พระบูชา หลวงปู่ทิม อิสริโก หน้าตัก 5 นิ้ว "ครบรอบ 200 ปี วัดละหารไร่" ระยอง ปี 2554 - webpra

ประมูล หมวด:หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

พระบูชา หลวงปู่ทิม อิสริโก หน้าตัก 5 นิ้ว "ครบรอบ 200 ปี วัดละหารไร่" ระยอง ปี 2554

พระบูชา หลวงปู่ทิม อิสริโก หน้าตัก 5 นิ้ว "ครบรอบ 200 ปี วัดละหารไร่" ระยอง ปี 2554 พระบูชา หลวงปู่ทิม อิสริโก หน้าตัก 5 นิ้ว "ครบรอบ 200 ปี วัดละหารไร่" ระยอง ปี 2554 พระบูชา หลวงปู่ทิม อิสริโก หน้าตัก 5 นิ้ว "ครบรอบ 200 ปี วัดละหารไร่" ระยอง ปี 2554 พระบูชา หลวงปู่ทิม อิสริโก หน้าตัก 5 นิ้ว "ครบรอบ 200 ปี วัดละหารไร่" ระยอง ปี 2554 พระบูชา หลวงปู่ทิม อิสริโก หน้าตัก 5 นิ้ว "ครบรอบ 200 ปี วัดละหารไร่" ระยอง ปี 2554
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง พระบูชา หลวงปู่ทิม อิสริโก หน้าตัก 5 นิ้ว "ครบรอบ 200 ปี วัดละหารไร่" ระยอง ปี 2554
รายละเอียด***** ค่าบูชา 15,000 บาท *****

### พระบูชาที่ทรงคุณค่า ครบรอบ 200 ปี วัดละหารไร่" ขนาด 5 นิ้ว (ใหญ่กว่ามาตรฐานปกติ) ฐานออกแบบตามคติจินดามณี (โภคทรัพย์) สภาพผิวหิ้งตั้งบูชาไว้เดิมๆ พร้อมจัดส่งด้วยแพ็คเกทแข็งแรงอย่างดี แบบ EMS....***พิเศษ***มอบพระขุนแผนพรายกุมาร "แสนแสบ" เนื้อเขียว หลังโรยผงตะไบพระกริ่งชินบัญชรรุ่นแรก ให้อีก 1 องค์ ท่านที่ติดตามตำนานพระขุนแผนพรายกุมาร คงทราบดีว่า "แสนแสบ" เป็นรุ่นย้อนยุคที่โด่งดังและมีประสบการณ์จริงไม่แพ้สากหักเลยทีเดียว ปัจจุบันมีหมุนเวียนให้เห็นน้อยลงทุกทีครับ ###
-------------------

❄10 มิถุนายน 2554 พิธีเททอง พระกริ่งชินบัญชร 9 มหาฤกษ์ 9 มหาชัย 9 มหามงคล 9 มหาเศรษฐี และพระบูชา

❄ในพิธีฟ้าดินเป็นใจ ปรากฏนิมิตรมงคลให้เห็นกันจะๆ กับเปลวไฟรูปหลวงปู่ทิม ลักษณะเหมือนหลวงปู่ทิมนั่งสมาธิอยู่บนเปลวไฟคล้ายแบบในพระบูชารูปเหมือนหลวงปู่ กับสุดยอดพิธีเททองชุดชินบัญชร 9 ฤกษ์ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

❄จัดพิธีเบิกฤกษ์ 9 ฤกษ์ ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ให้สมกับมหามงคล 200 ปี วัดละหารไร่ รวมพุทธาภิเษกอีก 2 วาระ โดยพระคณาจารย์แห่งยุค

