
ประมูล หมวด:เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
เหรียญ หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร สิงห์บุรี ปี 2536


ชื่อพระเครื่อง | เหรียญ หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร สิงห์บุรี ปี 2536 |
---|---|
รายละเอียด | ชาติภูมิ หลวงพ่อฉาบ มงฺคโล มีนามเดิมว่า ฉาบ ด้วงดารา ถือกำเนิดวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2471 เป็นบุตรคนโต ในจำนวนพี่น้อง 7 คนด้วยกันคือ 1. หลวงพ่อฉาบ 2. นายเอิบ 3. นายสังวาล 4. นายประสงค์ 5. นายถวิล 6. นายปุ่น 7. นางสมนึก ของโยมพ่อเน่า และนางสมบุญ ณ บ้านเลขที่ 27 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จบการศึกษาชั้นป.4 ที่โรงเรียนวัดศรีสาคร อาชีพทำนา ประวัติเยาว์วัย หลวงพ่อฉาบ มงฺคโล ในวัยเด็กตอนยังเป็นฆาราวาส เป็นคนถือสัจจะเป็นใหญ่มีความตั้งใจพูดจริงทำจริง และสนใจในเวทย์มนต์คาถา มักชอบไปกราบนมัสการหาพระอยู่เสมอ ในปีพ.ศ.2485 หลวงพ่อแช่ม อินทโชโต แห่งวัดตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ท่านได้สร้างเหรียญรุ่นแรกของท่านขึ้น ได้แจกให้คณะศิษยานุศิษย์ ทายกทายิกาที่ร่วมทำบุญมาทำการทองกฐินยังวัดศรีสาคร และได้มาพำนักอยู่ที่วัดศรีสาครเป็นเวลาถึง 6 เดือน เพราะท่านชอบพอสนิทกับหลวงพ่อดี เจ้าอาวาสวัดศรีสาครในสมัยนั้น หลวงพ่อฉาบ ในวัยเด็กขณะนั้นอายุได้ 14 ปี มีความศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่อแช่มมาก ได้มากราบนมัสการหลวงพ่อแช่มบ่อยครั้ง และได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์ขอเล่าเรียนวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ ในลำดับแรกหลวงพ่อแช่มได้สอนให้เรียนรู้ทางด้านการปฏิบัติจิต สมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ให้จิตนิ่งเป็นสมาธิก่อน และหลังจากทำกรรมฐานและวิปัสสนาอยู่ 3 เดือน หลวงพ่อแช่ม ก็ได้สอนวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ ให้ ในปีพ.ศ.2486 หลวงพ่อแช่ม ก็ได้กลับไปวัดตาก้อง หลังจากนั้นในปีพ.ศ.2488 หลวงพ่อแช่มได้มาพำนักที่วัดศรีสาครอีกครั้งหนึ่ง เป็นเวลา 25 วัน หลวงพ่อฉาบ ตอนนั้นอายุได้ 17 ปี ได้เข้าพบรับใช้และเล่าเรียนสอบถามวิชาไสยเวทย์พร้อมให้หลวงพ่อแช่มช่วยทบทวนวิชาคาถาที่เล่าเรียนจนสามารถปฏิบัติได้ตามคำสอนอย่างดี แล้วหลวงพ่อแช่มก็เดินทางกลับวัดตาก้อง ต่อมาในปีพ.ศ.2490 หลวงพ่อแช่ม ท่านก็ได้ละสังขารมรณภาพลงในปีนั้น อุปสมบท ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดศรีสาคร เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2491 โดยมีพระครูเกศิวิกรม (หลวงพ่อทรัพย์ ฐิตปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดสังฆราชาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ประทุม เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการฉ่ำ เจ้าอาวาสวัดตึกราชาวาสเป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วได้รับฉายาว่า มงฺคโล เมื่อได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วได้ตั้งจิตมั่นได้กล่าวคำสัจจะวาจาบอกกล่าวต่อโยมบิดามารดาของท่านว่า เมื่อฉันได้บวชเรียนเป็นภิกษุแล้วจะขอรับใช้พระพุทธศาสนาตลอดชีวิต โยมพ่อและโยมแม่ก็ไม่ได้ทักทวงแต่ประการใด เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดศรีสาคร 2 พรรษา ได้เรียนพระธรรมวินัยไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและพุทธาคมจากหลวงพ่อทรัพย์ ฐิตปญฺโญ ซึ่งองค์นี้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อพูล (เจ้าอาวาสองค์ก่อน) วัดสังฆราชาวาส ซึ่งเป็นสหายธรรมของหลวงพ่อเชย วัดท่าควาย และหลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อพูล วัดสังฆราชาวาสเป็นเหรียญยอดนิยมของชาวเมืองสิงห์บุรีมีค่านิยมหลักหมื่น ถือว่าเป็นสุดยอดเหรียญที่ศักดิ์สิทธิ์และคงกระพัน หลังจากหลวงพ่อฉาบได้ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อทรัพย์แล้ว ก็ได้ปรึกษาหลวงพ่อทรัพย์ในการปฏิบัติกิจแห่งธุดงค์วัตร ก็ได้รับการแนะนำสั่งสอนอย่างดี ธุดงค์วัตร ในปีพ.ศ.2493 โดยมุ่งสู่จังหวัดลพบุรีดินแดนซึ่งเคยเป็นอาณาจักร ลวปุระ (ละโว) อันรุ่งเรืองเกรียงไกรมาแล้ว หลวงพ่อฉาบได้เดินธุดงค์ไปยังถ้ำตะโก เพื่อจะไปหาความสงบวิเวก เมื่อถึงถ้ำตะโกมาทราบว่าหลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ท่านได้ละสังขารมรณภาพไปแล้ว ก็ได้พบกับหลวงพ่อคง คงคปัญโญ เจ้าอาวาสวัดถ้ำตะโก ศิษย์เอกหลวงพ่อเภา ซึ่งได้รับสืบทอดวิชาวิปัสสนากรรมฐานและไสยเวทย์ต่าง ๆจากหลวงพ่อเภาทั้งหมด หลวงพ่อฉาบจึงได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาต่าง ๆ ของหลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก จากหลวงพ่อคง คงฺคปัญโญ เจ้าอาวาสวัดถ้ำตะโกพุทธโสภา จากนั้นหลวงพ่อฉาบก็เดินทางมุ่งไปสู่วัดเขาสาริกา เพื่อจะไปศึกษาธรรมกรรมฐานจากหลวงพ่อกบ ก็ปรากฏว่าได้มรณภาพไปแล้วเช่นกัน จึงได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดเขาวงกฎ วัดเขาวงกฎอยู่ติดกับวัดเขาสาริกาอยู่คนละฝางเขาที่วัดเขาวงกฎแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เขาสนามแจง ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในวงล้อมของเขา เป็นลักษณะหุบเขาเปิด มีทางเข้าออกทางเดียว เมื่อปี พ.ศ.2465 หลวงพ่อเภา พุทธสโร วัดถ้ำตะโกธุดงค์มาพบสถานที่แห่งนี้เข้าเห็นว่าเหมาะแก่การอบรมสมถกรรมฐานและเจริญวิปัสสนากรรมฐานมาก จึงได้ทำการก่อสร้างให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์แบบ มีถ้ำคูหาสวรรค์อยู่ที่เชิงเขาด้านทิศเหนือ ซึ่งหลวงพ่อเภาจะจำพรรษาและทำความเพียรในถ้ำคูหาสวรรค์แห่งนี้ ต่อมากรมพระนครสวรรค์ พระองค์เจ้าบริพัตร สุขุมพันธ์เสด็จมาที่เขาวงกฎได้พบหลวงพ่อเภา ทรงเลื่อมใสในปฏิปทาและแนวทางในการปฏิบัติของหลวงพ่อ จึงได้ถวายปัจจัยให้ก่อสร้างวัด หลวงพ่อเภาได้สร้างกุฏิขึ้นหน้าถ้ำคูหาสวรรค์ให้ชื่อว่า “ตึกบริพัตร” ตามนามของผู้บริจาค และหลวงพ่อเภาได้มาจำพรรษาที่กุฏินี้ตลอดมา หลังจากหลวงพ่อเภาได้มรณภาพในปีพ.