D787 เหรียญหลวงพ่อโฝ วัดอุภัยราชบำรุง(วัดญวนตลาดน้อย) จ.กรุงเทพ ปี 2526 เนื้อทองแดง - webpra

ประมูล หมวด:เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540

D787 เหรียญหลวงพ่อโฝ วัดอุภัยราชบำรุง(วัดญวนตลาดน้อย) จ.กรุงเทพ ปี 2526 เนื้อทองแดง

D787 เหรียญหลวงพ่อโฝ วัดอุภัยราชบำรุง(วัดญวนตลาดน้อย) จ.กรุงเทพ ปี 2526 เนื้อทองแดง D787 เหรียญหลวงพ่อโฝ วัดอุภัยราชบำรุง(วัดญวนตลาดน้อย) จ.กรุงเทพ ปี 2526 เนื้อทองแดง
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง D787 เหรียญหลวงพ่อโฝ วัดอุภัยราชบำรุง(วัดญวนตลาดน้อย) จ.กรุงเทพ ปี 2526 เนื้อทองแดง
รายละเอียดD787 เหรียญหลวงพ่อโฝ วัดอุภัยราชบำรุง(วัดญวนตลาดน้อย) จ.กรุงเทพ ปี 2526 เนื้อทองแดง

#วัดอุภัยราชบำรุง
เยือนยลวัดอุภัยราชบำรุง เชื่อมสัมพันธ์ไทย - เวียดนาม
ย่านเก่าในกรุงเทพฯ อย่าง "ตลาดน้อย" ไม่เพียงเต็มไปด้วยเรื่องราวของชุมชนชาวจีนที่เข้ามาพึ่งบรมโพธิสมภารแล้วแต่ในอดีต ทว่ายังมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติศาสนาที่อาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งปรากฏชัดในศาสนสถานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าโจวซือกง (วัดซุ่นเล่งยี่) โบสถ์วัดกาลหว่าร์ และอีกแห่งหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก นั่นคือ "วัดอุภัยราชบำรุง" หรือที่คนแถวนั้นคุ้นเคยกันดีว่า "วัดญวนตลาดน้อย"
บนถนนเจริญกรุงที่ตัดผ่านย่านสำคัญหลายแห่ง ใกล้กับซอยเจริญกรุง ๒๐ วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนมีต้นโพธิ์ใหญ่ให้ร่มเงา มองเข้าไปด้านในจะเห็นพระอุโบสถศิลปะจีนตกแต่งปูนปั้นอย่างวิจิตร
สำหรับต้นศรีมหาโพธิ์ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า ว่ากันว่ารัชกาลที่ ๕ ได้พระราชทานหน่อที่ทรงเพาะขึ้นจากเมล็ดพันธุ์ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ได้มาจากรัฐบาลอินเดียให้แก่วัด และได้เสด็จมาทรงพระสุหร่ายประพรมต้นศรีมหาโพธิ์ด้วยพระองค์เองด้วย นับถึงปัจจุบันต้นโพธิ์ต้นนี้มีอายุกว่า ๑๓๐ ปีแล้ว
จากลานโพธิ์หากเดินตรงเข้ามาด้านในพระอุโบสถจะพบกับพระพุทธรูปประธานองค์ใหญ่และสาวกดูงดงามอลังการ บริเวณด้านหลังเป็นวิหารบูรพาจารย์ซึ่งด้านบนจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติวัดและประวัติเจ้าอาวาสท่านต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ สังขารของพระครูคณานัมสมณาจารย์ (โผซ้าย) เจ้าอาวาสองค์ที่ ๔ ของวัด ท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปี ๒๕๐๑ แต่สังขารยังไม่เน่าเปื่อย จึงมีผู้ศรัทธามากราบไหว้ขอพรอยู่ในเนืองๆ
และแม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศ แต่วัดแห่งนี้ก็มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตามประวัติระบุว่า "วัดอุภัยราชบำรุง มีชื่อเดิมในภาษาเวียดนามว่า "วัด คั้น เวิน" เป็นวัดฝ่ายอนัมนิกายที่มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยในช่วงปลายศตวรรษที่ ๑๘ องเชียงสือและพวกพ้องซึ่งเป็นชาวญวนได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงได้พระราชทานที่ดินให้ตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในการก่อสร้างวัด ชาวเวียดนามจึงได้สร้างวัดศรัทธาของตนขึ้น ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีวัดจีนในบางกอก ชาวจีนที่นับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายานก็ได้อาศัยทำ บุญที่วัดแห่งนี้ด้วย