ในวาระที่วัดละหารไร่มีอายุครบ 200 ปี และจะสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทิมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตักกว้าง 12 เมตร ขึ้นไว้ให้เป็นศักดิ์ศรีของภาคตะวันออก วัดละหารไร่จึงมอบให้ อ.ชินพร สุขสถิตย์ ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโกผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชร รุ่นแรกปี 17 เป็นผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชรและพระเครื่องพระบูชาขึ้นอีกครั้ง เพื่อหาเงินมาดำเนินการสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทิม อ.ชินพร ผู้สร้างได้นำเอาศาสตร์ทางพระเวทย์และโหราเวทย์ผสมผสานกันสร้างพระกริ่งชินบัญชร 9 มหาฤกษ์ 9 มหาชัย 9 มหามงคล 9 มหาเศรษฐี...อ.ชินพรได้ประกอบพิธีต่างๆ ตามสถานที่อันเป็นมงคลจนครบ 8 ฤกษ์ และเททองหล่อแบบโบราณ ณ ลานวัดละหารไร่ไปเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2554 เวลา 11.11 น. ได้เกิดความมหัศจรรย์ขึ้น จนเป็นที่อัศจรรย์ของผู้ร่วมพิธี มีลมหมุนอย่างแรง ขณะอ่านโองการ และในขณะเททองหล่อพระกริ่ง ได้เกิดภาพหลวงปู่ทิมนั่งกลางเปลวไฟ อย่างเด่นชัดเป็นการสื่อให้รู้ว่าท่านลงมาทำให้ตามสัญญาที่ท่านรับปากไว้จึงทำให้พระกริ่งและพระเครื่องต่างๆ ในพิธีนี้มีผู้สั่งจองอย่างมากมาย
-------------------

งานพิธีพุทธาภิเษก พระเครื่องชุดชินบัญชร 200 ปี วัดละหารไร่ วาระแรก ณ พระอุโบสถวัดนามวิจิตร (ตะเคียนราม) เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2554 มีพระเกจิอาจารย์ ได้แก่ หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด , หลวงปู่คำบุ , หลวงปู่ข้าวแห้ง , หลวงปู่เพ่ง , หลวงพ่อสาย , หลวงพ่ออาจ , หลวงพ่อคำมี

พุทธาภิเษกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ณ อุโบสถวัดละหารไร่ ตามแบบของหลวงปู่ทิมปลุกเดี่ยวอย่างมั่นใจ ไม่ต้องมีใครมาช่วยเดี่ยวเหมือนวลีที่ว่า ชาติเสือต้องหาเนื้อกินเอง เป็นการเดี่ยวแบบ ฤกตยาคมแฝดระหว่างสุดยอดของพระเกจิอาจารย์ภาคตะวันออก หลวงปู่บัว ถามโก วัดเกาะตะเคียน จ.ตราด และญาท่านคำบุ วัดกุดชมพู สุดยอดเกจิอาจารย์ภาคอีสาน

(ขอขอบคุณข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ)
-------------------

ลงเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณ (ปัญญาวุฒิ กเรเตเต ทินโนวาเท นะมามิหัง)

พระธรรมเทศนาของหลวงปู่ทิม อิสริโก แห่ง วัดละหารไร่ จ.ระยอง

เรื่อง "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"

นะโม ตัสสะ ภะคำวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(3จบ)
"มาบัดนี้อาตมาใคร่แสดงธรรมสั่งสอนของพระพุทธองค์ เพื่อที่ทุกท่านจะได้นำไปใช้ดำเนินในชีวิตให้ถูกต้อง พระพุทธเจ้าท่านเป็นศาสดาเอกของโลก ท่านรู้เอง เป็นอนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ คือเป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่านี้อีกแล้ว และเราทำไมไม่ตั้งใจรำลึกถึงพระองค์บ้าง วิธีรำลึกถึงพระองค์ ก็ให้หลับตาภาวนา พุทโธ ๆ ๆ ๆ เพราะพุทโธ เป็นผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หลับตาให้เห็นรูปพระพุทธเจ้าให้อยู่ในใจเราตลอด อย่าพะวักพะวงไปที่อื่น ถ้าหากจิตนึกไปอยู่ในกาม รูป เสียง กลิ่น รส แสดงว่าจิตนั้นยังติดอยู่ในกิเลส สมาธิก็หาเกิดไม่ ความนิ่งเฉยก็ไม่มี เมื่อจิตนั่งเป็นสมาธิแล้วก็ให้คิดซิว่า วันนี้เราทำอะไรไว้บ้าง ดีหรือชั่วอย่างไร ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ความดีความชั่วในใจนั่นเอง เมล็ดมะม่วงกว่าจะโตขึ้นเป็นต้นมะม่วง เมล็ดมะปรางกว่าจะโตเป็นต้นมะปราง เมล็อของต้นอะไรโตขึ้นก็เป็นต้นไม้อย่างนั้น บุญและบาปเป็นสิ่งหนึ่งที่คอยควบคุมให้ทุกอย่างเป็นไปได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่เป็นวิญญาณคอยควบคุมโชคชะตาของมนุษย์ ฉะนั้นทำความดีไว้เถิด ไม่เสียหายอะไร ทำไปเถิดเดี่ยวได้ผลตอบแทน ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าแล้ว ชาตินี้ก็เห็น แต่ถ้าเราคิดว่า ทำความดีแล้ว ต้องได้อย่างโน้นอย่างนี้ หรือทำบุญ 10 บาท ก็ขอให้ถูกหวย ล้านบาท ก็เป็นไปไม่ได้ เราทำความดี อย่าไปคำนึงถึงผลตอบแทน ทำไปเถิดถ้าคิดว่าสิ่งนั้นทำไปแล้วเราสบายใจ ถึงแม้ว่าเรายังไม่ได้ผลตอบแทนในตอนนี้ แต่เราก็ได้ความสบายใจไม่ใช่หรือ ? เมื่อใจสงบ นิ่งเฉย สมาธิก็เกิด ความอิ่มเอมในจิตใจก็ดีขึ้น ปัญญารอบรู้ก็เกิด ทำให้สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้

