**วัดใจ**เหรียญหลวงพ่อบรรณ วัดอุปนันทาราม(วัดด่าน) รุ่น ๑๐๐ ปี จ.ระนอง ปี ๒๕๓๖**ตอกโค้ด สวยๆ - webpra

ประมูล หมวด:พระเกจิภาคใต้

**วัดใจ**เหรียญหลวงพ่อบรรณ วัดอุปนันทาราม(วัดด่าน) รุ่น ๑๐๐ ปี จ.ระนอง ปี ๒๕๓๖**ตอกโค้ด สวยๆ

**วัดใจ**เหรียญหลวงพ่อบรรณ วัดอุปนันทาราม(วัดด่าน) รุ่น ๑๐๐ ปี จ.ระนอง ปี ๒๕๓๖**ตอกโค้ด สวยๆ **วัดใจ**เหรียญหลวงพ่อบรรณ วัดอุปนันทาราม(วัดด่าน) รุ่น ๑๐๐ ปี จ.ระนอง ปี ๒๕๓๖**ตอกโค้ด สวยๆ **วัดใจ**เหรียญหลวงพ่อบรรณ วัดอุปนันทาราม(วัดด่าน) รุ่น ๑๐๐ ปี จ.ระนอง ปี ๒๕๓๖**ตอกโค้ด สวยๆ
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง **วัดใจ**เหรียญหลวงพ่อบรรณ วัดอุปนันทาราม(วัดด่าน) รุ่น ๑๐๐ ปี จ.ระนอง ปี ๒๕๓๖**ตอกโค้ด สวยๆ
รายละเอียดเหรียญหลวงพ่อบรรณ วัดอุปนันทาราม(วัดด่าน) จ.ระนอง รุ่น ๑๐๐ ปี จ.ระนอง ปี ๒๕๓๖ ด้านหน้าตอกโค้ด หลังยันต์ เนื้อทองแดงรมดำ สุดยอดพระเกจิแห่งเมืองระนอง สวยๆ น่าบูชา สนใจหรือชอบเชิญบูชาครับ ยังมีอีกหลายรายการลองชมดูครับ ราคาเบาวัดใจทั้งนั้นครับ

หลวงพ่อบรรณ วัดด่าน (ระนอง) "พระครูศีลพงษ์คณารักษ์" (หลวงพ่อบรรณ พุทธสโร) ท่านถือกำเนิดเมื่อประมาณราวปี พ.ศ.๒๓๘๔ หลวงพ่อบรรณท่านได้อุปสมบทในช่วงปี พ.ศ.๒๔๑๘ เดิมเป็นชาวเมืองไชยา (ปัจจุบันคือ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี) เมื่อบวชได้ประมาณ ๑๐ พรรษา ท่านได้ออกจาริกธุดงค์จากเมืองไชยา ผ่านเมืองหลังสวน (ปัจจุบันคือ อ.หลังสวน จ.ชุมพร) เข้าสู่เมืองระนอง โดยได้ปักกลดอยู่ในป่าช้าของหมู่บ้านท่าด่าน ชาวบ้านในสมัยนั้นได้นำของไปถวายและสนทนาธรรม คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้นเห็นว่าหลวงพ่อบรรณเป็นพระเก่งกล้า มีความรู้เรื่องเวทมนตร์และอาคมดี จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา แล้วจึงได้นิมนต์ให้อยู่สร้างวัดด่าน ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นป่าช้าและสำนักสงฆ์ จนแล้วเสร็จและได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการศาสนา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๐ จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดด่าน และเป็นเจ้าคณะจังหวัดรูปแรกของจังหวัดระนองด้วย "วัดอุปนันทาราม" หรือ (วัดด่าน) เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในระนองที่มีอายุการก่อสร้างวัดตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๓๖ ปลายสมัยรัชกาลที่ ๕ ถือได้ว่าเป็นวัดแรกๆของเมืองระนองในสมัยนั้นโดยมีนายบ่าเซ่ง เศรษฐีไทยเชื่อสายพม่าได้ชักชวนพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวจีน และชาวพม่า ร่วมกันก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ เพราะในสมัยนั้นการทำบุญซักครั้งหนึ่งทำได้ยากยิ่ง เพราะว่าเมืองระนองมีเพียงวัดสุวรรณคีรีอารามหรือวัดหน้าเมือง (ภายหลังได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งเสด็จประภาสหัวเมืองมลายูว่า วัดสุวรรณคีรีวิหาร) จึงได้เริ่มหาสถานที่สร้างวัด โดยกำหนดเอาเนินสูงที่สุดในบริเวณนั้นเป็นที่สร้าง เพราะสภาพที่ตั้งของวัดที่ตรงกลางเป็นเนินเขาเล็กๆล้อมรอบด้วยพื้นที่ราบที่เป็นสวนธรรมชาติล้อมรอบด้วยย่านชุมชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการประมง เหมืองแร่ และค้าขาย "วัดอุปนันทาราม" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันอย่างง่ายๆอีกชื่อหนึ่งคือ "วัดด่าน" เพราะตั้งบริเวณบ้านท่าด่านเป็นพื้นที่ที่อยู่สุดเขตแดนติดต่อกับประเทศสหภาพพม่า ซึ่งในอดีตมีลักษณะเป็นท่าด่านปากคลองสำหรับเรือสัญจรที่จะเข้าสู่เมืองระนอง ทั้งเรือโดยสาร เรือขุดแร่ หรือเรือประมง เพราะในสมัยนั้นการสัญจรทางน้ำถือว่าสะดวกที่สุด การสร้างวัดในระยะแรกนั้นได้สร้างเป็นเรือนไม้ทรงปั้นหยาตามแบบศิลปะของภาคใต้ และได้อาราธนานิมนต์ "หลวงพ่อบรรณ พุทฺธสโร" (ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่พระครูศีลพงษ์คณารักษ์ เจ้าอาวาสรูปแรก) ซึ่งเป็นพระธุดงค์มาจากจังหวัดไชยา (อำเภอไชยา สุราษฎร์ธานี)ให้ช่วยอยู่จำพรรษา ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงรับนิมนต์และอยู่จนได้ก่อร่างสร้างวัดบูรณะพัฒนาวัดมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๒ ได้รับคัดเลือกให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๐ และ พ.ศ.๒๕๑๙ ได้ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ ๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๐ ความสำคัญ เป็นวัดในจังหวัดระนองที่ถวายผงธูปบูชาพระพุทธรูปคานสมอ สมัยเจ้าอ้ายยี่เพื่อเป็นมวลสารแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสร้างพระพุทธนวราชบพิตรและพระสมเด็จจิตรลดา เป็นที่พำนักของเจ้าคณะจังหวัดระนอง ๔ รูป คือ "พระครูศีลพงษ์คณารักษ์" (บรรณ พุทฺธสโร) จ.ระนอง รูปแรก "พระครูศีลพงษ์คณารักษ์" (ผุด สุทธางกูร) จ.ระนอง รูปที่ ๒ "พระระณังควินัยมุนีวงศ์" (พลอย ธมฺมโชโต) จ.ระนอง รูปที่ ๓ และ "พระระณังควินัยมุนี" (บุญให้ สีลวฑฺฒโน) จ.ระนองรูปที่ ๔ เป็นที่บรรพชาของ "สามเณรปั่น เสน่ห์เจริญ" ภายหลังเป็น "พระพรหมมังคลาจารย์" (หลวงพ่อปัญญานันทะ) ท่านมักปรารภเสมอเมื่อมาระนองว่า "ที่นี่เป็นที่เกิดของฉัน ถ้าไม่มีวัดนี้ป่านนี้ชีวิตฉันไม่รู้จะเป็นอย่างไร" ลำดับเจ้าอาวาส "พระครูศีลพงษ์คณารักษ์" (บรรณ พุทฺธสโ ร) (พ.ศ.๒๔๓๖ - พ.ศ.๒๔๖๓) เจ้าอาวาสรูปแรก, เจ้าคณะจังหวัดระนองรูปแรก "พระครูศีลพงษ์คณารักษ์" (ผุด สุทธางกูร) (พ.ศ.๒๔๖๓ - พ.ศ.๒๔๗๒) เจ้าคณะจังหวัดระนองรูปที่ ๒ ภายหลังได้ลาสิกขากลับไปรับราชการเป็นศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต "พระระณังควินัยมุนีวงศ์" (พลอย ธมฺมโชโต รัตนดิลก ณ ภูเก็ต) (พ.ศ.๒๔๗๒-พ.ศ.