วัดญวนตลาดน้อยนอกจากจะเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเวียดนามอพยพ เวลานั้นยังเป็นที่สนพระทัยของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎสมมติเทววงศ์พงศ์อิศวร ขณะที่ทรงผนวชอยู่ได้นิมนต์ "องฮึง" เจ้าอาวาส "วัด คั้น เวิน" มาเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดหลายครั้งพร้อมทั้งถวายวิสัชนาเรื่องพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ต่อมาเมื่อพระองค์ขึ้นทรงครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานสมณศักดิ์ "องฮึง" เป็นพระครูคณานัมสมณาจารย์ ซึ่งต่อมาได้เป็นเจ้าคณะใหญ่ ฝ่ายอนัมนิกายในประเทศไทย พระญวนจึงได้รับยกย่องในทางราชการให้เข้าร่วมในพระราชพิธีถวายพระพรชัยมงคลตั้งแต่นั้นมาจนบัดนี้
ด้วยเหตุที่ทางวัดได้พระมหากรุณาธิคุณจากรัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๕ โดยทั้งสองพระองค์ได้พระราชทานทุนทรัพย์ช่วยเหลือทางวัดเมื่อครั้งมีที่มีการปฏิสังขรณ์ ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานนามว่า "วัดอุภัยราชบำรุง" มีความหมายว่า "เป็นวัดที่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จากพระมหากษัตริย์ ๒ พระองค์"
จากวันนั้นถึงวันนี้ แม้ว่าสภาพบ้านเมืองและวิถีความเป็นอยู่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจะเปลี่ยนไปมาก แต่เป็นศาสนสถานแห่งนี้แห่งอนัมนิกายก็ยังบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์อันยาวนานของทั้งสองประเทศไว้อย่างดี และเพื่อตอกย้ำสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครท่านที่แล้ว (ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร) ได้มีโอกาสต้อนรับ นายวู ดึ๊ก ดาม รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมเวียดนาม เพื่อนร่วมกันเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายสื่อความหมายประวัติศาสตร์วัดอภัยราชบำรุง (วัดญวนตลาดน้อย) โดยมีวัตถุประสงค์คือ การประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยป้ายดังกล่าว บอกถึงประวัติความเป็นมาของวัดเพื่อให้คนไทยและคนเวียดนามด้รู้จัก ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ยาวนานต่อเนื่องไป
สำหรับใครที่อยากสัมผัสกรุงเทพฯ ในมุมต่าง ใช้เวลาว่างๆ ละเลียดอดีตที่ตลาดน้อย เดินลัดเลาะตรอกซอยย่านเจริญกรุง ควรหาโอกาสไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดอุภัยราชบำรุงสักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
ที่มา คอลัมน์ "รื่นรมย์ชมกรุง" กทม.สารฉบับประจำเดือนกันยายน ๒๕๕๙ หน้าปกหลัง
*******************
ประวัติความเป็นมา
ภูมิหลังของวัดญวนในประเทศไทยพอจะประมาณได้ว่า เริ่มต้นขึ้นในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หลังจากมีการตั้งหลักแหล่งของชาวญวน ที่อพยพลี้ภัยสงครามมาตั้งแต่ปลายสมัยธนบุรี เมื่อมีการตั้งวัดญวนขึ้น ก็ได้นิมนต์พระสงฆ์ ซึ่งบวชมาจากประเทศญวนมาประจำในประเทศไทย
