดาบนสรวงสวรรค์) จากชื่อวัดพระนางสุพัตราต่อมามีการเรียกันสั้นขึ้นว่า วัดพระนางตรา และกลับกลายเป็นวัดนางตราเช่น ในปัจจุบันวัดนางตราเป็นแหล่งกำเนิดพระกรุหลายแบบพิมพ์ อาทิพิมพ์นาคปรก, พิมพ์ผาลไถ, พิมพ์ซุ้มประตูประทานพร และยังมีการขุดพบแผ่นกระเบื้องโบราณจารึกเรื่องราวเกี่ยวกับ ท้าวจตุคาม-ท้าวรามเทพ สันนิษฐานได้ว่า ท้าวจตุคามและท้าวรามเทพ ได้เสด็จมาร่วมสร้าง วัดพระนางสุพัตราด้วยวัดนางตราได้ถูกปล่อยรกร้างมานานหลายร้อยปีและเพิ่งจะมีการบูรณะพัฒนาขึ้นใหม่ในปี 2490

วัดท่าเรือ
เป็นวัดโบราณเก่าแก่แหล่งกำเนิดพระกรุยอดนิยมอันดับหนึ่งในภาคใต้คือพิมพ์ปรกโพธิ์ซุ้มเรือนแก้วในอดีตบ้านท่าเรือเป็นชุมชนที่มีความเจริญรุ่งเรืองเพราะเป็นแหล่งค้าขายทางทะเลเป็นสถานที่ซึ่งพระอรหันต์, พระโสณะเถร, พระอุตรเถร, พระฌาณียเถร, พระภูริยะเถร, พระมูนียะเถร มาขึ้นท่าและเหยียบแผ่นดินสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรกและพักแรมสร้างวัดท่าเรือเมื่อพันกว่าปีก่อน นอกจากพระพิมพ์ปรกโพธิ์แล้วที่วัดท่าเรือก็ได้มีการขุดพบ พระพิมพ์วงแขน, พิมพ์ผาลไถ, พิมพ์ใบพุทราฯลฯ ปัจจุบันพื้นที่เดิมของวัดท่าเรือซึ่งถูกปล่อยรกร้างมานานหลายร้อยปีได้ถูกสร้างเป็นวิทยาลัยนาฏศิลป์ นครศรีธรรมราช

วัดนาสน
เป็นวัดโบราณเก่าแก่ที่มีประวัติมายาวนานไล่เลี่ยกับวัดนางตราและวัดท่าเรือ วัดนาสน ได้ถูกปล่อยรกร้างมานานหลายร้อยปีเช่นกันเป็นแหล่งกำเนิดพระกรุยอดนิยม สามพิมพ์ คือพิมพ์ยอด ขุนพลใบพุทรา, พิมพ์วงเขนและพิมพ์ซุ้มกระรอกกระแตซึ่งพระกรุทั้งสามพิมพ์นี้ก็ได้ขุดพบที่วัดนางตรา และวัดท่าเรือด้วยเช่นกัน และวัดนาสนก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศด้วยวัตถุมงคลรุ่น พุทธ ศิลป์ย้อนยุค

วัตถุมงคลอมตะ รุ่นไตรภาคีศรีนคร
มูลเหตุแห่งการจัดสร้างสืบเนื่องมาจากพระอาจารย์เจริญ เจ้าอาวาสวัดนางตรา มีเจตนาที่จะก่อสร้างอุดโบสถขึ้นใหม่แต่ในการนี้จำเป็นต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก จึงได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์มาถึง พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชให้ช่วยเป็นประะธานในการก่อสร้างอุโบสถ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งมีความผูกพันกับวัดนางตราและเคยประจักษ์ในอำนาจพุทธคุณของพระนาคปรกมานับครั้งมิถ้วนย่อมต้องยินดีในมหากุศลครั้งนี้ จึงได้มอบหมายให้บุตรชายคือ คุณณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดชและผู้มีจิตศรัทธาดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลร่วมกับ พระอาจารย์เจริญ เจ้าอาวาส เพื่อหาปัจจัยมาก่อสร้างอุโบสถให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ววัน

วัตถุมงคลอมตะ รุ่นไตรภาคีศรีนคร
ที่จัดสร้างขึ้นในครั้งนี้ได้นำเอาพระกรุไตรภาคี ที่โดดเด่นที่สุดสามพิมพ์คือ พิมพ์ปรกโพธิ์ วัดท่าเรือ, พิมพ์นาคปรกวัดนางตรา และพิมพ์ยอดขุนพลวัดนาสน มาประยุกต์จัดสร้างขึ้นใหม่โดยเน้นทุกรูปแบบพิมพ์ทรงให้มีความ คมชัดและสวยงามตามสมัยนิยมโดยยังคงไว้ ซึ่งเอกลักษณ์ของพระกรุดั้งเดิม นอกจากนี้ยังได้จัดสร้างวัตถุมงคลยอดนิยมรูปแบบอื่นอีกสองพิมพ์ ทรงอันสวยงาม ในด้านเนื้อหาชนวนมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์และในด้านพิธีกรรมมหามงคล อันเข้มขลัง ซึ่งกำหนดขึ้นสามวาระครบ ไตรภาคีศรีนคร คือ
* พิธีมหามงคลบวงสรวง ณ. วิทยาลัยนาฏศิลป์นครศรีธรรมราช (วัดท่าเรือ) ในวันที่ 12 มีนาคม2548
* พิธีมหามงคลพุทธาภิเษก ณ. ศาลาการเปรียญพันธรักษ์ราชเดช วัดนาสน ในวันที่ 17 มีนาคม 2548
* พิธีสมโภชพุทธาภิเษก ณ. วัดนางตรา ในวันที่ 19 มีนาคม 2548

ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าวัตถุมงคลอมตะ รุ่นไตรภาคีศรีนคร ซึ่งรวบรวมพระกรุไตรภาคียอดนิยม สามแบบพิมพ์สามกรุดังมารวมเป็นหนึ่งเดียวในรุ่นนี้จะต้องได้รับความนิยมศรัทธาจากมหาชนชาวนครศรีธรรมราชและทั่วไปอย่างแน่นอน เพราะทรงคุณวิเศษควรค่าแก่การมีไว้บูชาสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง ที่พิเศษสุดก็คือวัตถุมงคล เนื้อผงทุกองค์สามารถเรืองแสงสุกใสในความมืด
ใหม่

พระนาคปรกนางตรา
ลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมทรงสูงขอบมนขนาด 5.9 ซม. ด้านหน้าเป็นองค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งสมาธิบนบัลลังค์นาคมุจลินทร์เจ็ดเศียร ด้านล่างบนฐานนาคประทับไว้ด้วยพระพิมพ์นางพญา เพื่อเทิดพระคุณของพระนางสุพัตรานางพญาผู้สร้างวัดนางตรา ด้านหลังกึ่งกลางเป็นองค์พระพุทธเจ้าปางประทานพรในซุ้มประตู (เป็นรูปแบบพระกรุพิมพ์ หนึ่งของวัดนางตรา) ด้านบนเป็นองค์พญาราหู ด้านซ้ายเป็นยันต์นอโม ด้านขวาเป็นยันต์นะราหู

พระปรกโพธิ์ท่าเรือ
ลักษณะเป็นพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยมขอบลายไทย ขนาด 5.9 ซม. กึ่งกลางเป็นรูปทรงเดิมของพระปรกโพธิ์ท่าเรือ ด้านบนซ้ายเป็นองค์ท้าวจตุคามขวาเป็นองค์ท้าวรามเทพ ซึ่งเป็นพระเสื้อเมืองและพระทรงเมือง เทพยดารักษาเมืองนครศรีธรรมราชด้านหลังเป็นองค์พระพิฆเนศวร เทพเจ้าแห่งศิลป์และความสำเร็จทั้งปวง (ปัจจุบันวัดท่าเรือเดิมเป็นวิทยาลัยนาฏศิลป์ นครศรีธรรมราช)

พระยอดขุนพลนาสน
ลักษณะเป็นรูปทรงกลมขนาด 5 ซม. กึ่งกลางเป็นองค์พระพุทธเจ้าประทับนั่งปางมารวิชัยบนฐานบัวในซุ้มเรือนแก้วด้านข้างซ้ายขวาเป็นรูปสถูปเจดีย์ ด้านหลังกึ่งกลางเป็นพระพิมพ์ซุ้มประตูกรุวัดนางตรา

พระปางปาฏิหาริย์
ลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมขอบมนขนาด 6.5 ซม. ด้านหน้าเป็นรูปองค์พระพุทธเจ้าประทับนั่งห้อยพระบาทในซุ้มเรือนแก้ว ด้านซ้ายและขวาเป็นรูปองค์เทพยดา พระพิมพ์นี้อาศัยแบบจากพระยอดขุนพล วัดพระมหาธาตุฯ ปี 2497 ซึ่ง พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นผู้ออกแบบลักษณะพิมพ์ทรงและสร้างร่วมกับอาจารย์ชุม ไชยคีรี ด้านหลังนับได้ว่า มีความพิเศษที่สุดเพราะพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้มอบคำอวยพรและรอยนิ้วหัวแม่มือพร้อมทั้งลายเซ็นต์ให้จารึกไว้เป็น อนุสรณ์ด้วยจัดสร้างขึ้นเพียงเนื้อเดียวคือ เนื้อไม้ตะเคียนอินทภาณี จำนวน 999 องค์ สืบต่อไปจะเป็นวัตถุมงคลอันทรงคุณค่า ที่หาได้ยากยิ่ง