ต้นไม้พันธุ์ดี แต่ถ้าปลูกในที่ซึ่งไม่เหมาะกับพันธุ์อย่างนั้น ต้นไม้นั้นก็ไม่เกิดหรือเกิดแต่ไม่สวยไม่งาม ไม่มีผลมาก เช่นเดียวกับคนดี ถ้าอยู่ผิดที่ก็อาภัพได้ ความดีไม่ให้ผลเท่าที่ควรจะให้ หรือคนดีร่างกายไม่สมประกอบ ก็อาจจะน้อยใจไม่ประกอบความดีก็ได้ หรือคนดีบางคน ถ้ายังไม่ถึงที่ความดีจะให้ผลดีก็เหมือนต้นไม้ที่ยังไม่ถึงเวลาจะมีผล คนดีนั้นก็อาภัพ หรือนัยหนึ่ง คนดีบางคน หากความดีไม่สมบูรณ์เช่นมีแต่ความซื่อ แต่ความฉลาดไม่มี มีแตความขยัน แต่ไม่รู้จักกาละเทศะ อะไรต่าง ๆ ทำนองนี้คนดีนั้นก็อาจอาภัพได้เช่นกัน เพราะแต่ละคนที่สร้างความดีขี้นมานั้น ไม่ใช่ว่าเขาจะทำดีทุกครั้ง ส่วนมากคนเราเวลาทำความดีมักจะแทรกความชั่วลงไปด้วย ทำให้เชื่อไม่ได้ว่า คนที่มีบุญจำเป็นต้องมีร่างกายดีเสมอไป ร่างกายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ ตายแล้วเกิดเอาใหม่ได้ แต่ความดีที่มีอยู่ในวิญญาณนั้น ถ้าหมั่นประกอบความดีอยู่เสมอความดีนั้นจะไม่ตาย จะต้องยั่งยืนแน่นอน ถึงไม่ให้ผลตอนนี้ วันหนึ่งก็ต้องให้ผลอย่างแน่นอน ทำไปเถิดความดี คนเราไม่มีใครรู้ความตายได้ ถ้ารู้ความตาย ทุกคนก็ต้องเกรงกลัวต่อบาป หรือถ้ามีใครสามารถฝึกตนเองจนรู้ถึงนรก ไปเห็นความไม่สวยงามในนรก อาจจะเกิดความกลัว ไม่ทำในสิ่งที่ผิดได้ จงทำมันซะเดี๋ยวนี้ซิ ทำมันไปได้ประโยชน์แน่นอน และพยายามฝึกจิตใจให้สงบ แผ่เมตตาไว้ ทำใจให้เป็นสมาธิ สมาธินั้นเราสังเกตุได้ 3 ทาง คือ นิ่ง เฉย เงียบ แต่จะเงียบแบบคนตายแล้วนั้น มักจะเงียบไปเฉพาะชาตนี้ ชาติต่อไปก็ไม่เงียบ มันก็เกิดอีก เพราะจิตมันมาเกิดอีก มันอยากได้ อยากดี อยากอยู่ตลอดเวลา เราทุกคนที่ใจกำลังคิดทำความดีนั้น ทำไปเถิด ความดีนั้นแหละ ดีแน่ ๆ แต้ถ้าใจตอนนี้กำลังคิดจะทำความชั่ว ก็ให้รีบงดเสียเถิด จะปล่อยให้เวลาที่คิดนั้น ล่วงเลยไป อย่าลืมว่า เวลาเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่ความดีหมั่นทำไว้เสมอนั้นแน่นอน ตายแล้วก็พาเอาความดีติดตามไปถึงชาติหน้าได้อีก คนที่ซึ้งในคุณค่าของความดีจริง ๆ เขาจะรอคอยจนกว่า จะถึงเวลาที่ความดีจะให้ผลได้เสมอ ตรงกันข้ามคนชั่วที่ฉลาดในการปกปิดความชั่วของตนจนคนอื่นไม่รู้ หรือรู้แต่ทำอะไรเขาไม่ได้ ชีวิตของเขาจะรุ่งเรืองอยู่เสมอ คนอย่างนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยในกลุ่มของคนที่มีการเรียนดี