คณะสงฆ์ญวนชุดแรกๆ มีพระผู้ใหญ่ ที่สำคัญ ๒ องค์ คือ พระครูคณาณัมสมณาจารย์ (ฮึง) และพระครูสมณานัมสมณาจารย์ (เหยี่ยวกร่าม) เป็นผู้นำของคณะสงฆ์อนัมนิกาย ในประเทศไทย ต่อมาในรัชกาลที่ ๒ และรัชกาลที่ ๓ คณะสงฆ์ญวนในประเทศไทย ได้ขาดการติดต่อกับพระสงฆ์ญวนในเมืองญวน และได้กลับมาติดต่อสัมพันธ์กันอีกครั้ง ในรัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๕ ในสมัยนั้น มีพระสงฆ์ญวนเข้ามาในประเทศไทยอีก แต่เนื่องจากขณะนั้นญวนตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส พระสงฆ์ญวนในประเทศไทยไม่สามารถติดต่อกับพระสงฆ์ญวนในเมืองญวนได้สะดวกนัก พระสงฆ์ญวนในประเทศไทยจึงได้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบประเพณี และวัตรปฏิบัติ ให้สอดคล้องกับพระสงฆ์ไทยหลายประการ เช่น การออกบิณฑบาต การทำวัตรเช้าและเย็น การถือวิกาลโภชนา และการผนวกพิธีกรรมฝ่ายเถรวาท เช่น การมีพิธีทอดกฐิน และทอดผ้าป่า พิธีบวช พิธีเข้าพรรษา
วัดญวนในประเทศไทยถือกำเนิดขึ้นก่อนวัดจีน ในรัชกาลที่ ๓ ระหว่างที่สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎ (ต่อมา คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงพระผนวชอยู่ ทรงสนพระทัย ในลัทธิประเพณี และการปฏิบัติของพระสงฆ์ฝ่ายมหายาน ซึ่งในขณะนั้น พระสงฆ์ฝ่ายมหายานมีแต่ฝ่ายอนัมนิกายยังไม่มีฝ่ายจีนนิกาย จึงโปรดให้นิมนต์ องฮึง เจ้าอาวาสวัดญวนตลาดน้อยในขณะนั้นมาเข้าเฝ้า ซึ่งทรงถูกพระราชอัธยาศัยเป็นอย่างดี เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะสงฆ์ฝ่ายอนัมนิกาย เข้ามาอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และอยู่ในสถานะดังกล่าวเรื่อยมา แม้จะมีการผลัดเปลี่ยนรัชกาลมาจนถึงปัจจุบัน ในช่วงแรกที่วัดญวนได้เข้ามาอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร วัดญวนแห่งแรกๆ เช่น วัดญวนตลาดน้อย ก็ได้รับพระราชทานเงินช่วยเหลือในการปฏิสังขรณ์ และยังโปรดเกล้าฯ ให้พระสงฆ์ญวนเข้าเฝ้าเป็นประจำ รวมทั้งให้มีพิธีกรรมตามความเชื่อของฝ่ายอนัมนิกาย ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องมา จนถึงปัจจุบัน
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ ใน พ.ศ. ๒๔๑๑ ได้ทรงปฏิบัติตามแบบอย่างสมเด็จพระบรมชนกนาถ ในเรื่องที่เกี่ยวกับ การอุปถัมภ์ และการปฏิสังขรณ์วัดญวน โดยพระราชทานเงินช่วยเหลือ ในการปฏิสังขรณ์วัดญวนตลาดน้อยอีกครั้ง และได้พระราชทานนามใหม่ว่า วัดอุภัยราชบำรุง คำว่า "อุภัย" แปลว่า สอง แสดงให้เห็นถึงความหมายว่า เป็นวัดที่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์ จากพระมหากษัตริย์ ๒ พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์ขององฮึง เจ้าอาวาสวัด เป็นที่ "พระครูคณานัมสมณาจารย์" เป็นเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายอนัมนิกาย ในประเทศไทย ต่อมายังได้พระราชทานนามวัดญวน และวัดจีนอื่นๆ อีกหลายวัดด้วย
ที่มา : สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๓๑ / เรื่องที่ ๒ วัดญวนในประเทศไทย / ประวัติความเป็นมา
***********************
ประวัติวัดอุภัยราชบำรุง (วัดญวนตลาดน้อย)
วัดญวนตลาดน้อย ตามตำนานมิได้ระบุไว้ชัดว่าสร้างเมื่อใด ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ แต่พอจะสันนิษฐานได้ว่าคงจะสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๓๓๐ โดยคนญวนที่อพยพตาม องเชียงสือราชนัดดาของจ้าเมืองเว้ซึ่งหนีพวกกบฏ เข้ามาพึ่งระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้รับพระราชทานที่ดินให้ตั้งชุมชนในกรุงเทพฯ สมัยนั้นคนญวนที่นับถือพุทธศาสนาได้ร่วมกันสร้างวัดของฝ่ายสงฆ์ญวนขึ้นสองวัดคือ วัดคั้นเยิงตื่อ คือ วัดญวนตลาดน้อย และวัดกว๋างเพื๊อกเตื่อ คือวัดญวนบางโพ
