
ประมูล หมวด:วัตถุมงคล ร.5-ร.9
เหรียญเทิดพระเกียนติ ร.5 พุทธาภิเษก หลังพญาครุฑ วัดหัวลำโพง ปี 2537 No.1




ชื่อพระเครื่อง | เหรียญเทิดพระเกียนติ ร.5 พุทธาภิเษก หลังพญาครุฑ วัดหัวลำโพง ปี 2537 No.1 |
---|---|
รายละเอียด | เหรียญเทิดพระเกียนติ ร.5 พุทธาภิเษก หลังพญาครุฑ วัดหัวลำโพง ปี 2537............ วัดหัวลำโพง ตั้งอยู่เลขที่๗๒๘ ถนนพระราม๔ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อวัดวัวลำพอง เป็นวัดราษฎร์ ใครเป็นคนสร้างและสร้างเมื่อใด ไม่ปรากฏหลักฐาน แต่คาดว่าคงสร้างในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณรัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๓ ทั้งนี้โดยอาศัยการสันนิษฐานจากรูปทรงของอุโบสถหลังเก่าและเจดีย์ด้านหลัง ซึ่งสร้างคู่กันมา ความเป็นมาของวัดนี้ มีผู้รู้ประมวลไว้ โดยอาศัยจากการเล่าต่อๆ กันมาว่า ในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ กรุงศรีอยุธยาถูกพม่าทำลายเผาผลาญบ้านเมือง ตลอดวัดวาอารามจนในที่สุดได้เสียกรุงแก่ข้าศึก เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๓๑๐ ซึ่งเป็นการเสียกรุงครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ การสงครามครั้งนี้ประชาชนเสียขวัญและได้รับความเดือดร้อน บางพวกไม่สามารถที่จะอาศัยอยู่ถิ่นเดิมต่อไปได้ จึงพากันอพยพครอบครัว ลงมาทางใต้ตั้งถิ่นฐานที่บริเวณวัดหัวลำโพงในปัจจุบันนี้เห็นว่าเป็นทำเลที่เหมาะ ยังไม่มีเจ้าของถือกรรมสิทธิ์ มีลำคลองเชื่อมโยงสะดวกต่อการสัญจรไปมา จึงได้ตั้งหลักฐานและจับจองที่ดิน นานปีเข้าต่างก็มีหลักฐานมั่นคงเป็นปึกแผ่นทั่วกัน ต่อมาจึงได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นตามวิสัยอันดีงามเช่น บรรพบุรุษชาวพุทธทั้งหลาย และให้ชื่อว่า วัดวัวลำพอง ตามความนิยมที่ชื่อของวัดจะพ้องกับชื่อหมู่บ้าน เพราะชาวบ้านกับวัดส่วนใหญ่ของไทยเรา มักมีชื่อเหมือนกัน หรือมีความหมายเดียวกัน ปีรัตนโกสินทรศก ๑๐๙ ตรงกับปี พ.ศ. ๒๔๓๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ หรือที่ประชาชนทั่วประเทศพร้อมใจกันขนานพระนามพระองค์ท่านว่า สมเด็จพระปิยมหาราช ซึ่งเป็นยุคทองของการพัฒนาประเทศชาติในระบบใหม่ ได้ทรงสร้างทางรถไฟขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือจากสถานีกรุงเทพฯ ขึ้นไปบริเวณนอกเมืองใกล้กับคูเมืองชั้นนอกคือคลองผดุงเกษม พระราชทานนามว่า สถานีหัวลำโพง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดวัวลำพอง ประมาณ ๒ กิโลเมตร ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๔๗ ราวเดือนตุลาคมหรือเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นฤดูกาลทอดกฐิน จากหลักฐานและคำบอกเล่านั้นว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระกฐินในครั้งนั้น วันเดียวกันถึง ๓ วัด ตามลำดับดังนี้ คือ วัดสามจีน (วัดไตรมิตรวิทยาราม) วัดตะเคียน (วัดมหาพฤฒาราม) และวัดวัวลำพอง (วัดหัวลำโพง) ในการเสด็จพระราชดำเนินทอดผ้าพระกฐิน ที่วัดวัวลำพองนั้นได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ พระราชทานนามว่า วัดหัวลำโพง และทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เจ้าอาวาสคือ พระอาจารย์สิงห์ ซึ่งเป็นพระวิปัสสนาธุระที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่งในครั้งนั้น เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูญาณมุนี นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ นับแต่นั้นมาด้วยเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์ไทย อันมีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ผู้ทรงวางรากฐานความเป็นมิ่งมงคล