แต่เราอย่าท้อถอย จงเชื่อว่าความชั่วที่สะสมไว้ทุก ๆ วันนั้น มันก็จะมากขึ้นเป็นอันดับ ซึ่งในวันหนึ่ง ความชั่วนั้นจะต้องปรากฏออกมาให้ผู้อื่นรู้ แต่คนที่มีนิสัยเลวร้ายไม่นึกถึงความดี มัวแต่นึกถึงความชั่วที่คนอื่นกระทำได้ผลดีแล้ว โดยไม่นึ่กผลร้ายที่จะเดินมาสู่ทีหลัง เวลาเขาจับได้ก็หาว่าเขาโง่ หรือตัวเองฉลาดกว่าเขา หารู้ไม่ว่า ตัวเองหลอกตัวเองอยู่ตลอดเวลา อาตมาขอยืนยันว่า คนที่ไม่ถูกหลอกเลย มีประเภทเดียว คือ คนที่ยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น คนโดยมาก ถ้าเก่งในทางไหน มักจะพูดตัวเองในทางนั้น ซึ่งบางทีก็พูดมาก จนคนอื่นรำคาญหรือเหตุที่ตัวเด่นในทางนั้นจริงเลยเกิดเข้าใจผิดคิดว่า ความดีของคนอื่นซึ่งไม่เหมือนกับของตนไม่สำคัญ เขาไม่ยอมรับความดีของคนอื่น ไม่ยอมรับนับถือความดีในแง่อื่น มีคนถามว่า ทำไมคนชั่วถึงได้ดีอยู่เสมอ ตัวฉันทำความดีตั้งนานไม่เห็นใครเห็นเลย ขอให้พิจารณาให้ถ่องแท้ คนชั่วพวกนี้มักใช้ความดีเป็นฉากกำบังความชั่ว เมื่อตอนที่ทำความดี ความชั่วก็ยังไม่เกิดผล เมื่อความชั่วถูกสะสมบ่อย ๆ เข้า วันหนึ่งความดีก็อาจไม่คุ้มครองได้ ตอนนี้นแหละ ความชั่วก็จะต้องให้ผล หรือที่คนมักพูดกันว่า"เพราะบุญเก่ายังมีผลอยู่ ความชั่วในปัจจุบันจึงยังไม่สนอง แต่เมื่อบุญเก่าหมดเมื่อไหร่ บาปที่ทำไว้ก็จะให้ผลทันที

อาตมาภาพเองก็ได้พูดถึงเรื่องการทำความดีดีกว่าความชั่วให้ญาติโยมฟังมาก็นานพอควรแล้ว และเห็นว่าสมควรแก่เวลา และขอให้ญาติโยมที่นั่งฟังนี้ จงนำไปคิดเพื่อที่จะได้เป็นสิ่งที่ดีงาม สามารถนำไปใช้ในครอบครัวได้ ขอความสุขทั้งหลายจงมีแต่ญาติโยมทุกท่านเทอญ...เอวังก็มีประการฉะนี้แล..."

(ขอขอบคุณ อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ และ ครอบครัว ผู้นำพระธรรมเทศนามาเผยแพร่)
ราคาเปิดประมูล14,900 บาท
ราคาปัจจุบัน14,900 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูลศ. - 12 พ.ค. 2566 - 20:34.35
วันปิดประมูล ศ. - 19 พ.ค. 2566 - 19:12.30 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 14,900 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ100 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดก่อนกำหนดโดยผู้ตั้งประมูล
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top