(((วัดใจ๑๐บาท)))หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หน้าตัก 5 นิ้ว ศิลาแลงหล่อปัดสี งานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณ - webpra

ประมูล หมวด:พระบูชา

(((วัดใจ๑๐บาท)))หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หน้าตัก 5 นิ้ว ศิลาแลงหล่อปัดสี งานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณ

(((วัดใจ๑๐บาท)))หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หน้าตัก 5 นิ้ว ศิลาแลงหล่อปัดสี งานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณ (((วัดใจ๑๐บาท)))หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หน้าตัก 5 นิ้ว ศิลาแลงหล่อปัดสี งานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณ (((วัดใจ๑๐บาท)))หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หน้าตัก 5 นิ้ว ศิลาแลงหล่อปัดสี งานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณ (((วัดใจ๑๐บาท)))หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หน้าตัก 5 นิ้ว ศิลาแลงหล่อปัดสี งานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณ (((วัดใจ๑๐บาท)))หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หน้าตัก 5 นิ้ว ศิลาแลงหล่อปัดสี งานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณ
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง (((วัดใจ๑๐บาท)))หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หน้าตัก 5 นิ้ว ศิลาแลงหล่อปัดสี งานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณ
รายละเอียด(((วัดใจ๑๐บาท)))หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หน้าตัก 5 นิ้ว ศิลาแลงหล่อปัดสี งานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณีตสวยงามมาก
สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปจารย์ (ปู สามีราโม)
หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด,สมเด็จเจ้าพะโคะ

