*คงกระพัน มหาอุต แคล้วคลาด *มหาลาภ///อมตะเถราจารย์ตำนานพยัคฆ์อาคม///ลพ.เปิ่น ปี35 - webpra

ประมูล หมวด:หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ – หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม – หลวงปู่แผ้ว วัดรางหมัน

*คงกระพัน มหาอุต แคล้วคลาด *มหาลาภ///อมตะเถราจารย์ตำนานพยัคฆ์อาคม///ลพ.เปิ่น ปี35

*คงกระพัน มหาอุต แคล้วคลาด *มหาลาภ///อมตะเถราจารย์ตำนานพยัคฆ์อาคม///ลพ.เปิ่น ปี35 *คงกระพัน มหาอุต แคล้วคลาด *มหาลาภ///อมตะเถราจารย์ตำนานพยัคฆ์อาคม///ลพ.เปิ่น ปี35 *คงกระพัน มหาอุต แคล้วคลาด *มหาลาภ///อมตะเถราจารย์ตำนานพยัคฆ์อาคม///ลพ.เปิ่น ปี35 *คงกระพัน มหาอุต แคล้วคลาด *มหาลาภ///อมตะเถราจารย์ตำนานพยัคฆ์อาคม///ลพ.เปิ่น ปี35
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง *คงกระพัน มหาอุต แคล้วคลาด *มหาลาภ///อมตะเถราจารย์ตำนานพยัคฆ์อาคม///ลพ.เปิ่น ปี35
รายละเอียดหากเราย้อนหลังไปซักสิบปีที่ผ่านมา...ชื่อเสียงของ “หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ” หรือ “พระอุดมประชานาถ” เจ้าอาวาสวัดบางพระ อำเภอนครชัยศรีจังหวัดนครปฐม...โด่งดังขึ้นอย่างสุดขีด ถือว่าเป็นพระเกจิอาจารย์อันดับต้นๆของเมืองไทย เนื่องจากเพราะวัตถุมงคลที่หลวงพ่อได้ปลุกเสกไว้นั้น ก่อเกิดประสบการณ์อภินิหารอยู่เสมอๆ เช่นด้านเมตตามหานิยม ค้าขายคล่องและมีโชคลาภอยู่เนืองๆ....และ”สุดยอดที่สุด”ก็คือด้าน”รอยสัก คาถาอาคมและวิชาอยู่ยงคงกระพัน” ที่มีให้เห็นแจ้งชัด จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมวัตถุมงคลของหลวงพ่อเปิ่น แม้จะมีการสร้างและปลุกเสกอยู่เสมอๆ หลายรุ่นหลายรูปแบบ จำนวนมากมาย จึงไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกศิษย์และผู้ที่มีความเคารพศรัทธาเลื่อมใสในหลวงพ่อ ที่นับวันแต่จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากปากต่อปาก จนโด่งดังขจรขยายไปกว้างไกลทั่วประเทศ และในต่างแดนก็รู้จักกิตติศัพท์ความแก่กล้าสามารถในด้านสมาธิและพลังจิตของหลวงพ่อ ตลอดจนวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อก็น่าศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งและมากล้นด้วยความเมตตาอย่างสูงส่ง.....ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้เคยมีโอกาสกราบหลวงพ่อ ก็คงรู้สึกประทับใจเพราะหลวงพ่อท่านใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ผมเองได้กราบท่านครั้งแรกตอนที่ท่านมาร่วมงานพุทธาภิเษกพระที่วัดใกล้ๆบ้านผม ตอนนั้นพวกเรายังนุ่งกุงเกงนักเรียนขาสั้นก็อยู่เลย จำได้ว่าพอเห็นท่านเดินลงมาจากรถตู้พวกเราตะโกนกันว่า “หลวงพ่อเปิ่น มาแล้ว” ถ้าจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว หลวงพ่อเปิ่นท่านโด่งดังในละแวกนครชัยศรีมานานปีแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ชื่อเสียงของท่าน “ดังแบบพลุแตก” ก็ด้วยข่าวที่ว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่ง(จำชื่อไม่ได้ เพราะไม่ใช่ญาติ) ถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดโดยถูกไม้ไผ่เสียบเข้าประตูหลัง...