พระพุทธชินราช วัดตาปะขาวหาย ปี.20.. - webpra

ประมูล หมวด:พระพุทธชินราช ทุกรุ่น

พระพุทธชินราช วัดตาปะขาวหาย ปี.20..

พระพุทธชินราช วัดตาปะขาวหาย ปี.20.. พระพุทธชินราช วัดตาปะขาวหาย ปี.20..
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง พระพุทธชินราช วัดตาปะขาวหาย ปี.20..
รายละเอียดเหรียญกะไหล่เงิน สวยๆ ส่งตามรูป รับประกันพระแท้ ตลอดชีพ.. พระเกจิดังๆ เก่งๆ แห่งยุค ร่วมอธิษฐานจิต ปลุกเสก มากมาย.. ครับท่าน..

ปี ๒๐ สร้างพระประธาน
ปี ๒๑ เฉลิม ฉลอง พร้อมสร้างเหรียญ..
ที่มาของปี.พ.ศ. 20 - 21 .. หายาก ครับท่าน ..

ประวัติ.. วัดตาปะขาวหาย พิษณุโลก ..

วัดตาปะขาวหาย ตั้งอยู่เลขที่ ๔๖ หมู่ ๔ อำเภอหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย เดิมชาวบ้านเรียกว่า “วัดเตาไห” เพราะเป็นหมู่บ้านที่ปั้นเตาและไห

ประวัติวัดตาปะขาวหาย เป็นตำนานสืบเนื่องมาจาการสร้างพระพุทธชินราชตามพงศาวดาร กล่าวว่าพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกหรือมหาธรรมราชา พญาลิไท รัชกาลที่๔ ในราชวงศ์พระร่วงกรุงสุโขทัยนั่นเองที่เป็นผู้สร้างพระพุทธชินราช เมื่อราว พ.ศ.๑๙๐๐ โดยมีสมเด็จพระเจ้ากรุงศรีสัชนาลัย ได้ส่งช่างพราหมณ์ฝีมือดี ๕ นาย ชื่อบาอินทร์ บาพราหมณ์ บาพิษณุบาราชสิงห์และบาราชกุศลพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก โปรดให้สร้างสวรรค์โลกช่างเชียงแสนและช่างหริภุญไชยสมทบกับช่างจากกรุงศรี สัชนาลัยช่วยกันหล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ทั้ง ๓ องค์ มีทรวดทรงสัญฐานคล้ายกัน คือ

พระองค์ที่ ๑ ตั้งพระนามเริ่มไว้ว่า “พระพุทธชินราช” มีขนาดหน้าตักกว้าง ๕ ศอก ๑ คืบ ๕ นิ้ว มีเศียรสูง ๗ ศอก พระเกศสูง ๑๔ นิ้ว เป็นปรางมารวิชัย

พระองค์ที่ ๒ ตั้งพระนามเริ่มไว้ว่า “พระพุทธชินสีห์” มีขนาดหน้าตักว้าง ๕ กว้าง ๔ นิ้ว เป็นปรางมารวิชัย

พระองค์ที่ ๓ ตั้งพระนามเริ่มไว้ว่า “พระศรีศาสดา” มีขนาดหน้าตักกว้าง ๔ ศอก ๑ คืบ ๖ นิ้ว เป็นปรางมารวิชัย

จวบจนถึงวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถาะ จุลศักราช ๗๑๗ ราว พ.ศ.๑๘๙๘ ได้มงคลฤกษ์ กระทำพิธีเททองหล่อพระ พุทธรูปทั้ง ๓ องค์และเมื่อเททองหล่อเสร็จแล้วกระทำการแกะพิมพ์ ออกปรากฏว่าพระองค์ที่ ๒ คือ พระพุทธชินสีห์ และองค์ที่ ๓ คือ พระศรีศาสดาองค์พระบริบูรณ์ดี มีน้ำทองแล่นติดตามเสมอกันสวยงาม ๒ องค์เท่ากัน ส่วนพระพุทธชินราชนั้นทองแล่นติดไม่เต็มองค์ไม่บริบูรณ์ นับว่าเป็นที่อัศจรรย์ของช่างและผู้มาร่วมพิธีอันมาก ช่างได้ช่วยกันทำหุ่นและเททองหล่อ อีก ๓ ครั้งก็ไม่สำเร็จเป็นองค์พระได้คือทองแล่นไม่ติดเต็มองค์

พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก ทรงรู้สึกประหลาดพระทัยยิ่งนักพระองค์จึงทรงตั้งสัตยาธิฐานเสี่ยงเอาบุญ บารมีของพระองค์เป็นที่ตั้ง อีกทั้งยังขอให้ทวยเทพยดาจึงด้วยดลใจให้สร้างพระพุทธรูปสำเร็จตามพระประสงค์ เถิดแล้วให้ช่างปั้นหุ่นใหม่อีกหนึ่งในครั้งนี้ปรากฏว่ามี ”ตาปะขาว” คนหนึ่ง ไม่มีผู้ใดทราบว่าชื่อใดมาจากที่ไหนได้เข้ามาช่วยปั้นหุ่นและช่วยเททอง ทำการงานอย่างแข็งแรง ทั้งกลางวันและกลางคืนจนเสร็จโดยไม่ยอมพูดจากับผู้ใด