อายุวัตถุมงคล : วัตถุมงคลใหม่

ราคา : 599 บาท

รายละเอียด : หลวงปู่ทวด (หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ, หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด, สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์) ศิลาแลงหล่อปัดสี งานประณีตสวยงามมาก ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว สูง 8.5 นิ้ว ฐาน 4.5 x 5.5 นิ้ว น้ำหนัก 1.7 กก.งานประณีตสวยงาม เป็นวัตถุมงคล เสริมสิริมงคลเสริมบารมีคุ้มครอง เหมาะในการตั้งโต๊ะบูชา,ตั้งโต๊ะทำงาน,หรือมอบเป็นของกำนัล แด่คนที่ท่านรักค่ะ
เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทยจากตำนานท้องถิ่นซึ่งยังไม่ปรากฏหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ยืนยันความมีอยู่จริง ประวัติที่พิมพ์เผยแพร่กล่าวว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รูปสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง
ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ในตำนานที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก รูปสำคัญ 1 ใน 2 มหาเกจิอาจารย์ของเมืองไทย คู่กับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) (หลวงปู่โต) ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
ตามตำนานกล่าวว่าหลวงปู่ทวด เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ซึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ย (ทาสทำงานใช้หนี้) ของเศรษฐีปานเกิดในรัชกาลของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2125 ณ บ้านสวนจันทร์ (บ้านเลียบ) ต.ดีหลวง (ปัจจุบันเป็นตำบลชุมพล) อ.สทิงพระ(จะทิ้งพระ) จ.สงขลา แรกเกิดมีชื่อว่าปู ขณะท่านเกิดมีเหตุอัศจรรย์คือเกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น เสมือนหนึ่งว่ามีผู้มีบุญญาธิการมาเกิด เมื่อตัดรกจากสายสะดือแล้วนายหูบิดาของท่านก็นำรกของท่านไปฝังไว้ที่โคนต้นเลียบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ต้นเลียบในปัจจุบัน
เมื่อท่านเกิดมาแล้วก็มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นกับท่านเรื่อยมา เป็นต้นว่า ขณะที่ท่านอยู่ในวัยแบเบาะในช่วงฤดูเกี่ยวข้าวบิดามารดาของท่านต้องออกไปเกี่ยวข้าวที่กลางทุ่งนาซึ่งเป็นนาของเศรษฐีปาน ซึ่งท้องนาแห่งนั้นห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นาแห่งนั้นมีดงตาลและมะเม่าเป็นจำนวนมากครั้งนั้นจึงเรียกว่าทุ่งเม่า ปัจจุบันตั้งเป็นสำนักสงฆ์ชื่อนาเปล ในสมัยนั้นจึงมีสัตว์ป่าชุกชุมพอสมควร บิดามารดาของท่านจึงผูกเปลของท่านซึ่งเป็นเปลผ้าไว้กับต้นมะเม่าสองต้นและก็ได้เกี่ยวข้าวอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น พอได้ระยะเวลาที่นางจันทร์ต้องให้นมลูก นางจันทร์จึงเดินมาที่ที่ปลูกเปลของลูกน้อย และก็เห็นงูจงอางตัวใหญ่หรืองูบองหลาที่ชาวภาคใต้เรียกกันพันที่รอบเปล นางจันทร์เห็นแล้วตกใจเป็นอันมากจึงเรียกนายหูซึ่งอยู่ไม่ไกลนักมาดูและช่วยไล่งูจงอางนั้น แต่งูจงอางนั้นก็ไม่ไปไหน นายหูและนางจันทร์จึงตั้งสัตยาธิฐานว่าขออย่าให้งูนั้นทำร้ายลูกน้อยเลย ไม่นานนักงูจงอางนั้นก็คลายวงรัดออกและเลื้อยหายไปในป่านายหูและนางจันทร์จึงเข้าไปดูลูกน้อยเห็นว่ายังหลับอยู่และไม่เป็นอันตรายใด ๆ และปรากฏว่ามีเมือกแก้วขนาดใหญ่ที่งูจงอางคลายไว้อยู่บนอกเด็กชายปูนั้น เมือกแก้วนั้นมีแสงแวววาวและต่อมาได้แข็งตัวเป็นลูกแก้ว ปัจจุบันได้ประดิษฐานที่วัดพะโคะ เมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่องเข้าก็บีบบังคับขอลูกแก้วเอาจากนายหูและนางจันทร์ บิดามารดาของท่านจึงจำต้องยอมให้ลูกแก้วนั้นแก่เศรษฐีปานซึ่งเป็นนายเงิน แต่ลูกแก้วนั้นเป็นของศักดิ์สิทธิประจำตัวท่าน เมื่อเศรษฐีปานเอาลูกแก้วไปแล้วก็เกิดเภทภัยในครอบครัวเกิดการเจ็บป่วยกันบ่อย และมีฐานะยากจนลง เศรษฐีปานจึงได้เอาลูกแก้วมาคืนและขอขมาเด็กชายปู และยกหนี้สินให้แก่นายหูและนางจันทร์ ทั้งสองจึงพ้นจากการเป็นทาสและต่อมาก็มีฐานะดีขึ้น ๆ ส่วนเศรษฐีปานก็มีฐานะดีขึ้นดังเดิม
เมื่อท่านมีอายุได้ประมาณ 7 ขวบ พ.ศ. 2132 บิดามารดาของท่านจึงนำท่านไปฝากไว้เป็นศิษย์วัดเพื่อเล่าเรียนหนังสือ ที่วัดกุฎ๊หลวงหรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้านท่าน ขณะนั้นมีท่านสมภารจวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เด็กชายปูเป็นเด็กที่หัวดีเรียนเก่งสามารถเล่าเรียนภาษาขอมและภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว สมภารจวงได้บวชให้ท่านเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี ตอนที่ท่านบวชเป็นสามเณรนี้เองบิดาของท่านจึงถวายลูกแก้วคืนให้แก่ท่านเป็นลูกแก้วประจำตัวท่านต่อไป
ด้วยความที่เป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ตลอดเวลาของท่าน ต่อมาท่านสมภารจวงได้นำไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือที่สูงขึ้นสมัยนั้นเรียกว่ามูลบทบรรพกิจ ปัจบันก็คือเรียนนักธรรมนั่นเอง โดยนำไปฝากเรียนไว้กับสมเด็จพระชินเสน ซึ่งเป็นพระเถระชั้นสูงที่ส่งมาจากกรุงศรีอยุธยา ให้มาครองเป็นเจ้าอาวาสวัดสีคูยังหรือวัดสีหยังในปัจจุบัน ห่างจากวัดดีหลวงไปทางเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร ท่านได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและจบหลักสูตรที่วัดสีคูยังนั้น หลังจากนั้นท่านได้เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อเรียนหนังสือให้สูงขึ้น