ศ.2474 ที่วัดแห่งนี้ในปีหนึ่งจะมีพระสงฆ์มาจากวัดต่าง ๆ ทุกภูมิภาคมาปฏิบัติธรรมที่วัดเขาวงกฎแห่งนี้ หลวงพ่อฉาบได้มาปฏิบัติธรรมได้พบกับ พระมหาชวน มลิพันธ์ (หลวงพ่อโอภาสี) หลวงพ่อฉาบ ได้พบหลวงพ่อโอภาสี เล่าเรื่องมีความศรัทธาหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา แต่มารู้ภายหลังว่าท่านได้มรณภาพไปแล้วด้วยความตั้งใจมุ่งหวังจะศึกษาวิชาต่าง ๆ จากท่าน ก็ได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อโอภาสี ซึ่งเป็นศิษย์ที่รับการถ่ายทอดวิชามาจากหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา หลวงพ่อฉาบจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อโอภาสี ขอศึกษาวิชากสิณต่าง ๆ และไสยเวทย์ หลวงพ่อโอภาสี ได้ฝึกสอนวิชาต่าง ๆ ให้เช่นกสิณไฟ และคาถาอาคมต่าง ๆ ให้หลวงพ่อฉาบจำนวนมากและยังได้ชักชวนนิมนต์ให้หลวงพ่อฉาบเดินทางไปพบท่านที่อาศมบางมดกรุงเทพ ในครั้งนั้นที่วัดเขาวงกฎหลวงพ่อฉาบยังได้พบปะรู้จักเป็นสหายธรรมกับหลวงพ่อชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้เดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดเขาวงกฎแห่งนี้ด้วย ได้ปฏิบัติธรรมร่วมกันได้ขอศึกษาแลกเปลี่ยนวิชาไสยเวทย์ต่าง ๆ กับหลวงพ่อชา สุภัทโท หลวงพ่อชาเกิดปีพ.ศ.2471 ปีเดียวกับหลวงพ่อฉาบ มงฺคโล หลวงพ่อชาท่านได้ละสังขารไปแล้วเมื่อปีพ.ศ.2536 ร่วมสิริอายุได้ 65 ปี หลวงพ่อฉาบอยู่ปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 45 วัน ก็ได้เดินทางกลับไปยังวัดถ้ำตะโกอีกครั้งหนึ่ง ได้พำนักอยู่ที่วัดถ้ำตะโกพบปะใกล้ชิดกับหลวงพ่อคงอีกครั้งก็มาศึกษาพบว่าที่วัดถ้ำตะโกแห่งนี้อยู่ในบริเวณดอยเขาเทือกเขาเดียวกับวัดต่าง ๆ อีกถึง 3 วัดรวมดอยนี้มีวัดถึง 4 วัด คือ วัดเขาสมอคอน วัดถ้ำช้างเผือก วัดถ้ำตะโก วัดบันไดสามแสน ในอดีตตั้งแต่ยุคสมัยทวาราวดีเป็นต้นมา ดอยเทือกเขานี้มีความสำคัญมากมีถ้ำใหญ่น้อยเป็นร้อย ๆ ถ้ำ เป็นที่อยู่ของผู้ทรงศีล สมณะ ฤาษี พราหมณ์ เป็นแห่งกำเนิดของวิชาไสยเวทย์มนต์คาถาแหล่งรวมวิชาไสยศาสตร์ เช่นวิชาขอมดำดิน ก็ก่อเกิดในที่แห่งนี้เป็นตรรกศิลาแห่งไสยศาสตร์และเวทย์มนต์ วัดเขาสมอคอนเป็นวัดอยู่ต้นดอย มีถ้ำพระนอนและที่พำนักของฤาษีสุกกะทันตะและ ถ้ำพราหมณี พ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัยก็มาศึกษาที่แห่งนี้ นับว่าเป็นแหล่งรวมศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ หลวงพ่อฉาบ ก็ได้เดินทางมาที่วัดเขาสมอคอน เข้ากราบนมัสการฝากตัวขอเป็นศิษย์เล่าเรียนวิชาจากหลวงพ่อบุญมี อิสสโร