เมื่อคนร้ายถูกจับได้และรับสารภาพว่าได้เคยลอบฆ่าชายหนุ่มคนนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่แคล้วคลาดไปซะทุกที..แม้จะลอบยิงด้วยปืน เจ้ากรรมกระสุนก็ด้านซะหมด จนเกิดความสงสัยในสมองเป็นอย่างมาก..หมอนี่เลยสืบหาความจริงได้ความว่าคู่อริคนนี้มีของดีอยู่ที่รอยสักที่ผ่านการครอบครูและเสกมาแล้วโดย “หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ”นั่นเอง ถึงได้มีความอยู่ยงคงกระพันและแคล้วคลาดเสมอ จึงได้ทำการค้นคว้าก็ทราบว่าคนที่มีรอยสักนั้นจะทำร้ายได้เฉพาะทาง ปตล.เท่านั้น จึงได้แอบซุ่มเอาไม้ไผ่เสียบเข้าทางนั้น จนชายหนุ่มคนนี้ถึงแก่ความตายไปในที่สุด..นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและผมก็เชื่อว่าบางท่านก็เคยได้ยินข่าวนี้มาบ้างแล้ว เพราะข่าวนี้โด่งดังสุดขีดเมื่อหลายสิบปีก่อน ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อเปิ่นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางกว่าแต่เก่าก่อนเป็นอันมาก ใครที่ไม่เคยรู้จักก็ได้รู้จักหลวงพ่อเปิ่นกันในคราวนั้นนั่นเอง [เครดิตข้อมูลโดย ศิษย์กวง]
-------------------------------------------------------------------------------
[เครดิตข้อมูลโดย อ. เล็ก พลูโต]
ศิษย์หลวงพ่อเปิ่นคนหนึ่ง เมาสุรา แล้วชวนกันไปทดลองของในป่าช้า โดยยืนให้เพื่อนแทงด้วยมีดปลายแหลมหลายครั้ง แต่ไม่เข้า เมื่อถึงคราวจะผลัดกันแทงบ้าง เพื่อนทั้งสองใจไม่ถึง จึงไม่ยอมให้แทง เลยเกิดการต่อสู้กันอย่างชุลมุน ด้วยความทรนงหลงตัวเองว่า หนังเหนียว จึงยืนให้เพื่อนแทงเป็นว่าเล่น นับครั้งไม่ถ้วนจนมีดงอ แต่คมมีดที่แหลมคมกลับไม่สามารถระคายผิวหนังที่แสนจะเปราะบางแม้แต่น้อย ขณะที่กำลังเผลอด้วยความประมาท จึงถูกเพื่อนช่วยกันจับเอามีดคดงอแทงสวนทวาร และปาก จนด่าวดิ้นสิ้นชีวิตในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจนครปฐม ที่ไปชัณสูตรศพเล่าว่า ขนาดศพของลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่นที่เสียชีวิตแล้ว เอามีดเฉือนหนังดูก็ยังไม่เข้า เหนียว สมกับสมญานาม “เทพเจ้าแห่งความอยู่คง” โดยแท้ หลวงพ่อเปิ่นจึงได้รับการกล่าวขาน เป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเกรียงไกรแห่งยุคอีกองค์หนึ่ง ของวงการพระเครื่องมาแต่บัดนั้น เรื่องนี้ย่อมเป็นอุทาหรณ์อย่างดีสำหรับนักนิยมพระเครื่องทั้งหลาย ที่ชอบอวดตัวว่ามีของดี ยิงฟันไม่เข้า แล้วประพฤติตนเป็นนักเลงหัวไม้ ทำตัวเกะกะเกเร ไม่มีทีท่าเกรงกลัวใครแม้แต่กฎหมาย ซึ่งก็มีอยู่บ่อยครั้งที่ข้าพเจ้าเข้าวัดบางพระ ถูกลูกศิษย์ชั้นหลัง ๆ แซว และวางก้ามจนน่าเกรงขาม แต่หารู้ไม่ว่.....“เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง แถมยังเป็นศิษย์รุ่นพี่ ที่หลวงพ่อเปิ่นสักให้กับมือเสียด้วย” (พูดแบบนี้ไม่รู้ว่าเข้าข่ายหลงตัวเองอ๊ะปล่าว) หลวงพ่อเปิ่นสำเร็จวิชาสักยันต์มากับหลวงพ่อหิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพระผู้เรืองวิทยาคม ที่มีความเชี่ยวชาญการสักยันต์อย่างหาใครเทียบได้ยาก ท่านศึกษามาเพื่อจุดประสงค์ให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหามีของดีไว้ใช้ปกป้องกันตัวเท่านั้น หลวงพ่อเปิ่นไม่เคยคิดแม้แต่น้อย ที่จะให้ผู้ใดนำวิชาของท่านไปใช้ในทางที่ผิด ๆ อย่างในกรณีที่ตกเป็นข่าวเกรียวกราวนั้น นำความเสื่อมเสียมาถึงท่านผู้เป็นอาจารย์อย่างมากในแง่ที่ว่า “ท่านอบรมศิษย์ไม่ดี” จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องติดคุกติดตะราง หรือถูกฆ่าตายในที่สุด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หลวงพ่อเปิ่นท่านมีความเสียใจมากทีเดียว ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงขอฝากความหวังดีแด่ท่านที่เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเปิ่นทั้งหลาย เนื่องในโอกาสที่พระเดชพระคุณท่าน ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ “พระอุดมประชานาถ” ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๗ กรุณาอย่ากระทำผิดคำครูบาอาจารย์อีกเป็นอันขาด นอกจากจะเป็นการทำลายตนเองแบบคนไร้สติอย่างไร้ค่าแล้ว ยังจะนำความเสื่อมเสียถึงหลวงพ่อเปิ่น พระอาจารย์ผู้มีพระคุณอันเป็นที่เคารพยิ่งของเรา ให้ได้รับความสะเทือนใจอีกด้วย ประสบการณ์ด้านพระเครื่องรางของขลังของหลวงพ่อเปิ่นนั้น ข้าพเจ้าก็เคยประสบกับตนเองหลายครั้ง ดังจะนำมาเล่าสู่กันฟังพอสังเขป ครั้งแรก เมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๕๒๗ พรรคพวกเป็นทหารเรือ ชวนเป็นกรรมการสร้าง “พระรูปหล่อหลังเสือ รุ่นแรก” มีคนอุตรินำไปใส่ปากปลาช่อน ฟันจนเกร็ดกระจุย แต่ไม่เข้า พอเอาพระรูปหล่อออกจากปากปลาช่อน แล้วฟันอีกครั้ง คราวนี้ปลาช่อนขาด ๒ ท่อน จึงเป็นสาเหตุที่ข้าพเจ้าไม่กินปลาช่อนด้วยความสงสารมาแต่บัดนั้น ครั้งที่ ๒ หลวงพ่อเปิ่นมอบ “ปลัดขิกรุ่นแรก” เป็นเนื้อนวโลหะกลับดำ ขนาดจิ๋ว แก่ข้าพเจ้าหนึ่งกำมือ ซึ่งยังจำได้ดีว่า เป็นวันเสาร์ที่ ๑ เดือน กันยายน ๒๕๒๗ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา อุปสรรค หรือ งานใด ๆ ที่ว่ายาก กลับง่าย และทำสำเร็จไปด้วยดี ข้าพเจ้าจึงพกติดตัวมาถึงบัดนี้ นี่คือ “บุญบารมีหลวงพ่อเปิ่น” บางประการ ที่เกิดกับข้าพเจ้า...สวัสดีครับ ครับ ที่จบลงไปแล้วนี้เป็นข้อเขียนของ คุณนิมิต มงคลประสิทธิ์ ศิษย์รุ่นแรก ๆ ที่ได้รับการสักยันต์จากหลวงพ่อเปิ่นโดยตรง ที่ได้เขียนเล่าเรื่องประสบการณ์ และอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับศิษย์ใหม่ ๆ ที่พกพาวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ต่อไปจะได้นำข้อเขียนของคุณ “เจดีย์ทอง” นักเขียนชื่อดังที่วงการพระเครื่องรู้จักกันดี ที่นำตีพิมพ์ไว้ในหนังสือ ๑๐๘ พระเครื่องหลวงพ่อเปิ่น มาให้อ่านกัน โดยไม่มีการตัดทอนใด ๆ ดังนี้ ยอดเกจิ ฯ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ โดย เจดีย์ทอง คำว่า “เกจิฯ” ย่อมาจาก “เกจิอาจารย์” หมายถึง อาจารย์ที่มีเป็นส่วนน้อย แปลไทยเดิมเป็นไทยยุคเทคโนโลยี หรือ ยุคโลกานุวัตร มาสู่ยุค โลกาภิวัฒน์ล่าสุด ก็แปลได้ว่า ในบรรดาพระอาจารย์ทั้งหลายอันมากมายนั้น มีเป็นส่วนน้อยหรอกนะ ที่จะได้รับการยกย่องเคารพนับถือจากคนไทยทั้งประเทศ โดดเด่นขึ้นมาเฉพาะตัว ถือได้ว่าเป็น “ยอดของพระเกจิอาจารย์” หรือดังคำฝรั่งมีว่า.... “The King of Kings” แปลสำนวนให้รู้ว่า...