โดยมาพำนักอยู่ที่วัดเสมาเมือง ซึ่งเป็นสำนักเรียนและมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสี เป็นเจ้าอาวาส และบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบกาลอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ จนมีความรู้และเป็นผู้ทรงอภิญญามาก และได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรศในครั้งสุดท้ายในราชทินนามที่ สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์ สุดท้ายเมื่อท่านมีอายุได้ 80 ปี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ วัดบ้านเกิดของท่าน ต่อมาท่านได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ว่าเมื่อท่านมรณภาพให้นำพระศพท่านไปไว้ที่วัดช้างไห้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ต่อไปสถานที่ข้างหน้าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้คนมาเที่ยว
ละสังขาร
หลวงปู่ทวด ได้ละสังขารด้วยโรคชราในปลายรัชกาลของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2225 ที่เมืองไทรบุรี สิริอายุได้ 100 ปี นับพรรษาได้ 80 พรรษา
คาถาสักการบูชาหลวงปู่ทวด
การสักการบูชาให้ตั้งสวด นโม ตสฺส ฯลฯ 3 จบ ตามด้วยคาถานี้ 3 จบเช่นกัน
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
มีความหมายว่า "ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่เจ้าประคุณสมเด็จหลวงปู่ทวด ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีโชคซึ่งเข้ามาสถิตอยู่ในตัวของข้าพเจ้านี้" คำว่า อาคนฺติมาย ควรจะเป็น อาคนฺตีมาย เนื่องจากเป็นคำสนธิระหว่าง อาคนฺติ กับ อิมาย แต่คงเสียงสระสั้นไว้เพื่อความไพเราะของภาษา [2]
***ดูให้ชอบใจก่อนนะคะ วันนี้ขอวัดใจแบบลืมทุนกันไปเลยนะคะ แต่ยังไงก็รับประกันตามกฎเหมือนเดิมค่ะ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ศิลาแลงหล่อปัดสีเป็นงานพุทธศิลป์สร้างใหม่ประณีตสวยงาม พิธีพุทธาภิเษกศูนย์พระเคื่องพรหมนิมิต ๑ วาระ ท่านที่ชนะประมูลสามารถนำไปพุทธาภิเษกได้อีกตามอัธยาศัยค่ะ


ราคาเปิดประมูล14 บาท
ราคาปัจจุบัน424 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูลพฤ. - 29 ส.ค. 2556 - 22:29.09
วันปิดประมูล ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 22:32.26 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 081-9628100
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 424 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ10 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
24 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) พฤ. - 29 ส.ค. 2556 - 22:32.26
34 บาท พฤ. - 29 ส.ค. 2556 - 22:36.28
44 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:08.08
54 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:09.51
64 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:09.51
74 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:09.57
84 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:09.57
94 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:10.02
104 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:10.02
114 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:10.07
124 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:13.53
134 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 00:13.53
144 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 08:06.07
154 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 08:06.07
254 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 12:31.43
264 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 12:31.43
304 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 12:32.48
314 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 12:32.48
324 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 14:30.11
334 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 14:30.11
344 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 14:30.15
354 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 14:30.15
364 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 14:30.20
374 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 14:30.20
384 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 14:30.24
394 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 14:30.24
404 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 22:05.49
414 บาท (auto) ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 22:05.49
424 บาท ศ. - 30 ส.ค. 2556 - 22:05.57
กำลังโหลด...
Top