ครั้งได้มหามงคลฤกษ์ ณ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง นับเวลาห่างจากครั้งแรกเป็นเวลา ๒ ปี นพศก จุลศักราช ๗๑๙ ก็ประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธชินราชคราวนี้ทองก็แล่นเต็มบริบูรณ์ ตลอดทั้งองค์พระ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกทรง ปิติโสมนัสเป็นอย่างยิ่งจึงตรัสให้หา “ตาปะขาว” ผู้มาช่วยปั้นหุ่นและช่วยเททองนั้น แต่มิได้พบปรากฏว่าเมือหล่อพรพะเสร็จก็เดินออกทางประตูเมืองข้างทิศเหนือ เมือพอถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งก็หายไปไม่มีใครเห็นอีก จึงพากันเข้าใจว่า “ตาปะขาว” ผู้นั้นคือเทวดาแปลงกายลงมาหล่อพระพุทธชินราชอันเป็นเหตุทำให้เลื่อมใส ศรัทธาในพระพุทธชินราชองค์นี้ยิ่งขึ้น หมู่บ้านที่ “ตาปะขาว” หายไปนั้นได้ชื่อว่าบ้านตาปะขาวหาย ต่อมาถึงทุกวันนี้

ส่วนวัดตรงที่ “ตาปะขาว” หายไปนั้นเดิมเป็นวัดเก่าๆ และบัดนี้ได้พังลงแม่น้ำน่านไปแล้ว วัดเก่าชื่ออะไรไม่ปรากฏแน่นอน แต่มีชื่อหนึ่งคือ “วัดเตาไห” และหมู่บ้านเตาไหบ้านหม้อ สันนิษฐานว่าเป็นบ้านที่ปั้นไหแล้วส่งมาเผาที่บ้านเตาไหเพราะหลังชาว ออสเตรเลียได้สำรวจพบว่าที่วัดตาปะขาวหาย ปัจจุบันมีเตาเก่ารุ่นก่อนชะเลียงของสุโขทัย พบว่ามีประมาณ ๕๐ เตาเรียงเป็นแถวยาว บางเตาก็มีลักษณะซ้อนกัน แสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนที่ของผิวโลกซึ่งต้องอาศัยเวลาอันยาวนาน

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้มีผู้พบพระทองคำขนาดต่างๆ หน้าตักตั้งแต่ ๓ – ๕ นิ้ว จำนวน ๒๐ กว่าองค์ ซึ่งไหลออกมาจากริ่มตลิ่งแม่น้ำน่านบริเวณที่เป็นโบสถ์เก่าภายหลังวัดที่ “ตาปะขาว” หายไปนั้นได้ชื่อว่า “วัดตาปะขาวหาย” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาแล้วจากวัดตาปะขาวหายขึ้นไปทางทิศเหนือ ๘๐๐ เมตรได้ปรากฏหลักฐานสำคัญที่ทำให้เชื่อว่า “ตาปะขาว” ได้หายไปจริงเพราะมีผู้พบเห็นว่าท้องฟ้าเป็นช่องขึ้นไปและชาวบ้านได้สร้าง ศาลาขึ้นไว้เรียกว่า ศาลาช่องฟ้า มาจนถึงปัจจุบันนี้และ ณ ที่นั่นยังบ่อน้ำใสสะอาด ซึ่งชาวบ้านใช้ดื่มกินกันมาโดยตลอดตราบเท่าทุกวันนี้

เพราะเป็นที่ระลึกถึงเทพเจ้า “ตาปะขาว” ทางวัดตาปะขาวหายโดยท่านเจ้าอาวาส พระครูนิวิฐบุญสาร (บุญจันทร์ อุชุโก) ได้ให้พระบุญทิว บูรณเขตต์ อดีตช่างปั้นฝีมือดีของจังวัดพิษณุโลกสร้างรูปปั้น “เทพตาปะขาว” ด้วยปูนพลาสเตอร์เป็นรูปแรกและต่อมาได้สร้างด้วยทองสำฤทธิ์ “เทพตาปะขาว” ประดิษฐานไว้ที่ศาล เทพตาปะขาว ณ วัดตาปะขาวหาย และได้เคยแสดงอภินิหารให้ปรากฏหลายครั้งหลายหนจนเป็นที่เคารพและศรัทธาของ ชาวบ้านและบุคคลทั่วไปเป็นอันมากจนถึงทุกวันนี้

ได้รับประกาศตั้งวัดขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด เดิมวัดเก่าแก่มาก ตามทะเบียนวัดระบุไว้ พ.ศ. ๑๙๐๐ ได้รับการจดทะเบียนวัด.. ครัยท่าน..
ราคาเปิดประมูล94 บาท
ราคาปัจจุบัน94 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูลอ. - 01 เม.ย. 2557 - 14:09.11
วันปิดประมูล จ. - 21 เม.ย. 2557 - 14:09.11 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 94 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ50 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top