๒๕๑๗) เจ้าคณะจังหวัดระนองรูปที่ ๓ พระราชาคณะรูปแรกของระนอง และเป็นพระราชาคณะชั้นราชรูปแรกของระนองด้วย (ในราชทินนามเดิม) หลวงพ่อเจ้าคุณเป็นผู้ชักชวนนายปั่น เสน่ห์เจริญมาช่วยสอนหนังสือ และเป็นอุปัชฌาย์จารย์ของสามเณรปั่น เสน่ห์เจริญ (พระพรหมมังคลาจารย์ ปัญญานันทะภิกขุ) "พระระณังควินัยมุนี" (เรวัต บุญให้) สีลวฑฺฒโน อรุณวิมล) (พ.ศ.๒๕๑๗-พ.ศ.๒๕๓๕) เจ้าคณะจังหวัดระนองรูปที่ ๔ "พระครูอุปนันทโสภณ" (โสภณ โสภโณ ชุ่มชื่น) (พ.ศ.๒๕๓๖ - ปัจจุบัน) เจ้าคณะอำเภอเมืองระนอง สำหรับความอภินิหารและวาจาสิทธิ์ของหลวงพ่อบรรณมีอยู่หลายครั้ง เช่น เคยมีคนเข้าไปขโมยมะพร้าวในสวนของวัดตอนกลางคืน ทำให้คนขโมยออกจากสวนมะพร้าวไม่ได้เดินวนเวียนหาบมะพร้าวจนรุ่งสาง หลวงพ่อบรรณไปพบเข้าท่านจึงพูดขึ้นเป็นสำเนียงภาษาใต้ว่า "มึงวางต้า" หมายถึงให้วางลง คนที่ขโมยมะพร้าวเมื่อได้ยินก็วางหาบมะพร้าวลงแล้วเดินออกจากสวนมะพร้าวของวัดไปได้ อีกเรื่อง คือเกิดไฟไหม้ชุมชนตลาดเก่า เมื่อหลวงพ่อบรรณทราบข่าวว่าไฟไหม้บ้านของชาวบ้าน จึงรีบเดินทางไปที่เพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ เมื่อไปถึงหลวงพ่อบรรณได้กำทรายขึ้นมาเสกแล้วเป่า พร้อมด้วยการหว่านทราย ทำให้ไฟที่กำลังไหม้ดับมอดลงทันตาเห็น ไม่ลุกลามไปบ้านหลังอื่น หลวงพ่อบรรณ ถือเป็นพระเถระคู่เมืองของชาวระนองมายาวนาน วัดด่านได้สร้างรูปเหมือนไว้ในศาลาหลวงพ่อบรรณ ซึ่งมีผู้คนไปกราบไหว้บูชา บนบานขอสิ่งต่างๆ ทุกวันมิได้ขาดสาย เช่น คนที่มีบุตรยากไปอธิษฐานก็จะสมหวัง บางคนอธิษฐานขอเรื่องการเรียน การสอบเข้าทำงาน ให้หายเจ็บไข้ไม่สบาย หรือการเดินทางให้แคล้วคลาด หรือแม้กระทั่งของหาย เมื่ออธิษฐานก็ยังได้กลับคืน นอกจากนี้ มีเรื่องเล่าขานเมื่อประมาณ ๑๐ ปีก่อน มีไต้ก๋งเรือประมงคนหนึ่งห้อยเหรียญหลวงพ่อบรรณติดตัว ถูกคลื่นซัดจนเรือล่ม ต้องลอยคออยู่ในทะเลอันดามัน มีปลาฉลามว่ายน้ำจะเข้ามางับ จึงได้บนบานถึงหลวงพ่อบรรณ ปรากฏว่าปลาฉลามได้แต่ว่ายน้ำวนเวียนโดยรอบไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ ในที่สุดมีเรือประมงเข้ามาพบช่วยเหลือไว้ได้จนปลอดภัย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเรือประมงจำนวนมากเลื่อมใสศรัทธาเช่าเหรียญหลวงพ่อบรรณรุ่นต่างๆ ไปบูชาจำนวนมาก และเมื่อได้ในสิ่งที่ขอแล้ว จะต้องแก้บนด้วยหมากพลูตำ บุหรี่มวนใหญ่ ยาเส้นใบตอง ข้าว แกงเผ็ดเนื้อ น้ำพริกกะปิเผา เป็นต้น พร้อมคำบูชา "พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ มังรักขะ ตุมหาลาภา วันตุเม" นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นอีกอย่างหนึ่ง คือที่ตั้งของวัดด่านซึ่งอยู่บนเนินเขาเตี้ย ซึ่งใต้แผ่นดินบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งแร่ดีบุกจำนวนมาก ถึงขนาดที่ผู้สัมปทานเหมืองแร่ในสมัยนั้นเสนอให้หลวงพ่อบรรณย้ายวัด แล้วจะสร้างวัดให้ใหม่ แต่หลวงพ่อบรรณไม่ยอมย้าย เรือขุดแร่พยายามขุดหาแร่เข้าไปบริเวณวัดแต่ก็ไม่เคยสำเร็จ เมื่อเรือขุดแร่เข้าใกล้เขตวัด เครื่องยนต์จะดับโดยไม่ทราบสาเหตุทุกครั้ง จนในที่สุดก็ต้องถอยกลับไปเอง ทำให้วัดด่านอยู่ที่เดิมคู่เมืองระนองมาจนตราบถึงทุกวันนี้ (หลวงพ่อบรรณ พุทธสโร) หรือ “พระครูศีลพงษ์คณารักษ์” เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดอุปนันทาราม หรือวัดด่าน อ.