ในเวลาต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งสองพระองค์ได้รู้จักพระเถระของฝ่ายญานรูปหนึ่งคือ องฮึงซึ่งได้เข้าฝ้าถวายวิสัชนาเรื่องศาสนาพุทธฝ่ายมหายานในขณะที่เจ้าผ้ามงกุฎทรงผนวชอยู่ต่อมาพระองค์ขึ้นครองราชย์จึงได้ พระราชทานนามสมณะศักดิ์ องฮึง เป็นพระครูคณานัมสมณาจารย์ มีตำแหน่งทางการปกครองในคณะสงฆ์ญวนเป็นเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายอนัมนิกาย ในเวลาต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า วัดอุภัยราชบำรุง นับแต่มาตราบทุกวันนี้ คำว่า อุภัย แปลว่า สอง วัดอุภัยราชบำรุงจึงแสดงประวัติว่า ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จากพระมหากษัตริย์ถึงสองรัชกาล หนึ่งในอุภัยราชะ คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ อีกหนึ่งในอุภัยราชะ คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ สมเด็จพระมหาบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์นั้น ได้รู้จักพระเถระของฝ่ายญวน คนสำคัญรูปหนึ่งมีนามว่า องฮึง สมัยที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวชอยู่นั้น ความที่พระองค์ ท่านทรงขวนขวายใคร่ศึกษาเรื่องพระพุทธศาสนามหายานให้เชี่ยวชาญ จึงเป็นโอกาสที่ องฮึงได้เข้าเฝ้าอย่าง ใกล้ชิด พร้อมถวายวิสัชนาเรื่องศาสนาพุทธฝ่ายมหายานและภิกษุสามเณรในคณะญวน ต่อมาพระองค์ขึ้นครอง ราชย์ องฮึงได้เป็นเจ้าอาวาสวัดญวนตลาดน้อย ความทราบถึงเบื้องยุคลบาทว่าทางวัดกำลังปฏิสังขรณ์อยู่ จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินช่วย
ครั้นถึงแผ่นดินในรัชกาลที่ ๕ วัดญวนตลาดน้อยบูรณปฏิสังขรณ์อีก ดั่งปรากฏว่าความในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕ นำเบอร์ ๕ วันอาทิตย์ เดือน ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ ปีขาล ยังเป็นนพศก ๑๒๓๙ การฉลองวัดอุภัยราชบำรุง ณ วันอาทิตย์ เดือนสี่ ขึ้นสิบสี่ค่ำ ปีฉลู นพศก ๑๒๓๙ นับในปัจจุบัน คือ พ.ศ. ๒๔๒๐ พระยาโชฏึกราชเสษฐี ( ฟัก โชติกสวัสดิ์ ) จัดการในวัดอุภัยราชบำรุง เมื่อได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระราชทานนามว่า วัดอุภัยราชบำรุง พระญวนจึงได้รับการยกย่องในทางราชการ ให้เข้ามาร่วมพระราชพิธีถวาย พระชัยมงคล แต่นั้นจนบัดนี้
https://www.facebook.com/culturebma/posts/986315358161920/

- สุดยอดทั้งประสบการณ์และหายาก
- รับประกันแท้ และตามกฏ
- เดิมๆ ไม่ล้าง
- ตรงตามภาพ
- สภาพสวย พุทธคุณมากมายคงเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
- ส่งฟรี ปณ.ECO/เกิน 500 ส่ง ปณ EMS
ราคาเปิดประมูล90 บาท
ราคาปัจจุบัน90 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูลส. - 30 พ.ย. 2567 - 21:42.55
วันปิดประมูล ส. - 30 พ.ย. 2567 - 21:43.02 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 90 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ10 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดก่อนกำหนดโดยผู้ตั้งประมูล
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top