หลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ) กลันตัน - webpra

ประมูล หมวด:พระเกจิภาคใต้

หลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ) กลันตัน

หลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ) กลันตัน หลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ) กลันตัน
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง หลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ) กลันตัน
รายละเอียดพระเนื้อผงหลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ) สวย น่าบูชา

พระวิจารณญาณมุนี วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ) หลวงพ่อครนท่านเป็นชาวบ้านบางแซะโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีพ.ศ.2419 โยมบิดาชื่อโยมชุม โยมมารดาชื่อโยมแก้ว นามสกุล ราษฎร์เจริญ หลวงพ่อครนท่านอุปสมบทที่วัดบางแซะ ต่อมาท่านก็ได้กราบลาพระอุปัชฌาย์มาศึกษาเล่าเรียนทั้งปริยัติและปฏิบัติที่ จังหวัดสงขลา โดยหลวงพ่อครนท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดหัวใจ ในช่วงนี้เองที่หลวงพ่อได้ศึกษาพระเวทวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์สำคัญๆ ในภาคใต้ เช่น หลวงพ่อปาน วัดโคกสมานคุณ หาดใหญ่ หรือแม้แต่หลวงพ่ออินทร์ อำเภอตากใบ และสันนิษฐานว่าท่านได้ไปศึกษาที่เขาค้อด้วย

ประวัติของหลวงพ่อครนนั้นยังไม่ค่อยปะติดปะต่อกันมากนัก เนื่องจาก บางแซะได้กลายไปเป็นพื้นที่ของมาเลเซียในเวลาต่อมา แต่เท่าที่ทราบก็คือหลังจากท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดบางแซะแล้ว ท่านก็เริ่มพัฒนาวัดบางแซะโดยความร่วมมือของชาวบ้านในแถบนั้น และท่านก็ได้เปิดการสอบบาลีนักธรรมและกรรมฐานแก่พระภิกษุ สามเณร โดยท่านเป็นผู้สอนเอง การสอนกรรมฐานในครั้งนั้นนับเป็นครั้งแรกในรัฐกลันตัน เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีพระอาจารย์รูปใดเคยสอนมาก่อน ต่อมาในปีพ.ศ.2476 หลวงพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์เพื่ออุปสมบทและบรรพชาให้แก่ ชาวบ้านบางแซะ และตำบลใกล้เคียง ปีพ.ศ.2488 หลวงพ่อก็ได้เลื่อนจากพระครูชั้นพิเศษฝ่ายวิปัสสนาขึ้นเป็นพระราชาคณะสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ โดยได้รับพระราชทานทินนามที่ "พระวิจารณญาณมุนี" และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ในรัฐกลันตัน นับเป็นพระราชคณะรูปแรกของรัฐกลันตัน

หลวงพ่อครน วัดบางแซะท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ดวงตาแฝงไว้ด้วยแววแห่งอำนาจ ลิ้นของท่านเป็นปานสีดำ ชาวบ้านจึงเรียกท่านกันอีกชื่อหนึ่งว่า หลวงพ่อลิ้นดำ มีวาจาสิทธิ์ เป็นที่เคารพและเกรงขามทั้งชาวพุทธศาสนิกชน และมุสลิม ภายหลังเป็นเจ้าอาวาสวัดบางแซะแล้ว ท่านก็เริ่มพัฒนาวัดบางแซะโดยความร่วมมือของชาวบ้านในแถบนั้น และท่านก็ได้เปิดการสอบบาลีนักธรรมและกรรมฐานแก่พระภิกษุ สามเณร โดยท่านเป็นผู้สอนเอง การสอนกรรมฐานในครั้งนั้นนับเป็นครั้งแรกในรัฐกลันตัน เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีพระอาจารย์รูปใดเคยสอนมาก่อน

พ.ศ.2476 หลวงพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์เพื่ออุปสมบทและบรรพชาให้แก่ ชาวบ้านบางแซะ และตำบลใกล้เคียง
พ.ศ.2488 หลวงพ่อก็ได้เลื่อนจากพระครูชั้นพิเศษฝ่ายวิปัสสนาขึ้นเป็นพระราชาคณะสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ โดยได้รับพระราชทานทินนามที่ "พระวิจารณญาณมุนี" และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ในรัฐกลันตัน นับเป็นพระราชคณะรูปแรกของรัฐกลันตัน

