ประมูล หมวด:หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน – หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร
หลวงพ่อเงิน พิมพ์พระปิดตา ขัดสมาธิเพ็ชร กรุวัดเขาพระใต้ จ.พิจิตร หายาก...
| ชื่อพระเครื่อง | หลวงพ่อเงิน พิมพ์พระปิดตา ขัดสมาธิเพ็ชร กรุวัดเขาพระใต้ จ.พิจิตร หายาก... |
|---|---|
| รายละเอียด | วัดเขาพระใต้ เป็นวัดที่ได้ขุดพบ กรุหลวงพ่อเงิน บางคลาน ซึ่งวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ เลขที่ 76 หมู่ 7 กรุแตกปลายปี 53 หลวงพ่อเงินที่ฝังอยู่ใต้ศาลา(หลังเก่า) ซึ่งศาลาได้สร้างขึ้นก่อนปี 2460 และได้ขึ้นทะเบียนวัดในปี 2460 พระเครื่องหลวงพ่อเงินที่ขุดพบมีพิมพ์ต่างๆมากมายบริเวณศาลาหลังเก่าที่รื้อถอนออกไปตอนปี 2553 ซึ่งกรุพระหลวงพ่อเงินฝังอยู่ใต้ศาลา แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ซึ่งความลึกในการขุดลงไปชั้นล่างสุดกว่า 6 เมตร ในกรุพบผ้ายันต์ที่ห่อหลวงพ่อเงิน และไหรูปแบบต่างๆ หลายขนาด บรรจุพระหลวงพ่อเงิน มีหลากหลายพิมพ์ ทั้งเนื้อโลหะ และเนื้อดิน จำนวนมาก วัดเขาพระใต้ เดิมที่เดียวเรียกว่า วัดเขาพระเก่า สาเหตุที่ต้องเรียกเช่นนี้เพราะ หลังจากนั้นได้มีการสร้างวัดในบริเวณบ้านเขาพระเพิ่มในทางทิศเหนือ ซึ่งอยู่ห่างกันเพียงประมาณ200 เมตรจึงมีการเรียกแบบภาษาชาวบ้านว่าอันนี้วัดเขาพระเก่าและเขาพระเหนือ ก่อนจะมาเป็นเหนือกับใต้ และปัจจุบันเรียกว่าวัดศรีพรหมจริยาวาส / วัดเขาพระใต้เป็นวัดที่ได้ขุดพบ กรุหลวงพ่อเงิน บางคลาน ในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ เลขที่ 329 หมู่ 7 บ้านเขาพระ ตำบลเขาทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร โดยผู้พบพระกรุนี้เป็นครั้งแรกคือ หลวงปู่สรวง สุขะกาโม อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาพระใต้ ปัจจุบันหลวงปู่สรวง ท่านมรณะภาพไปแล้ว ซึ่งเจ้าอาวาสท่านปัจจุบันคือ พระอธิการสมพร คุณยุตโต (หลวงพ่อสมพร) ปัจจุบันอายุ 96 ปี ขอกลับมาที่กรุหลวงพ่อเงิน ซึ่งหลวงปู่สรวงเป็นผู้พบเจอพระกรุนี้ เดิมทีสมัยวัยเด็กหลวงปู่สรวง ท่านได้บวชเป็นสามเณรอยู่กับ หลวงพ่อประเทือง อติกฺกนฺโต(พระครูวิทิตพัชราจาร) วัดหนองย่างทอย (วัดเทพประทานพร) อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งถือว่าหลวงพ่อประเทืองนับเป็นพระที่เชี่ยวชาญเวทวิทยาคมมากทีเดียว ที่หลายๆท่านกล่าวขลานกันก็คือสักแล้วเอามีดฟันหลัง ณ ขณะนั้นเลยทีเดียว หลวงปู่สรวงเอง ก็ได้รับการถ่ายทอดและศึกษาจากหลวงพ่อประเทืองมาโดยตลอด