
ประมูล หมวด:พระเกจิภาคตะวันตก
เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อทัย วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรี ปี ๒๕๐๔


ชื่อพระเครื่อง | เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อทัย วัดไทรย้อย จ.เพชรบุรี ปี ๒๕๐๔ |
---|---|
รายละเอียด | หลวงพ่อทัย เดิมชื่อ พริกไทย เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๘ บ้านเดิมอยู่ บ้านทับใต้ ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่อำเภอหัวหิน (ห้วยมงคลในปัจจุบัน) หลวงพ่อเป็นพี่ชายของหลวงพ่อปลั่ง วัดห้วยมงคล เจ้าอาวาสองค์แรกผู้สร้างวัด ในวัยหนุ่มหลวงพ่อได้รับราชการเป็นตำรวจ เมื่อเข้าสู่อายุครบบวชก็ได้บวชกับหลวงพ่อนาควัดหัวหิน ที่วัดหัวหิน สมัยก่อนบ้านเมืองยังไม่ใหญ่โต ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองวัดในหัวหินมีแค่ในหัวหินที่เดียว เข้าใจว่าการรับราชการสมัยก่อนใครพออ่านออกเขียนได้ก็ให้รับราชการ เรื่องเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนไม่ได้เป็นระบบเหมือนในสมัยนี้ จึงไม่ได้ทำให้เกิดความจูงใจมากนัก หลวงพ่อจึงบวชเรียนอยู่กับหลวงพ่อนาคที่วัดหัวหินอยู่นานหลายปี ในราวๆ พ.ศ. ๒๔๐๐ หมู่บ้านบางควายเริ่มมีการตั้งถิ่นฐาน กันอยู่บ้างอย่างเบาบาง ด้วยเป็นเส้นทางการค้าขายระหว่างเพชรบุรี-หัวหิน-ปราณฯ จุดที่ตั้งของบ้านบางควายมีน้ำจืด และเป็นช่องเขาที่ลงมาจากป่าทิศตะวันตกด้วย จึงเป็นจุดนัดพบสำคัญแห่งหนึ่งในเส้นทางสายนี้ จนราวๆ พ.ศ. ๒๔๕๐ หมู่บ้านเริ่มมีความหนาแน่นขึ้น ชาวบ้านมักนิยมไปทำบุญกันแต่วัดที่ใกล้เคียงในเวลานั้นมีแค่วัดโตนดหลวงกับวัดหัวหิน พอถึงวันพระใหญ่ก็จะมีขบวนเกวียนชาวบ้านไปทำบุญกันที่วัดหัวหิน เมื่อนานวันเข้าชาวบ้านจึงได้อาราธนากับหลวงพ่อนาคว่าให้ส่งพระจากวัดหัวหินมาอยู่ที่หมู่บ้านบางควายบ้าง จะได้อนุเคราห์ญาติโยมในการทำบุญ ในเบื้องต้นหลวงพ่อนาคได้ส่งหลวงพ่อเล็กกับพระอีก ๓-๔ รูปมาอยู่เป็นชุดแรก และในราวปี ๒๔๖๐ จึงได้ส่งหลวงพ่อทัยให้มาอยู่ที่วัดนี้ เดิมหลวงพ่อเล็กตั้งชื่อวัดว่าวัดบางควาย หลวงพ่อเล็กมาอยู่ที่วัดบางควายไม่นานก็มรณะภาพ หลวงพ่อทัยจึงได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน จริงๆวัดก็ยังเล็กมากนักไม่มีอะไร แต่ในราว ๒๔๗๐ ก็ได้จัดงานผูกพัทสีมาอุโบสถหลังแรก เป็นอุโบสถไม้สักทั้งหลัง อยู่ติดทะเลบางควายมานานกว่า ๘๐ ปีแล้ว ไม่น่าเชื่อจนบัดนี้ว่าจะยังไม่ล่มสลาย เพิ่งจะได้รับการบูรณะเมื่อปี ๒๕๕๑-๕๒ นี่เอง ก่อนหน้านี้ไม่มีใครสนใจกันเลย แล้วชาวประมงก็มาอาศัยใช้งานอยู่เป็นสิบๆปี แต่ก็ไม่ผุพัง แม้แต่วังมฤคฯ ที่อยู่ใกล้ๆกันก็พังไปเกือบครึ่งแล้ว หลวงพ่อทัยปกครองวัดไทรย้อย เรื่อยมาตั้งแต่ ปี ๒๔๗๐ ถึงปี ๒๕๑๙ ก็มรณภาพ สิริอายุ ๘๑ ปี ตำแหน่งสุดท้ายท่านเป็นพระอุปัชฌาย์และเจ้าคณะตำบลชะอำ ท่านชอบให้พระที่มาบวชในพรรษาเรียนหนังสือเพื่อสอบนักธรรม และจะสอนเอง เรื่องวัตถุมงคลนั้น ท่านไม่ได้ให้คนหมกหมุ่นมากนัก ท่านมีชื่อเสียงจากปลัดขิก ในหนังสือประวัติตอนงานพระราชทานเพลิงของท่านได้ปรากฏว่าท่านเรียนวิชานี้มาจากโยมบ้านสวนกล้วย (ทุกวันนี้เรายังสืบไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน) กับที่วัดโคก หลายคนบอกว่าปลัดขิกมักจะวิ่งอยู่ในบาตร ใครจับได้จับเอา มักทำตัวเล็กๆจิ๋วๆ ทำจากไม้กัลปังหงา สีดำ แต่ตัวใหญ่ ยาวๆ นั้น โดยมากก็จะเหลากันมาเอง แล้วหลวงพ่อจะลงอักขระให้ ทุกวันนี้ยังมีภาพหลวงพ่อจารปลัดขิกขณะอยู่ในมุ้งด้วย ภาพนี้เทศบาลเมืองชะอำได้นำไปทำปฏิทินแจกชาวบ้านมาหลายปีแล้ว ไม่พอแจก ยังมีภาพนี้ปรากฏให้ชมอยู่ที่วัด คู่กับภาพในหลวงและสมเด็จฯ มาเยี่ยมวัดไทรย้อย จริงๆแล้วเท่าที่สอบถามสืบความได้ว่าในหลวงเสด็จมาที่วัด ๔ ครั้ง ทั้งมากราบหลวงพ่อทัยและมาเยี่ยมราษฎรด้วย ในระหว่าง ปี ๒๔๙๗-๒๕๑๖ ในครั้งสุดท้ายในหลวงถวายปัจจัยไว้ส่วนหนึ่ง หลวงพ่อทัยท่านก็ได้นำเงินนั้นมาเป็นปัจจัยสร้างฐานอุโบสถหลังปัจจุบัน โบสถ์วัดไทรย้อยหลังปัจจุบันจึงถือว่าเป็นเงินพระราชทานอีกด้วย เรื่องปลัดขิกนี่จะมีช่างของวัดเหลาอยู่ ๒-๓ ฝีมือ ให้ดูที่หัวยาว ๑ ส่วนและตัวยาว ๓ ส่วน เป็น ๔ ส่วน ตามสูตร นอกนั้นต่างเหลาถือกันมาให้หลวงพ่อลงให้ทั้งนั้น เรื่องประสบการณ์คงไม่พูดมากให้ลองสอบถามกันเอาเอง แต่เด่นที่แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ไม่ค่อยได้ยินเรื่องมหาอุดหยุดลูกปืน มีแต่รถพังยับตายยกคันแต่มีปลัดไม่ตาย ในช่วงหลังปี ๒๕๐๕ มีทหารเรือจากสัตหีบและบางนามาเป็นลูกศิษย์กันมาก บางคนว่าหลวงพ่ออี๋ให้มาหาดู ประมาณว่าหลวงพ่ออี๋บอกยกย่องไว้ก่อนมรณภาพ ปี ๒๕๐๔ ท่านได้สมณศักดิ์ที่พระครูวชิรคุณารักษ์ จึงได้ทำเหรียญรูปเหมือนท่านครึ่งองค์ จำนวนเหรียญไม่ทราบแน่ชัดว่าเท่าไหร่ แต่ไม่น่าจะเกิน ๒๐๐๐ เหรียญ ท่านก็ไม่ได้แจกมากนัก เหมือนว่าใครขอก็จะให้ เพราะปรากฏที่กุฏิหลังมรณภาพว่ายังมีเหลืออยู่ โดยท่านจะร้อยใส่ไว้ในสายลวด แต่ไม่ถึง 500 องค์ เหรียญของท่านจะมีเนื้อเดียวคือเนื้อทองแดง จะมีผิว ๒ อย่าง คือผิวกะไหล่เงิน กับผิวเดิมไม่มีกาไหล่ และไม่ได้รมดำ ท่านสร้างเหรียญรุ่นนี้รุ่นเดียวแล้วก็ไม่ได้สร้างรุ่นไหนอีก แต่ก้มีพระเนื้อผงว่านและดินเผาอยู่บ้างแต่ไม่มาก แจกคนมาทำบุญ เป็นพระนางพญาบ้าง พระขุนแผนบ้าง นางกวักบ้าง กับรูปถ่ายท่านแจกบ้างเหมือนกัน หลวงพ่อทัยท่านมีชื่อเสียงอยู่แต่ในแถบชะอำ-หัวหิน เท่านั้นครับ คนเรือจะรักท่านมาก ปี ๒๕๑๘ มีลูกศิษย์สร้างวัตถุมงคลพิเศษมาให้ท่านปลุกเสก คือเหรียญรูปหล่อใบสาเก กับ เสือมหาอำนาจ ในเวลานี้เสือของหลวพ่อเป็นที่เสาะแสวงหากันมากครับ เพราะในพื้นที่มีน้อย คนกรุงเทพมาสร้างแล้วไม่ได้แจกคนในพื้นที่ครับ เครดิตประวัติ...จากคุณหมูแดงครับ |
ราคาเปิดประมูล | 1,000 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 2,000 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
วันเปิดประมูล | อ. - 28 เม.ย. 2558 - 08:32.15 |
วันปิดประมูล |
อา. - 10 พ.ค. 2558 - 10:50.19 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
ราคาปัจจุบัน | 2,000 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
---|---|
เพิ่มครั้งละ | 100 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดก่อนกำหนดโดยผู้ตั้งประมูล
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...