ศิษย์ผู้รับการสืบทอดวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อพระครูอุปัชฌาย์ก๋ง จฺนทสโร พระอุปัชฌาย์ก๋ง มีวิชาไสยเวทย์มากมายได้จากตำราเก่า อักขระยุคขอม เมื่อหลวงพ่อฉาบ ได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบสิ้นแล้วก็ได้เดินธุดงค์เข้าวัดต่อไปยังภาคเหนือที่ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ไปถึงแม่ฮ่องสอน แล้วกลับไปทางเชียงราย พะเยา เชียงแสน ข้ามไปฝั่งพม่าแคว้นเซียงตุง มุ่งสู่ภาคอีสานตอนบน เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิและผ่านจังหวัดสระบุรีเข้าสู่กรุงเทพฯ ได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่อโอภาสีอีกครั้งในปีพ.ศ.2496 ที่อาศมบางมดกรุงเทพฯ ได้พำนักอยู่เป็นเวลา 3 เดือนแล้วก็ลากลับวัดศรีสาครหลังจากกลับมาอยู่วัดได้ 2 อาทิตย์หลวงพ่อฉาบก็ได้เดินทางไปยังวัดชีประขาว อ.พรมบุรี จ.สิงห์บุรี เข้าพบกราบนมัสการหลวงพ่อซวง ในช่วงนั้นหลวงพ่อซวง อายุ 55 ปีท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมีเมตตาบารมี มีบุญฤทธิ์สูงส่งมาก หลวงพ่อฉาบได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ขอศึกษาวิชาไสยเวทย์วิทยาคมจากท่าน หลวงพ่อซวงได้เมตตาสั่งสอนถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ ให้หลวงพ่อฉาบ อยู่เป็นเวลา 2 ปี โดยที่หลวงพ่อฉาบ จะเดินทางไปยังวัดชีประขาวครั้งละ 1 อาทิตย์ไปกลับเช่นนี้ มาวันหนึ่งเมื่อปลายปีพ.ศ.2497 หลวงพ่อซวง ท่านได้กล่าวกับหลวงพ่อฉาบไว้ว่าต่อไปท่านจะได้เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสาครมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่อมใสเคารพศรัทธาของชาวพุทธโดยทั่ว หลังจากนั้นต่อมาในปีพ.ศ.2498 หลวงพ่อฉาบ มงฺคโลก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสาครสืบมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อหลวงพ่อฉาบเป็นเจ้าอาวาสแล้วได้ดูแลและปกครองวัดด้วยความเรียบร้อยในพรรษาที่30 ตรงกับปีพ.ศ.2521 ท่านได้จัดการมอบหมายให้รองเจ้าอาวาสดูแลวัดศรีสาครเป็นการชั่วคราวแล้วหลวงพ่อฉาบได้ออกเดินธุดงค์วัตรเป็นครั้งที่2 เดินธุดงค์ไปยังจังหวัดสระบุรีได้เข้าพบหลวงพ่อบาง วัดหนองพลับ ได้เข้านมัสการขอคำแนะนำด้านอาคมต่าง ๆ จากหลวงพ่อบาง จากนั้นก็มุ่งไปยังจังหวัดนครราชสีมา ที่อำเภอครบุรีได้เข้านมัสการหาหลวงพ่อนิล ได้ขอเรียนวิชาด้านบรรจุพลังจิตในการเสกวัตถุมงคลและเพิ่มเติมด้านกสิณต่าง ๆ จากหลวงพ่อนิลแล้วเดินทางต่อไปยังปราสาทเขาพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ไปกราบนมัสการปราสาทเขาพนมรุ้ง แล้วมุ่งสู่จังหวัดสุรินทร์ที่อำเภอนารายณ์ได้พบกับหลวงพ่ออ่อน วัดธรรมรงค์ษา หลวงพ่ออ่อนเป็นพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์ที่เชี่ยวชาญด้านมหาอุตและอยู่ยงคงกระพันชาตรีมีวิชาเวทย์มนต์ ตระกรุดเลขยันต์ที่ร่ำเรียนมาจากประเทศกัมพูชา