พระผงท้าวจตุคาม-ท้าวรามเทพ
ลักษณะเป็นทรงรูปไข่ขนาด 5.7 ซม. ด้านหน้าเป็นองค์ ท้าวจตุคามประทับนั่งในท่ามหาราชลีลา
ประทานพรบนบังลังค์ดอกบัวบาน มีความคมชัดนูนสูงสวยงามที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมา ด้านหลังกึ่งกลางประทับไว้ด้วยองค์ท้าวรามเทพกษัตริย์ผู้น้อง รอบนอกประทับไว้ด้วยองค์พญาราหูสี่ทิศและลวดลายไทยพุ่มข้าวบิณฑ์โดยด้านบนเป็นองค์ท้าวจตุคาม ด้านล่างเป็นองค์ท้าวรามเทพ ด้านซ้ายเป็นองค์เจ้าแม่อินทภาณี รุกขเทวดาผู้สถิตย์อยู่ในต้นตะเคียนเสาหลักเมือง ซึ่งเคยแสดงปาฏิหาริย์ต่อพล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เมื่อครั้งทำพิธีเบิกเนตรเสาหลักเมือง โดยปรากฏกลุ่มควันจางขณะที่ปลายดินสอสัมผัสพระเนตรเสาหลักเมือง ทั้งพ่อท่านวรรณ วัดเสาธงทองและพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช รับรู้ด้วยญาณที่ตรงกันว่ารุกขเทวดาในเสาหลักเมืององค์นี้มีนามว่า เจ้าแม่อินทภาณี ด้านขวาเป็นองค์พระเจ้ากรุงศรีวิชัย พระมหากษัตริย์ผู้เกรียงไกรแห่งอาณาจักรศรีวิชัยผู้ปกครองเมืองตามพรลิงค์ในอดีต รูปแบบด้านหลังนี้กำหนดโดยองค์ท้าวจตุคามและท้าวรามเทพ ซึ่งสื่อผ่านองค์พ่อท่านวรรณ วัดเสาธงทอง โดยเน้นนักเน้นหนาให้มีองค์พระเจ้ากรุงศรีวิชัย ซึ่งเปรียบเสมือนพี่ใหญ่ด้วยและขอให้ช่วยประกาศเกียรติคุณให้รู้จักโดยทั่วกัน รายละเอียดทั้งหมดนี้สอบถามได้จากพ่อท่านวรรณ วัดเสาธงทอง พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมขลังซึ่งพล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เคารพนับถือเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่ง (การจำนำไม้ตะเคียนเก่าเสาหลักเมืองมาใช้ผสมในวัตถุมงคลทุกรุ่นคุณณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช จะต้องนิมนต์พ่อท่านวรรณให้ประกอบพิธีขออนุญาติต่อองค์จ้าวแม่อินทภาณี ก่อน เมื่อท่านอนุญาติแล้วจึงค่อยดำเนินการ) การจัดสร้างวัตถุมงคลรูปองค์ท้าวจตุคามและท้าวรามเทพ โดยวัดนางตราไม่ใช่เรื่องผิดแผกอันใดเพราะท่านทั้งสองเป็นเทพยดารักษาเมืองนครศรีธรรมราช อีกทั้งได้เคยมีการขุดพบแผ่นกระเบื้องจารึกเรื่องราวของ ขุนอินทรไสเรนท์ (ท้าวจตุคาม) และขุนอินทรเขาเขียว (ท้าวรามเทพ) ในวัดนางตรา จึงได้สันนิษฐานได้ว่า ท้าวจตุคามและท้าวรามเทพได้เคยเสด็จมาร่วมสร้าง วัดนางตราร่วมกับพระนางสุพัตราธิดาของพระเจ้ากรุงศรีวิชัย พระมหากษัตริย์ ผู้ครองอาณาจักรศรีวิชัยและประการสำคัญ คือนามท้าวจตุคามและท้าวรามเทพ คุณณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ได้ยินได้ฟังมาจาก พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กๆ คือเกือบ 50 ปีก่อนแล้ว หาใช่เพิ่งจะมารู้จักหรือได้ยินนามนี้เมื่อตอนสร้างศาลหลักเมืองเมื่อปี 2528 ไม่ สำหรับพระผงท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ รุ่นไตรภาคีศรีนครนี้ พ่อท่านวรรณ วัดเสาธงทองจะประกอบพิธีให้เป็นกรณีพิเศษโดยจะอัญเชิญพระเจ้ากรุงศรีวิชัย ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพและเจ้าแม่อินทภาณี ร่วมประสิทธิ์ประสาทเพื่อความสมบูรณ์นอกเหนือจากที่ได้นำเข้าพิธีมหามงคลสามวาระ

ลองชมรายการอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกนะครับ แล้วค่อยโอนทีเดียวก็ได้ครับ วัดใจเคาะเดียวแดงทุกรายการ
http://www.web-pra.com/AuctionReport/Items?username=MOMON
โอนเงินแล้วรบกวนโทรแจ้งหรือ Mail My Box เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
ราคาเปิดประมูล179 บาท
ราคาปัจจุบัน199 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูลส. - 06 ส.ค. 2565 - 20:47.05
วันปิดประมูล พฤ. - 25 ส.ค. 2565 - 22:04.39 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 0836336667
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 199 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ20 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
199 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) พฤ. - 25 ส.ค. 2565 - 21:04.39
กำลังโหลด...
Top