จนท่านเองได้รับหน้าที่จากหลวงพ่อประเทืองให้เป็นมือสักให้เหล่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อประเทือง กล่าวคือ หลวงปู่สรวงซึ่งเป็นเณรในขณะนั้นสักแล้วให้หลวงพ่อประเทืองเป่าลงคาถาแล้วฟันหลัง เพื่อทดสอบอาคม ซึ่งถ้าใครที่เคยเข้าพบหลวงปู่สรวงสมัยที่ท่านยังมีชีวิต จะเห็นได้ว่าท่านมีรอยสักอาคมแทบจะเต็มตัวท่าน.....ในสมัยนั้นหลายๆคนคงไม่เคยทราบว่า เพื่อนเณรร่วมสำนักเดียวกับท่านในวัยเยาว์นั้นคือ " เณรแอร์ "จอมขมังเวชนั้นเอง...จนกาลเวลาผ่านไป หลวงปู่สรวงท่านได้นิมิตรบางอย่างว่าให้ท่านเดินทางมาที่วัดศรีพรมจริยาวาส(วัดเขาพระใต้) ซึ่งตัวท่านเองตลอดเวลาที่อยู่ในผ้าเหลืองท่านไม่เคยมาและแม้กระทั้งรู้จักวัดๆนี้เลย แต่ท่านต้องมา...หลังจากที่ท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาพระใต้นี้ นิมิตรหลายๆอย่างของท่านเริ่มชัดขึ้น ว่าบริเวณนี้ ใต้ผืนดินนี้ มีบางสิ่งที่แรงด้วยพุทธคุณแผ่พลานุภาพอยู่ในนั้น...ผ่านเดือน ปี...จนท่านสัมผัสด้วยณาณของท่านว่า ให้ท่านอันเชิญวัตถุบางอย่างในบริเวณวัดนี้ทำพิธีขอขมาอันเชิญขึ้นมาแล้วท่านจะทราบว่าคืออะไร........แต่ด้วยที่พื้นที่วัดก็กว้างขว้างนักแล้วท่านจะทราบได้อย่างไรว่าอยู่บริเวณไหน ตอนนั้นเป็นเวลาช่วงกลางวัน ฟ้าได้ผ่าเปรี้ยงลงมาที่บริเวณด้านข้างใกล้ๆกับศาลาไม้หลังเก่า ซึ่งทำให้หลวงปู่สรวงทราบแล้วบริเวณใด.....หลังจากนั้นท่านได้ให้คนไปตาม ให้มาช่วยกันขุดดูสิว่าข้างล่างนี้มีอะไร ขุดจนกระทั้งเริ่มเห็นว่ามีทั้งพระทั้งผ้ายันต์ทั้งไหที่แตกๆบิ่นๆ หลวงปู่สรวงจึงได้ปรึกษากำนันสมควรว่าจะทำวิธีใดจึงจะนำวัตถุมงคงเหล่านี้ขึ้นมาได้ จึงไปขอแรงชาวบ้านมาช่วยกันรื้อศาลาหลังเดิมลงแล้วขุดจนพบพระกรุชุดนี้ให้พวกเราได้มีไว้บูชาในวันนี้นี่เอง ข้อมูลต่างๆกล่าวและอ้างจากบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงและมีหลักฐานยืนยันชัดเจนครับ ***หลวงพ่อเงินกรุวัดเขาพระใต้ เท่าที่พบเจอ "ไม่มี"เนื้อเปียกทอง , เนื้อลงรักปิดทอง , พิมพ์เหรีญจอบ , เนื้อดินอุดกรึ่ง , เนื้อดินลงรัก(จุ่มรัก) และเนื้อแร่ ก็ไม่มีครับ*** วัดเขาพระใต้ได้ขุดพบพระหลวงพ่อเงินกรุวัดเขาพระใต้นี้ในช่วงปลายปี พ.ศ.2553 ซึ่งพระกรุนี้ได้ถูกฝังไว้ใต้ศาลาเก่าที่คาดการว่าน่าจะสร้างก่อนปี พ.ศ.2460 แต่ว่าตัวทางวัดเองนั้นได้ทำการแจ้งขอขึ้นทะเบียนวัดในปี พ.