อันว่าพระราชาในโลกนี้มีมากมาย แต่ที่จะได้รับการยกย่องเป็น “มหาราช” นั้นมีเป็นส่วนน้อยนัก “หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ” ได้รับการยกย่องจากประชาชนทั่วประเทศว่าเป็น “ยอดของพระเกจิอาจารย์” องค์หนึ่งของเมืองไทย ท่านโดดเด่นทางวิชาอาคมต่าง ๆ ที่เด่นที่สุด คือ “การสักยันต์” การสักยันต์นี้ นับได้ว่าเป็นการอนุรักษ์ประเพณี และวัฒนธรรมไทยได้อีกแบบหนึ่ง ซึ่งปู่ ย่า ตายาย ได้รู้เห็น และสักกันมาตั้งแต่ยุคโบราณ ซึ่งเป็นยุครบกันด้วยดาบ ด้วยหอก และการสักยันต์ เป็นเรื่องของการลงวิชาอาคม ปลุกเสกเลขยันต์ เพื่ออยู่ยงคงกระพันชาตรี และเมื่อลูกผู้ชายชาติทหารต้องออกรบกับศัตรูข้าศึกของประเทศ ที่ยกทัพตลุยเข้ามาตีบ้านเมืองของเรา พวกผู้ชายใจนักเลงที่ได้รับการสักยันต์นี่แหละ ได้เข้ารบทัพจับศึกป้องกันประเทศชาติตลอดมา และวิชานี้ได้ถูกอนุรักษ์สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นความภูมิใจอันหนึ่งของประเทศที่อวดเขาได้ ตำนานแห่งการสักยันต์นั้น มีมาในโลกตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ของหลายชาติในโลกนี้ แต่ของชาติไทยพิเศษยิ่งกว่า เพราะชาติอื่น ๆ เขาสักเพื่อการอื่น ๆ แต่ของเรามีพิเศษยิ่งกว่านั้นคือ เพื่อการอยู่ยงคงกระพันอีกด้วย...ฯลฯ ผมเริ่มรู้จักชื่อเสียงของ “หลวงพ่อเปิ่น” ตั้งแต่ น.ส.พ.ไทยรัฐ ลงข่าวการฆ่าสวนทวาร เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ที่นครปฐม คือ มีชายคนหนึ่งสักยันต์มาจากหลวงพ่อเปิ่น แต่เขาทำผิดครู และทำผิดอื่น ๆ หลายอย่าง จึงถูกเพื่อนรุมฆ่า แต่เขาหนังเหนียว จึงต้องฆ่าโดยการสวนทวาร ขณะนั้น ผมกำลังเป็นบรรณาธิการ “นิตยสารศักดิ์สิทธิ์” อยู่ จึงได้ให้นักข่าวไปทำข่าว และผมเริ่มประทับใจในความสามารถของหลวงพ่อเปิ่น ที่อนุรักษ์มรดกไทยไว้ในด้านวิชาพุทธาคมต่าง ๆ และประกอบกับพลังจิตตานุภาพ อันเกิดจากการปฏิบัติเคร่งครัดของท่าน ก่อให้เกิดพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่องลือมากขึ้น ๆ ทุกปี ๆ และในที่สุดก็รู้จักกันทั่วประเทศ และไปถึงต่างประเทศในปัจจุบัน ผมไปนมัสการหลวงพ่อเปิ่นบ่อยมาก โดยเฉพาะในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ นั้น ไปร่วม ๒๐ ครั้ง โดยมากจะไปกับท่านนายทหาร นายตำรวจยศนายพล และเป็นนายพลอากาศเอกก็มี ทุกท่านไปเพื่อทำบุญกับหลวงพ่อ และขอให้ท่านเป่ากระหม่อม และ ฯลฯ ให้ทุกท่านได้ผลเป็นอัศจรรย์ รวมทั้งตัวของผมเอง มีความก้าวหน้าในชีวิต มีเมตตามหานิยม และมีสถานภาพทุกอย่างเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ครั้งหนึ่งผมได้เขียนเรื่องราวของหลวงพ่อไว้ดังนี้....