
ประมูล หมวด:พระเกจิภาคอีสานใต้
เหรียญ หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย นครราชสีมา ปี 2542


ชื่อพระเครื่อง | เหรียญ หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย นครราชสีมา ปี 2542 |
---|---|
รายละเอียด | หลวงพ่อจอย ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ประวัติโดยสังเขป หลวงพ่อจอย แห่งวัดโนนไทย“หลวงพ่อจอย” เดิมชื่อ วิชิต นามสกุล มานะดี เป็นบุตร นายเที่ยง -นางชื่น มานะดี เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 3 เมษายน 2482 ที่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 9 ตำบลบ้านตาล อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ เรียกว่า เป็นคนชัยภูมิ หรือดินแดนแห่งความ มีชัยชนะนั่นเอง เมื่อโตขึ้นได้เข้าศึกษาจนจบการศึกษาจากโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ระดับ 4 เหตุที่ต้องเรียนการศึกษาผู้ใหญ่ก็เพราะต้องช่วยบิดา-มารดาทำงานบ้านไปด้วย เมื่อวัยเด็กมีอุปนิสัยฝักใฝ่ในบวรพระพุทธศาสนา ชอบเข้าวัดฟังธรรม ทำบุญตักบาตรแทนคุณพ่อ-คุณแม่อยู่เป็นประจำ เมื่อถึงหน้าเทศกาลงานประจำปี พ่อ-แม่ให้เงินไปเที่ยวครั้งละ 5 บาท 10 บาท ก็ต้องแบ่งปัน เอาไปทำบุญเสียก่อน แล้วจึงค่อยจับจ่ายใช้สอย เหลือจากนั้นก็นำไปให้พ่อ-แม่เก็บไว้ นับว่าเป็นผู้มีกตัญญูเป็นที่ตั้ง จวบจนอายุได้ 24 ปี ว่างเว้นจากงานทางบ้านพอจะให้ญาติพี่น้อง ช่วยเหลือได้แล้ว จึงได้ตัดสินใจที่มีความฝักใฝ่มาแต่เดิม ขอบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดสาริกา ตำบลบ้านตาล อำเภอบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2505 โดยมี พระครูพิศิษย์ภัทรธรรม (หลวงพ่อแย้ม) วัดโคกสว่าง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโพธิวุฒิคุณ อดีตเจ้าคณะอำเภอบำเหน็จณรงค์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ชม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาจากพระอุปัชฌาย์ว่า “ชินวังโส” หลวงพ่อจอยท่านชอบนั่งสมาธิ เจริญจิตภาวนามาตั้งแต่อุปสมบทจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านเป็นพระที่ชอบสันโดษ ฉันน้อย ไม่ชอบสวมรองเท้า เวลาจำวัดท่านจะหนุนหมอนที่ทำด้วยไม้ เพื่อดำรงสติให้รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา หมอนไม้นี้หลวงพ่อคูณถวายให้ และตั้งใจว่าจะหนุนหมอนไม้ไปตลอดชีวิต หลวงพ่อจอยได้เคยปลุกเสกเหรียญรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่พรรษาแรก ที่อุปสมบท น้องชายของท่านชื่อ “นายเต๊าะ” ได้พาเพื่อนนำไปทดลอง ยิงดู ปรากฏว่ายิงไม่ออก จากนั้นท่านก็ไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องวัตถุมงคลอีกเลย จนมาถึง พ.ศ.2533 พรรษาที่ 27 จึงได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นตามคำเรียกร้องของญาติโยมและศิษยานุศิษย์ จำนวน 112 องค์ โดยทำเป็นรูปล็อกเกต เมื่อปี 2533 ปรากฏว่าผู้นำไปแขวนคอได้รับประสบการณ์ทางเมตตาแคล้วคลาดดี มีคนต้องการมาก จึงทำเพิ่มอีก 300 องค์ ซึ่งท่านก็ได้มอบให้ญาติโยมและศิษยานุศิษย์ไปจนหมด ต่อมาในปี 2534 คณะศิษยานุศิษย์ได้ขออนุญาตสร้างเหรียญทองแดงรมดำรูปไข่ขึ้นอีก จำนวน 29,700 เหรียญ ซึ่งหลวงพ่อจอยได้ปลุกเสกถึง 3 พรรษา ในพรรษาสุดท้ายปี 2536 ขณะที่หลวงพ่อจอยกำลังนั่งอธิษฐานจิตพุทธาภิเษกอยู่นั้น ลูกประคำที่หลวงพ่อใช้บริกรรมปลุกเสก ขณะปลุกเสกนั้นได้แตกออกจากกันท่ามกลางสายตาของพระภิกษุ-สามเณร จำนวน 34 รูป ที่อยู่ในอุโบสถ ถึงแม้ว่าเสียงที่แตกนั้นจะเบามาก แต่พระภิกษุ-สามเณรทุกรูปก็ได้ยินอย่างชัดเจน เมื่อปลุกเสกเสร็จแล้วจึงนำมาให้ญาติโยมและคณะศิษย์บูชา เมื่อวันที่ 7-8-9 กุมภาพันธ์ 2537 อันเป็นงานประจำปีของวัดโนนไทย บรรดาลูกศิษย์และชาวโนนไทยก็บูชากันไปจนหมดเกลี้ยง ไม่มีเหลือแม้แต่เหรียญเดียว ซึ่งรุ่นนี้ได้รับการขนานนามว่า “รุ่นประคำแตก” |
ราคาเปิดประมูล | 140 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 140 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | อา. - 22 ก.ย. 2556 - 22:53.03 |
วันปิดประมูล |
พฤ. - 03 ต.ค. 2556 - 22:19.48 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
ราคาปัจจุบัน | 140 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
---|---|
เพิ่มครั้งละ | 10 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดก่อนกำหนดโดยผู้ตั้งประมูล
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
ยังไม่มีผู้ประมูล |
กำลังโหลด...