ศ.2460 พระกรุนี้ได้ถูกฝังลึกลงไปถึง 6 เมตร ซึ่งมีพระอยู่ถึง3ชั้นและในกรุนี้ยังพบผ้ายันต์ที่ห่อพระหลวงพ่อเงินและไหบรรจุพระหลวงพ่อเงินในรูปแบบต่างๆมากมาย ส่วนผู้ที่ค้นพบเจอพระกรุนี้ก็คือ หลวงปู่สรวง สุขะกาโม อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาพระใต้ ซึ่งปัจจุบันนี้ท่านได้มรณะภาพไปแล้ว ก่อนที่หลวงปู่สรวง ท่านจะมาเจอพระกรุนี้ท่านได้นิมิตเห็นบางอย่างว่าใต้พื้นดินบริเวรวัดนี้มีบางอย่างที่แรงด้วยพุทธคุณ ซึ่งหลวงปู่ท่าน ก็ทราบได้ด้วยฌาณของท่านเองว่าท่านต้องอัญเชิญวัตถุบางอย่างที่อยู่ใต้บริเวรวัดนี้ขึ้นมา แต่ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าจะอัญเชิญตรงที่ใด เนื่งจากว่าบริเวณวัดนี้กว้างมาก แต่อยู่มาวันหนึ่งช่วงตอนกลางวันได้มีเหตุฟ้าผ่าในบริเวณวัดซึ่งตรงท่ี่ฟ้าผ่าลงนั้นเป็นศาลาหลังเก่าพอดี ดังนั้หลวงปู่สรวง จึงรู้ได้ทันทีว่าจะต้องเป็นที่ใต้ศาลานี้แน่นอนดังท่านจึงได้ปรึกษากับผู้ใหญ่บ้านว่าจะทำอย่างไรถึงจะเอาวัติถุบางอย่างขึ้นมาได้หลังจากที่คุยกับผู้ใหญ่บ้านแล้วจึงได้เกณชาวบ้านบางส่วนมาช่วยกันขุดจนได้เจอกับกรุพระหลวงพ่อเงินเป็นจำนวนมากมายหลายพิมพ์อย่างที่เราได้เห็นในรูปตัวอย่างบางพิมพ์ที่นำมาลงให้ได้ชมกันนี่เอง พระกรุวัดเขาพระใต้นี้มีเนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเงินยวง และเนื้อดิน เท่านั้น ##### พระกรุนี้จะไม่มีเนื้อทองเปียก เนื้อลงลักปิดทอง และเนื้อแร่ พิมพ์เหรียญจอบ เนื้อดินอุดกริ่ง หรือเนื้อดินลงลักปิดทองก็ไม่มี ##### พระกรุชุดนี้หลวงพ่อเงินสร้างก่อน 2462 ที่บอกว่าทันยุคหล่วงพ่อเงินสร้างก่อนปี พ.ศ. 2462 นั้น ก้อเพราะว่ามีโยมหลาย ๆ คนมาพิจราณาแล้วลงความเห็นว่าเป็นพระยุคหลวงพ่อเงินสร้างแน่นอน หนึ่งในนั้นคือ "ลุงหยวก" ลุงหยวกชราภาพมากแล้วอายุร่วมร้อยปีแต่ความจำยังดียืนยันว่า "หลวงพ่อเงิน" ท่านเดินทางไปเป็นประธานในพิธีหล่อพระที่วัดเขาพระใต้จริง ลุงหยวกเล่าว่า เมื่อก่อนปี พ.ศ. 2462 ลุงหยวกยังเป็นเด็กเล็ก อายุราว8ขวบเพิ่งเข้าโรงเรียนชั้น ป. 1 ที่โรงเรียนวัดเขาพระใต้ ทางวัดได้จัดพิธีหล่อพระ มีชาวบ้านมาร่วมพิธีกันล้นหลาม พ่อของลุงหยวกในขณะนั้นก็เป็นลูกศิษย์คอยตามรับใช้หลวงพ่อเงิน ช่วยท่านหาสมุนไพรและไปช่วยบูรณะวัดต่าง ๆ ในเขตจังหวัดพิจิตร ลุงหยวกบอกว่า พ่อยังบอกอีกว่า หลวงพ่อเงินท่านมาหล่อพระ เพื่อช่วยสร้างศาลาการเปรียญวัดเขาพระใต้ หลวงพ่อเงินท่านมาช่วยสร้างวัดเขาพระใต้อยู่2ปี มีช่างตระกูลบ้านช่างหล่อ ผั่งธนบุรี กรุงเทพฯ มาช่วยท่านทำแบบพิมพ์และหล่อพระ หลังจากหล่อพระเสร็จเรียบร้อยท่านก้อจากไป ไม่ทราบว่าท่านไปจำพรรษาอยู่ที่วัดใดต่อ แต่ที่แน่ ๆ เมื่อครั้งนั้นท่านยังไม่กลับวัดวังตะโก ส่วนพ่อของลุงหยวกนั้นลุงหยวกบอกว่า "พ่อแยกกับหลวงพ่อเงินเมื่อคราวนั้น บอกลาท่านเพื่อกลับมาอยู่กับครอบครัวที่เขาพระแห่งนี้ ลุงหยวกเล่าว่าหลวงพ่อเงินท่านเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการสร้างพระหารายได้มาสร้างวัด ท่านเป็นประธานวางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญ แล้วชักชวนลูกศิษย์ลูกหาจากถิ่นต่าง ๆ มาช่วยกันหล่อพระทีวัดเขาพระใต้ หลังจากหล่อพระเสร็จ ส่วนหนึ่งออกจำหน่ายหารายได้ และอีกส่วนหนึ่งก็ไม่มีใครทราบว่าหลวงพ่อเงินท่านนำพระไปไว้ที่ไหน ทราบกันแต่เพียงว่าพิมพ์พระนั้นหลวงพ่อเงินท่านนำติดตัวเอาไปด้วย ลุงหยวกเล่าต่อว่า หลวงพ่อเงินท่านชอบเคี้ยวหมากแล้วก้อบ้วนน้ำหมากไปทั่ว บรรดาชาวบ้านเขาพระไม่ค่อยชอบท่านเท่าไหร่นัก หาว่าท่านเป็นพระสกปรกเที่ยวบ้วนน้ำหมากเลอะเทอะไปที่ว ซึ่งหลวงพ่อเงินพ่อทราบเรื่องที่ชาวบ้านติติงท่านก้อน้อยใจเหมือนกัน พูดถึงเรื่องน้ำหมากแล้ว ขอเสริมสักเล็กน้อยว่า เข้าทำนองลางเนื้อชอบลางยาบางคนชอบเนื้อบางคนก้อชอบยา ต่างจิตต่างใจ ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงินบางกลุ่มก้อชอบน้ำหมากของท่าน ยิ่งชานหมากยิ่งแล้วใหญ่ หลวงพ่อคายชานหมากเมื่อไรเป็นแย่งกันเก็บเมื่อนั้น เล่ากันว่า มีลูกศิษย์บางคนหลวงพ่อเงินเคยใช้น้ำหมากป้ายศีรษา ปรากฏว่าคนคนนั้นมีฐานะดียิ่งขึ้น เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยเงินทองขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ชาวบ้านในเขตบางคลานกล่าวขานเรื่องนี้กันมาก หลวงพ่อเงินท่านไปช่วยสร้างวัดและบูรณะปฏิสังขรณ์หมู่เสนาสนะวัดต่าง ๆ ในพิจิตร บางวัดท่านก็ไปสร้างพระแล้วก้อบรรจุกรุเอาไว้ ซึ่งกรุเขาพระใต้ก้อเป็นอีกวัดที่หลวงพ่อเงินได้มาสร้างบรรจุไว้แน่นอน ขอมูลของคนเฒ่าคนแก่ที่ทันอยู่ในเหตุการณ์ย่อมยืนยันได้แน่นอน... |
| ราคาเปิดประมูล | 3,400 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 3,400 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
| วันเปิดประมูล | อ. - 21 เม.ย. 2558 - 15:47.39 |
| วันปิดประมูล |
จ. - 11 พ.ค. 2558 - 15:47.39
|
| ผู้ตั้งประมูล | |
| แชร์หน้านี้ |
| ราคาปัจจุบัน | 3,400 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
|---|---|
| เพิ่มครั้งละ | 100 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
| กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
| ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
|---|---|---|
| ยังไม่มีผู้ประมูล | ||
กำลังโหลด...