ถ้าจะกล่าวถึงพระอาจารย์ที่มีวิชาการสักยันต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดองค์หนึ่งของเมืองไทย ที่ผู้คนรู้จักและพากันหลั่งไหลไปสักมากที่สุด กระทั่งสักไม่ทันต้องประสิทธิ์ประสาทวิชาให้พระสงฆ์ที่เป็นศิษย์หลายรูป ทำการสักแทน และเมื่อสักแล้วท่านจะต้องเสกเป่าให้อีกครั้งหนึ่ง คือ ท่าน “พระครูฐาปนกิจสุนทร” (สมณศักดิ์ปี ๒๕๒๖) หรือที่รู้จักเรียกขานกันทั่วประเทศว่า “หลวงพ่อเปิ่น”หรือ “หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ” แห่งวัดบางพระ ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ในวงการสัก และวงการวัตถุมงคล นิยมยกย่องว่า หลวงพ่อเปิ่น เป็น “ยอดของเกจิอาจารย์” องค์หนึ่งของเมืองไทยนอกจากนี้ในวงการยังยกย่องหลวงพ่อว่า เป็นพระนักพัฒนาแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรีอีกด้วย เพราะจะมีวัดต่าง ๆ ที่ขาดจตุปัจจัย มาขอเงินเพื่อสมทบทุนสร้างโบสถ์ กุฏิ อยู่มิได้ขาด กระทั่งล่าสุด สร้างโรงลายสักที่ขึ้นชื่อลือชาของหลวงพ่อเปิ่นคือ “ยันต์เสือเผ่น” แต่ที่ลึกล้ำและเป็นสัญลักษณ์ขององค์หลวงพ่อเปิ่น แท้จริง คือ “ยันต์แม่ทัพ” อันมีความเกรียงไกรยิ่งในความหมาย จึงปรากฏว่าทุกครั้งที่ผู้เขียนไปเขียนข่าวทำข่าว ไปทำบุญ ไปให้หลวงพ่อเป่าหัวลงนะหน้าทองให้ จึงมักได้พบนายทหาร นายตำรวจยศใหญ่ ๆ อยู่เสมอ แม้วงการอื่น ๆ ก็มีทุกวงการ แต่บางท่านห้ามนำรูปมาลงหนังสือก็มี....ฯลฯ หลวงพ่อเปิ่นนี้ ผู้เขียนเคยให้นักข่าวชื่อดังท่านหนึ่งไปทำข่าว และในระยะ ๒-๓ ปีมานี้ ผู้เขียนได้ไปนมัสการหลวงพ่อบ่อยมาก...โดยเฉพาะในวันเสาร์ ๕ นั้น ผมได้ไปนอนที่วัดเลยทีเดียว ความจริงแล้วนอนนิดเดียว แทบไม่ได้นอน เพราะอยู่ในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล คราวนั้นมีท่าน“พล.อ.อ.วรนาถ อภิจารี” ผบ.สูงสุด (พ.ศ. ๒๕๓๖) เป็นประธาน เท่าที่จำได้ที่เห็นในวัดหลวงพ่อก็คือ พล.อ.อ. สามารถ โสตสถิตย์, พล.อ.อ.เฉลิม เอี่ยมแจ้งพันธุ์ , พล.ต.ต.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส....เป็นต้น ฯลฯ ส่วนมากแล้วในวงการครูอาจารย์ และวงการยุติธรรมได้ขอร้องมิให้ผมนำชื่อ และภาพมาลงหนังสือ เพราะเหตุผลบางประการ แต่ที่ผมต้องการอยากจะนำลงก็เพื่อแสดงให้ท่านผู้อ่านทราบว่า “สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง” ..อาวุธสงครามชนิดร้ายแรง เช่น เอ็ม.๑๖ และ อาก้า ได้โดนกันมาแล้ว ผลคือ แค่เจ็บ...แต่ยิงไม่เข้า ถึงกับกระเด็นกระดอนนอนแผ่ แต่ไม่เข้า เกิดเพียงรอยช้ำเท่านั้น
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน100 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูลอ. - 22 ต.ค. 2556 - 00:55.01
วันปิดประมูล พฤ. - 14 พ.ย. 2556 - 00:55.01 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 100 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ100 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top