หลวงพ่อฉาบได้ไปปักกตอยู่ที่หมู่บ้านบ้านเบิกเป็นหมู่บ้านใหญ่ชาวบ้านที่นั่นเป็นคนเขมร ส่วนใหญ่จะเชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์มีวิชาอาคมมาก เก่งแค่ไหนก็ต้องยอมหลวงพ่ออ่อน วัดธรรมรงค์ษา หลวงพ่อฉาบได้เข้ากราบนมัสการพบหลวงพ่ออ่อน ๆ อายุประมาณ 80 ปีได้เมตตาสอนวิชามหาอุตและคงกระพันชาตรีให้หลวงพ่อฉาบมาหลายบทหลายตอนเป็นวิชาที่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ใช้ได้ผลเหลือคะนาประการ ในขณะที่บำเพ็ญธรรมอยู่ในกตที่บ้านเบิกนั่นได้พบการบรรดาวิญญาณที่ตายด้วยอาการต่าง ๆ และสัมปเวสีมาขอส่วนบุญ หลวงพ่อฉาบก็ได้แพร่ส่วนบุญและแพร่เมตตาให้แล้วต่างก็หายไป หลวงพ่อฉาบเข้ากราบนมัสการหลวงพ่ออ่อนแล้วเดินธุดงค์ต่อไปยังจังหวัดอุบลราชธานีได้เข้ากราบนมัสการ หลวงพ่อพั่ว วัดนาเจริญ เข้าขอคำชี้แนะศึกษาธรรมปฏิบัติต่างๆจากหลวงพ่อพั่ว ๆ วัดนาเจริญท่านเป็นพระคณาจารย์ที่มีพลังจิตแก่กล้ามาก เป็นพระได้สำเร็จญาณสมาบัติถึงอนาคามีจากวัดนาเจริญ แล้วมาปักกตชานเมืองอำเภอวารินชำราบ ณ ที่แห่งนั้นในยามค่ำคืนก็มีวิญญาณมาขอส่วนบุญและบรรดาสัมปเวสี หลวงพ่อฉาบก็ได้แพร่เมตตาและแพร่ส่วนบุญให้แล้วก็หายไป หลวงพ่อฉาบกล่าวว่าหลังจากท่านกลับจากธุดงค์ครั้งนั้นจำไม่ได้ว่าปีไหนที่อำเภอวารินชำราบมีพิธีการล้างป่าช้าท่านก็ได้ถูกนิมนต์มาในงานด้วยและมาโดยตรงและมาพำนักอยู่ที่วัดหนองป่าพงที่กุฏิหลวงพ่อชา สุภัทโท เมื่อหลวงพ่อฉาบได้นมัสการหลวงพ่อพั่ว วัดนาเจริญแล้วก็ได้ไปพบหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง พำนักพักอยู่กับสหายธรรมที่รู้จักซึ่งได้ร่วมปฏิบัติธรรมกันที่วัดเขาวงกฎ จังหวัดลพบุรี หลวงพ่อชา สุภัทโท เป็นพระอริยสงฆ์ ได้บรรลุธรรมชั้นสูงถึงซึ่งโลกุตตรธรรม โดยผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญในการปฏิบัติธรรมต่างลงความเห็นและสัมผัสได้ว่าหลวงพ่อชา สุภัทโท ท่านได้สำเร็จเป็นพระอรหัง |
ราคาเปิดประมูล | 90 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 180 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | จ. - 26 พ.ค. 2557 - 19:45.39 |
วันปิดประมูล |
พ. - 28 พ.ค. 2557 - 14:45.32 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
เบอร์ติดต่อ | 080-0197978 |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
100 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) | อ. - 27 พ.ค. 2557 - 14:45.32 | |
110 บาท | พ. - 28 พ.ค. 2557 - 10:07.11 | |
120 บาท (auto) | พ. - 28 พ.ค. 2557 - 10:07.11 | |
130 บาท | พ. - 28 พ.ค. 2557 - 10:07.17 | |
140 บาท (auto) | พ. - 28 พ.ค. 2557 - 10:07.17 | |
150 บาท | พ. - 28 พ.ค. 2557 - 10:07.20 | |
160 บาท | พ. - 28 พ.ค. 2557 - 10:39.41 | |
170 บาท (auto) | พ. - 28 พ.ค. 2557 - 12:39.56 | |
180 บาท | พ. - 28 พ.ค. 2557 - 12:39.56 |
กำลังโหลด...