หลวงพ่อครนท่านเป็นคนพูดน้อย มีศีลจารวัตรงดงาม เป็นที่เลื่อมใสของผู้คนที่ได้พบเห็นหลวงพ่อให้ความเมตตาต่อทุกผู้ทุกนามโดย ไม่เลือกชั้นวรรณะหรือแม้แต่ศาสนา ในยามเมื่อเขาเดือดร้อนตกอยู่ในกองทุกข์ หลวงพ่อก็จะช่วยเหลือปัดเป่าให้พ้นทุกข์ได้เสมอ อีกทั้งท่านยังมีความรู้เรื่องเครื่องยาสมุนไพรอย่างแตกฉาน ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งวิทยาคมของท่านก็เข้มขลังเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวบ้านในแถบนั้นเป็น อย่างดี จึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านเป็นอย่างมาก ต่อมาจนถึงปีพ.ศ.2505 หลวงพ่อครนก็มรณภาพลง สิริอายุได้ 88 ปี พรรษาที่ 67

ในด้านวัตถุมงคล ท่านสร้างพระเครื่องที่มีชื่อเสียงมากในรูปพระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก สร้างตั้งแต่ พ.ศ.2480 ใช้กรรมวิธีการปั้นหุนทีละองค์ แล้วลงเหล็กจารไว้ทั่งทั้งองค์ ซึ่งนานทีจะพบพระแท้ ๆ สักองค์ หาของแท้ชมยากมาก ๆ เพราะเป็นที่นิยมมาก ในหมู่ชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ แม้จนปัจจุบันนี้ คนไทยในประเทศไทยนิยมสมเด็จวัดระฆังอย่างไร ชาวสิงคโปร์และมาเลเซียที่เป็นพุทธก็นิยมพระปิดตาของหลวงพ่อครนไม่แพ้กัน กล่าวกันว่าวัดบางแซะนั้น แวดล้อมไปด้วยชาวบ้านที่เป็นมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ แต่หลวงพ่อครน ท่านก็ได้รับความเคารพนับถือและเกรงใจอย่างยิ่งจากชาวบ้าน และวัดบางแซะก็สามารถดำรงอยู่ได้ แม้จนปัจจุบันนี้ ด้วยบารมีของท่านนั่นเอง

อนึ่ง คนสิงคโปร์และมาเลเซีย ไม่ได้เรียกท่านว่า "หลวงพ่อครน" เหมือนที่คนไทยเรียก แต่จะเรียกท่านว่า "โต๊ะรายา" ซึ่งมีความหมายเทียบเท่าสังฆราชนั่นเอง สาเหตุมาจากคำเล่าลือกันที่ว่า ลูกสาวของสุลต่านคนหนึ่งที่เป็นผู้ปกครองรัฐกลันตัน ถูกกระทำไสยเวทย์หรือมนต์ดำ ทำให้สติวิกลวิปริตไป แม้จะใช้แพทย์แผนปัจจุบัน หรือคนดีมีวิชาที่เป็นชาวมุสลิม ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่หลวงพ่อครนท่านสามารถรักษาและแก้ไขได้ จนลูกสาวสุลต่านกลับมาเป็นปกติ ทำให้ท่านได้รับความนับถืออย่างยิ่งจากองค์สุลต่าน และได้ถวายเกียรติคุณให้ท่านว่าโต๊ะรายา แม้ปัจจุบันหากพูดถึงโต๊ะรายาในหมู่ชาวสิงคโปร์และมาเลเซียที่นับถือพุทธ ก็จะหมายถึงหลวงพ่อครนนั่นเอง ซึ่งมีองค์เดียวเท่านั้น
ราคาเปิดประมูล370 บาท
ราคาปัจจุบัน380 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูลพ. - 21 พ.ย. 2555 - 10:24.59
วันปิดประมูล พ. - 28 พ.ย. 2555 - 16:16.10 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 380 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ10 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
380 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) อ. - 27 พ.ย. 2555 - 16:16.10
กำลังโหลด...
Top