เมือง จ.ระนอง และเป็นเจ้าคณะจังหวัดระนองรูปแรก เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีชีวิตร่วมสมัยเดียวกับ (หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง) จ.ภูเก็ต ปี พ.ศ.๒๔๖๓ หลวงพ่อบรรณ มีอายุ ๗๙ ปี ทั้งนี้ ก่อนมรณภาพมีผู้เล่าว่าขณะที่หลวงพ่อบรรณได้นั่งบนหลังช้างเพื่อพาพระใบฎีกาพลอย ธัมมโชโต (ซึ่งต่อมาได้เป็นเจ้าคณะจังหวัดระนองรูปที่ ๓) ไปเทศนาให้กับญาติโยมที่ วัดหาดส้มแป้น ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนอง แต่ในระหว่างเดินทางหลวงพ่อบรรณได้เกิดเป็นลม แล้วมรณภาพบนหลังช้างอย่างสงบ วัตถุมงคล โดยส่วนมาก ลูกศิษย์ท่านสร้าง มีทั้งพระบูชา รูปหล่อ และเหรียญ เป็นที่นิยมและแสวงหามาตั้งแต่อดีตเรื่อยมา ค่านิยมยิ่งสูงขึ้นตามกาลเวลา ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง คือ เหรียญหลวงพ่อบรรณรุ่นแรก สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ จัดสร้างจำนวนหลัก ๑๐๐เหรียญ ราคาสูงถึง ๕ หลัก ลักษณะเป็นเหรียญกลมรูปไข่ มีหูห่วง ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อบรรณครึ่งองค์ ใต้รูปเหมือน เขียนคำว่า “หลวงพ่อบรรณ วัดด่านระนอง” มีขอบข้าง ด้านหลังเหรียญ ไม่มีขอบ เขียนยันต์ ระบุปี พ.ศ. ตัวเลขไทย “๒๔๙๗” ปัจจุบันเป็นที่เสาะหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่อง "พระครูศีลพงษ์คณารักษ์" (หลวงพ่อบรรณ พุทธสโร) ท่านถึงแก่มรณะภาพลงเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๓ สิริอายุได้ ๗๙ ปี ๔๕ พรรษา

ลองชมรายการอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกนะครับ แล้วค่อยโอนทีเดียวก็ได้ครับ วัดใจเคาะเดียวแดงทุกรายการ
http://www.web-pra.com/AuctionReport/Items?username=MOMON
โอนเงินแล้วรบกวนโทรแจ้งหรือ Mail My Box เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
ราคาเปิดประมูล65 บาท
ราคาปัจจุบัน65 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูลพฤ. - 04 เม.ย. 2567 - 19:39.02
วันปิดประมูล พ. - 24 เม.ย. 2567 - 19:39.02 (5วัน 5ชั่วโมง 44นาที)
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 0836336667
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 65 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ10 บาท
ยินดีต้อนรับ เข้าสู่การประมูล ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top