และทรงประกอบคุณงามความดีตามหลักพรหมวิหารให้เป็นที่ประจักษ์แก่คณะสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกา จึงต่างก็ได้ร่วมกันทำนุบำรุงพระบวรพุทธศาสนา สร้างถาวรวัตถุให้เจริญยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณต่อพระองค์ท่าน วัดหัวลำโพง อันเป็นนามพระราชทาน เป็นนามมิ่งมงคลก็ประสบความเจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด บูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุเดิมเพิ่มเติมถาวรวัตถุใหม่ ให้เป็นศรีสง่าแก่พระศาสนา วัดหัวลำโพง มีที่ดินประมาณ ๒๐ ไร่ ซึ่งในระยะแรกมีเนื้อที่ประมาณ ๗ ไร่ ต่อมานายท้วม พุ่มแก้ว ซึ่งมีที่ดินติดกับเขตวัดด้านถนนพระราม ๔ ถวายที่ดินส่วนนั้นให้แก่วัด ประมาณ ๖ ไร่ และนางสาวลออ หลิมเซ่งไถ่ ได้ถวายพินัยกรรมเป็นที่ดินอีกจำนวน ๗ ไร่ ๑ งาน ๘๘ ตารางวา (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนพุทธจักรวิทยา ) ปัจจุบันวัดหัวลำโพงมีที่ดินตั้งวัดและที่ธรณีสงฆ์ คือโฉนดเลขที่ ๓๑๗๓๔ เนื้อที่ ๑๒ ไร่ ๒ งาน ๘๘ ตารางวา โฉนดเลขที่ ๒๓๒๗ เนื้อที่ ๗ ไร่ ๒ งาน ๘๘ ตารางวา โฉนดเลขที่ ๑๙๗๓ เนื้อที่ ๓ งาน ๘๑ ตารางวา โฉนดเลขที่ ๓๔๑๙ เนื้อที่ ๒ งาน ๗๙ ตารางวา โฉนดเลขที่ ๑๙๗๒ เนื้อที่ ๙๙ ตารางวา โฉนดเลขที่ ๓๑๒๓ เนื้อที่ ๖๙ ตารางวา วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๕ วัดหัวลำโพงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยกฐานะวัดขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ................................ ประวัติย่อ ร.5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระพุทธเจ้าหลวง ทรงเป็นรัชกาลที่ 5 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระบรมราชสมภพเมื่อ วันอังคาร เดือน 10 แรม 3 ค่ำ ปีฉลู 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 9 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นที่ 1 ในสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ เสวยราชสมบัติ เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 11 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง (พ.ศ. 2411) รวมสิริดำรงราชสมบัติ 42 ปี เสด็จสวรรคต เมื่อวันเสาร์ เดือน 11 แรม 4 ค่ำ ปีจอ (23 ตุลาคม พ.ศ. 2453) ด้วยโรคพระวักกะ รวมพระชนมพรรษา 58 พรรษา พระองค์ ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร ให้ร่มเย็นเป็นสุข ทรงโปรดการเสด็จประพาสต้น เพื่อให้ได้ทรงทราบถึงความเป็นอยู่ที่แท้จริงของราษฎร ทรงสนพระทัยในวิชาความรู้ และวิทยาการแขนงต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง และนำมาใช้บริหารประเทศให้ เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว พระองค์จึงได้รับถวายพระราชสมัญญานามว่า สมเด็จพระปิยมหาราช และมีความหมายว่า พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวง พระราชกรณียกิจที่สำคัญ การเลิกทาส ทาสตามกฎหมายโบราณ แยกทาสเอาไว้ทั้งหมด 7 ชนิดด้วยกันคือ 1.ทาสสินไถ่ 2.ทาสในเรือนเบี้ย 3.ทาสได้มาแต่บิดามารดา 4.ทาสท่านให้ 5.ทาสช่วยมาแต่ทัณฑ์โทษ 6.ทาสที่เลี้ยงไว้เมื่อเกิดทุพภิกขภัย 7.ทาสเชลยศึก |
ราคาเปิดประมูล | 300 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 450 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | ส. - 21 ธ.ค. 2556 - 19:02.32 |
วันปิดประมูล |
ศ. - 10 ม.ค. 2557 - 19:02.32 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
ราคาปัจจุบัน | 450 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
---|---|
เพิ่มครั้งละ | 50 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...